Tag : ปลูกผมโดยแพทย์ทุกกราฟต์
เปิดมุมมองใหม่: ความจริงที่น่ารู้เกี่ยวกับการปลูกผมในวัย 50+
การปลูกผมกำลังเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มผู้ชายวัย 50 ปีขึ้นไปที่กำลังเผชิญกับปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน แต่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหลายประการทำให้หลายท่านลังเลที่จะตัดสินใจ มาทำความเข้าใจข้อเท็จจริงที่ควรรู้กันค่ะ

ผลลัพธ์ที่ลงตัว 
เทคโนโลยีการปลูกผมในปัจจุบันพัฒนาไปไกลมาก ที่นามนิน คลินิก ใช้เทคนิค NEAT ซึ่งให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน การปลูก จนถึงการดูแลต่อเนื่อง 1 ปี คุณหมอนิน พญ.นิล นามทองต้น แพทย์ปลูกผมจะออกแบบแนวไรผมให้กลมกลืนกับรูปหน้าและเส้นผมเดิม โดยปลูกแบบเส้นต่อเส้น คำนึงถึงทิศทางและความหนาแน่นที่เหมาะสม พร้อมการดูแลโดยแพทย์ตลอดกระบวนการ


สบายใจได้ ไม่เจ็บอย่างที่คิด 
การใช้ยาชาเฉพาะที่ ช่วยผู้เข้ารับการปลูกผมแทบไม่รู้สึกเจ็บปวด สามารถผ่อนคลายด้วยการดูโทรศัพท์ ชมภาพยนตร์ หรือฟังเพลงได้ตามปกติระหว่างทำหัตถการ

ความยั่งยืนของผลลัพธ์ 
เส้นผมที่นำมาปลูกมาจากบริเวณท้ายทอยซึ่งทนต่อฮอร์โมน DHT ทำให้มีความคงทนสูง แต่เพื่อการดูแลที่ครบถ้วน นามนิน คลินิก แนะนำโปรแกรม PHB เพื่อบำรุงทั้งเส้นผมที่ปลูกใหม่และเส้นผมเดิมให้แข็งแรงยาวนาน




ไม่ต้องรอให้ล้าน 
การปลูกผมสามารถเริ่มได้ตั้งแต่พบปัญหาผมบางในระยะแรก ซึ่งมักให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและประหยัดค่าใช้จ่าย การปรึกษาแพทย์แต่เนิ่นๆ จะช่วยวางแผนการรักษาได้เหมาะสม

คุ้มค่าในระยะยาว 
แม้ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันตามเทคนิคและผู้ให้บริการที่มีหลายรูปแบบ แต่เมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ระยะยาว ทั้งด้านบุคลิกภาพ ความมั่นใจ และการลดความกังวล การปลูกผมถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า



การปลูกผมในวัย 50+ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์และการดูแลที่ครบวงจร การปลูกผมไม่เพียงมอบเส้นผมใหม่ แต่ยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ชายทุกวัย การศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

5 ข้อดี ปลูกผม NEAT กับนามนิน
ยิ่งเทคโนโลยีการปลูกผมได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยและหลากหลายมากขึ้นเท่าไหร่ บรรดาคนรักผม หรือผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกเทคนิคการปลูกผม ก็ยิ่งมีทางเลือกที่จะตอบโจทย์การรักษาให้ตรงกับความต้องการของตัวเองมากขึ้น เราจึงได้เห็นศัพท์เทคนิคที่เกี่ยวกับการปลูกผมมากมาย โดยเฉพาะ FUT และ FUE ซึ่ง FUE นั้นเป็นเทคนิคที่แพทย์ของนามนินเลือกนำมาพัฒนาต่อยอด เพื่อให้คนไข้ได้รับประสบการณ์การปลูกผมที่สะดวกสบาย พร้อมผลลัพธ์ที่ดีที่สุดบนเงื่อนไขและสภาพปัญหาเส้นผมของแต่ละคน

มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า FUT และ FUE ต่างกันอย่างไร สำหรับ FUT หรือ Follicular Unit Transplant จะหมายถึงเทคนิคการนำผมออกจากด้านหลังท้ายทอย ด้วยวิธีการผ่าตัดนำหนังศีรษะออกมาทั้งชิ้น ก่อนจะนำมาคัดแยกกราฟต์ผมด้วยกล้องจุลทรรศน์ วิธีนี้จะทำให้ได้กราฟต์ผมปริมาณมาก และอยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มที่ เมื่อนำไปปลูกใหม่ก็จะเพิ่มอัตราการอยู่รอดและปลูกติดสูง 

อย่างไรก็ตาม เทคนิค FUT กลับค่อย ๆ ลดความนิยมลงในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดนำชิ้นส่วนของหนังศีรษะออกไปเป็นแถบยาว ซึ่งต้องมีการโกนผมบางส่วน และเย็บผิวหนังส่วนที่เหลือให้ติดกันในภายหลัง ทำให้หนังศีรษะตึงขึ้น เกิดรอยแผลขนาดยาวที่ต้องอาศัยเวลาในการพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์ตารางเวลาชีวิตของคนไข้ ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งแผลผ่าตัดด้านหลัง และแผลจากการปลูกใหม่ด้านหน้า ยังต้องการการดูแลฟื้นฟูเป็นพิเศษ พร้อมกันในเวลาเดียว

FUE หรือ Follicular Unit Extraction จึงเข้ามาเป็นคำตอบใหม่ หมายถึงเทคนิคการนำผมออกจากด้านหลังท้ายทอย โดยการใช้อุปกรณ์ขนาดเล็ก เจาะย้ายกราฟต์ผมออกมาทีละกราฟต์ ทำให้ไม่ต้องมีการผ่าตัด หลาย ๆ เคสไม่จำเป็นต้องโกนผม ซึ่งหากใช้ความละเอียดพิถีพิถันและเครื่องมือประสิทธิภาพสูงในการเจาะย้าย ก็จะได้กราฟต์ผมที่สมบูรณ์พร้อมนำไปปลูกใหม่เช่นกัน ที่สำคัญ แผลด้านหลังท้ายทอยจะเหลือเพียงรอยเจาะขนาดเล็กมาก ดูแลง่าย หายเร็ว แทบไม่ต้องพักฟื้น คืนเวลาให้คนไข้ออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างอิสระตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

และนี่คือข้อดี 5 ประการ ที่นามนินอยากชวนให้คุณมาลองสัมผัสประสบการณ์การปลูกผมสุด Exclusive ด้วยเทคนิค FUE ซึ่งแพทย์ของนามนินอาศัยความใส่ใจและความเข้าใจในความต้องการของคนไข้ บวกกับทักษะความรู้ที่สั่งสมจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ นำมาออกแบบ ต่อยอด กลายเป็นเทคนิคปลูกผมถาวรที่จะเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้ไม่เกินจริง

1. เมื่อทักษะชั้นยอด ต้องมาพร้อมอุปกรณ์ชั้นเยี่ยม

สำหรับการปลูกผมเทคนิค FUE ที่นามนิน แพทย์ได้ทำการศึกษาและเลือกสรรอุปกรณ์ที่สามารถเจาะย้ายกราฟต์ผมด้านหลังท้ายทอยออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเป็นอุปกรณ์ที่มาพร้อมหัวเจาะขนาดเล็ก ที่สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับกราฟต์ผมของแต่ละคน เนื่องจากกราฟต์ผม 1 กอ อาจจะมีเส้นผมได้ตั้งแต่ 1- 4 เส้น และเส้นผมของคนไข้แต่ละคนก็มีขนาดหนาบางไม่เท่ากันด้วย ซึ่งหากหัวเจาะมีขนาดเล็กไป ก็อาจทำให้กราฟต์ผมเกิดความเสียหายได้ อุปกรณ์ที่ดีและเหมาะสม จึงเป็นจุดสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการปลูกผมไม่น้อยเลยทีเดียว


2. เทคนิคซ่อนแผลเนียนสนิท ใช้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

เพราะ pain point ของคนไข้ส่วนใหญ่ มักจะเป็นความกังวลที่ต้องคอยปกปิดแผลหลังปลูกผม รวมถึงทรงผมที่ถูกจำกัดให้จัดแต่งได้อยู่ไม่กี่สไตล์ เพื่อไม่ให้ใครเห็นรอยแผล แพทย์ของนามนินจึงออกแบบเทคนิคซ่อนแผลด้านหลังท้ายทอย โดยในขณะที่เจาะย้ายกราฟต์ผมออกนั้น แพทย์จะย้ายออกในลักษณะแถบเว้นแถบ แบบขั้นบันได เพื่อซ่อนรอยแผลแนบเนียบไปกับผมเดิม ทั้งยังกระจายจุดเจาะย้ายไปทั่ว ๆ บริเวณ คนไข้จึงไม่ต้องคอยปกปิดอีกต่อไป และยังสามารถจัดแต่งผมได้อย่างอิสระ เป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่


