Tag : โปรแกรม PHB
ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ : เพื่อผลลัพธ์เส้นผมที่ดีหลังการปลูกผม
หลังการปลูกผม แพทย์จะแนะนำให้ “งดสูบบุหรี่” อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หลายคนจึงอาจสงสัยว่าบุหรี่มีผลกระทบกับเส้นผมจริงหรือ? หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตัดสินใจจะปลูกผม หรือเข้ารับการปลูกผมมาแล้ว การศึกษาและทำความเข้าใจผลกระทบจากการสูบบุหรี่ที่มีต่อเส้นผมจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

บุหรี่ : ภัยร้ายทำลายเส้นผม
ในบุหรี่เต็มไปด้วยสารพิษอันตราย ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ธรรมดาหรือบุหรี่ไฟฟ้าก็ตาม เพราะมีสารเคมีที่ส่งผลเสียต่อร่างกายและเส้นผมอยู่มากมาย เช่น นิโคติน ทาร์ และก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ โดยเฉพาะ “นิโคติน” ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในบุหรี่ทั้งสองแบบ มีผลกระทบโดยตรงต่อเส้นผมคือทำให้หลอดเลือดหดตัวและการไหลเวียนของเลือดไปยังรากผมไม่ดีเท่าที่ควร เส้นผมจึงขาดสารอาหารและออกซิเจนที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต ส่งผลให้ผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่ายค่ะ 
นอกจากนี้ “นิโคติน” ยังเร่งการผลิตฮอร์โมน DHTหรือ ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นผมไม่เจริญเติบโตและหลุดร่วงง่าย การสูบบุหรี่จึงสัมพันธ์กับอาการผมร่วง ผมบาง ที่นำไปสู่ภาวะศีรษะล้านได้


งดสูบบุหรี่หลังปลูกผม : เพิ่มอัตราการงอกของเส้นผมใหม่
ผู้ที่เข้ารับการปลูกผม การสูบบุหรี่จะทำให้ผลลัพธ์ไม่ดีตามที่ต้องการ เนื่องจากรากของเส้นผมที่ปลูกใหม่นั้นต้องการเลือดและออกซิเจนช่วยในการเจริญเติบโต ถ้าการไหลเวียนของเลือดไม่ดี เส้นผมใหม่อาจจะงอกช้า ไม่เติบโตเต็มที่และหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังทำให้แผลจากการปลูกผมหายช้าอีกด้วยค่ะ แพทย์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ทั้งบุหรี่ธรรมดาและบุหรี่ไฟฟ้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนการปลูกผม เพื่อให้ระดับออกซิเจนในเลือดสูงขึ้นและเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการฟื้นตัว และหลังการปลูกผมควรงดสูบบุหรี่ต่อไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อให้เส้นผมใหม่ได้เติบโตได้อย่างเต็มที่และเพิ่มอัตราการรอดของเส้นผมใหม่ให้ได้มากที่สุด

การเลิกบุหรี่ : ไม่ง่ายแต่คุ้มค่า
การเลิกบุหรี่ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะคนที่สูบบุหรี่มานานและอาจรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนั้นทำได้ยาก แต่เชื่อเถอะค่ะ หากได้ลองท้าทายตัวเองโดยเริ่มจากการค่อยๆ ลดปริมาณการสูบลง คุณก็จะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ไม่ใช่แค่กับเส้นผม แต่สุขภาพโดยรวมจะดีขึ้นแน่นอน

หลังการปลูกผม หากยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ก็แนะนำให้ลดความถี่และปริมาณการสูบให้น้อยลง และสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับบริการโปรแกรม PHB อย่างเหมาะสมร่วมด้วยได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น เร่งการงอกของเส้นผมใหม่และฟื้นฟูเส้นผมเดิมให้แข็งแรงไปพร้อมกัน


การเข้ารับบริการโปรแกรม PHB ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาทีต่อครั้งเท่านั้น โดยแพทย์จะตรวจสภาพเส้นผมเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาเป็นรายบุคคลก่อน จากนั้นจึงเข้ารับการฉายแสง LLLT เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และต่อด้วยการฉีดบำรุงเพื่อกระตุ้นรากผม ฟื้นฟูเส้นผมให้แข็งแรงและดกดำขึ้น หลังรับบริการสามารถกลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดของโปรแกรม PHB  คุณหมอนินเป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง โดยคุณหมอจะเปรียบเทียบให้เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังการเข้ารับบริการทุกครั้ง




การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำร้ายสุขภาพร่างกาย แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อเส้นผมด้วย การงดสูบบุหรี่ทั้งก่อนและหลังการปลูกผมตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เส้นผมที่ปลูกใหม่แข็งแรงและเติบโตอย่างเต็มที่ และหากสามารถเลิกสูบบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด จะเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงแค่เส้นผมใหม่ที่แข็งแรง แต่ยังส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีและชีวิตที่ยืนยาวค่ะ

ถอดรหัสสาเหตุผมร่วงในผู้หญิง
ผมร่วงไม่ต้องกังวล เริ่มต้นฟื้นฟูง่ายๆ ด้วยการดูแลอย่างถูกวิธี

ปัญหาผมร่วงเป็นเรื่องที่ผู้หญิงหลายคนอาจเคยเผชิญหรือกำลังเผชิญอยู่ ถึงแม้ว่าเส้นผมจะเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่เมื่อเริ่มร่วงไปทีละเส้น ก็สามารถสร้างความกังวลใจไม่น้อยเลยทีเดียว สาเหตุที่ทำให้ผมร่วงนั้นมีมากมาย และแต่ละสาเหตุก็มีผลต่อเส้นผมในลักษณะที่แตกต่างกัน เรามาทำความรู้จักกับสาเหตุที่พบได้บ่อย พร้อมทั้งวิธีการดูแลและฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาสวยงามและแข็งแรงกันค่ะ

1. พฤติกรรมการดูแลเส้นผม เช่น การยืดผม ดัดผม หรือทำสีผม รวมถึงการใช้ความร้อนจากเครื่องมือจัดแต่งทรงต่างๆ หรืออยู่ในที่มีความร้อนสูงนานๆ เช่น การซาวน่าเป็นเวลานานเกินไป อาจทำให้เส้นผมและหนังศีรษะสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผมแห้ง หยาบกระด้าง หรือเกิดการแตกปลายและหลุดร่วงได้ง่าย เพราะความร้อนจะทำลายโครงสร้างของเส้นผม ทำให้ผมอ่อนแอลง


2. การทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในวันที่แดดร้อนจัด หากไม่มีการปกป้องเส้นผมหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากแสงแดดอย่างเหมาะสม อาจทำให้ผมได้รับความเสียหายจากรังสี UV ซึ่งทำให้เส้นผมอ่อนแอ บางลง และหลุดร่วงได้ง่าย 


3. การคลอดบุตร หลังการคลอดบุตร ฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ส่งผลให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ในช่วงนี้ ผมอาจร่วงมากขึ้นกว่าปกติ ถึงจะเป็นภาวะผมร่วงชั่วคราว แต่ก็อาจทำให้เกิดความกังวลและเสียความมั่นใจได้หากต้องกลับไปทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน


4. การขาดสารอาหารที่จำเป็น โดยเฉพาะการขาดโปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างเส้นผมที่แข็งแรง หากร่างกายไม่ได้รับโปรตีนเพียงพอ ผมจะแห้งกระด้าง แลดูไม่เงางาม เส้นผมเริ่มอ่อนแอลงและร่วงได้ง่าย 


สำหรับสาว ๆ ที่กำลังประสบปัญหาผมร่วงจากสาเหตุเหล่านี้อยู่ อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปค่ะ เพราะปัญหานี้สามารถป้องกันและแก้ไขได้โดยเริ่มต้นจากการดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธี ขั้นแรกคือระมัดระวังการใช้ความร้อนกับเส้นผม เช่น การเป่าแห้งด้วยลมร้อน หนีบ ยืดหรือดัดผม นอกจากเส้นผมจะโดนทำร้ายจากความร้อนแล้ว สารเคมีที่ใช้กับเส้นผมก็มีผลทำให้ผมอ่อนแอลงด้วย นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีความร้อนสูงเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรสวมหมวกหรือใช้สเปรย์กันแดดสำหรับเส้นผมเพื่อปกป้องจากรังสี UV ที่อาจทำลายเส้นผมให้แห้งและเปราะบางได้

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันค่ะ ควรเลือกแชมพูและครีมนวดที่มีส่วนผสมของสารบำรุงผม เช่น เคราตินหรือโปรตีน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้และการบำรุงผมอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดปัญหาผมแห้งแตกปลาย และทำให้ผมดูเงางามและมีสุขภาพดีขึ้น 

และหากกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียพร้อมทั้งกระตุ้นให้รากผมงอกใหม่ได้ด้วย โปรแกรม PHB ของนามนินเป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ค่ะ เพราะโปรแกรมนี้ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เส้นผม ซ่อมแซมและฟื้นคืนเส้นผมได้พร้อมกัน เริ่มต้นด้วยการปรึกษาคุณหมอนินเพื่อวางแผนการรักษา คุณหมอจะตรวจสภาพเส้นผมและหนังศีรษะอย่างละเอียดเพื่อวิเคราะห์สภาพผมและปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นจะได้รับการฉายแสง Low-Level Laser Therapy (LLLT) ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ขั้นตอนสุดท้ายคือการฉีดบำรุงเข้าไปที่รากผม เพื่อฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงให้เส้นผมกลับมาดกดำและหนาขึ้น โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงที่หนังศีรษะยังมีรากผมอยู่ หรือผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมค่ะ







การรับบริการใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที จึงสะดวกสบายและไม่รบกวนชีวิตประจำวัน หลังเข้ารับบริการ สามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ เพียงหลีกเลี่ยงการโดนน้ำที่หนังศีรษะใน 24 ชั่วโมงแรก จากนั้นสามารถสระผมหรือเช็ดผมอย่างเบามือได้ตามปกติ


การดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการปกป้อง บำรุง หรือฟื้นฟูเส้นผม จะช่วยให้คุณมีเส้นผมที่แข็งแรง สวยงาม และเปล่งประกายสุขภาพดี พร้อมเสริมความมั่นใจให้กับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การเริ่มต้นดูแลเส้นผมอย่างถูกต้องเหมาะสมในตอนนี้ จะถนอมให้เส้นผมที่คุณรักคงอยู่กับคุณไปได้อย่างยาวนานค่ะ



ผสาน 2 ศาสตร์ฟื้นฟูผม NEAT + PHB
เส้นผมอาจเป็นเพียงองค์ประกอบเล็ก ๆ ของร่างกายมนุษย์ ส่องกระจกก็เห็นทุกวันจนชินตา หวีผมหรือสระผมก็ได้ใช้มือสัมผัสอยู่บ่อย ๆ จนเราแทบไม่ได้ใส่ใจ แต่เมื่อถึงวันที่เส้นผมแสนธรรมดาหลุดร่วงจากไปมากผิดปกติ เมื่อนั้นหลายคนจึงเริ่มรับรู้ว่า เส้นผมสำคัญกับเรามากขนาดไหน เพราะเวลาส่องกระจก ภาพใบหน้าตัวเองที่เห็นอาจดูเปลี่ยนไปจากเดิม เวลาหวีผมหรือสระผม ก็อาจรู้สึกได้ว่าความหนาแน่นที่เคยสัมผัสได้เต็มมือ ลดหายไปจากเดิมเช่นกัน 

ปัญหาเส้นผมจึงไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพทางกาย แต่เป็นปัญหาสุขภาพทางใจด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเส้นผมคือส่วนเสริมความงามให้กับใบหน้า คือส่วนสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี และคือส่วนสะท้อนตัวตนหรือสไตล์ของเจ้าของเส้นผม ซึ่งแพทย์ของนามนินเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า เส้นผมมีความหมายกับคนไข้มากแค่ไหน และการปลูกผมคืนความสุขความมั่นใจให้กับคนไข้นั้น จะช่วยเปิดไปสู่โอกาสการใช้ชีวิตใหม่ ๆ ได้มากมายเพียงใด

