อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การสูบบุหรี่ ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเลยในทุกๆ ด้าน เพราะสารต่างๆ ที่อยู่ในบุหรี่เมื่อเข้าไปในร่างกายเราแล้วจะทำลายอวัยวะแทบทุกส่วน โดยเฉพาะหลอดเลือดสมอง หัวใจ และปอด และยังเป็นปัจจัยอันดับแรกๆ ของโรคร้ายที่ไม่มีใครต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมโป่งพอง ไปจนถึงมะเร็ง ที่สำคัญสำหรับผู้ที่เข้ารับการปลูกผมยิ่งต้องตระหนักในเรื่องนี้ให้มากขึ้นด้วย
ผลกระทบจากการสูบบุหรี่กับการปลูกผม
ในการสูบบุหรี่แต่ละครั้งนั้น สารเคมีที่เข้าไปในร่างกาย โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะปิดกั้นไม่ให้เลือดได้รับออกซิเจน ทำให้ประสิทธิภาพการนำพาออกซิเจนไปยังปลายอวัยวะต่างๆ ลดน้อยลง แน่นอนว่าผู้ที่เพิ่งรับการปลูกผม จะมีแผลที่ต้องการการรักษาตัวจากร่างกาย เมื่อเส้นเลือดไม่แข็งแรงก็จะทำให้การสมานแผลเกิดขึ้นช้าลง ซ้ำร้ายเซลล์บริเวณนั้นก็ทำงานได้ไม่เต็มร้อย หรืออาจมีการตายลงของเซลล์กราฟผมที่เราปลูก ทำให้การงอกใหม่ของเส้นผมทำได้น้อยกว่าปกติ ผลลัพธ์ของเส้นผมที่คาดการณ์ไว้ก็อาจไม่ดีตามที่คิด ไหนๆ เราก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้นแล้ว เราก็ควรต้องให้ความสำคัญในจุดนี้ให้มาก จะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง
เตรียมพร้อม เพื่อผมใหม่ที่ดูดี
สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ต้องเตรียมตัวเพิ่มมากขึ้นกว่าผู้ที่ไม่สูบคือ ควรงดการสูบบุหรี่ให้ได้อย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้เลือดมีการสะสมออกซิเจน และคงระดับไว้เพื่อให้เส้นเลือดมีความแข็งแรง จนถึงวันที่เข้ารับการปลูกผม เพื่อให้เส้นเลือดเหล่านั้นพร้อมเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำ ออกซิเจน รวมถึงสารอาหารสำคัญไปยังจุดที่เราทำการย้ายเซลล์รากผม และเมื่อเราทำการปลูกผมเสร็จแล้ว ก็ควรงดการสูบบุหรี่ไปอีกไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงนาทีทองของการปลูกผม และยังช่วยทำให้แผลของเราสมานตัวเร็วขึ้น รากผมแข็งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเท่ากับว่าเราได้ผลลัพธ์ของผมชุดใหม่ที่ดูดีมากด้วยเช่นกัน
เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรระวัง
สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ขอแนะนำแถมเอาไว้ให้สำหรับสิงห์อมควันทั้งหลาย เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เข้าไปในร่างกายนั้น จะมีผลต่อเส้นเลือดโดยตรง เพราะทำให้เลือดออกง่าย โอกาสของแผลอักเสบก็จะมีมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม
เพราะฉะนั้นผู้ที่จะเข้ารับการปลูกผมต้องใส่ดอกจันให้ตัวเองชัดๆ เลยว่า อยากได้ผมขึ้นดี ได้ผลลัพธ์แบบเกินคาด และกลับมาเป็นคนใหม่ที่ดูอ่อนกว่าวัย ควรอดใจงดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด จะได้ไม่เสียใจทีหลังว่า “รู้งี้เชื่อหมอดีกว่า”