3. ปลูกผมด้วยมือแพทย์ “ทุกกราฟต์”

คนไข้อุ่นใจและมั่นใจได้เลยว่า ทุก ๆ กราฟต์ผมจะได้รับการปลูกอย่างตั้งใจ บนมาตรฐานการแพทย์สูงสุด เพราะแพทย์เป็นผู้ลงมือปลูกให้เอง ขั้นตอนนี้นับเป็นขั้นตอนสำคัญ เนื่องจากแพทย์ต้องคำนึงถึงการเลือกกราฟต์ผมที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ปลูก และต้องวางทิศทาง รวมถึงองศาของกราฟต์ผม ให้กลมกลืนเป็นแนวเดียวไปกับเส้นผมเดิม เพื่อป้องกันผมชี้ผิดทิศทางในภายหลัง ไม่เพียงเท่านั้น แพทย์ยังต้องควบคุมการปักกราฟต์ให้ได้ระยะความลึกที่เหมาะสม เพื่อให้กราฟต์ผมได้รับสารอาหารที่มาหล่อเลี้ยงได้อย่างเต็มที่ และยังต้องปลูกผมให้มีระยะห่างที่พอดี ไม่บางเกินไป ไม่หนาแน่นจนเกินไป ทั้งหมดนี้เพื่อการอยู่รอดอย่างสมบูรณ์ของผมใหม่นั่นเอง


4. แทบไม่ต้องพักฟื้น คืนเวลาให้ชีวิต

เรามักจะได้ฟังประสบการณ์ของผู้เข้ารับการปลูกผมในอดีต ที่ต้องเก็บตัวพักฟื้นเป็นเวลานาน เนื่องจากอาการบวม ช้ำ หรือรอยแผลที่ดูน่ากลัว แต่เทคนิคปลูกผมที่แพทย์ของนามนินพัฒนาต่อยอดจากเทคนิค FUE จะช่วยลบภาพเดิม ๆ เหล่านั้นทิ้งไป 


อันดับแรก แพทย์จะคำนวณปริมาณยาชาที่ฉีดก่อนเริ่มปลูกผมอย่างเหมาะสม และลงมือฉีดด้วยตัวเอง ทำให้เกิดอาการบวมหลังปลูกน้อยมาก ต่อมา แพทย์เลือกใช้อุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศ เป็น Implanter หรือปากกาปลูกผมขนาดเล็กพิเศษ เพียง 0.6 มิลลิเมตร ในการบรรจงปักกราฟต์ผมแบบเส้นต่อเส้น ส่งผลให้รอยปลูกผมนั้นเล็กละเอียด แลดูเป็นระเบียบ ไม่ได้มีลักษณะเป็นตุ่ม ๆ หรือมีเลือดออกเยอะเหมือนที่เราเคยเห็นกัน 


เมื่อหมดปัญหาอาการบวมและรอยแผล คนไข้จึงสามารถลุกขึ้นไปใช้ชีวิตประจำวัน ทำงาน หรือพบปะผู้คนได้ทันที โดยไม่ต้องสวมที่คาดผม เรียกว่าแทบไม่ต้องพักฟื้น หรือต้องการการพักฟื้นน้อยมาก ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ในแต่ละเคส

5. อุ่นใจกับเส้นทางการดูแลหลังปลูกผม 1 ปีเต็ม

จะไม่อุ่นใจได้อย่างไร ในเมื่อแพทย์จะเป็นผู้คอยติดตามผลสม่ำเสมอทุกระยะ คอยตอบข้อสงสัย แนะนำผลิตภัณฑ์และ Treatment ที่เหมาะสม รวมถึงให้คำปรึกษาตลอดเส้นทางการรักษาหลังปลูกผมไปอีก 1 ปีเต็ม ๆ จนกว่าผมใหม่จะเติบโตและสมบูรณ์เต็มที่ เพื่อรับประกันผลลัพธ์ผมหนาแน่น ไม่กลับมาหลุดร่วงและบางซ้ำ ทั้งยังบำรุงฟื้นฟูทั้งผมใหม่และผมเดิมให้แข็งแรง สุขภาพดีจากภายใน



เทคนิค FUE เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่ทันสมัยและได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน และเมื่อเทคนิค FUE นั้น ได้รับการพัฒนาต่อยอดโดยแพทย์ของนามนิน ก็ยิ่งมั่นใจได้ว่า นี่จะเป็นการมอบประสบการณ์ปลูกผมที่ดีที่สุด และคุ้มค่าที่สุดให้กับคนไข้ ได้กลับไปพร้อมกับพลังความมั่นใจและรอยยิ้มที่กว้างกว่าที่เคย
เคลียร์ทุกข้อกังวลใจ ก่อนปลูกผม
อยากลองปลูกผม แต่ “กลัว” ว่าจะได้ผลลัพธ์ดีจริงมั้ย

นี่น่าจะเป็นคำถามและความกังวลใจข้อแรก ๆ ของใครก็ตามที่ประสบปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือไปจนถึงโค้งสุดท้ายที่จะเข้าสู่ภาวะผมล้าน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะทุกคนรู้ดีว่า เส้นผมเป็นสิ่งมีค่ามากแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อถึงวันและวัยที่ผมเริ่มร่วงมากขึ้น เริ่มเห็นร่องรอยความบางของผมบนศีรษะ เราจึงเข้าใจว่าการจากไปของเส้นผม ทำให้เรากังวลใจ หรือสูญเสียความมั่นใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเข้าใจถึงความสำคัญของการมีอยู่ของเส้นผมได้จริง ๆ 

แน่นอนว่า หลายคนก้าวผ่านคำถามแรกแห่งการเริ่มต้นนั้นมาแล้ว รวมทั้งได้ผลลัพธ์ภาพลักษณ์ บุคลิกที่ดี และความมั่นใจในตัวเองกลับคืนมา แต่หลาย ๆ คนก็ยังติดอยู่กับคำถามว่า ...ปลูกผมแล้วดีจริงมั้ย ต้องเริ่มต้นอย่างไร... ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการให้คำปรึกษาคนไข้ของนามนิน เราพบว่า มีหลายประเด็นเลยทีเดียวที่คนไข้รู้สึกกลัวหรือกังวลใจ จนลังเลว่าจะเข้ารับการปลูกผมดีมั้ย บางคนก็กลัวเพราะภาพจำฝังใจในอดีต และบางคนก็กลัวเพราะมองไม่เห็นว่าภาพผลลัพธ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร 

วันนี้ นามนิน จึงขอรวบรวมคำตอบที่จะช่วยเอาชนะทุกความกลัว เคลียร์ทุกความกังวลใจ ให้ทุกคนตั้งต้นก้าวแรกของเส้นทางการปลูกผม เพื่อผลลัพธ์ผมใหม่ที่ได้ดังใจ และเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้ไปด้วยกัน



กลัวว่าการปลูกผม จะต้องผ่าตัดหนังศีรษะ หรือโกนผมทิ้ง
จริงอยู่ที่ในอดีต การปลูกผมจำเป็นต้องพึ่งพาการผ่าตัดชิ้นหนังศีรษะ หรือต้องโกนผมด้านหลังท้ายทอยออก แต่ปัจจุบันเทคนิคการปลูกผมได้รับการพัฒนาไปไกลมากแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิค FUE ที่แพทย์ปลูกผมส่วนใหญ่นำมาใช้ จนถึงขั้นพัฒนาต่อยอดเทคนิคเองเพื่อให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น 

ซึ่งเทคนิคนี้จะเป็นการเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย เพื่อนำมาปลูกใหม่บริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กพิเศษจนแทบไม่ทิ้งรอยแผล ไม่มีการลงมีดผ่าตัด หรือโกนผมทิ้งอีกต่อไป อีกทั้งอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ ยังสามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับกราฟต์ผมที่แตกต่างกันไปของแต่ละคนด้วย


กลัวว่าปลูกผมแล้ว ผมจะไม่ขึ้น หรืออยู่ได้ไม่นานก็ร่วงไปอีก
ต้องเข้าใจก่อนว่า การปลูกผมนั้น จำเป็นต้องใช้เส้นผมของเราเอง และที่สำคัญ ต้องเป็นเส้นผมที่มาจากบริเวณ Safe Zone หรือด้านหลังท้ายทอย เนื่องจากผมในบริเวณดังกล่าวมีคุณสมบัติในการต้านทานฤทธิ์ของฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้รากผมอ่อนแอ ส่งผลให้ผมหลุดร่วงก่อนเวลาอันควร 