แพทย์ของนามนินจึงอาศัยทักษะและประสบการณ์ที่ยังคงศึกษาและพัฒนาตัวเองไม่เคยหยุด นำมาต่อยอดเทคนิคปลูกผมที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในปัจจุบัน ให้สามารถตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้ได้ดีกว่าเดิม โดยมีหัวใจสำคัญ คือการนำ “ศาสตร์” และ “ศิลป์” มาผสานกันในภารกิจดูแลฟื้นฟูเส้นผม ดังนั้น นอกจากศาสตร์การรักษาอาการผมร่วง ผมบาง และกระบวนการปลูกผมที่ถูกต้องปลอดภัยตามหลักการแพทย์แล้ว แพทย์จะใช้มุมมองเชิงศิลปะในการเติมเต็มเส้นผม โดยคำนึงถึงสัดส่วนที่สมดุลของใบหน้า รูปลักษณ์ความงาม และบุคลิกภาพที่ปรับให้ดูดีขึ้นได้ จนคนไข้รู้สึกราวกับเปลี่ยนเป็นคนใหม่หลังปลูกผม 

ที่สำคัญ แพทย์ของนามนินยังเติม “ความใส่ใจ” ไปพร้อมกับศาสตร์และศิลป์ในทุก ๆ ขั้นตอนการปลูกผม ซึ่งคนไข้จะสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาพูดคุยปรึกษา เนื่องจากแพทย์จะออกแบบแนวทางแก้ปัญหาผมแบบเฉพาะบุคคลโดยยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง เคสใหม่ คิดใหม่ ไม่มีซ้ำ ไม่มีสูตรสำเร็จ ทั้งยังลงมือปลูกผมให้ด้วยตัวเองแบบเส้นต่อเส้น และดูแลติดตามผลพร้อมให้คำแนะนำหลังปลูกตลอด 1 ปีเต็ม จนกว่าผมใหม่จะเติบโตแข็งแรง แลดูหนาแน่นเป็นธรรมชาติ 



และเพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แพทย์จึงนำ 2 ศาสตร์การฟื้นฟูผมมาผสานกัน นั่นคือการปลูกผมเทคนิค NEAT ซึ่งแพทย์ของนามนินต่อยอดขึ้นเพื่อคนรักเส้นผมโดยเฉพาะ เสริมด้วยการฉีดบำรุง PHB หลังปลูก หากใครที่สงสัยว่า ทั้ง 2 ศาสตร์นี้จะช่วยเสริมพลังบำรุงและฟื้นฟูดูแลผมได้ตรงจุดอย่างไร เราคงต้องขอย้อนกลับไปเล่าถึงต้นตอปัญหาผมร่วงและผมบางของทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง ซึ่งแม้จะมีสาเหตุและลักษณะที่ต่างกัน แต่แพทย์ก็สามารถเลือกใช้ NEAT + PHB เพื่อตอบโจทย์ปัญหาแต่ละแบบได้อย่างลงตัว

หลายคนน่าจะพอทราบแล้วว่า ปัญหาผมร่วง ผมบาง ที่อาจนำไปสู่ภาวะผมล้านของคุณผู้ชายนั้น มีสาเหตุส่วนใหญ่จากกรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่นในครอบครัว บางคนได้รับกรรมพันธุ์เช่นนี้จากรุ่นพ่อแม่ แต่บางคนก็อาจจะได้รับข้ามรุ่นมาจากปู่ย่าตายายเลยก็เป็นได้ อาการผมร่วง ผมบาง จะเริ่มปรากฏหลังพ้นช่วงวัยรุ่นเป็นต้นไป และอาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นตามวัยที่เพิ่มขึ้น สังเกตลักษณะของผมบางตามกรรมพันธุ์แบบคุณผู้ชายได้ดังนี้

  • แนวผมบริเวณหน้าผากร่นลึกขึ้น และเว้าเข้าไป 2 ข้างขมับเป็นรูปตัว M
  • ผมบางลงเฉพาะบริเวณกลางศีรษะ เป็นรูปตัว O
  • ทั้งนี้ ในบางราย อาจจะเกิดอาการผมบางทั้งในแบบ M และ O ควบคู่กัน และในท้ายที่สุด ผมทั่วศีรษะก็จะบางลงตามไปด้วย จนอาจเหลือแต่ผมบริเวณท้ายทอยด้านข้างและด้านหลัง



ที่มาของการอาการผมร่วงและผมบางในกรณีนี้ เกิดจากเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่เพิ่มระดับขึ้นบริเวณหนังศีรษะ ซึ่งเอนไซม์เจ้าปัญหาตัวนี้ จะเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชาย Testosterone ให้กลายเป็นฮอร์โมน Dihydrotestosterone หรือ DHT ส่งผลให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะมีขนาดเล็กลง ทำร้ายรากผมให้อ่อนแอ ทำให้ผมที่งอกขึ้นมาใหม่มีลักษณะเส้นเล็กบางและสั้น หลุดร่วงได้ง่ายก่อนเวลาอันควร เนื่องจากมีวงจรระยะเจริญเติบโตสั้น ขณะเดียวกันก็มีระยะพักที่ยาวขึ้น จึงใช้เวลานานกว่าเดิมในการงอกขึ้นใหม่ ทั้งยังสังเกตได้ว่า เส้นผมดูแห้งกร้าน ไม่มีชีวิตชีวา ไม่เงางามเหมือนเดิม

สำหรับคุณผู้ชายที่มีปัญหาผมบางจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมีตัวการคือฮอร์โมน DHT แพทย์จึงแนะนำให้ปลูกผมเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุด โดยจะเป็นการเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอย หรือที่เรียกว่า Safe Zone ไปปลูกใหม่ในบริเวณที่มีภาวะผมบางเพื่อคืนความหนาแน่น ซึ่งกราฟต์ผมด้านหลังท้ายทอย มีคุณสมบัติพิเศษคือทนทานต่อฤทธิ์ของฮอร์โมน DHT เส้นผมบริเวณนี้จึงแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย แม้จะย้ายไปปลูกใหม่ในบริเวณอื่น ก็ยังสามารถหลุดร่วงและงอกใหม่ตามวงจรธรรมชาติของเส้นผม อยู่กับศีรษะของเราไปได้ตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม คุณผู้ชายบางท่านอาจพบปัญหาผมร่วงและบางต่อเนื่องหลังปลูกผมไปแล้ว เนื่องจากผมเดิมยังคงได้รับผลกระทบจากฮอร์โมน DHT อยู่ ตรงนี้เองที่ NEAT + PHB จะเข้ามาตอบโจทย์ โดยหลังจากปลูกผมใหม่ด้วยเทคนิค NEAT ไปแล้ว แพทย์จะมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และแนะนำให้คนไข้เข้ารับบริการฉีดบำรุง PHB ในระยะหลังปลูกด้วย


PHB คือทรีตเมนต์บำรุงที่จะช่วยฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นผมเดิม หรือผมใหม่ที่เพิ่งปลูก สำหรับผมเดิมที่ลักษณะเล็ก ลีบ แบน จากฤทธิ์ของฮอร์โมน DHT จะได้รับการบำรุงให้มีขนาดเส้นผมที่ใหญ่ขึ้น หนาขึ้น สุขภาพดีขึ้นจากภายใน ขณะเดียวกันก็ยืดระยะเจริญเติบโต ลดโอกาสการหลุดร่วงของเส้นผม พร้อมกับลดเวลาระยะพัก ทำให้เส้นผมงอกใหม่เร็วขึ้นด้วย 

คนไข้หลาย ๆ ท่านเข้ารับการฉีดบำรุง PHB ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง เส้นผมเดิมและเส้นผมใหม่จึงแข็งแรง แลดูหนาแน่น ดกดำ บางท่านยังคงวางใจให้แพทย์ของนามนินดูแลด้วยการฉีด PHB แม้ครบระยะติดตามผลหลังปลูก 1 ปีเต็มไปแล้วก็ตาม ซึ่งเป็นความตั้งใจของแพทย์ที่จะมอบการดูแลต่อเนื่องให้กับคนไข้อย่างเต็มที่



ทั้งนี้ ในส่วนของคุณผู้หญิง แพทย์จะออกแบบแนวทางการรักษาที่ต่างออกไป ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของแต่ละเคส 

  • หากคุณผู้หญิงมีปัญหาผมบางด้านหน้า หรือผมร่นลึกบริเวณหน้าผาก กรณีนี้ แพทย์สามารถปลูกผมใหม่เพื่อปรับกรอบหน้าให้สมส่วนตามหลัก Golden Ratio ได้ 
  • แต่หากคุณผู้หญิงมีปัญหาผมบางทั่วศีรษะ ที่อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ การปลูกผมอาจไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสม เนื่องจากผู้หญิงไม่มีบริเวณ Safe Zone ด้านหลังท้ายทอย ที่เส้นผมมีคุณสมบัติทนทานต่อการหลุดร่วงเหมือนผู้ชาย เป็นไปได้ว่า แม้จะทำการปลูกผมใหม่แล้ว เส้นผมใหม่ก็ยังมีโอกาสหลุดร่วงได้ในอนาคต กรณีนี้ แพทย์จะแนะนำการฉีดบำรุงด้วย PHB เพื่อฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะให้กลับมาแข็งแรง แทนการปลูกผม
  • และสำหรับคุณผู้หญิงที่เผชิญกับปัญหาผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุพฤติกรรมทำร้ายเส้นผม เช่นการยืด ดัด ทำสี รวมไปถึงสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่นภาวะผมร่วงหลังคลอด การฉีดบำรุง PHB ก็เป็นทางเลือกที่แพทย์แนะนำเช่นกัน






จุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหาเส้นผม จึงเป็นการก้าวเข้ามาพูดคุยปรึกษากับแพทย์ได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้แพทย์ตรวจสภาพผม วิเคราะห์ปัญหา และรับฟังความต้องการของคนไข้ ซึ่งจะนำไปสู่การออกแบบแนวทางการรักษา ผสาน 2 ศาสตร์ NEAT + PHB เข้าด้วยกัน จนตอบโจทย์การฟื้นฟูดูแลผมของคนไข้แต่ละคนได้มากที่สุดนั่นเอง


ฟื้นผมอย่างไร เมื่อ “คลอรีน” ตัวร้าย ทำผมเสีย
สังเกตมั้ยว่า หากเราว่ายน้ำเป็นเวลานาน ๆ เมื่อขึ้นจากสระว่ายน้ำ และลองเอามือสัมผัสเส้นผม จะรู้สึกว่าผมที่เคยนุ่มลื่น กลับแห้งและกระด้างกว่าปกติ ซึ่งหลายคนคงเคยทราบแล้วว่า ตัวการสำคัญที่ทำร้ายผมของเรา ก็คือ “คลอรีน” ในสระว่ายน้ำ


ที่จริงแล้ว คลอรีน นับเป็นสารเคมีที่อยู่ใกล้ตัวพวกเราทุกคนมาก ๆ เพราะในกระบวนการทำน้ำประปาที่เราใช้อาบ ซักล้าง หรือแม้กระทั่งดื่มอยู่ทุกวัน ก็ต้องผ่านการบำบัดฆ่าเชื้อโรคด้วยสารคลอรีน โดยควบคุมให้สารคลอรีนที่หลงเหลือในน้ำ ให้อยู่ในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายและสามารถอุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัย 

และด้วยจุดประสงค์เดียวกัน คลอรีนจึงเป็นสารฆ่าเชื้อตัวสำคัญที่ใช้กับสระว่ายน้ำ เนื่องจากสระว่ายน้ำมีพื้นที่กว้างใหญ่ มีผู้เข้ามาใช้บริการหลากหลาย ยากต่อการดูแลทำความสะอาด ขณะที่คุณสมบัติของคลอรีนนั้น เป็นสารอนินทรีย์ทรงพลังที่มีประสิทธิภาพสูงในการฆ่าเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นไวรัส หรือแบคทีเรีย แต่ก็มีความปลอดภัยสูงเช่นกัน ทั้งยังสามารถสลายตัวได้รวดเร็วในธรรมชาติ 