ดังนั้น เมื่อเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอยมาปลูกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นตรงส่วนไหนก็ตาม คุณสมบัติเหล่านั้นก็จะตามมาด้วย เพราะเราย้ายมาทั้งเส้นผมและรากผม ทำให้ผมปลูกใหม่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่หลุดร่วงง่าย แต่จะร่วงและขึ้นใหม่เป็นปกติตามวงจรธรรมชาติของเส้นผม และจะอยู่กับเจ้าของเส้นผมต่อไปได้อย่างถาวร 

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจทำให้ผมปลูกใหม่หลุดร่วงง่าย ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญจะคอยระวังดูแลเป็นอย่างดีตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก เช่น การรักษาสภาพกราฟต์ผมหลังจากเจาะย้ายออกมาแล้ว ด้วยการแช่น้ำยาประสิทธิภาพสูงเพื่อรอการปลูกใหม่ การปักกราฟต์ผมให้ได้ระยะห่างที่พอดี ไม่ห่างกันหรือแน่นเบียดกันจนเกินไป อีกทั้งต้องปักให้ได้ระยะความลึกที่เหมาะสม เพื่อให้รากผมได้รับสารอาหารที่มาหล่อเลี้ยงอย่างเต็มที่ 

รวมไปถึงขั้นตอนการดูแลหลังปลูก ซึ่งแพทย์จะคอยติดตามผลอย่างใกล้ชิดทุกระยะ ตลอดเวลา 1 ปีเต็ม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เส้นผมจะค่อย ๆ เติบโตสมบูรณ์ตามธรรมชาติ โดยเตรียมคำแนะนำ ข้อปฏิบัติ บริการทรีตเมนต์ รวมถึงผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ ไว้ให้ เพื่อให้ทั้งแพทย์และคนไข้สามารถร่วมมือกันดูแลผมปลูกใหม่อย่างง่าย ๆ ไร้กังวล


กลัวเจ็บ และกลัวว่าจะมีผลข้างเคียงจากการปลูกผม
จากเสียงตอบรับของคนไข้หลาย ๆ คน ต่างก็มีประสบการณ์ในวันทำหัตถการปลูกผมที่ราบรื่น และไม่เจ็บมากเหมือนที่เคยกังวลกันไว้ล่วงหน้า โดยในวันนั้น ขั้นตอนจะเริ่มจากการเจาะย้ายรากผมออก คัดเลือกและตัดแต่งกราฟต์ผม แล้วจึงนำมาปลูกใหม่ทีละกราฟต์ด้วยความพิถีพิถัน โดยแพทย์จะมีเทคนิคการฉีดยาชา ซึ่งจะช่วยบรรเทาทั้งความรู้สึกเจ็บรวมถึงอาการบวมหลังปลูก และด้วยอุปกรณ์ขนาดเล็กพิเศษ เทคนิคที่ออกแบบมาแล้วอย่างดี บวกกับความชำนาญและความละเอียดอ่อนของแพทย์ขณะลงมือปลูก ก็ยิ่งช่วยให้รอยแผลมีขนาดเล็ก เลือดออกน้อย ไม่น่ากลัวอย่างที่หลาย ๆ คนคิด


กลัวว่าจะต้องลางานยาว หรือต้องเก็บตัวหลายสัปดาห์เพื่อพักฟื้น
แทบจะลืมคำว่าพักฟื้นไปได้เลย เพราะเทคนิคการปลูกผมในปัจจุบัน ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ ไม่ต้องเก็บตัวหลบหน้าผู้คนเพื่อพักฟื้น หรือกังวลกับอาการบวมหรือรอยแผลจนไม่กล้าไปเจอใคร ที่ผ่านมา คนไข้หลาย ๆ คนสามารถขับรถกลับบ้านได้เองในวันทำหัตถการ หรือไปทำงานต่อในวันรุ่งขึ้นได้ทันที เพียงแต่ต้องคอยระวังศีรษะบริเวณที่เพิ่งปลูกผมใหม่เป็นพิเศษตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้กราฟต์ผมหลุดร่วง โดยไม่ต้องหยุดงานยาวหรือกระทบกับเวลาในการใช้ชีวิต


กลัวว่าจะมาเริ่มรักษาช้าไป และกลัวผมบางรุนแรงจนแก้ไม่ได้
สำหรับข้อนี้ ไม่ต้องกลัวเลย เพราะหลาย ๆ คนก็ลังเลใจจนถึงจุดที่ปัญหาผมเริ่มเข้าสู่ระยะวิกฤตแล้วจริง ๆ จึงตัดสินใจเข้ามาปรึกษาแพทย์ บางคนก็มาด้วยอาการผมบางหลายจุดพร้อม ๆ กันหรือเชื่อมต่อกัน ซึ่งในกรณีนี้ แพทย์จะช่วยออกแบบแนวทางการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาของแต่ละคนมากที่สุด หากกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอยเหลืออยู่น้อย ก็จะใช้วิธีคำนวณกราฟต์ผมและบริหารจัดการเพื่อปลูกเฉลี่ยให้ครอบคลุมพื้นที่ที่เป็นปัญหา หรือปรึกษากับคนไข้เพื่อเน้นการปลูกใหม่ในจุดที่กังวลเป็นพิเศษ และเสริมด้วยผลิตภัณฑ์หรือบริการทรีตเมนท์ เพื่อบำรุงเส้นผมให้มีขนาดใหญ่และหนาขึ้น ชะลอการหลุดร่วง เร่งการเกิดใหม่ของเส้นผม ช่วยให้ผมแลดูดกดำและหนาแน่นขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม แพทย์ก็ยังแนะนำให้คนที่เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของอาการผมร่วง ผมบาง รีบเข้ามาปรึกษาและเข้ารับการดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ ในวันที่ปริมาณกราฟต์ผมต้นทุนยังมีอยู่มาก จะช่วยให้สามารถปลูกใหม่ได้ผลลัพธ์หนาแน่น และแพทย์ยังสามารถช่วยดูแลชะลอการหลุดร่วงก่อนเวลาของผมส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย



กลัวคนมองว่าอายุมากแล้ว จะปลูกผมไปทำไม
ความกังวลนี้มักจะเกิดขึ้นกับคนไข้วัย 50+ ซึ่งในปัจจุบัน ผู้สูงวัยใช้ชีวิตแบบแอคทีฟมากขึ้น มีกิจกรรมต่าง ๆ หรือใช้เวลานอกบ้าน ออกไปเข้าสังคมกันมากขึ้น เสียงจากคนไข้ส่วนใหญ่จึงอยากฝากถึงคนที่กำลังลังเลใจเพราะตัวเลขอายุว่า แม้จะสูงวัย แต่เรายังต้องใช้เวลาในชีวิตอีกหลายปี เพราะฉะนั้น ถ้าการปลูกผมจะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้เราสูงวัยได้อย่างมั่นใจ และมีความสุข ก็นับเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และหากรอนานไปกว่านี้ อาจจะสายเกินที่จะปลูกผมใหม่แล้วก็เป็นได้


และสุดท้าย หากใครกลัวว่าการปลูกผมจะเป็นการลงทุนที่แพงเกินไป จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราจะไม่มองเพียง ราคา แต่มองถึง ความคุ้มค่า ในระยะยาว ซึ่งหากเราเลือกคลินิกปลูกผมที่น่าเชื่อถือ แพทย์ผู้ชำนาญที่มีทักษะและประสบการณ์ไว้วางใจได้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งในแง่ของเส้นผมใหม่ที่หนาแน่น แข็งแรง รวมถึงผลลัพธ์ทางใจ ไม่ว่าจะเป็นความพึงพอใจ หรือความมั่นใจในตัวเองที่กลับคืนมา ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอนกับการตัดสินใจปลูกผม ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต
เทคนิค NEAT ภารกิจฟื้นผมใหม่ โดย “คุณหมอนิน”
หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่ส่งให้ชื่อของ “นามนิน” มีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับเป็นวงกว้างในวงการปลูกผม แน่นอนว่าคำตอบก็คือการปลูกผม “เทคนิค NEAT” ที่พัฒนาโดย “คุณหมอนิน - แพทย์หญิงนิล นามทองต้น” จนกลายเป็นเทคนิคปลูกผมถาวรขั้นสูง เอกสิทธิ์เฉพาะหนึ่งเดียวของนามนิน ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากความตั้งใจพัฒนาต่อยอดวิธีการฟื้นฟูเส้นผมแบบไม่มีวันหยุดของคุณหมอนิน เพื่อมอบประสบการณ์การปลูกผมสุด Exclusive ให้กับคนไข้