อย่างไรก็ตาม การสลายตัวของคลอรีนนั้น ก็ต้องอาศัยระยะเวลา ซึ่งขึ้นอยู่กับความเข้มข้นหรือปริมาณของคลอรีนในน้ำด้วย ดังนั้น เมื่อเราลงว่ายน้ำในสระ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องสัมผัสกับคลอรีนปริมาณมาก 

“คลอรีน” ตัวการทำร้ายผม??
มาลองทำความเข้าใจให้ลึกอีกนิด ว่าคลอรีนส่งผลเสียต่อเส้นผมของเราอย่างไร การที่คลอรีนมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้ดีนั้น ก็เนื่องจากผนังเซลล์ของเจ้าเชื้อโรคต่าง ๆ มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ เมื่อคลอรีนทำปฏิกิริยากับโปรตีน ซึมผ่านผนังเซลล์ และเข้าไปทำลายเอนไซม์ในเซลล์ของเชื้อโรค ก็จะทำให้เชื้อโรคตายได้ 

และถ้าใครรู้จักโครงสร้างเส้นผมของคนเรา ก็คงพอจะนึกออกแล้วว่า คลอรีนกลายเป็นตัวร้ายทำลายผมได้อย่างไร นั่นก็เพราะส่วนประกอบสำคัญของเส้นผม คือ “โปรตีน” นั่นเอง โดยอยู่ในรูปของโปรตีนเส้นใยที่เรียกว่า “เคราติน” หากเส้นใยเคราตินเกาะยึดกันอย่างแข็งแรง ก็จะช่วยทำหน้าที่ปกป้องเส้นผม ให้เส้นผมนุ่มลื่นสุขภาพดี ไม่อ่อนแอ เปราะบาง หรือแตกปลาย


แต่เมื่อเส้นผมสัมผัสกับคลอรีน คลอรีนจะไปทำลายโปรตีนในเส้นผม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ใครที่ชอบว่ายน้ำกลางแดดแรง ๆ รังสี UV ที่มีความเข้มข้นสูง จะไปกระตุ้นให้เกล็ดผมเปิดออก ยิ่งทำให้คลอรีนแทรกซึมเข้าถึงแกนผมได้เร็วขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ความร้อนจากแสงแดดเอง รวมถึงความเป็นกรดด่างของน้ำ ก็จะทำปฏิกิริยากับคลอรีน ส่งผลทำร้ายเส้นผมรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก

ผลลัพธ์ที่เกิดกับเส้นผมหลังสัมผัสสารคลอรีน จึงทำให้ผมแห้ง แข็งกระด้าง ไร้น้ำหนัก โครงสร้างผมเปราะบางและอ่อนแอลง หากใครทำสีผม ก็อาจรู้สึกว่าสีผมซีดลงอีกด้วย และคลอรีนยังไปชะล้างไขมันตามธรรมชาติที่ช่วยปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมออก เส้นผมจึงยิ่งแห้ง ชี้ฟู และสูญเสียความชุ่มชื้นมากขึ้น

ปกป้องและฟื้นบำรุงผมเสียจาก “คลอรีน” 
แม้จะทราบแล้วว่าคลอรีนในสระว่ายน้ำส่งผลเสียต่อเส้นผม แต่แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องหันหลังให้กับกิจกรรมสุดโปรดช่วงซัมเมอร์ หรือต้องหยุดออกกำลังกายทางน้ำไป ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อช่วยปกป้องเส้นผมของเราจากฤทธิ์ของคลอรีน

  • ลองใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบเส้นผม หรือครีมปรับสภาพผม เพื่อไม่ให้คลอรีนตรงเข้าทำร้ายเส้นผมได้โดยตรง
  • สวมหมวกว่ายน้ำ เพราะนี่คือไอเท็มที่ช่วยป้องกันไม่ให้คลอรีนสัมผัสกับเส้นผมได้เป็นอย่างดี
  • หลีกเลี่ยงการลงสระว่ายน้ำช่วงเที่ยง เพื่อไม่ให้แดดร้อนจัดและรังสี UV เข้มข้น เปิดเกล็ดผมจนสามารถรับคลอรีนได้แบบเต็ม ๆ 
  • รีบอาบน้ำสระผมให้สะอาดทันทีหลังขึ้นจากสระ เพื่อขจัดสารคลอรีนที่ตกค้างอยู่บนร่างกาย หากเลือกใช้แชมพูที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมี ก็จะยิ่งช่วยถนอมเส้นผมได้ดีขึ้น
  • บำรุงผมให้แข็งแรงสุขภาพดีจากภายใน เพื่อพร้อมรับมือกับมลภาวะหรือสารเคมีต่าง ๆ ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็น

“Namnin Hair Identify” ก้าวแรกที่ใช่ ของคนรักผม
และสำหรับใครที่กำลังมองหาผู้ช่วยคนสำคัญ ในการบำรุงผมให้แข็งแรง ฟื้นฟูผมแห้งเสีย จากคลอรีนหรือสารเคมีใด ๆ ก็ตาม นามนินขอแนะนำก้าวแรกของการดูแลเส้นผมที่หลาย ๆ คนมักมองข้าม นั่นคือการวิเคราะห์สภาพเส้นผม เพื่อรู้จักและเข้าใจเส้นผมของเราอย่างแท้จริง นำไปสู่การบำรุงดูแลอย่างตรงจุดในขั้นตอนต่อไป



“Namnin Hair Identify” คือโปรแกรมวิเคราะห์เส้นผมและหนังศีรษะด้วย AI ซึ่งจะยกระดับการวินิจฉัยและติดตามผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติความฉลาดและการประมวลผลที่เหนือระดับของ AI ระบบวิเคราะห์เส้นผมของนามนินจึงสามารถทำการวิเคราะห์เชิงลึกได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการประเมินความหนาแน่นของเส้นผม วัดขนาดรูขุมขน หรือตรวจสอบสภาพหนังศีรษะได้อย่างละเอียด ที่สำคัญ ยังสามารถวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ได้หลากหลาย ทั้งเรื่องของสภาพความมัน ความแห้ง รังแค หรือการอักเสบ

ความโดดเด่นของ Namnin Hair Identify อยู่ที่เทคโนโลยีกล้องขยายกำลังสูง ตรวจจับรายละเอียดในระดับไมโครสโคปได้อย่างชัดเจน โดยทำงานร่วมกับ AI ที่ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว จึงสามารถวิเคราะห์และสร้างรายงานผลแบบเรียลไทม์ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย กลายเป็นตัวช่วยสำคัญให้แพทย์สามารถอธิบายผลการวิเคราะห์ และให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคลที่เหมาะสมและตรงจุดได้ทันที ทั้งยังนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่ตอบโจทย์คนไข้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย



ระบบวิเคราะห์ดังกล่าวยังสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของเส้นผมและหนังศีรษะต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งจะช่วยในการเปรียบเทียบผลก่อนและหลังรักษาได้อย่างชัดเจน รวมถึงช่วยในการปรับแผนการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

ขั้นตอนในการรับบริการ Namnin Hair Identify ก็สะดวกสบาย เริ่มต้นจากการเก็บภาพถ่ายมุมกว้างทั้งด้านหน้า ท้ายทอย กลางศีรษะ และด้านข้างซ้ายขวาจนครบ จากนั้นนำกล้อง Trichoscope ส่องตรวจเส้นผมและหนังศีรษะในระดับไมโครสโคปิก แล้วจึงเป็นหน้าที่ของ AI ช่วยวิเคราะห์ประมวลผล โดยมีการเทียบกับฐานข้อมูลทางการแพทย์ สรุปผลและวางแผนการรักษา เพื่อท้ายที่สุด แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาผลการวิเคราะห์อีกครั้ง ก่อนจะอธิบายให้คนไข้ฟัง และออกแบบแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคลที่เหมาะสมที่สุดร่วมกัน เช่นการเข้ารับบริการทรีตเมนต์   การปรับสูตรผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ ไปจนถึงการปลูกผมถาวร ทั้งยังสามารถจัดส่งรายงานวิเคราะห์ผลทางอีเมล และบันทึกข้อมูลเก็บไว้ในระยะยาว เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดตามผลการรักษาอีกด้วย







ทั้งนี้ ใครที่กำลังประสบปัญหาผมแห้งเสียจากการสัมผัสคลอรีน หรือสารเคมีอื่น ๆ หนึ่งในบริการทรีตเมนต์ที่นามนินขอแนะนำ ก็คือ PHB โปรแกรมฟื้นบำรุงผมที่มอบความสะดวกสบาย และผลลัพธ์ที่สังเกตได้ตั้งแต่การรับบริการครั้งแรก โดยแพทย์จะทำการฉายแสง Low-Level Laser Therapy หรือ LLLT ที่บริเวณหนังศีรษะ เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด แล้วจึงฉีดบำรุงเพื่อกระตุ้นรากผม ฟื้นฟูและเสริมสร้างความแข็งแรง ซึ่งโปรแกรม PHB ยังสามารถลดการหลุดร่วงของเส้นผม เร่งการงอกใหม่ และเพิ่มความดกดำหนาแน่นของเส้นผมได้อีกด้วย โปรแกรมนี้จะใช้เวลาประมาณ 40 – 60 นาที ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นหลังเข้ารับบริการ สามารถใช้ชีวิตประจำวันหรือกลับไปทำงานได้เป็นปกติ

เพียงแค่รู้เทคนิควิธีปกป้องดูแลผม ฟื้นบำรุงผม และเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงผมถูกทำร้ายได้อย่างเหมาะสม เท่านี้ ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ชีวิตและทำกิจกรรมโปรดได้อย่างเต็มที่ ไม่มีพลาด 





ซาวน่า & อบไอน้ำ ทำร้ายผมจริงหรือ?
การใช้บริการห้องซาวน่า หรือห้องอบไอน้ำ น่าจะเป็นกิจกรรมโปรดของใครหลาย ๆ คนที่รักสุขภาพและต้องการการผ่อนคลาย ซึ่งหากเราลองสำรวจความกังวลของผู้ใช้บริการ ประเด็นที่น่าจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ก็คงหนีไม่พ้นความกังวลที่เกี่ยวกับ “เส้นผม” โดยเฉพาะคำถามที่ว่า ความร้อนในห้องซาวน่าหรือห้องอบไอน้ำนั้น จะส่งผลทำร้ายเส้นผม จนถึงขั้นทำให้ผมร่วงได้หรือไม่

แน่นอนว่า การใช้บริการห้องซาวน่า หรือห้องอบไอน้ำ โดยทั่วไปแล้วไม่น่าจะมีผลกระทบต่อเส้นผม เราจึงยังสามารถใช้บริการได้อย่างวางใจ ประเด็นสำคัญน่าจะอยู่ที่ “ระยะเวลา” ในการเข้าใช้บริการมากกว่า หากใช้เวลานานเกินไป ก็เป็นไปได้ที่เส้นผมของเราจะได้รับผลทางอ้อมจากความร้อนในห้องได้เช่นกัน

นั่นเป็นเพราะเมื่ออยู่ในห้องซาวน่า หรือห้องอบไอน้ำ ร่างกายของเราจะขับเหงื่อออกมาในปริมาณมาก หนังศีรษะก็จะยิ่งมีความชื้น เมื่อหนังศีรษะมัน ก็มีโอกาสที่จะเกิดรูขุมขนอุดตันตามมา กลายเป็นว่าทำให้หนังศีรษะแห้งลง เกิดการอักเสบ ระคายเคือง พร้อมกับเส้นผมที่อ่อนแอลง จนผมหลุดร่วงได้ง่ายกว่าปกติ

นามนินเองก็มีตัวอย่างที่น่าสนใจของคนไข้ที่เข้ามาปรึกษาปัญหาผมร่วงเฉียบพลัน โดยคนไข้ท่านนี้ผ่านการปลูกผมกับแพทย์ของนามนิน และเข้ารับการบำรุงดูแลเส้นผมตลอด 3 ปีโดยไม่เคยมีปัญหาใด ๆ จนกระทั่งคนไข้กลับมาพบแพทย์ด้วยอาการผมร่วงผิดปกติ ซึ่งวิเคราะห์ว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการใช้บริการห้องอบไอน้ำเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้หนังศีรษะและเส้นผมได้รับความร้อนสูงเป็นเวลานานเกินไป จนเกิดผลกระทบดังที่อธิบายไปแล้วข้างต้น







ทั้งนี้ แพทย์ของนามนินแนะนำคนไข้เข้ารับบริการทรีตเมนต์ PHB ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่การพูดคุยปรึกษากับแพทย์ เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกัน จากนั้นแพทย์จะตรวจวิเคราะห์สภาพเส้นผมและหนังศีรษะ แล้วจึงให้บริการฉายแสง Low-Level Laser Therapy หรือ LLLT ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และเร่งการงอกใหม่ ตามมาด้วยการฉีดบำรุงลึกถึงชั้นรากผม เพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง มีขนาดใหญ่และหนาขึ้น ชะลอการหลุดร่วง เพิ่มโอกาสการงอกใหม่ของเส้นผมให้มากขึ้นและเร็วขึ้น คนไข้จึงได้ผลลัพธ์ผมที่แลดูหนาแน่นและดกดำขึ้น ตั้งแต่การรักษาเพียงครั้งแรก 



ข้อดีของบริการทรีตเมนต์ PHB ยังรวมถึงความสะดวกสบายที่คนไข้ได้รับรับ เนื่องจากใช้เวลาเพียง 40 – 60 นาที หลังเข้ารับบริการ สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ



ดังนั้นแล้ว กิจกรรมซาวน่าหรืออบไอน้ำ จึงไม่ได้เป็นตัวการทำร้ายผม หากใช้บริการอย่างเหมาะสม และสำหรับใครที่กำลังหาสาเหตุของอาการผมเสีย ผมร่วง ผมบาง ว่าเกิดจากอะไร จะเป็นพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า หรือเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ คุณสามารถเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ของนามนินได้ เพื่อเริ่มต้นก้าวแรกของการรักษาอย่างถูกต้อง นำไปสู่การออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ที่จะให้ผลลัพธ์ตอบโจทย์สภาพปัญหาและความต้องการของคุณได้อย่างตรงจุดอย่างแท้จริง

เครียด มลภาวะ ฮอร์โมน สาเหตุของผมร่วง
ผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาที่ผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญ และมักเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน แต่ 3 ปัจจัยหลักที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ ความเครียด มลภาวะ และฮอร์โมน

1. ความเครียด เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผมร่วง เนื่องจาก เมื่อร่างกายได้รับความเครียด จะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลในปริมาณสูง จะส่งผลกระทบต่อวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ผมร่วงเร็วขึ้นและมีการเจริญเติบโตช้าลง ความเครียดยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านได้


2. มลภาวะ โดยเฉพาะฝุ่น ควัน หรือสารเคมีจากสิ่งแวดล้อมสามารถทำร้ายหนังศีรษะและเส้นผมได้ มลภาวะเหล่านี้สามารถทำให้รูขุมขนอ่อนแอลง ส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงง่ายและชะลอการเจริญเติบโตของผมใหม่ได้



3. ฮอร์โมน ฮอร์โมนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผมบางและร่วงได้ โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีผลต่อการเติบโตของเส้นผม เมื่อระดับฮอร์โมนนี้ลดลง เช่น ในช่วงวัยหมดประจำเดือนหรือหลังคลอด อาจทำให้เกิดปัญหาผมบางได้


ที่ นามนินคลินิก เรามี โปรแกรม PHB ที่พัฒนาโดยคุณหมอนิน ซึ่งเป็นทรีตเม้นต์แบบฉีดที่บำรุงผมอย่างล้ำลึก ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาผมร่วงและผมบาง นอกจากนี้เรายังมีการตรวจสภาพหนังศีรษะและเส้นผมด้วยเทคโนโลยี Hair Identify ที่จะช่วยระบุปัญหาที่ทำให้ผมร่วง เช่น การอุดตันของรูขุมขนหรือการขาดสารอาหาร 




โปรแกรม PHB มีสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม และเสริมความแข็งแรงให้รากผม ซึ่งโปรแกรมนี้จะช่วยลดการหลุดร่วงของผมและบำรุงหนังศีรษะให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
หลังจากการเข้ารับการบริการที่นามนินคลินิก คุณจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนภายในระยะเวลาอันสั้น ผมร่วงน้อยลงและเส้นผมที่งอกใหม่จะดูหนาดกดำและแข็งแรงขึ้น 

อย่าปล่อยให้ปัญหาผมร่วงและบางทำลายความมั่นใจของคุณอีกต่อไป เริ่มต้นดูแลเส้นผมของคุณด้วย โปรแกรม PHB เพื่อผมสวยสุขภาพดีที่คุณคู่ควร






โปรแกรม PHB แก้ผมบางร่วงเพื่อผู้หญิงทุกวัย
ปัญหาผมบางในผู้หญิงเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยและอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้หญิงจำนวนมาก สาเหตุของอาการผมบางมีหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน พันธุกรรม หรือภาวะขาดสารอาหาร การทำความเข้าใจและเข้าถึงวิธีการรักษาที่เหมาะสมสามารถช่วยฟื้นฟูความมั่นใจและสุขภาพของเส้นผมได้

สาเหตุของปัญหาผมบางในผู้หญิง
1. พันธุกรรมและฮอร์โมน : พันธุกรรมมีผลสำคัญต่ออาการผมบาง โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับผมบางในช่วงวัยกลางคน ฮอร์โมนก็เป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีผลต่อการเติบโตของเส้นผม เมื่อระดับฮอร์โมนนี้ลดลง เช่น ในช่วงวัยหมดประจำเดือนหรือหลังคลอด อาจทำให้เกิดปัญหาผมบางได้
2. ภาวะขาดสารอาหาร : การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น ธาตุเหล็ก โปรตีน และวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี 7 (ไบโอติน) จะทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่าย ผู้หญิงที่มีภาวะโลหิตจางมักมีความเสี่ยงต่อผมบางมากกว่าคนทั่วไป
3. ความเครียดและการใช้สารเคมี : ความเครียดมีผลต่อการร่วงของเส้นผมชั่วคราว เพราะฮอร์โมนเครียดที่ร่างกายหลั่งออกมาส่งผลกระทบต่อรูขุมขน นอกจากนี้ การใช้สารเคมีในการทำผม เช่น การทำสี ยืด ดัด และการใช้ความร้อนสูงจากอุปกรณ์ตกแต่งผมบ่อยครั้ง ก็สามารถทำให้เส้นผมอ่อนแอและร่วงง่ายขึ้น



วิธีการรักษาปัญหาผมบางเบื้องต้น
1.  การใช้ยาทาเฉพาะที่  : ยา Minoxidil เป็นยาที่นิยมใช้ในการรักษาอาการผมบางในผู้หญิง โดยมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมและชะลอการหลุดร่วง ผลลัพธ์อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่เป็นวิธีที่ปลอดภัยและสะดวกในการใช้
2.  การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและโภชนาการ : การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินบี และไบโอตินอย่างเพียงพอ ช่วยส่งเสริมสุขภาพเส้นผมและลดการหลุดร่วง การนอนหลับที่เพียงพอและการจัดการความเครียดก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผมได้
3.  การรับประทานยากดฮอร์โมน : ในกรณีที่อาการผมบางมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนแอนโดรเจนซึ่งมีบทบาทในการทำให้เส้นผมร่วงในผู้หญิง ยาที่ใช้ยับยั้งผลของฮอร์โมนเพศชายอาจถูกนำมาใช้ในการรักษา ยานี้มีคุณสมบัติช่วยลดการผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน และยับยั้งผลกระทบที่ฮอร์โมนนี้มีต่อรูขุมขน ซึ่งช่วยชะลอการหลุดร่วงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม อย่างไรก็ตาม ยานี้อาจมีผลข้างเคียง เช่น การยับยั้งน้ำในร่างกายและความดันโลหิต ดังนั้นการใช้ยากดฮอร์โมนควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

การฟื้นฟูเส้นผมด้วย : โปรแกรม PHB
การเข้ารับบริการโปรแกรม PHB  เป็นกระบวนการฟื้นฟูเส้นผมที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีขั้นตอนการดูแลจากคุณหมอนิน แพทย์ปลูกผมนามนินคลินิก เพื่อให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด




ขั้นตอนการเข้ารับบริการ
1. ปรึกษาและวางแผนการรักษากับคุณหมอนิน
เริ่มต้นด้วยการปรึกษากับคุณหมอนินเป็นขั้นตอนสำคัญ คุณหมอจะตรวจประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุและปัญหาผมบางของผู้เข้ารับบริการโดยเฉพาะ จากนั้นจึงวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละคน พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลที่ควรปฏิบัติตามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา

2. การรับบริการฉายแสง LLLT (Low-Level Laser Therapy)
การฉายแสง LLLT เป็นเทคโนโลยีการกระตุ้นรากผมด้วยเลเซอร์พลังงานต่ำ แสงเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะและเพิ่มความแข็งแรงของรากผม ทำให้เส้นผมดูหนาขึ้นและสุขภาพดี



3. การฉีดบำรุงโดยคุณหมอนิน
คุณหมอนินจะเป็นผู้ฉีดสารบำรุงเข้าสู่บริเวณรากผมด้วยความประณีต การฉีดบำรุงนี้จะช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นให้เส้นผมที่อ่อนแอกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง การฉีดบำรุงโดยผู้มีประสบการณ์ยังช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการรักษา



การรับบริการ PHB ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากคุณหมอนินจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาอย่างมืออาชีพ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงและสุขภาพดีในระยะยาว
เคล็ดลับผมสวย เริ่มต้นที่หนังศีรษะ
หนังศีรษะที่แข็งแรงเป็นรากฐานสำคัญของเส้นผมที่สวยงามและแข็งแรง สำหรับผู้หญิงที่กังวลเกี่ยวกับปัญหาผมบาง การดูแลหนังศีรษะอย่างถูกวิธีเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและชะลอการเกิดปัญหานี้ บทความนี้จะแนะนำวิธีการดูแลหนังศีรษะอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันผมบางในผู้หญิง

1. ทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ

การรักษาความสะอาดของหนังศีรษะเป็นพื้นฐานสำคัญในการป้องกันผมบาง


1.1 เลือกแชมพูที่เหมาะสม
  • ใช้แชมพูที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพหนังศีรษะของคุณ
  • หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีส่วนผสมของซัลเฟต ซิลิโคน และพาราเบน ซึ่งอาจทำให้หนังศีรษะแห้งและระคายเคือง
  • สำหรับผู้ที่มีปัญหารังแค ควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของสารต้านเชื้อรา เช่น คีโตโคนาโซล หรือไพริไทออนซิงก์

1.2 เทคนิคการสระผมที่ถูกต้อง
  • ใช้น้ำอุ่น ไม่ร้อนจัด เพื่อไม่ให้หนังศีรษะแห้ง
  • นวดแชมพูลงบนหนังศีรษะเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว ไม่ใช้เล็บขูด
  • ล้างแชมพูออกให้สะอาดหมดจด ไม่ให้มีสารตกค้างบนหนังศีรษะ

1.3 ความถี่ในการสระผม
  • สระผมทุกวันหรือทุกสองวัน ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีรษะและเส้นผม
  • หากหนังศีรษะมันง่าย อาจต้องสระผมบ่อยขึ้น แต่ระวังไม่ให้สระบ่อยเกินไปจนหนังศีรษะแห้ง