สำหรับเทคนิค N / E / A / T หรือ Namnin Exclusive Advanced Hair Transplant Technique คือเทคนิคปลูกผมสุดประณีตจากนามนิน ที่เกิดจากความใส่ใจเต็มร้อยของคุณหมอนิน ในการใช้ศาสตร์และศิลป์เพื่อแก้ปัญหาผมได้อย่างตอบโจทย์และตรงจุด โดยมีความหมายซ่อนอยู่ในทุกตัวอักษร สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในแบบที่แตกต่าง

N – Namnin
บ่งบอกถึงการดูแลทุกขั้นตอนในการปลูกผมโดยคุณหมอนิน แพทย์ผู้ชำนาญตัวจริง ตั้งแต่ประเมินปัญหา ออกแบบแนวทางการรักษา จากนั้นจึงลงมือปลูกผมใหม่ให้คนไข้ด้วยตนเองแบบเส้นต่อเส้น ก่อนจะดูแลและติดตามผลทุก ๆ ระยะ ตลอดเวลา 18 เดือน จนกระทั่งเส้นผมใหม่เติบโตแข็งแรงอย่างสมบูรณ์



E – Exclusive
สื่อถึงแนวทางออกแบบการรักษาแบบ “เฉพาะบุคคล” ด้วยความเข้าใจว่า คนไข้แต่ละคนมาด้วยปัญหาที่แตกต่างแบบไม่ซ้ำกันเลย อีกทั้งคนไข้ยังมีหลากหลายเพศ หลายวัย ต่างเงื่อนไข ต่างความต้องการและความจำเป็น ดังนั้นจึงต้องออกแบบวิธีการรักษาใหม่ทุกครั้ง แบบเคสต่อเคส ไม่มีสูตรสำเร็จ เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากที่สุด



A – Advanced
สะท้อนคุณภาพการปลูกผมที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานระดับสากล จากทักษะและประสบการณ์ของคุณหมอนิน ทั้งยังเพิ่มความพิถีพิถันและใส่ใจในทุกขั้นตอนการรักษา เพื่อลดทุกความกังวลของคนไข้ และเพิ่มความมั่นใจในประสิทธิภาพการรักษา 



T - Technique
คุณหมอนินยังพัฒนาเทคนิคต่าง ๆ ที่จะแก้ปัญหา pain point เดิม ๆ และช่วยเสริมให้ผลลัพธ์การปลูกผมตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้มากขึ้น อย่างเช่นเทคนิคการย้ายผมออกจากด้านหลังท้ายทอยแบบขั้นบันได เพื่อซ่อนรอยแผลแนบเนียน ไม่ต้องโกนผมทิ้ง สามารถจัดแต่งทรงผมได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องคอยปกปิด รวมถึงเทคนิคในการปักกราฟต์ผม ที่นอกจากคุณหมอนินจะเป็นผู้ลงมือปลูกเองแล้ว ยังเน้นการปักกราฟต์ผมให้เรียงตัวไปในทิศทางเดียวกับเส้นผมเดิม เลือกขนาดและความหนาบางของเส้นผมที่เหมาะกับแต่ละโซน ปักกราฟต์ด้วยระยะความลึกที่เหมาะสม และให้ได้ความหนาแน่นที่กำลังดี ซึ่งทั้งหมดนี้ นอกจากจะทำให้ได้ผลลัพธ์ผมใหม่ที่กลมกลืน เป็นธรรมชาติ อยู่รอด ไม่หลุดร่วงง่ายแล้ว ยังช่วยให้คนไข้ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติแทบจะในทันที


ศาสตร์การฟื้นฟูผมเป็นภารกิจสำคัญ และนับเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผม เรียกได้ว่ามีความแตกต่างจากการศัลยกรรมประเภทอื่น ๆ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ผมต้นทุนจากด้านหลังท้ายทอยของผู้เข้ารับการปลูกผมเองเท่านั้น ซึ่งผมต้นทุนที่ว่าก็มีข้อจำกัด อาจไม่ได้มีเพียงพอสำหรับปลูกซ้ำได้หลาย ๆ ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนไข้ที่มีปัญหาสภาพผมอ่อนแอ หรือปล่อยให้ภาวะผมร่วง ผมบาง เกิดขึ้นเป็นเวลานานโดยไม่ได้รักษา ก็จะยิ่งเหลือผมต้นทุนน้อยลงไปอีก ทำให้แพทย์ต้องใช้ทักษะในการวางแผนใช้ผมต้นทุนด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะคนไข้แต่ละคน อาจปลูกผมได้เพียง 1 – 2 ครั้งเท่านั้นในชีวิต

ไม่เพียงเท่านั้น การปลูกผมยังเต็มไปด้วยขั้นตอนมากมาย ตั้งแต่การเจาะย้ายกราฟต์ผมออก และนำไปปลูกใหม่ในพื้นที่ที่เป็นปัญหา ซึ่งนามนินมีทีมผู้ช่วยแพทย์ที่ได้รับการฝึกฝนพัฒนาทักษะจากคุณหมอนินโดยตรง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า คนไข้จะได้รับการดูแลอย่างถูกต้องตามหลักวิชาแพทย์

และคุณหมอนินยังให้ความสำคัญกับขั้นตอนการดูแลระยะยาวหลังปลูกผม ซึ่งจะมีการติดตามผล และให้คำแนะนำตลอดเส้นทางการรักษาที่ยาวนานถึง 18 เดือน เพื่อผลลัพธ์ผมใหม่ที่สมบูรณ์เต็มที่ โดยในทุกขั้นตอนที่กล่าวมา คุณหมอนินไม่เคยหยุดพัฒนาเทคนิคและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเสริมการรักษาให้เข้ากับคนไข้แต่ละเคสมากที่สุด


ขณะเดียวกัน คุณหมอนินยังมีความเชี่ยวชาญในการดูแลเส้นผมที่ไม่ใช่แค่การปลูกผม เพราะมีคนไข้หลาย ๆ เคสที่ไม่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีการปลูกผมใหม่ อย่างเช่นในคนไข้ผู้หญิงที่มีปัญหาผมบางทั่วศีรษะ ทั้งด้านหน้า ตรงกลางศีรษะ รวมถึงท้ายทอยด้านหลัง ซึ่งโดยปกติ ผู้หญิงจะมี Safe Zone หรือบริเวณที่มีผมต้นทุนให้นำไปปลูกใหม่ได้น้อยกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ผู้หญิงบางคนอาจจะมีผมต้นทุนน้อยเป็นพิเศษหรือไม่มีเลย และถ้าหากผมด้านหลังท้ายทอยเริ่มหลุดร่วง ก็แปลว่าผมบริเวณนั้นอ่อนแอ เล็ก ลีบ บาง ไม่แข็งแรงพอที่จะย้ายนำไปปลูกใหม่ เพราะหากย้ายไปก็อาจจะหลุดร่วงซ้ำได้อีก ส่วนบริเวณท้ายทอยก็จะยิ่งดูบางลงไปอีก 

นี่เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างปัญหาของคนไข้ ที่เป็นแรงผลักดันให้คุณหมอนินคิดค้นและพัฒนาตัวช่วยต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์การรักษาอาการผมร่วง ผมบาง โดยไม่ได้พึ่งพาการปลูกผมถาวร ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยา การทาเซรั่ม การรับประทานวิตามิน รวมถึงการเข้ารับบริการทรีตเมนท์หลากหลายรูปแบบ ซึ่งนวัตกรรมการรักษาล่าสุดที่คุณหมอนินพัฒนาขึ้น ก็คือการฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster เข้าที่หนังศีรษะ เหมาะสำหรับสภาพหนังศีรษะที่ยังมีรูขุมขนอยู่ ไม่ได้ปิดไปแล้วหรือเข้าสู่ภาวะผมล้าน

โดย Premium Hair Booster จะตรงเข้าบำรุงเส้นผมลึกถึงระดับเซลล์ เปลี่ยนผมเส้นเล็ก ลีบ บาง ให้กลับมามีขนาดใหญ่ขึ้น หนาขึ้น แข็งแรงขึ้น จนช่วยเพิ่มความดกดำและความหนาแน่นให้กับเส้นผมได้ ทั้งยังช่วยลดอัตราการหลุดร่วงของเส้นผม พร้อมทั้งกระตุ้นและเร่งเส้นผมให้เกิดใหม่อีกด้วย ซึ่งคุณหมอนินยังบูรณาการการใช้ Premium Hair Booster สำหรับคนไข้ผู้ชายที่ต้องการการฟื้นบำรุงผมได้ด้วยเช่นกัน



จากทักษะ ความใส่ใจ และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ทำให้เมื่อไม่นานมานี้ คุณหมอนิน ได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เชิญให้รับตำแหน่งอาจารย์พิเศษ หลักสูตรปริญญาโท ในวิชา Hair Transplantation สาขาวิชาเวชศาสตร์ความงาม เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์เหล่านั้นให้กับนักศึกษาแพทย์ด้วย ซึ่งก็เป็นไปตามความตั้งใจของคุณหมอนิน ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริม ผลักดัน และยกระดับวงการปลูกผมของประเทศไทย ให้เติบโตและพัฒนาไปข้างหน้า จนสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ไม่แพ้ใคร