2. การบำรุงหนังศีรษะ

นอกจากการทำความสะอาด การบำรุงหนังศีรษะก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน



2.1 การนวดหนังศีรษะ
  • นวดหนังศีรษะเบาๆ วันละ 5-10 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
  • ใช้นิ้วมือนวดเป็นวงกลมเล็กๆ ทั่วศีรษะ
  • สามารถใช้น้ำมันบำรุงผมช่วยในการนวดได้ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาร์แกน หรือน้ำมันโจโจบา

2.2 การใช้ทรีทเมนต์บำรุงหนังศีรษะ
  • ใช้ทรีทเมนต์บำรุงหนังศีรษะสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น อโลเวรา ชาเขียว หรือโรสแมรี่
  • ทาทรีทเมนต์ให้ทั่วหนังศีรษะ นวดเบาๆ และทิ้งไว้ตามเวลาที่แนะนำบนฉลาก

3. การปกป้องหนังศีรษะจากปัจจัยภายนอก

ปัจจัยภายนอกสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผมได้


3.1 ป้องกันแสงแดด
  • สวมหมวกหรือใช้ร่มเมื่อต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผมจากแสงแดดที่มี SPF

3.2 ระวังการใช้ความร้อน
  • ลดการใช้เครื่องเป่าผม เครื่องหนีบผม หรือเครื่องม้วนผม
  • หากจำเป็นต้องใช้ ให้ตั้งอุณหภูมิต่ำและใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนเสมอ

3.3 หลีกเลี่ยงการรัดผมแน่นเกินไป
  • ไม่รัดผมแน่นจนเกินไป เพื่อลดแรงดึงที่รากผม
  • สลับตำแหน่งการรัดผม ไม่รัดซ้ำที่เดิมทุกวัน
  • ใช้ที่รัดผมแบบผ้าหรือแบบไม่มีโลหะเพื่อลดการดึงรั้งและการแตกหักของเส้นผม

4. การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหนังศีรษะ

อาหารที่รับประทานมีผลโดยตรงต่อสุขภาพของหนังศีรษะและเส้นผม


4.1 โปรตีน
  • รับประทานโปรตีนคุณภาพดีเพื่อเสริมสร้างเคราติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเส้นผม
  • แหล่งโปรตีนที่ดี ได้แก่ ไข่ ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว และเต้าหู้

4.2 วิตามินและแร่ธาตุ
  • รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี โดยเฉพาะไบโอติน เช่น ไข่ ถั่ว และธัญพืช
  • เพิ่มการบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินซี เพื่อส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและการสร้างคอลลาเจน

4.3 ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับร่างกายและหนังศีรษะ

5. การจัดการความเครียด

ความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผมร่วงและผมบาง



5.1 ฝึกเทคนิคผ่อนคลายความเครียด
  • ทำสมาธิหรือโยคะเป็นประจำ
  • ฝึกหายใจลึกๆ เมื่อรู้สึกเครียด

5.2 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เพื่อลดความเครียดและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

5.3 นอนหลับให้เพียงพอ
  • พยายามนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน
  • รักษาตารางการนอนให้สม่ำเสมอ แม้ในวันหยุด

6. การตรวจสุขภาพเป็นประจำ

การตรวจสุขภาพเป็นประจำช่วยให้สามารถตรวจพบและแก้ไขปัญหาสุขภาพที่อาจส่งผลต่อสภาพหนังศีรษะและเส้นผมได้อย่างทันท่วงที

6.1 ตรวจระดับฮอร์โมน
  • ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์และฮอร์โมนเพศเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังวัยทอง

6.2 ตรวจสอบระดับวิตามินและแร่ธาตุ
  • ตรวจสอบระดับธาตุเหล็ก วิตามินดี และวิตามินบี12 ซึ่งการขาดสารอาหารเหล่านี้อาจส่งผลต่อสุขภาพของเส้นผม

6.3 ปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม
  • หากสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของหนังศีรษะหรือเส้นผมที่ผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที



สรุป

การดูแลหนังศีรษะอย่างถูกวิธีเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหาผมบางในผู้หญิง การทำความสะอาดอย่างเหมาะสม การบำรุงหนังศีรษะ การปกป้องจากปัจจัยภายนอก การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การจัดการความเครียด และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาสุขภาพของหนังศีรษะและป้องกันปัญหาผมบาง การดูแลอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจะช่วยให้คุณมีเส้นผมที่แข็งแรง สวยงาม และลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาผมบางในระยะยาว

ผมทำสี สวยได้อย่างมั่นใจ ด้วย​โปรแกรม PHB
 การทำสีผมเป็นสิ่งที่หลายคนหลงรัก บางคนทำสีเพื่ออำพรางผมขาว บางคนทำสีเพราะอยากเปลี่ยนลุคตามเทรนด์แฟชั่น และในปัจจุบัน การทำสีผมก็ง่ายและสะดวกสบายขึ้นมาก มีผลิตภัณฑ์มากมายให้เลือกใช้ตามความต้องการ แต่รู้ไหมคะ การทำสีผมบ่อยๆ อาจทำให้ผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะมีปัญหาและอาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทำสีผมและวิธีดูแลเส้นผมกันในบทความนี้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมโดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก

1. ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมชนิดชั่วคราว: เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่อยากได้สีสันสดใสแบบที่เปลี่ยนได้ตามเทรนด์ สีจะเคลือบอยู่แค่ชั้นนอกของเส้นผม สามารถล้างออกได้หลังการสระผม 1-2 ครั้ง

2. ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมชนิดกึ่งถาวร: สีสามารถซึมเข้าไปสู่ชั้นกลางของเส้นผมได้ จะติดทนนานประมาณ 3-5 สัปดาห์ เช่น แชมพูย้อมสีผมและโฟมย้อมสีผม

3. ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมชนิดถาวร: สีจะติดอยู่กับเส้นผมอย่างถาวร ทนทานต่อการสระผม โดยเฉพาะประเภทซึมเข้าในเส้นผม จะมีสารเคมีเป็นส่วนผสมหลัก 2 ชนิด ชนิดแรก อาจเป็นของเหลวหรือครีม มีสารออกฤทธิ์สำคัญ คือ สารออกซิเดชั่น หรือที่เรียกว่า สีพารา อยู่ในสภาวะด่าง โดยส่วนใหญ่จะใช้แอมโมเนียปรับสภาพความเป็นกรด-ด่าง ซึ่งค่าความด่างจะช่วยให้ส่วนชั้นนอกของเส้นผมบวม และพองขึ้น ทำให้สีซึมเข้าไปอยู่ในเส้นผม แต่หากสภาพความเป็นด่างมากเกินไปก็จะเป็นอันตรายต่อเส้นผม ชนิดที่ 2 เรียกว่า “น้ำยาผสม” ซึ่งนิยมใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ความเข้มข้น 6% หากใช้ความเข้มข้นเกินที่กำหนด จะทำให้ผมแห้ง และทำลายเส้นผม และอาจทำให้ระคายเคืองหนังศีรษะได้ ในเบื้องต้น จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแต่ละผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

ถึงแม้ว่าการทำสีผมอาจจะมีอันตราย แต่สำหรับบางคน การเปลี่ยนสีผมก็เป็นสิ่งสำคัญในการแสดงความเป็นตัวเองและเสริมความมั่นใจ นามนิน เข้าใจถึงความต้องการของผู้หญิงและเข้าใจทุกปัญหาของเส้นผม คุณหมอนินจึงได้พัฒนาและต่อยอดโปรแกรม PHB ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อฟื้นฟูและบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วง กระตุ้นการงอกใหม่ และช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดีขึ้นจากรากจรดปลาย เพื่อให้ผู้หญิงได้สวย มั่นใจได้เท่าที่ใจที่ต้องการ



โปรแกรม PHB คือทรีตเมนต์ประเภทฉีดบำรุงเส้นผมสูตรเฉพาะของนามนิน ช่วยบูสต์กระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมจากภายใน มีความปลอดภัย และสะดวกสบายสำหรับผู้เข้ารับบริการ เพียงใช้วิธีการฉีดเข้าสู่บริเวณหนังศีรษะในจุดที่มีปัญหาผมร่วงและผมบาง โดยไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น และปราศจากผลข้างเคียงใด ๆ ทั้งยังสามารถรับบริการพร้อมกับ Treatment อื่น ๆ ได้ในคราวเดียว




ไม่ว่าจะมีปัญหาผมร่วง ผมบางจากสาเหตุใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นจากกรรมพันธุ์ อายุที่มากขึ้น หรือการสะสมของสารเคมีจากการทำสีผม ขอเพียงยังมีรากผมที่สามารถเจริญเติบโตได้อยู่ โปรแกรม PHB ก็สามารถฟื้นฟูเส้นผมเหล่านั้นให้หนาแน่น ดูดกดำ เงางาม และสุขภาพดีขึ้นได้

นอกจากความสวยแล้ว ความปลอดภัยและสุขภาพผมที่ดีอย่างยั่งยืนก็ต้องมาคู่กันด้วยค่ะ สอบถามรายละเอียดและรับคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลเส้นผมเพิ่มเติมได้ที่นามนิน เราพร้อมดูแลเส้นผมที่คุณรักค่ะ 

3 ระยะ “ผมถอยร่น” ที่ควรรักษาก่อนสาย
ขณะที่กำลังส่องกระจกในทุก ๆ วัน คุณผู้ชายเคยสังเกตผมของตัวเองหรือไม่ ว่ามี ความเปลี่ยนแปลง อย่างไรเกิดขึ้นบ้าง ทราบหรือไม่ว่า สัญญาณเล็ก ๆ ที่เราสังเกตเห็น อาจจะช่วยให้ตัวเราในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาผมร่วง ผมบาง จนนำไปสู่ภาวะผมล้านที่รุนแรงเกินจะรักษาหรือแก้ไขก็เป็นได้

นั่นก็เพราะอาการผมร่วง ผมบาง มักจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนหลายคนไม่ทันสังเกตเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในช่วงแรก ๆ หรือแม้เมื่อเริ่มสังเกตเห็นแล้ว ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษา ด้วยเหตุผลต่าง ๆ อย่างเช่น บางคนอาจจะคิดว่า ผมเพิ่งเริ่มถอยร่นและบางลงเพียงเล็กน้อย ไม่น่าต้องกังวลใจ บางคนลังเลว่า วัยของตัวเองเหมาะกับการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบางแล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม รู้สึกว่าตัวเองยังอายุน้อยเกินไปที่จะเริ่มรักษา ส่วนผู้ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงอายุสูงวัย ก็รู้สึกไปอีกแบบว่าตัวเองอายุมากเกินกว่าจะมาดูแลปัญหาผมในวัยนี้แล้ว ขณะที่อีกหลาย ๆ คนก็เลือกปล่อยปัญหาผมถอยร่นทิ้งไว้ เพราะไม่มีเวลาดูแล เพราะกังวลและไม่มั่นใจในวิธีการรักษา หรือเพราะมองไม่เห็นภาพว่า ปัญหาผมในวันนี้อาจจะรุนแรงขึ้นจนยากที่จะเยียวยาฟื้นฟูในวันข้างหน้า

ดังนั้น นามนินจึงขอชวนคุณผู้ชายมาสังเกตภาวะผมถอยร่นของตนเอง รวมถึงแนะนำวิธีการดูแลปัญหาผม ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละระยะ หรือลักษณะอาการ แม้ผมถอยร่นในระยะแรกที่อาจจะมองเห็นได้ยาก เราก็มีจุดสังเกตเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณผู้ชายนำมาใช้เป็นแนวทางได้อย่างแน่นอน มาดูไปพร้อม ๆ กันว่า ผมของเราอยู่ในภาวะผมถอยร่นระยะที่น่าเป็นห่วงมากน้อยแค่ไหน


ระยะที่ 1 ผมหยุดยาว สัญญาณแรกของผมถอยร่น

สำหรับคุณผู้ชายที่เริ่มมีภาวะผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุของกรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมในผู้ชายทั่วโลก จุดสังเกตก็คือผมด้านหน้า โดยทั่วไปแล้ว ผมทั่วศีรษะจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากสังเกตเห็นว่า ผมด้านหน้าไม่ยาวเพิ่มเลย ในขณะที่ผมในบริเวณอื่น ๆ ยังคงยาวต่อเนื่องเป็นปกติ  ก็เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณแรกสุดของภาวะผมถอยร่นแล้ว 



ในระยะนี้ แม้ว่าผมจะยังไม่เริ่มร่วงเลยก็ตาม แต่นามนินก็ขอแนะนำให้คุณผู้ชายเริ่มเข้ามาพูดคุยปรึกษากับแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องรีรอ เพื่อไม่ให้ปัญหาผมลุกลามรุนแรงขึ้น โดยวิธีการรักษาพื้นฐานเบื้องต้น อาจจะอยู่ในรูปแบบของการรับประทานยาหรือวิตามิน รวมไปถึงการทาเซรั่มบำรุงผม

หากใครสังเกตพบสัญญาณผมถอยร่นของตัวเองได้ตั้งแต่ในระยะนี้ นับว่าโชคดีมาก ๆ และมีโอกาสสูงที่จะสามารถหยุดภาวะผมถอยร่น ไม่ให้ผมเริ่มร่วง บาง และขยายพื้นที่ไปยังส่วนอื่น ๆ ของศีรษะได้


ระยะที่ 2 ผมถอยร่น จนกลายเป็น M shape 

หลังจากผมด้านหน้าเริ่มหยุดยาว หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ระยะต่อไปคงจะเป็นภาพที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย นั่นก็คืออาการที่ผมร่วง จนผมถอยร่น เว้าลึกเข้าไปทั้ง 2 ข้างบริเวณหน้าผาก กลายเป็นรูปตัว M 

หากเข้าสู่ระยะนี้ เท่ากับแนวไรผมที่เคยทำหน้าที่เป็น “กรอบหน้า” จะหายไป ผลที่ตามมาก็คือรูปหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน หน้าผากสูงและกว้าง ชวนให้ดูสูงวัยกว่าอายุจริง เมื่อภาวะผมถอยร่นเข้าสู่ระยะนี้ เจ้าของเส้นผมไม่เพียงสูญเสียเส้นผมที่ร่วงหลุดไป แต่ยังสูญเสียความมั่นใจเวลาต้องออกไปพบปะผู้คนภายนอกด้วย เพราะเส้นผมและกรอบหน้า ส่งผลต่อรูปลักษณ์และบุคลิกภาพโดยตรง

ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดในการคืนกรอบหน้า และยังนับเป็นโอกาสในการออกแบบกรอบหน้าใหม่ให้ได้สัดส่วนลงตัวกับใบหน้าของเราด้วยเลย ก็คือการ “ปลูกผม” นั่นเอง 

แพทย์จะเป็นผู้ออกแบบแนว Hairline หรือกรอบหน้าใหม่ โดยอิงตามความต้องการหรือความจำเป็นของคนไข้ และอาศัยหลักสัดส่วนทองคำของใบหน้า หรือ Golden Ratio เพื่อคืนความสมส่วนด้วยกรอบหน้าที่จะเสริมความคม เข้ม ปรับลุคให้ดูดีขึ้น ดูสมาร์ทขึ้นได้ พร้อมทั้งได้แนวไรผมที่แลดูเป็นธรรมชาติ 


ทั้งนี้ แพทย์จะกำหนดพื้นที่ปลูกผมใหม่ และคำนวณกราฟต์ผมต้นทุนจากด้านหลังท้ายทอยที่ต้องใช้ในการปลูกให้เหมาะสมคุ้มค่า เนื่องจากผมต้นทุนของแต่ละคนมีอยู่เพียงจำกัด เมื่อย้ายผมต้นทุนออกจากด้านหลังท้ายทอยแล้ว ก็จะต้องนำกราฟต์ผมมาคัดแยก ตัดแต่ง ให้ได้ขนาด ความหนาบาง และจำนวนเส้นผมต่อ 1 กราฟต์ที่พอดี 

และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการปลูกผมใหม่ แพทย์จะต้องอาศัยความละเอียดพิถีพิถันเป็นพิเศษ เนื่องจากแนวไรผมบริเวณหน้าผาก ประกอบไปด้วยผมเส้นอ่อนด้านนอกสุด ก่อนจะค่อย ๆ ไล่ระดับลึกเข้ามากลายเป็นผมเส้นใหญ่และหน้าขึ้น ดังนั้น แพทย์จึงต้องคัดเลือกลักษณะของเส้นผมที่เหมาะสม ค่อย ๆ ปักกราฟต์ให้เรียงตัวกันเป็นระเบียบ เนียนตา ได้ความหนาแน่นที่พอดี พร้อมได้ทิศทางและองศาของเส้นผมที่แลดูกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิมเพราะแนวกรอบหน้าก็ไม่ต่างจากด่านแรกของเส้นผมที่จะดึงดูดสายตาผู้คนเมื่อมองเห็น

ระยะที่ 3 ผมเริ่มบางจากกลางศีรษะ

นอกจากเส้นผมจะถอยร่นเว้าลึกเข้ามาบริเวณหน้าผากแล้ว ในกรณีนี้ เส้นผมอาจจะเริ่มหลุดร่วงและเห็นความบางที่ชัดเจนโดยเริ่มจากบริเวณกลางศีรษะ ซึ่งก็เป็นจุดที่ผู้คนทั่วไปมองเห็นได้ง่ายเช่นกัน


หากใครสังเกตตัวเองว่ามีภาวะผมถอยร่อนอยู่ในระยะนี้ โดยที่ไม่มีอาการผมบางด้านหน้าหรือ M Shape ร่วมด้วย แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดบำรุงด้วย โปรแกรม PHB ซึ่งจะตรงเข้าฟื้นฟูลึกถึงระดับเซลล์รากผม ช่วยให้เส้นผมมีขนาดใหญ่และหนาขึ้น ลดโอกาสการหลุดร่วง พร้อมทั้งกระตุ้นให้เส้นผมงอกใหม่เร็วขึ้น จึงทำทำให้ผมแลดูดกดำขึ้น หนาแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วิธีการก็สะดวกสบายและปลอดภัย เพียงฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วงและผมบาง และสามารถเข้ามารับการฉีดบำรุงได้อย่างต่อเนื่องภายใต้คำแนะนำของแพทย์


ในความเป็นจริงแล้ว ภาวะผมถอยร่นยังมีระยะที่ 4 ด้วย ซึ่งเป็นระยะที่พ้นไปจากลักษณะอาการข้างต้น ทั้งอาการผมด้านหน้าหยุดยาว อาการผมร่นลึกเป็นรูป M Shape และอาการผมบางกลางศีรษะ หากปล่อยไว้โดยไม่ได้ดูแลรักษา ก็จะเข้าสู่ระยะที่ปัญหาผมยิ่งขยายพื้นที่รุนแรงขึ้น เช่น ผมด้านหน้าและกลางศีรษะอาจบางลงจนเชื่อมต่อถึงกันเป็นพื้นที่ใหญ่ และเข้าสู่ภาวะผมล้าน ที่อาจจะสายเกินการฟื้นฟูให้เส้นผมกลับมาในที่สุด 

ในกรณีนี้ การแก้ปัญหาจะอาศัยวิธีการที่ซับซ้อน ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการรีบเข้ามารักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และไม่สามารถการันตีได้ว่า จะได้ผลลัพธ์ผมที่กลับมาหนาแน่นเหมือนเดิม เนื่องจากข้อจำกัดด้านผมต้นทุนที่มักจะอ่อนแอและเหลือน้อยลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม แพทย์จะช่วยคำนวณกราฟต์ผมให้ใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และอาจแนะนำให้ปลูกผมร่วมกับการฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster เพื่อช่วยเสริมให้ผมกลับมาได้มากที่สุดบนข้อจำกัดของคนไข้แต่ละคนเอง


และเนื่องจากปัญหาผมของคนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน หากสังเกตพบภาวะถอยร่นของเส้นผม ในระยะใดระยะหนึ่ง ก็ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อร่วมกันวางแผนและออกแบบแนวทางรักษาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อตอบโจทย์การรักษาได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญ ยิ่งสังเกตพบเร็ว ตัดสินใจเข้ามาพบแพทย์เร็ว ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการรักษาอย่างแน่นอน




ไขข้อสงสัย! 5 ฮอร์โมน สาเหตุหลักของปัญหาผมร่วง มีอะไรบ้าง?
"รู้ทัน 5 ฮอร์โมนต้นเหตุปัญหาผมร่วงที่คุณควรรู้!"
ในทุก ๆ วันเส้นผมของเราก็มักจะหลุดร่วงเป็นปกติอยู่แล้ว โดยจะมีปริมาณประมาณ 50-100 เส้นต่อวันตามวงจรชีวิตของเส้นผม แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่อายุมากขึ้น บวกกับมีพฤติกรรมเสี่ยงที่มีส่วนทำให้รากผมอ่อนแอ วงจรชีวิตของเส้นผมก็จะสั้นลงเรื่อย ๆ และทำให้เส้นผมหลุดร่วงมากกว่าปกติ และกลายเป็นปัญหาผมบางบริเวณกว้างได้ในที่สุด


รู้หรือไม่? ว่านอกเหนือไปจากอายุที่เพิ่มขึ้น และการมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างที่เสี่ยงทำให้รากผมอ่อนแอ หลุดร่วงได้ง่ายแล้ว ก็ยังมีปัจจัยเรื่องของฮอร์โมนด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมหลุดร่วงได้ง่ายไม่แพ้ปัจจัยอื่น ๆ เลย ซึ่งวันนี้นามนินจะขออาสาพาทุกคนมาทำความรู้จักกับฮอร์โมนของร่างกาย ที่เป็นสาเหตุของปัญหาผมร่วงกันว่ามีฮอร์โมนอะไรบ้าง? แล้วจะมีวิธีรักษาปัญหาผมร่วงจากฮอร์โมนเหล่านี้ได้อย่างไร? ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลย

5 ฮอร์โมน สาเหตุของปัญหาผมร่วง

1. ฮอร์โมน DHT
ฮอร์โมนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมร่วง ผมบางที่ได้ยินกันบ่อยมากที่สุดเลยก็คือ ฮอร์โมน DHT หรือ ฮอร์โมน Dihydrotestosterone ซึ่งพบได้บ่อยในเพศชาย แต่ก็สามารถพบได้ในเพศหญิงเช่นเดียวกัน เพียงแต่จะมีปริมาณที่น้อยกว่าเท่านั้น 
ซึ่งฮอร์โมน DHT มีคุณสมบัติคอยควบคุมการทำงานเส้นผมและขนทั่วร่างกาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ฮอร์โมนนี้มีความแปรปรวน หรือผิดปกติขึ้น ก็มักจะส่งผลเสียต่อเส้นผมและหนังศีรษะ โดยจะไปออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผมชุดใหม่ ทั้งยังมีส่วนทำให้เส้นผมชุดเก่าไม่ได้รับสารอาหารที่มากพอ จึงทำให้รากผมอ่อนแอ และเกิดเป็นปัญหาผมร่วงตามมานั่นเอง  

2. ฮอร์โมนเอสโตรเจน
ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) หรือฮอร์โมนเพศหญิงที่คอยช่วยดูแลระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายเพศหญิงให้เป็นไปอย่างปกติและมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ฮอร์โมนชนิดนี้มีระดับต่ำกว่าปกติ หรือมีความแปรปรวน ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ 
และหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยเนื่องจากความแปรปรวนของฮอร์โมนเอสโตรเจนก็คือปัญหาผมร่วง รากผมอ่อนแอ ทั้งยังทำให้มีลักษณะเส้นผมเล็บ ลีบ แบน ชี้ฟู จัดทรงยากร่วมด้วย ซึ่งปัญหาความผิดปกติของฮอร์โมนเอสโตรเจนนี้ มักจะพบได้บ่อยในผู้หญิงวัยทอง วัยหมดประจำเดือน รวมถึงคุณแม่หลังคลอดนั่นเอง