เช็ค 4 อาการหลังปลูกผม
หนึ่งในความกังวลใจหลาย ๆ เรื่องของผู้ที่กำลังเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผม หรือแม้แต่ผู้ที่กำลังศึกษาข้อมูลเพื่อตัดสินใจปลูกผมอยู่ก็ตาม ก็คือ อาการ หรือ ผลข้างเคียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่าง ๆ ที่จะตามมาหลังปลูก หลายคนจึงน่าจะมีคำถามอยู่ในใจคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น ...หลังปลูกผมแล้วจะเจ็บมั้ย ...ศีรษะหรือใบหน้าจะบวมหรือเปล่า ...รอยแผลจากการปลูกผมล่ะ ถ้าเห็นชัดจนใคร ๆ ก็ทักจะทำอย่างไร ...แล้วถ้าผมปลูกใหม่หลุดร่วงไป จะเกิดอะไรขึ้น?? สารพัดคำถามที่เกิดขึ้น

แต่ถ้าคุณก้าวเข้ามาเป็นผู้รับบริการของนามนิน คลินิกแล้ว ความกังวลใจเหล่านี้จะบรรเทาลงไปไม่น้อยเลย เพราะคุณหมอจะอธิบายอย่างละเอียด ชัดเจน  เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา ตั้งแต่ก่อนปลูกผมเตรียมตัวอย่างไร ในวันปลูกผมจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง และหลังปลูกผมต้องดูแลอย่างไร และมาพบแพทย์กึ่ครั้ง ตลอด 1 ปี เพื่อให้ผู้รับบริการได้ทราบถึงสิ่งจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมซึ่งอาการต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดความกังวล คุณหมอนินมีเทคนิคที่เกิดจากประสบการณ์การทำงานอย่างละเอียดที่จะช่วยลดโอกาสเกิดอาการเหล่านั้นได้

นามนินได้รวบรวมข้อมูลและรายละเอียด 4 อาการที่อาจเกิดขึ้นได้โดยทั่วไปหลังปลูกผม ไว้ดังนี้

1 รอยแผลด้านหลังท้ายทอย

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การปลูกผม คือการเจาะย้ายกราฟต์ผมของผู้รับบริการเอง ออกจากบริเวณด้านหลังท้ายทอย และนำมาปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา เนื่องจากกราฟต์ผมบริเวณนั้นมีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทานต่อการหลุดร่วงมากที่สุด 

ดังนั้น การเกิดรอยแผลหลังเจาะย้ายกราฟต์ผมออก จึงถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปของการทำหัตถการปลูกผม แต่คุณหมอของนามนิน มีตัวช่วยมากมายที่จะช่วยให้ผู้รับบริการซ่อนรอยแผลเนียนกริบ 


ข้อแรก คุณหมอเลือกนำเข้าอุปกรณ์เจาะย้ายรากผมซึ่งมีหลายขนาดสามารถปรับให้เหมาะกับขนาดกราฟต์ผมของผู้รับบริการแต่ละคนเพื่อให้ได้กราฟต์ผมที่ถอนออกมาสมบูรณ์


ข้อสอง คุณหมอใช้วิธีเจาะย้ายกราฟต์ผมออก โดยไม่ต้องโกนผม ที่สำคัญ ยังพัฒนาเทคนิคแบบขั้นบันได เจาะย้ายกราฟต์ผมออกสลับกันเป็นแถบ ๆ และพยายามกระจายจุดเจาะย้ายไปทั่ว ๆ รอยแผลที่เกิดขึ้นจึงถูกซ่อนไว้ใต้ผมเดิมของผู้รับบริการอยากแนบเนียน

นั่นทำให้ผู้รับบริการสามารถจัดแต่งทรงผมได้เต็มที่ทุกสไตล์ โดยไม่ต้องกังวลคอยปกปิดรอยแผล


2 อาการบวมที่ใบหน้า

ในขั้นตอนการปลูกผม จะมีการฉีดยาชา 2 ครั้ง คือ 
  • ครั้งแรก จะฉีดยาชาเพื่อให้บริเวณท้ายทอยไม่มีความรู้สึก เพื่อเจาะย้ายรากผม ตามจำนวนที่ต้องการปลูก 
  • ครั้งที่สอง จะฉีดยาชาบริเวณที่เราต้องการปลูกผมเพื่อให้ผิวหนังบริเวณที่จะปลูกผม

ซึ่งการฉีดยาชามักเป็นจุดที่ผู้รับบริการวิตกกังวลในเรื่องความเจ็บ โดยการฉีดยาชานั้นจะมีเทคนิคแตกต่างกันไปแล้วแต่แพทย์ผู้ทำหัตถการ 
ที่นามนิน คลินิก คุณหมอนินจะเป็นผู้ฉีดยาชาให้ผู้รับบริการด้วยตนเองโดยคำนวณปริมาณที่เหมาะสมและทำหัตถการอย่างเบามือ จึงทำให้ผู้รับบริการคลายกังวลและไม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่คิดไว้

ด้วยเทคนิคเฉพาะของคุณหมอนิน จึงทำให้หลังปลูกผมที่นามนิน ไม่ต้องใส่ผ้าคาดหน้าผาก และแทบไม่พบอาการบวมหลังปลูกผม จึงทำให้ผู้รับบริการไม่ต้องวิตกกังวลในการกลับใช้ชีวิต หรือออกไปทำงานหลังปลูกผมได้อย่างปกติ จนคนรอบข้างแทบไม่มีใครสังเกตุความเปลี่ยนแปลง







3 อาการคันที่หนังศีรษะ

เรียกว่าเป็นอาการที่พบได้เป็นปกติ และอาจเกิดจากสาเหตุหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน เช่น
  • การปลูกผมทำให้เกิดแผลขนาดเล็ก ๆ บนหนังศีรษะจำนวนมาก จึงไปกระทบและรบกวนเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการคันและชา
  • ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการซ่อมแซมแผลที่เกิดหลังจากการปลูกผม โดยสะเก็ดเลือดที่แห้งตัวลง อาจไปดึงรั้งผิวหนังโดยรอบให้ตึงขึ้น ทำให้เกิดอาการคัน
  • ผลข้างเคียงจากสารฮิสตามีนในสะเก็ดเลือด ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง



ทั้งนี้แพทย์แนะนำไม่ให้เกาหรือสัมผัสบริเวณแผล เพราะอาจทำให้กราฟต์ผมปลูกใหม่หลุดติดออกมาได้ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงที่แผลจะติดเชื้อมากขึ้นด้วย ที่นามนิน คลินิก หลังปลูกผมจะมอบชุดผลิตภัณฑ์ดูแลตนเองที่คุณหมอนินคัดสรรมาแล้วง่ายต่อการใช้ในชีวิตประจำวันทั้งเรื่องช่วยทำความสะอาดและลดอาการคัน ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะอย่างแท้จริง



4 ผมร่วงหลังปลูก 2 สัปดาห์ (Shock Loss)

อาการ Shock Loss หรือการที่ผมปลูกใหม่หลุดร่วงเป็นจำนวนมากพร้อม ๆ กัน เป็นอาการที่เกิดขึ้นเป็นปกติของผู้รับบริการหลังปลูกผม ซึ่งชวนให้ตกใจอยู่ไม่น้อย แต่คุณหมอนินจะอธิบายให้ผู้รับบริการของนามนินเข้าใจตั้งแต่แรก ว่าเป็นการหลุดร่วงของเส้นผมตามระยะและวงจรธรรมชาติ ไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด และผมที่แข็งแรงสมบูรณ์จะงอกขึ้นใหม่เองภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า 


ซึ่งในบางเคสก็อาจจะไม่ได้เกิด Shock Loss ในทางกลับกันผมที่ปลูกไว้ตั้งแต่วันแรกกลับยาวต่อไป ก็มีโอกาสเป็นได้เช่นกัน

นอกจากคุณหมอนินจะชวนผู้รับบริการทำความเข้าใจอาการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังปลูกผมแล้ว ยังคอยติดตามผลทุกระยะตลอด 1 ปีเต็ม และตอบข้อสงสัย รวมถึงคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ผู้รับบริการจึงไม่ต้องคอยเป็นกังวลกับอาการต่าง ๆ และยังรู้จักวิธีถนอมดูแลเส้นผมและหนังศีรษะอย่างถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ผมปลูกใหม่ที่ดีที่สุดนั่นเอง