3. ฮอร์โมนคอร์ติซอล
ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดีว่าเป็นฮอร์โมนความเครียด เพราะร่างกายมักจะหลั่งฮอร์โมนนี้ออกมาเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น และฮอร์โมนตัวนี้นั้นก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายมากมาย โดยเฉพาะระบบการทำงานของเส้นผม โดยฮอร์โมนคอร์ติซอลจะเข้าไปทำให้วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลงกว่าปกติ จนเกิดเป็นปัญหาผมหลุดร่วงได้ในที่สุด

4. ฮอร์โมนไทรอยด์
ปัญหาผมร่วงเนื่องจากฮอร์โมนไทรอยด์ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเพศไหน ๆ เพราะเมื่อไหร่ที่ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ก็จะทำให้ต่อมไขมันในร่างกายทำงานผิดปกติตามไปด้วย ซึ่งจะกระตุ้นร่างกายให้ผลิตไขมันออกมาบนผิวหนังมากกว่าเดิม โดยเฉพาะบริเวณหนังศีรษะ และหากมีความมันส่วนเกินเกาะอยู่ตามเส้นผมและหนังศีรษะมากก็ไป ก็อาจทำให้รากผมเกิดการอุดตัน อ่อนแอลง และสังเกตเห็นถึงผมที่ร่วงเยอะมากกว่าเดิมได้

5. ฮอร์โมนอินซูลิน
เราอาจจะคุ้นเคยกันดีว่าอินซูลินเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และสัมพันธ์กับผู้ป่วยเบาหวาน แต่ไม่เพียงเท่านั้นฮอร์โมนนี้ยังส่งผลเสียต่อการทำงานของรากผม และมีส่วนทำให้ผมหลุดร่วงง่ายได้เช่นกัน ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้
  • การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: อินซูลินมีหน้าที่หลักในการนำน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน แต่หากมีระดับอินซูลินผิดปกติ ไม่ว่าจะสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ รวมถึงปัญหาผมร่วงได้
  • การไหลเวียนเลือด: ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปเป็นเวลานาน อาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ รวมถึงหนังศีรษะได้รับความเสียหาย และส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงรากผม ทำให้รากผมได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และอ่อนแอลง
  • การอักเสบ: ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรังอาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งรวมถึงหนังศีรษะด้วยเช่นกัน และการอักเสบนี้ก็จะทำลายเซลล์รากผมและทำให้ผมหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น

แนวทางการป้องกันและรักษาผมร่วง เนื่องจากฮอร์โมน
เมื่อผมร่วงมากกว่าที่เคย อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฮอร์โมนในร่างกายของคุณมีความผิดปกติอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งปัญหานี้จะมีวิธีป้องกันและรักษาปัญหาผมร่วงเนื่องจากฮอร์โมนได้ ดังนี้

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิดก็มีผลมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม เช่น ความเครียดทำให้หลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลมากกว่าปกติ การทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ก็ล้วนส่งผลให้ฮอร์โมนอินซูลินสูงตามไปด้วย ซึ่งการปรับเปลี่ยนโดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาผมร่วง ผมบางได้


2. ใช้ยารักษาผมร่วงตามแพทย์สั่ง
หากมีปัญหาผมร่วงเนื่องจากฮอร์โมนและได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์อย่างเหมาะสม ส่วนใหญ่แพทย์จะทำการจ่ายยาในการควบคุมระดับฮอร์โมนให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกใช้ยารักษาผมร่วงเพื่อเสริมสร้างรากผมให้แข็งแรง กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผมควบคู่ไปด้วยได้ เช่น กลุ่มยาฟีนาสเตอไรด์ หรือกลุ่มยาไมนอกซิดิล เป็นต้น

3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ
นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้เหมาะสมแล้ว เพื่อเป็นการบำรุงสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะอย่างต่อเนื่อง นามนินคลินิกขอแนะนำให้ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะร่วมด้วย เช่น 
  • ELIXIR HAIR SERUM BY NEAT HAIRNUE เซรั่มสูตรพิเศษที่คิดค้นโดยคุณหมอนิน พัฒนาขึ้นเพื่อบำรุงเส้นผมให้กับคนที่มีปัญหาผมบางโดยเฉพาะ ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม พร้อมบำรุงเส้นผมให้ดกหนาและแข็งแรง
  • VITAMIN H วิตามินบำรุงผมของนามนิน ที่ผสานคุณประโยชน์จากสารสกัดธรรมชาติหลากหลายชนิด ช่วยลดความมันและการอักเสบของหนังศีรษะ ลดการหลุดร่วงของเส้นผม พร้อมเติมสารอาหารให้เส้นผม ช่วยให้ผมที่งอกใหม่มีเส้นหนาและแข็งแรงยิ่งขึ้น


4. เข้ารับบริการโปรแกรมทรีตเมนต์บำรุงรากผมให้แข็งแรง
สำหรับใครที่อยากเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ก็สามารถเลือกเข้ารับบริการโปรแกรมทรีตเมนต์บำรุงรากผมให้แข็งแรง อย่างเช่น โปรแกรม PHB หรือ Premium Hair Booster กับที่นามนินคลินิกได้เช่นกัน ซึ่งเป็นโปรแกรมทรีตเมนต์ฉีดบำรุงทั่วหนังศีรษะสูตรพิเศษ ที่ได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผมบางและหลุดร่วงง่ายโดยเฉพาะ แม้จะมีปัญหาผมร่วงจนกราฟต์ผมเหลือน้อย ไม่เพียงพอต่อการปลูกผมแล้ว วิธีนี้ก็สามารถช่วยให้คุณกลับมามีเส้นผมหนาแน่นเต็มพื้นที่ได้อีกครั้ง 



5. เข้ารับการปลูกผมถาวร
ถ้าคุณมีปัญหาผมร่วงเนื่องจากฮอร์โมน และเกิดปัญหาผมบางเป็นบริเวณกว้าง จนทำให้ขาดความมั่นใจเป็นอย่างมาก การปลูกผมถาวรก็ถือเป็นอีกหนึ่งแนวการดูแลรักษาปัญหาผมร่วงจากฮอร์โมนที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะจบปัญหาผมบางได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยการนำเส้นผมที่มีสุขภาพดีจากบริเวณท้ายทอยมาปลูกยังบริเวณที่ผมบางหรือไม่มีผม เพื่อให้ได้เส้นผมใหม่ที่แข็งแรง และเป็นธรรมชาติ กลับมามีผมดกหนาได้อีกครั้ง 




สรุป
 
ฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วงนั้นมีอยู่หลากหลายชนิด เพื่อให้การรักษาปัญหาผมร่วงเนื่องจากฮอร์โมนเห็นผล และตรงจุดมากที่สุด นามนินคลินิกขอแนะนำว่าควรเข้าพบแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อรับการวินิจฉัยถึงสาเหตุของผมร่วงที่แท้จริงว่า เกิดจากฮอร์โมนชนิดใด? รวมถึงจะมีแนวทางในการรักษาปัญหาผมร่วงอย่างไรบ้าง? ที่จะเหมาะสมมากที่สุด 

เพราะปัญหาผมร่วง ผมบาง หากปล่อยไว้นาน ก็ยิ่งรักษายาก และสร้างแผลใจให้คุณมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน ดังนั้นหากรักษาเร็ว ก็มีโอกาสสูงที่จะกลับมามีผมดกหนาได้ดังเดิม แถมค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ไม่สูงเท่ามารักษาตอนที่ปัญหาลุกลามไปแล้วนั่นเอง

เติม “วิตามิน” ตัวเด่น ให้เส้นผม
หากคนเราขาดสารอาหารที่จำเป็น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็คงทำงานไม่ได้ตามปกติ ส่งผลต่อความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย เช่นเดียวกันกับ “เส้นผม” ซึ่งต้องการสารอาหารมาบำรุงหล่อเลี้ยงตั้งแต่ระดับเซลล์รากผม เพื่อให้เส้นผมเจริญเติบโต ไม่อ่อนแอจนหลุดร่วงง่ายก่อนเวลาอันควร 

และหนึ่งในสารอาหารบำรุงผมก็คือบรรดาวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ นามนินจึงขอชวนเหล่าคนรักผม มาเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเติมวิตามินและแร่ธาตุตัวเด่นให้เส้นผมไปด้วยกัน



วิตามินบี 7
หรือในอีกชื่อที่เราคุ้นหูกันก็คือไบโอติน (Biotin) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นช่วยกระตุ้นให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผม และสามารถใช้ได้ผลกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) ด้วย โดยไบโอตินมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์ที่มีการสร้างใหม่และแบ่งตัวอยู่ตลอดเวลาอย่างเส้นผม รวมถึงยังมีส่วนในการเสริมสร้างเคราติน (Keratin) ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของเส้นผมด้วย

แหล่งวิตามินบี 7: ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเหลือง ธัญพืชไม่ขัดสีต่าง ๆ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ และไข่

วิตามินดี
ที่ผ่านมา มีการศึกษาพบว่าการขาดวิตามินดีส่งผลต่ออาการผมร่วงเป็นหย่อม หากเติมวิตามินดี ก็จะช่วยฟื้นฟูให้ภาวะผมร่วงลดลง ทั้งนี้ วิตามินดียังช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกด้วย

แหล่งวิตามินดี: ปลาที่มีไขมันสูง เห็ด นมถั่วเหลือง โยเกิร์ต รวมถึงการรับแสงแดดตามธรรมชาติ

วิตามินซี
แม้ไม่ได้บรรเทาภาวะผมร่วงโดยตรง แต่วิตามินซีมีส่วนช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนสำคัญในเซลล์รากผม ซึ่งจะส่งผลต่อการงอกใหม่ของเส้นผม โดยเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องร่างกายโดยรวม จึงช่วยลดความเสี่ยงที่เซลล์รากผมจะทำงานผิดปกติเนื่องจากการรบกวนของอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผมงอกใหม่สามารถเติบโตต่อเนื่องได้อย่างราบรื่นนั่นเอง

แหล่งวิตามินซี: ผัก ผลไม้ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะละกอ ส้ม พริกหวาน คะหน้า บรอกโคลี ดอกกะหล่ำ ผักโขม

สังกะสี 
สังกะสี หรือ Zinc มีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเส้นผม และช่วยให้ต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะทำงานเป็นปกติ พร้อมกับเสริมเคราติน ซึ่งเป็นโครงสร้างของเส้นผม ช่วยให้ผมเงางาม แข็งแรง ไม่เปราะบางจนขาดหรือหลุดร่วงง่าย สังกะสียังทำหน้าที่ช่วยในการแบ่งเซลล์และเป็นส่วนประกอบสำคัญในเอนไซม์บางชนิด ซึ่งพบว่าหากปริมาณเอนไซม์นี้ลดลง จะส่งผลต่อโรคผมร่วงเป็นหย่อมอีกด้วย

แหล่งสังกะสี: เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ตับ ไข่ เต้าหู้ ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ

ธาตุเหล็ก
แร่ธาตุชนิดนี้จะช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ สามารถแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงเซลล์รากผม เนื่องจากเป็นส่วนประกอบสำคัญในเม็ดเลือดแดง มีส่วนช่วยในการขนส่งออกซิเจนและลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงรากผมให้แข็งแรง ทั้งนี้ พบว่าการที่ร่างกายมีระดับธาตุเหล็กต่ำ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะผมร่วงได้ 

แหล่งธาตุเหล็ก: เนื้อสัตว์ ผักใบเขียว ถั่วเมล็ดแห้ง ตับ เครื่องใน ไข่แดง อาหารทะเล