Checklist จุดคุ้มค่าราคาปลูกผม
สำหรับหลาย ๆ คนที่เลือกการปลูกผมเป็นทางออกถาวรให้กับปัญหาผมร่วงผมบาง และกำลังตัดสินใจว่าจะเข้ารับบริการกับคลินิกปลูกผมแห่งไหนดี แน่นอนว่า ปัจจัยสำคัญก็คือ “ราคา” ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่า ในตลาดปลูกผมของประเทศไทยที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ มีการตั้งราคาที่หลากหลายตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว คำถามคือ ตัวเลขราคาเหล่านั้นสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการปลูกผมด้วยหรือไม่ ยิ่งลงทุนจ่ายราคาแพง ยิ่งการันตีความสำเร็จในการปลูกผมจริงหรือ

ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขราคาที่เห็น อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดผลลัพธ์ของการปลูกผมได้ 100% (เพราะมักจะบวกรวมค่าใช้จ่ายด้านการทำการตลาดลงไปด้วย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากกว่า “ราคา” นั่นก็คือ “ความคุ้มค่า” 

ถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยแล้วว่า ความคุ้มค่าที่ว่านั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง นามนินจึงรวบรวม Checklist สำหรับประเมินจุดคุ้มค่าของการปลูกผม เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจเลือกปลูกผมด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนอย่างรอบคอบ และตามหาจุดที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย รวมถึงตอบโจทย์ความพึงพอใจในการรักษาได้มากที่สุด

สำรวจความเห็นจากผู้เข้ารับบริการจริง
เริ่มจากการลองเข้าไปศึกษารีวิวการใช้บริการปลูกผมจากคนไข้ตัวจริงเสียงจริงหลาย ๆ คน ว่าแต่ละคนแชร์ประสบการณ์ในการรักษาไว้อย่างไร ผลลัพธ์ที่ได้ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมบางได้จริงหรือไม่ หรือลองศึกษาจากข้อมูลที่แพทย์แต่ละคลินิกออกมาให้ความรู้ รวมถึงลองสังเกตสไตล์การอธิบายให้คำปรึกษา ซึ่งแพทย์แต่ละคนก็มีแนวทางที่ต่างกัน เป็นการประเมินความน่าเชื่อถือเบื้องต้น และได้โอกาสมองหาแนวทางการรักษาที่ตรงใจเราที่สุดด้วย



คำถามสำคัญ ปลูกผมโดย “ใคร” ?
ข้อนี้เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม แต่ที่จริงแล้ว นี่เป็นคำถามเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งเลย เนื่องจากผู้ที่จะลงมือทำหัตถการปลูกผมนั้น นอกจากจะเป็นแพทย์ผู้ชำนาญด้านการปลูกผมโดยตรงแล้ว ยังสามารถเป็นทีมสหวิชาชีพแพทย์ หรืออาจเป็นบุคลากรในสาขาอาชีพอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับเทคนิคและแนวทางการรักษาที่คนไข้เลือก ว่าต้องการทักษะฝีมือ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในระดับไหน ถ้าเรารู้คำตอบว่าใครเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้เราแล้ว ก็จะช่วยให้พิจารณาความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายได้ชัดเจนขึ้น



หาโอกาสลองพบคุณหมอตัวจริง
ข้อมูลหรือภาพที่เห็นในโลกอินเทอร์เน็ต จะตรงกับความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน ได้เวลาพิสูจน์ด้วยการก้าวเข้ามาพูดคุยปรึกษากับแพทย์ที่คลินิกปลูกผม ลองดูซิว่า ความประทับใจแรกของเราจะเป็นอย่างไร



แพทย์มีความรู้มากน้อยแค่ไหน และเลือกใช้วิธีถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นออกมาอย่างไร 
แพทย์รับฟังปัญหาและความต้องการของเรามากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะนำไปสู่การออกแบบแนวทางการรักษาร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์คนไข้ได้มากที่สุด
แพทย์วิเคราะห์ปัญหาเส้นผมแบบเฉพาะบุคคลหรือไม่ เพราะคนไข้แต่ละเคสมาด้วยปัญหาที่แตกต่างและไม่ซ้ำกันเลย
แพทย์มีความจริงใจที่จะให้คำแนะนำโดยอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงหรือไม่ เช่น ในกรณีที่ปัญหาผมค่อนข้างรุนแรงจนไม่อาจปลูกผมคืนความหนาแน่นได้เต็มร้อย แพทย์มีวิธีบอกกับเราและเสนอแนะทางแก้ปัญหาอย่างไร
แพทย์มีเทคนิคในการปลูกผมที่น่าสนใจและช่วยให้เราสะดวกสบายขึ้นอย่างไร
ขั้นตอนการปลูกผมที่แพทย์อธิบายให้ฟัง ดูน่าเชื่อถือแค่ไหน

ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราลดความกังวลในการเข้ารับบริการ และตัดสินใจเลือกคลินิกที่จะปลูกผมได้ง่ายขึ้น

สถานที่และอุปกรณ์ได้มาตรฐาน
อย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานความสะอาดของสถานที่ทำหัตถการปลูกผม รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ที่สำคัญ อุปกรณ์ที่แพทย์เลือกใช้ควรมีความน่าเชื่อถือ ออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เจาะย้ายรากผม อุปกรณ์ปลูกผม รวมไปถึงเครื่องมือและน้ำยาที่ใช้ในการแช่รักษาสภาพกราฟต์ผมระหว่างรอปลูกใหม่ อีกทั้งเรายังสังเกตความใส่ใจของแพทย์ได้จากการเตรียมอุปกรณ์เจาะย้ายรากผมและอุปกรณ์ปลูกผมที่สามารถปรับการใช้งานให้เข้ากับขนาดกราฟต์ผมที่แตกต่างกันของคนไข้ได้ เพื่อลดโอกาสที่กราฟต์ผมจะถูกทำร้ายให้น้อยที่สุดนั่นเอง



ความช่วยเหลือในการเตรียมตัวก่อนปลูกผม
ความคุ้มค่าของการให้บริการปลูกผม ไม่เพียงวัดกันที่ผลลัพธ์ปลายทาง แต่สามารถบอกได้ตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางการรักษา อย่างเช่นขั้นตอนการเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผม ลองนึกภาพดูว่า เป็นใครก็คงจะกังวลไม่น้อยกับการปลูกผมครั้งแรกในชีวิต แต่ถ้าคนไข้เลือกคลินิกและแพทย์ที่สามารถช่วยในการ “เตรียมตัว” ได้เป็นอย่างดี คนไข้ก็จะเข้ารับการรักษาอย่างสบายใจไร้กังวล 

ทั้งนี้ ทางคลินิกสามารถช่วยเราเตรียมตัวได้ในหลาย ๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น  การอธิบายขั้นตอนการปลูกผมแบบเข้าใจง่าย จนเห็นภาพได้ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมถึงการให้คำแนะนำในเรื่องของอาหารและยาที่ควรงดรับประทานก่อนวันปลูก การออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสม การนอนหลับให้เพียงพอ ไปจนถึงเสื้อผ้าแบบไหนที่ควรสวมใส่ในวันปลูกผมเพื่อความคล่องตัว


วันปลูกผม ..หนึ่งวันที่จะเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่..
วันปลูกผมถือเป็นวันสำคัญที่ควรศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนตัดสินใจเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหน เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่จะช่วยให้เราประเมินความคุ้มค่าของการปลูกผมได้อย่างชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษาที่แพทย์เลือกใช้ หรือเทคนิคที่ออกแบบมาด้วยความเข้าใจ pain point ของคนไข้ ซึ่งจะช่วยให้คนไข้กลับไปใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น เทคนิคซ่อนแผลด้านหลังท้ายทอย ทำให้คนไข้ไม่ต้องคอยปกปิดรอยแผลและจัดแต่งผมทรงต่าง ๆ ได้อิสระทุกสไตล์ 

และยังรวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ความใส่ใจจากทีมแพทย์และบุคลากร ความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการ ผลข้างเคียงจากการรักษา เช่นอาการเจ็บ บวม ช้ำ มีมากน้อยแค่ไหน และคนไข้จะได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งทีมแพทย์ที่ดีจะช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจและมั่นใจได้ตลอดกระบวนการรักษา