และถ้าใครที่อยากได้ความสะดวกสบายในการเติมวิตามินและแร่ธาตุให้กับเส้นผมมากยิ่งขึ้น นามนินรวบรวมคุณค่าของวิตามินต่าง ๆ มาไว้ให้แล้วใน “VITA H” ซึ่งแพทย์ของนามนินค้นคว้าและคัดสรรมาเพื่อผลลัพธ์ในการบำรุงรากผมได้อย่างล้ำลึก ในรูปแบบของแคปซูล สามารถรับประทานได้ง่าย นอกจากจะได้คุณประโยชน์จากวิตามินต่าง ๆ แบบเต็ม ๆ แล้ว ยังเสริมด้วยคุณค่าสารสกัดจากธรรมชาติแท้ ๆ โดยประกอบด้วย


สารสกัดจากข้าวกล้องและผลกระบองเพชร (Rice Bran and Cactus Extract) ช่วยยับยั้งการผลิตฮอร์โมนบางชนิดโดยธรรมชาติ ส่งผลต่อการลดความมัน การเกิดสิว และการอักเสบของหนังศีรษะ

D-Biotin เสริมโครงสร้างเส้นผมให้แข็งแรง

Zinc Gluconate ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อเส้นผม และเสริมสร้างการเจริญเติบโต

Iron Amino Acid Chelate ลดการหลุดร่วง และช่วยให้รากผมแข็งแรง

Vitamin B Premix บำรุงเส้นผมให้กลับมาสุขภาพดี


และนี่ก็เป็นเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผมจากภายใน ตอบโจทย์โดนใจคนรักเส้นผมอย่างแน่นอน ซึ่งหากใครมีข้อสงสัยหรือความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาเส้นผม สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญของนามนินได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อมาร่วมกันออกแบบเส้นทางฟื้นฟูและบำรุงผม ที่ทั้งปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
คืนความมั่นใจ ให้สาวผมบาง ด้วย PHB
การมีผมบางจากกรรมพันธุ์อาจเป็นเรื่องที่ดูเหมือนไกลตัว แต่รู้ไหมคะ? ปัญหานี้เกิดขึ้นกับผู้หญิงถึง 40% และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผมบางที่มีชื่อว่า “โรคผมร่วงกรรมพันธุ์ (Androgenetic Alopecia)” ซึ่งเกิดจากยีนที่ยังไม่สามารถระบุชื่อได้ แต่รู้แน่ชัดว่ามีส่วนทำให้ผมบาง ปัญหานี้พบได้ผู้หญิงช่วงอายุ 15 – 40 ปี อาการของโรคนี้เริ่มต้นที่บริเวณกลางศีรษะและอาจขยายออกไปเป็นวงกลม เป็นรูปแบบ Female Pattern Hair Loss (FPHL) แบ่งตามระยะอาการผมบางได้ 3 ระยะ ดังนี้
Type I : ผมเริ่มบางที่กลางศีรษะ เริ่มเห็นหนังศีรษะเล็กน้อย
Type II : ผมบางมากขึ้น พื้นที่ที่เห็นหนังศีรษะกว้างขึ้น
Type III : ผมบางที่สุด เห็นหนังศีรษะในบริเวณกว้าง



นอกจากนี้ ยังมีอีกบางรูปแบบที่อาจพบได้แต่เป็นจำนวนน้อย เช่น ผมบางรุนแรงที่กลางศีรษะ เห็นหนังศีรษะในพื้นที่กว้างมาก และแบบ Frontal ผมบางรุนแรงที่เริ่มจากด้านหน้า ซึ่งพบได้น้อยในผู้หญิง แต่ถ้าพบก็อาจหมายถึงปัญหาที่ต้องดูแลอย่างเร่งด่วนค่ะ 

แม้ว่าโรคผมร่วงกรรมพันธุ์จะยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่นามนินคลินิกมีวิธีการที่ช่วยลดอาการผมร่วงและกระตุ้นการเติบโตของผมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ โปรแกรม PHB เป็นการฉีดบำรุงผมที่ออกแบบมาเพื่อดูแลรักษาปัญหาผมบางได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาผมบางทั่วทั้งศีรษะ ฟื้นบำรุงผมบางที่กลางศีรษะ หรือการฟื้นฟูผมบางบริเวณกรอบหน้าที่อาจทำให้หน้าผากดูกว้าง รูปหน้าไม่ได้สัดส่วนที่สมดุล



โปรแกรม PHB ประกอบไปด้วยสารชีวโมเลกุลและสารบำรุงที่ช่วยฟื้นฟูรากผมลึกถึงเซลล์ กระตุ้นให้รากผมแข็งแรง ลดปัญหาผมขาดหลุดร่วง เสริมการเติบโตของผมใหม่ให้มีความหนาและสุขภาพดีขึ้น การเข้ารับบริการใช้เวลาเพียง 30-40 นาทีต่อครั้ง สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งหลังจากการเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง จะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้
  • ผมเริ่มหลุดร่วงน้อยลงใน 3-7 วัน
  • สังเกตเห็นผมชุดใหม่ใน 1-3 เดือน
  • ผมที่ขึ้นใหม่หนาและดูสุขภาพดีขึ้น



ที่นามนินคลินิก คุณหมอนินจะประเมินปัญหาและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ทุกปัญหาได้รับการดูแลและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนั้น อาจจะมีในบางกรณีที่ควรต้องเข้ารับการปลูกผมร่วมด้วย เช่น การปลูกผมปรับกรอบหน้าเพื่อแก้ปัญหาหน้าผากเว้าสูง คุณหมอนินจะแนะนำเทคนิค NEAT ที่คุณหมอเป็นผู้ปลูกผมเองทุกกราฟต์ พร้อมทั้งออกแบบ Hairline ใหม่ที่เหมาะสมกับรูปหน้า ปรับสัดส่วนใบหน้าให้สมดุลขึ้น เมื่อการปลูกผมเสร็จสมบูรณ์ ก็จะได้ผลลัพธ์ทั้งเส้นผมใหม่ที่หนาแน่นกว่าเดิม และรูปหน้าที่สวยงาม เสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้มากขึ้น   

หากต้องการฟื้นฟูเส้นผมและกลับมามั่นใจในตัวเองอีกครั้ง นามนินคลินิก เราพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อมอบการดูแลเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายที่สุดค่ะ


ผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้า แก้อย่างไรดี?
ศัลยกรรมดึงหน้า เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสามารถเรียกคืนใบหน้าที่อ่อนเยาว์ ผิวที่กระชับขึ้น และเพิ่มความมั่นใจให้คน ๆ นั้นได้มากเลยทีเดียว แต่รู้หรือไม่? ว่าการศัลยกรรมดึงหน้ามีส่วนทำให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางในอนาคตได้  

สาเหตุของอาการผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้า
เพราะในการเย็บแผลศัลยกรรมดึงหน้าจำเป็นต้องเย็บในบริเวณที่ชิดกับไรผมมากที่สุด ไม่ว่าจะช่วงบริเวณไรผมหน้าผากก็ดี หรือไรผมบริเวณหน้าใบหูก็ดี ซึ่งในบางครั้งการเข้ารับบริการดึงหน้าก็อาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดแผลบริเวณไรผมตามกรอบหน้า และทำให้เส้นผมไม่สามารถงอกกลับมาใหม่ได้ในระยะแรก จึงเกิดปัญหาผมบางในที่สุดได้ 

ขณะเดียวกันสาเหตุของอาการผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้าก็อาจมีสาเหตุมาจากภาวะทางร่างกายที่เกิด Shock Loss ส่งผลให้ผมร่วงชั่วคราว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับอาการผมร่วงหลังคลอด เนื่องจากเส้นผมมีอาการเครียดมากกว่าปกติ  เพราะได้รับการบาดเจ็บของรากผมและผิวหนังบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะจากการกรีดแผล เย็บแผลจากการศัลยกรรมดึงหน้านั่นเอง



นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าผู้ที่เคยเข้ารับบริการศัลยกรรมดึงหน้ากว่า 8.4% ต้องเผชิญกับอาการผมร่วงหลังศัลยกรรม โดยจะมีภาวะ Telogen Effluvium หรือภาวะผมร่วงแบบเฉียบพลันในช่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้าผ่านไปแล้วประมาณ 2 เดือน 

ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าบริเวณไรผมบางลงตรงบริเวณหน้าผากที่มีรอยแผลผ่าตัดดึงหน้า ทำให้มองเห็นรอยแผลเป็นได้ชัด โดยในรายงานเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบางนั้นเกิดจากรูขุมขนเส้นผมเกิดความเสียหายเพราะการเย็บแผลผ่าตัดดึงหน้าที่แน่นเกินไป จนทำให้เกิดเป็นภาวะผมร่วงเฉียบพลันได้  

อย่างไรก็ตามภาวะ Shock Loss และภาวะ Telogen Effluvium หรืออาการผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้าสามารถดีขึ้นได้ภายใน 6-8 เดือนหลังจากศัลยกรรม เส้นผมจะกลับมาดกหนา และแข็งแรงได้อีกครั้ง แต่ในบางรายก็อาจต้องเผชิญกับภาวะที่ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจนี้นานนับปีก็มี ฉะนั้นแล้วถ้าอยากให้ผมกลับมาดกหนาและฟื้นฟูได้เร็วกว่าเดิม ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญอย่างนามนินคลินิก เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วจะดีที่สุด 

แก้อาการผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้า อย่างไรดี? 

อาการผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้าถือเป็นอาการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกจากจะรอระยะเวลาให้รากผมกลับมาฟื้นตัวแข็งแรงอีกครั้งตามธรรมชาตินานกว่า 6-8 เดือนแล้ว เราก็สามารถมองหาทางเลือกในการกระตุ้นและบำรุงให้รากผมกลับมาแข็งแรง เพิ่มความดกหนาให้แก่เส้นผมบนหนังศีรษะได้ เช่น การใช้ยา การปลูกผม หรือแม้กระทั่งการฉีดบำรุงดูแลสุขภาพเส้นผมอย่างล้ำลึกถึงเซลล์รากผมอย่างโปรแกรม PHB ที่นามนิน 

Premium Hair Booster Treatment ตัวช่วยจัดการปัญหาผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้า 
โปรแกรมบูสเตอร์สุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะระดับพรีเมียมนี้ อาศัยส่วนผสมหลากหลายชนิดทั้งสารชีวโมเลกุล สารบำรุงโปรตีน ตลอดจนวิตามินต่าง ๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยแพทย์ผู้ชำนาญของนามนิน 

ทรีตเมนต์ PHB สามารถช่วยยับยั้งกลไกการอักเสบของเซลล์รากผม ซ่อมแซมเซลล์รากผมที่เสียหาย พร้อมชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์รากผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ 1-3 ครั้งที่เข้ารับบริการ 

  • อาการผมร่วงหลังศัลยกรรมดึงหน้าจะค่อย ๆ ดีขึ้นและมีผมร่วงน้อยลงภายใน 3-7 วัน
  • เส้นผมชุดใหม่เริ่มงอก เห็นเป็นเส้นผมอ่อน หรือลูกผมขึ้นในช่วง 1-3 เดือนหลังฉีด
  • เส้นผมมีขนาดที่ใหญ่และแลดูหนาแน่นขึ้นกว่าเดิม หลังจากฉีด โปรแกรม PHB ไปแล้วประมาณ 2-4 เดือน



เรียกได้ว่าโปรแกรม PHB ของนามนินเป็นทางเลือกในการฟื้นบำรุงปัญหาผมร่วง ผมบางหลังผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่เพียงแต่จะสามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมและบำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึก พร้อมช่วยแก้ปัญหาผมร่วงได้อย่างตรงจุดแล้ว ยังเป็นวิธีที่ไม่เจ็บเลย ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และยังเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนในระยะเวลาไม่นานอีกด้วย 

สอบถามหรือปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Line @namninclinic