เส้นทางการรักษา 1 ปีเต็ม
การปลูกผมไม่ได้จบแค่วันทำหัตถการ แต่ยังมีเส้นทางต่อเนื่องหลังจากนั้นอีก 1 ปีเต็ม เนื่องจากผมที่ปลูกใหม่ต้องการระยะเวลาที่จะค่อย ๆ เจริญเติบโตตามวงจรธรรมชาติ ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกปลูกผมที่จะไม่ทิ้งคนไข้ไว้กลางทาง แต่จะคอยดูแลนัดติดตามผล ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการพักฟื้น การปฏิบัติตัว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนแนะนำบริการ Treatment ต่าง ๆ ที่จะลดโอกาสเสี่ยงในการหลุดร่วงของเส้นผม และช่วยให้เส้นผมมีเปอร์เซ็นต์การอยู่รอดสูงขึ้น คลินิกปลูกผมหลาย ๆ แห่ง ยังเปิดให้คนไข้สามารถปรึกษาและซักถามข้อสงสัยได้ตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของความคุ้มค่าคุ้มราคาทั้งในเชิง “เวลา” และ “ความใส่ใจ” อีกด้วย



ผลลัพธ์ผมใหม่ที่ตรงใจคุณ
ข้อนี้ก็เป็นตัวชี้วัดความคุ้มค่าของการลงทุนปลูกผมได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งมีจุดที่ควรคำนึงถึงดังนี้

  • หลังปลูกผมแล้ว สามารถแก้ปัญหาผมบาง เติมเต็มผมให้ดูหนาแน่นขึ้นได้
  • ทิศทางของเส้นผมใหม่ เรียงตัวกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม ไม่ย้อนผิดทิศทาง ดูเป็นธรรมชาติ
  • หากเป็นแนวผมบริเวณหน้าผาก ควรวางตัวเนียน เรียบ เป็นระเบียบ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า
  • หากเป็นผมปลูกใหม่บริเวณขวัญกลางศีรษะ ควรเรียงตัววนไปในทิศเดียวเส้นผมเดิมอย่างกลมกลืน
  • ความหนาแน่นของผมปลูกใหม่กำลังดี ไม่บางจนเกินไป และไม่แน่นจนเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้ผมหลุดร่วงได้ง่าย
  • เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของผมปลูกใหม่สูง ไม่หลุดร่วงมากจนผิดปกติ
  • ผลลัพธ์ผมใหม่ได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสมกับเพศ วัย และความต้องการของคนไข้อย่างแท้จริง

และนี่ก็คือ Checklist ที่คนรักผมไม่ควรมองข้าม เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการปลูกผม ว่าคุ้มกับราคาที่จะต้องจ่ายหรือไม่ ที่สำคัญ การลงทุนปลูกผมไม่ว่าจะในราคาสูงหรือราคาต่ำ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าการลงทุนนั้นให้ผลลัพธ์ตรงกับสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ และเหมาะสมกับเราที่สุดแล้วหรือไม่ 

...เพราะการปลูกผมครั้งนี้ อาจจะเป็นโอกาสครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตของคุณก็เป็นได้...

ปลูกผมเทคนิค NEAT ไม่ต้องลางานพักฟื้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือผมด้านหน้าเริ่มเว้าสูงเป็น M Shape “นามนิน” ขอเวลาที่มีค่าของคุณแค่เพียง 1 วัน เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ด้วยการปลูกผมเทคนิค NEAT ค่ะ

NEAT เปลี่ยนภาพจำของการปลูกผมในรูปแบบเดิมๆ ที่หลังการปลูกผมต้องพันผ้า พักฟื้น และยังต้องมีการดูแลตัวเองที่ยุ่งยากไม่ต่างจากการผ่าตัดใหญ่ การปลูกผมจึงเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากและดูเป็นการรักษาทางการแพทย์มากกว่าเรื่องความสวยงาม




พัฒนาการของ NEAT เริ่มต้นที่ คุณหมอนินเห็นถึงคุณค่าของการปลูกผมที่มอบให้ได้มากกว่า “เส้นผม” จึงได้ออกแบบและพัฒนาการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่เป็นการผสมผสาน “ศาสตร์และศิลป์” เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมดุล เพื่อจุดประสงค์หลัก คือ การมอบทั้งความสวยงามและความสะดวกสบายให้ผู้เข้ารับบริการ




เทคนิคแรกคือ การนำเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยออกแบบ “ขั้นบันได” เป็นการใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะเพื่อนำรากผมออกมาอย่างประณีต ซ่อนแผลอย่างแนบเนียนและกลมกลืนไปกับทรงผมเดิมของผู้เข้ารับบริการ ไม่ต้องโกนผม ไร้แผลเย็บพร้อมซ่อนแผล ด้วยเทคนิคนี้ ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นเลย




เทคนิคต่อมาที่เป็นหัวใจของ NEAT คือ คุณหมอนินที่ลงมือปลูกผมด้วยตนเองทุกๆ กราฟต์ และเลือกใช้อุปกรณ์การปลูกผมด้วย Implanter ขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตร แผลหลังการปลูกผมจึงมีขนาดเล็ก มีเลือดออกน้อย อาการบวมช้ำมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย  รอยปลูกผมเป็นแผลที่ขนาดเล็กละเอียดมากดูไม่น่ากลัว ด้วยเทคนิคปลูกแทรกแซมเข้าไปกับผมจึงทำให้ดูแนบเนียนกับผมเดิมของผู้รับบริการ ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องทนกับอาการเจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้นหรือหยุดงาน ตอบสนอง lifestyle ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน  ไม่เสียบุคลิกภาพแม้จะเป็นช่วงหลังการปลูกผมใหม่ๆก็ตาม ไม่เป็นเป้าสายตา สามารถออกจากบ้านไปทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้ตามปกติ




และสิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากเทคนิคก็คือ ประสบการณ์ ความประณีตและความใส่ใจในทุกรายละเอียดของคุณหมอนิน นามทองต้น ที่เป็นผู้ลงมือปลูกผมทุกเส้นด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ที่เคยเข้ารับบริการทุกคนคอนเฟิร์มว่า ไม่ว่าจะต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง คุณหมอก็จะอยู่กับคุณในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ เพื่อให้หนึ่งวันที่ “นามนิน” เป็นวันพิเศษที่ NEAT จะมอบเส้นผมใหม่ ที่จะนำบุคลิกภาพและความมั่นใจกลับมาให้คุณได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

เมื่อการปลูกผมไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากหรือเสียเวลาชีวิตอีกต่อไปแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาผมร่วงผมบางมาทำลายความมั่นใจอีกเลยค่ะ เปิดใจให้ NEAT ได้เติมเต็ม “เส้นผมใหม่” ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นคนใหม่ที่ดูดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมเปิดโอกาสรับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิตกันดีกว่าค่ะ

1 ปี เส้นทางสู่ผมสวยกับนามนิน
เพราะการปลูกผม ไม่ใช่การนำกราฟต์ผมใหม่มาเสียบเติมผมให้ดูหนาแน่น แล้วก็จบ...

แต่เมื่อใช้คำว่า “ปลูก” นั่นหมายถึงการค่อย ๆ ย้ายกราฟต์ผมคุณภาพดีจากท้ายทอยด้านหลังศีรษะ มาปักลงใหม่อย่างบรรจงและพิถีพิถัน แล้วเฝ้าทะนุถนอมจนเส้นผมเติบโต แข็งแรง หยั่งรากฝังแน่นกับหนังศีรษะ ไม่หลุดร่วงง่าย ๆ อีกต่อไป 

และเพื่อให้มั่นใจว่าวงจรเส้นผมใหม่จะคงอยู่กับเราอย่างถาวรตลอดชีวิต นั่นก็ต้องใช้เวลาในการดูแลหลังปลูกผมถึง 1 ปีเต็ม ๆ เลยทีเดียว

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมนามนินจึงต้องใช้เวลานานถึง 1 ปีในการดูแลหลังปลูกผม ในระหว่างนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับเส้นผมใหม่ของเราบ้าง แล้วเราจะต้องดูแลตัวเองยากง่ายแค่ไหน ที่สำคัญ คุณหมอจะยังอยู่กับเราเพื่อช่วยดูแลเส้นผมใหม่อย่างไร 

...มาสำรวจ เส้นทางสู่ผมสวย ตลอด 1 ปี ที่มี “คุณคนใหม่” เป็นเส้นชัยปลายทางไปพร้อม ๆ กัน...


NEAT 
จุดสตาร์ทแห่งความประณีต

...เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง... ก้าวลงสนามความงามครั้งนี้ นามนินพร้อมให้คุณออกสตาร์ทสู่ปลายทางผมสวย ด้วยเทคนิค NEAT จากคุณหมอนิน ซึ่งหมายถึง Namnin’s Exclusive Advanced Hair Transplant Technique หรือเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนินนั่นเอง

ความโดดเด่นของเทคนิค NEAT เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่คนไข้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอนิน โดยคุณหมอจะพูดคุยซักถาม พร้อมรับฟังคนไข้อย่างตั้งใจ ซึ่งแต่ละคนมาด้วยลักษณะปัญหา เงื่อนไข ข้อจำกัด และความต้องการที่ไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้สูตรสำเร็จตายตัวในการรักษาได้ แต่คุณหมอจำเป็นต้องนำข้อมูลของคนไข้มาประเมิน วิเคราะห์ และออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคลแบบ Tailor-made เคสใหม่ คิดใหม่ ไม่มีซ้ำ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้ได้ตรงจุดมากที่สุด

ระหว่างขั้นตอนนี้ คุณหมอจะเช็คกราฟต์ผมด้านหลังท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่ผมของคนเรามีความแข็งแรงทนทาน ไม่หลุดร่วงง่าย และจะกลายเป็นผมต้นทุนคุณภาพดีให้คุณหมอย้ายมาปลูกใหม่ในพื้นที่ที่เป็นปัญหา เพื่อคำนวณปริมาณกราฟต์ผมต้นทุนที่ต้องใช้ให้คุ้มค่าและเหมาะสม 

ขณะเดียวกัน คุณหมอจะช่วยออกแบบและวาด Hairline หรือกรอบหน้าให้ใหม่ โดยอาศัยหลักสัดส่วนความงาม Golden Ratio ที่จะช่วยให้ใบหน้าของคุณผู้หญิงดูหวานละมุนขึ้น และปรับลุคของคุณผู้ชายให้ดูสมาร์ทคมเข้มขึ้น ที่สำคัญ กรอบหน้าใหม่ยังช่วยลดวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้กับเจ้าของใบหน้าได้อีกด้วย

จากจุดตั้งต้นนี้เอง คุณหมอจะลงมือปลูกผมใหม่ให้คนไข้ด้วยตัวเองแบบเส้นต่อเส้น เพื่อการันตีความประณีตสมชื่อ NEAT เริ่มตั้งแต่การคัดแยกและตัดแต่งกราฟต์ผมให้พร้อมสำหรับนำไปปลูกใหม่ การใช้ Implanter ขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตรที่ช่วยให้สามารถปักกราฟต์ผมได้อย่างแม่นยำและนุ่มนวล 

โดยคุณหมอจะคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเอื้อต่อความอยู่รอดของเส้นผม และความสวยงามของผมปลูกใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเส้นผมที่มีขนาดเล็กใหญ่ ความหนาบาง หรือแม้กระทั่งองศาความโค้ง ที่เหมาะสมกับผมในบริเวณนั้น ๆ การวางตัวของเส้นผมตามทิศทางที่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิมเพื่อความเป็นธรรมชาติ การปักกราฟต์ผมให้ได้ระยะความลึกที่พอดีแก่การรับสารอาหารที่ลำเลียงมาสู่เส้นผม และการกระจายเส้นผมให้หนาแน่นกำลังดี ไม่เบียดชิดกันเกินไปจนหลุดร่วงง่าย หรือไม่ห่างกันเกินไปจนดูเหมือนผมบาง ซึ่งทั้งหมดนี้ นอกจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ยังต้องอาศัยความละเอียดพิถีพิถันอย่างที่สุด


Check Up ทุกระยะตลอดเส้นทาง
โดยคุณหมอตัวจริง

หลังจากสิ้นสุดวันทำหัตถการปลูกผม เส้นทางการดูแลผมที่ยาวนานถึง 1 ปีก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ นั่นเป็นเพราะเส้นผมใหม่ต้องการเวลาที่จะค่อย ๆ เติบโตตามวงจรอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่ได้เดินบนเส้นทางตลอด 1 ปีนั้นเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะคุณหมอจะคอยนัดมาติดตามผลเป็นระยะ ๆ เพื่อดูผลลัพธ์การปลูกผมใหม่ด้วยตนเอง และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้ผมหลุดร่วงไปก่อนเวลาอันควร พร้อมทั้งมอบชุดดูแลตัวเองอย่างง่าย ๆ เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง 

และนี่คือ Timeline การเติบโตตามธรรมชาติของเส้นผม ที่คุณหมอจะคอยปักหมุดตรวจเช็คผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
ช่วงเข้าสัปดาห์ที่ 2 หลังการปลูกผม จะสังเกตเห็นตอผมสั้น ๆ 2 – 4 มิลลิเมตรงอกขึ้นมาจากหนังศีรษะได้ 
หลังปลูกผม 2 สัปดาห์หรือ 1 เดือน เส้นผมที่งอกใหม่จะหลุดร่วงออกตามวงจรเส้นผมตามปกติ
เดือนที่ 4 – 6 เส้นผมจะเริ่มงอกใหม่อีกครั้ง และเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เดือนที่ 9 เส้นผมเพิ่มจำนวนและเติบโตแข็งแรงจนแลดูเป็นธรรมชาติ
เมื่อครบ 1 ปี เส้นผมหนาแน่นและเติบโตสมบูรณ์เต็มที่


แวะเติมพลังให้เส้นผม
ด้วย Treatment คุณภาพ

นามนินยังดูแลคุณด้วยบริการ Treatment หลังปลูกผม เริ่มจาก LLLT หรือ Low Level Laser Therapy ซึ่งหมายถึงการบำบัดรักษาด้วยเลเซอร์คลื่นความถี่ต่ำ ที่มีความยาวคลื่นเหมาะสมอยู่ในช่วง 650 – 680 นาโนเมตร โดยเลเซอร์แสงสีแดงนี้ จะถูกฉายลงบนหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ให้สามารถนำสารอาหารและออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงบริเวณรากผมได้มากขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้นและฟื้นฟูการทำงานของเซลล์รากผม ให้พร้อมสร้างเส้นผมใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เล็กลีบหรือหลุดร่วงง่าย ดังนั้น ผมที่เคยบางก็จะกลับหนาแน่นขึ้น ทั้งยังช่วยสมานแผลบนหนังศีรษะและลดการอักเสบสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ารับการปลูกผมมาใหม่ ๆ อีกด้วย 

LLLT ยังเป็นนวัตกรรมการรักษาที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน เพราะเป็นการใช้คลื่นความถี่ต่ำฉายบนผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น ไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บหรือระคายเคือง คุณจึงไม่ต้องกังวลกับผลข้างเคียงใด ๆ

และอีกบริการหนึ่งที่จะช่วยฟื้นความแข็งแรงให้ผมในระดับเซลล์ ก็คือ Hair Growth Treatment ซึ่งจะช่วยบำรุงผมโดยการกระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังซ่อมแซมและเสริมสร้างเส้นผมให้กลับสู่วงจรอันสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ไม่หลุดร่วงง่าย ๆ อีกต่อไป 

สำหรับ Hair Growth Treatment จะเป็นการนำ Growth Factor ซึ่งทำการแยกออกจากเลือดที่เก็บจากตัวเจ้าของเส้นผมเอง มาผสานพลังกับวิตามินบำรุงเข้มข้น และฉีดเข้าสู่หนังศีรษะ วิธีการนี้ยังเหมาะกับผู้ที่เพิ่งปลูกผมมาใหม่ ๆ เช่นกัน เนื่องจากจะช่วยให้เส้นผมที่สร้างขึ้นใหม่มีความหนา แข็งแรง และช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง ปราศจากสารเคมี ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น จึงเป็นบริการที่สะดวกสบายสำหรับผู้เข้ารับการดูแลหลังปลูกผมทุกคน


“คุณคนใหม่”
เข้าเส้นชัยแบบสวย ๆ 

แม้ว่า 1 ปีจะฟังดูยาวนาน แต่ก็คุ้มค่าแก่การอดทนรอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีคุณหมออยู่เคียงข้างให้คำแนะนำและคำปรึกษาเสมอ คุณจึงสามารถวางใจได้ตลอดเส้นทาง และผลลัพธ์ปลายทางที่รออยู่ ก็คือผมสวย หนาแน่น แข็งแรง สุขภาพดี แลดูเป็นธรรมชาติ จัดแต่งทรงได้ทุกสไตล์ตามใจต้องการ 


ไม่เพียงเท่านั้น หลายเสียงยังบอกตรงกันถึงมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างคุณหมอกับผู้เข้ารับการปลูกผม ที่ไม่ใช่เพียงในฐานะแพทย์กับคนไข้ แต่ยังเป็นเพื่อนที่ปรึกษา ที่แม้ว่าจะสิ้นสุดเส้นทาง 1 ปีไปเรียบร้อยแล้ว ก็ยังสามารถสอบถามขอคำแนะนำด้วยความอุ่นใจได้อยู่เสมอ

และรางวัลที่รออยู่หลังเส้นชัย ก็คือ “คุณคนใหม่” ที่อ่อนเยาว์ขึ้น ดูดีขึ้น รักและชื่นชมตัวเองได้มากขึ้น พร้อมที่จะก้าวออกไปใช้ชีวิต และเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจ