Tag : Hair Revive Program
“หลังท้ายทอย” จะเป็นอย่างไร เมื่อย้าย “กราฟต์ผม” ออกไปปลูกใหม่แล้ว
ก่อนจะตัดสินใจปลูกผมครั้งหนึ่งในชีวิต จะดีกว่าไหม หากคนไข้ได้ลองทำความเข้าใจข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญเกี่ยวกับการปลูกผม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของ “กราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอย”

การปลูกผมถาวร คือการเจาะย้ายกราฟต์ผมต้นทุนคุณภาพดีจากด้านหลังท้ายทอย เพื่อนำมาปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หากถามว่าทำไมต้องเป็นพื้นที่หลังท้ายทอย คำตอบก็คือ เพราะพื้นที่ตรงนี้ เป็นจุดที่กราฟต์ผมมีความแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย เนื่องจากสามารถต้านทานอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผมร่วง เราจึงเรียกพื้นที่ตรงนี้ว่า “Safe Zone” โดยกราฟต์ผมที่ย้ายไปปลูกใหม่ จะสามารถเติบโต หลุดร่วง และงอกใหม่ตามวงจรเส้นผมธรรมชาติไปได้ตลอดชีวิตของคนไข้ ที่สำคัญ ผมที่นำไปปลูกใหม่ จะต้องเป็นกราฟต์ผมของคนไข้เองเท่านั้น ไม่สามารถใช้ของคนอื่นได้ 


คำถามต่อมาที่น่าจะเกิดขึ้นในใจของหลาย ๆ คนก็คือ เมื่อย้ายกราฟต์ผมต้นทุนออกไปแล้ว บริเวณ Safe Zone ด้านหลังท้ายทอยจะเป็นอย่างไร ผมจะสามารถงอกขึ้นใหม่ตามปกติได้อีกไหม

คำตอบก็คือ เมื่อย้ายกราฟต์ผมออกไปแล้ว ตรงจุดนั้นจะไม่มีผมงอกขึ้นมาใหม่ได้อีก นั่นเป็นเพราะว่า ในการปลูกผม เราต้องเจาะย้ายทั้งเส้นผมและรากผมออกไปพร้อม ๆ กัน ไม่ต่างจากการปลูกต้นไม้ ที่จำเป็นต้องมีส่วนของรากอยู่ด้วย เพื่อการเจริญเติบโตต่อเนื่องต่อไปได้ เมื่อรากผมได้รับการปลูกหรือฝังตัวในพื้นที่ใหม่ วงจรเส้นผมจึงจะยังคงทำงานเป็นปกติได้ตามเดิม 

และเมื่อ Safe Zone ด้านหลังท้ายทอยไม่เหลือรากผมอยู่แล้ว จึงไม่สามารถสร้างเซลล์รากผมขึ้นใหม่ หรือมีผมงอกขึ้นมาใหม่ได้ ถึงตรงนี้หลายคนต้องเริ่มกังวลใจแล้วแน่ ๆ ว่าหลังปลูกผมแล้ว ผมด้านหลังท้ายทอยจะต้องแหว่งหายไป เหลือแต่รอยแผลจากการเจาะย้ายใช่หรือไม่

ในจุดนี้ ใครก็ตามที่กำลังจะเข้ารับการปลูกผมเทคนิค NEAT กับคุณหมอนิน ขอให้สบายใจได้เลย เพราะแม้ว่าผมจะไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ แต่คุณหมอนินได้ออกแบบต่อยอดเทคนิคเสริมเพื่อให้ผมด้านหลังดูเป็นปกติ โดยคุณหมอนินจะใช้ เทคนิคเจาะย้ายผมออกแบบขั้นบันได เป็นการเจาะย้ายกราฟต์ผมออกแบบแถบเว้นแถบ และไม่ต้องโกนผมทิ้ง เพื่อซ่อนรอยแผลแนบเนียนไปกับเส้นผมเดิม ขณะเดียวกัน คุณหมอจะเจาะย้ายกราฟต์แบบกระจายให้เกิดความสม่ำเสมอ ไม่เจาะออกแค่จุดใดเพียงจุดเดียว เพื่อไม่ให้ผมบางหรือหายไปเป็นหย่อม ๆ 


อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยซ่อนรอยแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คืออุปกรณ์เจาะย้ายกราฟต์ผม ที่มีขนาดของหัวเจาะเล็กเป็นพิเศษ ทั้งยังสามารถปรับให้พอดีกับขนาดของกราฟต์ผมของคนไข้ได้ จึงไม่เพียงให้ผลลัพธ์การเก็บกราฟต์ผมที่สมบูรณ์ แต่ยังช่วยให้รอยแผลที่เหลืออยู่มีขนาดเล็กมาก ๆ จนแทบสังเกตไม่เห็น ดังนั้น คนไข้จึงสามารถจัดแต่งทรงผมได้อย่างอิสระ แม้ผ่านการปลูกผมมาแล้วก็ตาม

และความโดดเด่นอีกประการหนึ่งของเทคนิค NEAT ก็คือการที่คุณหมอนินเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้คนไข้เองทั้งหมด แบบกราฟต์ต่อกราฟต์ เส้นต่อเส้น ทำให้สามารถควบคุมทุกจังหวะการปลูกได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นทิศทางและองศาผมที่กลมกลืนไปกับผมเดิม ระยะความลึกในการปักกราฟต์ รวมถึงความหนาแน่นของผมที่พอเหมาะ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อความอยู่รอดของผมใหม่ และความสวยงามเนียนตาของผมในภาพรวมด้วย




ไม่เพียงเท่านั้น คุณหมอนินยังดูแลติดตามผลตลอดระยะเวลา 1 ปีเต็ม พร้อมแนะนำบริการ Treatment ที่จะช่วยเสริมให้ทั้งผมใหม่และผมเดิมแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ได้แก่

  • PHB Treatment
โปรแกรมฟื้นบำรุงผม ที่สามารถรับบริการต่อเนื่องหลังจากปลูกผมใหม่ได้ ภายใต้คำแนะนำของคุณหมอ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ให้เส้นผมและหนังศีรษะแข็งแรง เร่งการงอกใหม่ และชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้ โดยสังเกตผลลัพธ์ได้ตั้งแต่การรับบริการครั้งแรก


  • Hair Revive Treatment
โปรแกรมดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ที่เหมาะกับผู้เข้ารับการปลูกผมแล้วตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป โดยอาศัยสารสกัดจากธรรมชาติและสารอาหารผมมากคุณค่า มอบการบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดโอกาสผมหลุดร่วง พร้อมทั้งกระตุ้นให้ผมใหม่งอกเร็วขึ้น 


นี่คือส่วนหนึ่งของความใส่ใจจากคุณหมอนิน ที่มองเห็นและเข้าใจ pain point ของคนไข้ จึงพยายามต่อยอดเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อให้คนไข้เกิดความสะดวกสบาย สามารถใช้ชีวิตประจำวันหลังปลูกผมได้อย่างมั่นใจ และเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ดูแลสุขภาพดีแค่ไหน แต่ยังเหนื่อยใจเพราะ “ผมร่วง”
สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง คือรางวัลของคนที่ดูแลตัวเองอย่างตั้งใจเต็มที่ หลายคนหมั่นออกกำลังกายเพื่อร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มเป็นประจำ หลายคนเลือกรับประทานแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์ แต่คนรักสุขภาพเหล่านี้ บางคนกลับยังต้องเผชิญกับปัญหาน่าเหนื่อยใจอย่างเช่น “ผมร่วงและผมบาง” 


ทั้งที่ดูแลตัวเองดีขนาดนี้ 
แต่ทำไมสุขภาพผมถึงไม่ดีตามไปด้วยนะ
นั่นเป็นเพราะว่า ภาวะผมร่วงและผมบาง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แม้ว่าเจ้าของเส้นผมจะดูแลสุขภาพดีแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่ใช่การดูแลปัญหาผมอย่างตรงจุดตรงสาเหตุ ก็อาจจะไม่สามารถยับยั้งหรือชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้ 

ผมร่วงระดับไหน 
ที่ควรเริ่มกังวลใจได้แล้ว
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ที่จริงแล้ว ผมของคนเราจะหลุดร่วงเป็นปกติอยู่ทุก ๆ วัน ตามวงจรธรรมชาติของเส้นผม แต่อาการผมร่วงที่อาจเรียกได้ว่าผิดปกติ และเป็นสัญญาณว่าควรได้รับการดูแลรักษา สามารถสังเกตเบื้องต้นง่าย ๆ ได้ดังนี้

  • เส้นผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ สังเกตได้จากเวลาที่เราสระผม หวีผม กวาดพื้นห้อง หรือสังเกตผมที่ร่วงบนหมอน
  • ผมร่วงจำนวนมากแบบเฉียบพลัน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
  • ผมร่วงเป็นหย่อม จนมองเห็นหนังศีรษะ
  • ผมร่วง ร่วมกับอาการอักเสบและเป็นแผลบนหนังศีรษะ

ได้เวลาค้นหาสาเหตุที่จริงของอาการ “ผมร่วง”
เมื่อเริ่มรู้สึกแล้วว่า อาการผมร่วงของเรา น่าจะอยู่ในระดับที่ผิดปกติ ขั้นถัดมาคือการสังเกตตัวเองเพื่อมองหาสาเหตุของภาวะผมร่วง หรือปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านเส้นผม เพื่อร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุ รวมถึงแนวทางรักษา ซึ่งสาเหตุของการที่ผมหลุดร่วงมากกว่าที่ควร มาจากปัจจัยที่หลากหลาย นอกเหนือไปจากการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม

ย้อนมองคนใกล้ตัว 
มีใครในครอบครัว ผมบางหรือผมล้านบ้างไหม
ปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณผู้ชายส่วนมากต้องเผชิญกับอาการผมร่วง ผมบาง ที่อาจนำไปสู่ภาวะผมล้านในที่สุด ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่มีอาการผมร่วงจากพันธุกรรม มักจะมีเจ้าฮอร์โมนที่ชื่อ DHT เป็นสาเหตุสำคัญร่วมด้วย โดยเอนไซม์ 5-alpha reductase ที่หนังศีรษะ จะเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชาย เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ให้กลายเป็นฮอร์โมน ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) หรือ DHT ซึ่งจะพบเป็นปริมาณมากในผู้ที่ได้รับกรรมพันธุ์ผมร่วงผมบาง ส่งต่อกันมาจากคนในครอบครัว เพราะพันธุกรรมจะเป็นตัวกำหนดว่ารูขุมขนจะไวต่อ DHT มากน้อยแค่ไหน


ฮอร์โมน DHT จะเข้าไปจับกับตัวรับสัญญาณที่บริเวณรูขุมขนหรือรากผม ส่งผลให้วงจรชีวิตตามธรรมชาติของเส้นผมเปลี่ยนไป นั่นคือทำให้ระยะเจริญเติบโตของเส้นผมบนหนังศีรษะสั้นลง ขณะเดียวกันก็ทำให้ระยะพักตัว หรือระยะที่เส้นผมเก่าจะถูกดันให้หลุดร่วง เพื่อเตรียมฟื้นฟูสร้างเส้นผมใหม่ กินเวลานานขึ้น ทำให้เส้นผมหลุดร่วงไปก่อนเวลาอันควร อีกทั้งงอกใหม่ช้าลง ๆ ไม่เพียงเท่านั้น ฮอร์โมน DHT ยังส่งผลให้รูขุมขนเล็กลง รากผมอ่อนแอลง เส้นผมที่งอกใหม่จึงมีขนาดเล็ก บาง ไม่แข็งแรง เสี่ยงต่อการหลุดร่วงมากขึ้น หรืออาจถึงขั้นหยุดงอกใหม่ตลอดไป  

ลองสำรวจสภาพใจดูบ้าง 
เพราะบางครั้งเราอาจจะเครียดโดยไม่รู้ตัว
ความเครียด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมหลุดร่วงผิดปกติได้เช่นกัน เพราะเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งจะไปรบกวนวงจรชีวิตตามธรรมชาติของเส้นผม ทำให้เข้าสู่ระยะพักตัวเป็นเวลานานขึ้น วงจรชีวิตผมสั้นลง และหลุดร่วงเร็วกว่าที่ควร ความเครียดยังส่งผลต่อพฤติกรรมบางอย่างที่อาจจะทำร้ายเส้นผมซ้ำได้อีก เช่น การแกะเกา หรือดึงผมตัวเองโดยไม่รู้ตัว ยิ่งทำให้รากผมเสียหาย และงอกใหม่ช้าลง 


ส่วนใครที่มักจะนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ นี่ก็เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเช่นกัน ทั้งยังรบกวนการผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่มีส่วนในการสร้างเซลล์ผมอีกด้วย

กินอาหารดี 
แต่บางทีอาจไม่ครบตามหลักโภชนาการก็เป็นได้
แม้ว่าเราจะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่อาจจะยังตกหล่นสารอาหารที่จำเป็นต่อการดูแลเส้นผมไป โดยเฉพาะวิตามินหรือแร่ธาตุที่จำเป็น อย่างเช่น ไบโอติน ธาตุเหล็ก หรือสังกะสี รวมไปถึงโปรตีนที่อาจจะยังไม่เพียงพอ ซึ่งโครงสร้างส่วนใหญ่ของเส้นผมคือโปรตีนนั่นเอง ที่สำคัญ ยังควรต้องระมัดระวังเรื่องการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เพราะ 2 สิ่งนี้ ก็เป็นตัวการที่กระตุ้นให้เกิดอาการผมร่วงโดยตรงเช่นกัน


เรื่องเล็กที่เรามักมองข้าม 
สำรวจพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัว
แม้จะเป็นพฤติกรรมเล็ก ๆ แต่เมื่อทำบ่อย ๆ วนซ้ำเป็นประจำ ก็อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เส้นผมของเราอ่อนแอลงได้เหมือนกัน เริ่มจากการสระผมบ่อยเกินไป ที่ทำให้หนังศีรษะแห้ง จนส่งผลให้รากผมอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการหลุดร่วงของเส้นผม บางคนอาจใช้แชมพูทำความสะอาดที่ไม่เหมาะกับเส้นผม หรือมีสารเคมีที่ทำให้ผมอ่อนแอลง หรือบางคนหวีผมขณะผมเปียกหลังสระเสร็จใหม่ ๆ ซึ่งผมที่เปียกคือผมที่อยู่ในช่วงเปราะบาง ทำให้ขาดง่ายกว่าปกติ


การจัดแต่งทรงผม ก็มีส่วนทำให้ผมร่วงได้ เพราะเป็นการใช้สารเคมีต่าง ๆ กับเส้นผมและหนังศีรษะโดยตรง และบางครั้งก็มีการใช้ความร้อนที่มากเกินไป ซึ่งหากผมไม่ได้รับการบำรุงดูแลอย่างดี ก็จะยิ่งถูกทำร้ายได้ง่ายขึ้น

ส่วนใครที่มักจะใช้ชีวิตประจำวันกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่มีหมวก หรือร่ม ช่วยปกป้องเส้นผม ก็อาจถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ เช่นผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นประจำ เป็นต้น

วัยและโรคภัยไข้เจ็บ 
อีกสาเหตุหนึ่งของอาการผมร่วง
ทราบหรือไม่ว่า ผู้ชายที่เข้าสู่ช่วงอายุ 30 – 40 ปี มักจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเส้นผม ทั้งผมร่วงมากขึ้น ผมบางลง หรือผมบริเวณหน้าผากเว้าเข้าไปเป็นรูปตัว M ลึกขึ้นกว่าเดิม และยังรวมถึงสาเหตุจากปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อย่างเช่นการที่ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การได้รับเคมีบำบัด หรืออาจมีโรคผิวหนังบางชนิดเกิดขึ้นบริเวณหนังศีรษะ เป็นต้น

แม้ว่าใคร ๆ ก็มีโอกาสเผชิญกับปัญหาผมร่วงและผมบาง จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งที่ดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะผมร่วง ผมบาง เป็นอาการที่คุณผู้ชายสามารถดูแลหรือรักษาให้ดีขึ้นได้ (ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผมของแต่ละคน) และเมื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเลือกแนวทางการฟื้นฟูเส้นผมที่เหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุด

แนะวิธีรับมือปัญหาผมร่วง ผมบาง เบื้องต้น
สำหรับคุณผู้ชาย

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมในชีวิตในประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสระผม หวีผม จัดแต่งทรงผม หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องรับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน
  • พฤติกรรมต่าง ๆ ยังรวมไปถึงการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดูแลจิตใจไม่ให้เกิดความเครียด และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • เลือกรับประทานอาหารถูกต้องครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เน้นสารอาหารที่หลากหลายและจำเป็นสำหรับการดูแลเส้นผม เช่น วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี ไบโอติน สังกะสี ธาตุเหล็ก รวมถึงสารอาหารสำคัญอย่าง โปรตีน ซึ่งในปัจจุบันสามารถเลือกรับประทานโปรตีน ในรูปของเปปไทด์ที่สกัดจากพืช เช่นถั่วลันเตาหรือถั่วเหลืองได้อย่างสะดวกสบาย
  • อีกทางเลือกหนึ่งที่คุณผู้ชายสามารถดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ ก็คือการทาเซรั่มบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และดูแลหนังศีรษะให้แข็งแรง

ผมร่วงจนเหนื่อยใจ 
ได้เวลาปรึกษาแพทย์
หลายคนอาจจะปล่อยเวลาล่วงเลยจนอาการผมร่วงอยู่ในระดับที่รุนแรงขึ้น บางคนเริ่มสังเกตเห็นหนังศีรษะตรงบริเวณที่ผมบางชัดขึ้น ถึงตรงนี้ นามนินขอแนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการดูแลฟื้นฟูเส้นผม เพื่อวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด ด้วยวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้

ปลูกผมถาวร เทคนิค NEAT 
เป็นการเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอยมาปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยไม่ต้องโกนผม ไม่ต้องผ่าตัด เพียงใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการปลูกผมโดยเฉพาะ จึงลดอาการบวม เจ็บ เลือดออกน้อย รอยแผลเล็ก จนแทบไม่ต้องพักฟื้น หลังปลูกเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที โดยแพทย์จะเป็นผู้วางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ให้ตอบโจทย์สภาพปัญหาและความต้องการของคนไข้อย่างแท้จริง อาศัยทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในการเติมเต็มเส้นผม เพื่อคืนความมั่นใจให้กับคนไข้ 

ที่สำคัญ เทคนิค NEAT เป็นการปลูกผมโดยแพทย์เองแบบเส้นต่อเส้น จึงวางใจได้ในประสิทธิภาพ ความละเอียดพิถีพิถันและความใส่ใจ แพทย์ยังต่อยอดเทคนิคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนไข้ ทั้งในขณะเข้ารับการปลูกผม และเมื่อกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหลังปลูก




ทั้งนี้ แพทย์ให้แนะนำให้เริ่มเข้ารับการปลูกผมเทคนิค NEAT โดยไม่ต้องรอให้สูงวัย หรือรอให้ปัญหาผมบางรุนแรงเสียก่อน และนี่คือเหตุผลที่คุณผู้ชายควรเริ่มรักษาตั้งแต่ผมเริ่มร่วงเพียงไม่มาก หรือผมเริ่มบางเพียงเล็กน้อย  

  • ข้อแรก การปลูกผมเป็นการใช้กราฟต์ผมคุณภาพดีจากด้านหลังท้ายทอยของคนไข้เอง ซึ่งมีปริมาณจำกัด และอาจเหลือน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น การเริ่มปลูกผมตั้งแต่อายุยังน้อย พื้นที่ผมบางยังไม่กว้าง ทำให้มั่นใจได้ว่า จะมีกราฟต์ผมเพียงพอสำหรับปลูกใหม่ 
  • ต่อเนื่องจากข้อแรก เมื่อใช้จำนวนกราฟต์ผมน้อยในการปลูกใหม่ นั่นหมายความว่า ค่าใช้จ่ายก็จะยังไม่สูงเมื่อเทียบกับผู้ที่ผมบางหรือผมล้านรุนแรงเป็นวงกว้าง
  • ข้อต่อมา หากปลูกผมตั้งแต่ในช่วงวัยหนุ่ม ซึ่งปัญหาผมบางยังไม่รุนแรง หลังปลูกเพื่อเติมเต็มผมใหม่แล้ว ภาพลักษณ์และบุคลิกจะยังดูไม่เปลี่ยนไปมาก จนแทบไม่มีใครสังเกตหรือทักว่าไปปลูกผมมา จึงไม่ต้องกังวลในจุดนี้
  • สุดท้าย แพทย์จะติดตามดูแลผลทุกระยะด้วยตัวเอง ตลอดเวลา 1 ปีเต็ม จนกว่าผมใหม่จะเติบโตแข็งแรงอย่างสมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่ได้จึงอยู่กับคนไข้ไปได้นานที่สุด

PHB Treatment
นอกจากการปลูกผมถาวรแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้เข้ารับบริการ Treatment อย่างเช่นโปรแกรม PHB ที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงและฟื้นฟูผมถึงชั้นลึก ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมจากภายใน ทั้งเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ เร่งการสร้างเซลล์ผมใหม่ พร้อมชะลอผมหลุดร่วง 



โปรแกรม PHB มีขั้นตอนที่สะดวกสบาย เพียงใช้วิธีฉีดเข้าสู่หนังศีรษะโดยตรงในจุดที่มีปัญหา โดยไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มพบปัญหาผมร่วง ผมบาง ในระยะเริ่มต้น ซึ่งคนไข้สามารถสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่เข้ารับบริการครั้งแรก

Hair Revive Treatment
สำหรับ Hair Revive Treatment เป็นโปรแกรมที่เน้นคุณประโยชน์จากสารสกัดจากธรรมชาติร่วมกับสารอาหารผม ช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้น ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย กระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม เร่งการงอกใหม่ และลดโอกาสผมหลุดร่วง โดยจะเป็นการเปิดผิวด้วย Microneedle Therapy ความลึก 0.5 มิลลิเมตร ให้ผิวพร้อมเต็มที่สำหรับรับการบำรุงจากผลิตภัณฑ์ที่จะทาลงบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง

Hair Revive Treatment ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากหลากหลายสาเหตุที่นำเสนอไว้ในช่วงต้น ทั้งยังเหมาะกับผู้ที่เข้ารับบริการปลูกผมแล้วตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป



หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณผู้ชายเข้าใจที่มาที่ไปของอาการผมร่วง ผมบาง ได้ดีขึ้น เพื่อนำไปสู่แนวทางการรักษาฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะที่ถูกต้อง หรือสามารถเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ของนามนินได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง

ฟื้นฟูผมบางจากภาวะ SLE ด้วยโปรแกรม PHB และ Hair Revive Program
โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง หรือที่เรียกว่า Systemic Lupus Erythematosus (SLE) เป็นภาวะเรื้อรังที่เกิดจากความแปรปรวนของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งในภาวะปกติ “ระบบภูมิคุ้มกัน” จะทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ แต่สำหรับผู้ป่วย SLE ระบบภูมิคุ้มกันกลับเข้าใจผิดว่าร่างกายตัวเองคือศัตรู จึงสร้างแอนติบอดีโจมตีเนื้อเยื่อต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการอักเสบในหลายอวัยวะ เช่น ผิวหนัง ข้อต่อ ไต หัวใจ ปอด เลือด และระบบประสาท ทำให้อาการของผู้ป่วยแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนอาจมีเพียงผื่นและผมร่วง ขณะที่บางคนอาจประสบอาการภายในร่วมด้วย


หนึ่งในอาการที่ส่งผลต่อความมั่นใจของหลายคนคือ “ภาวะผมร่วง” ซึ่งมักเกิดจากรูขุมขนที่ถูกกระทบจากความแปรปรวนของระบบภูมิคุ้มกัน รากผมอาจอักเสบหรือหยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงง่าย และบางครั้งอาจมาพร้อมกับผิวหนังอักเสบร่วมด้วย ลักษณะผมร่วงจาก SLE มักเป็นแบบกระจายทั่วศีรษะ หรือร่วงเป็นหย่อมๆ โดยไม่ทิ้งแผลเป็น และมักสัมพันธ์กับช่วงที่โรคลุกลามหรือการใช้ยาบางชนิด


หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังเผชิญกับภาวะนี้ หรือรู้สึกกังวลใจทุกครั้งที่เห็นเส้นผมหลุดร่วงและบางลง นามนินคลินิกขออยู่เคียงข้าง เพื่อดูแลและช่วยให้คุณก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างมั่นใจ เพราะตราบใดที่รูขุมขนยังสมบูรณ์และไม่ถูกทำลายถาวร การฟื้นฟูอย่างถูกวิธีจะสามารถช่วยให้ผมกลับมางอกใหม่ได้อีกครั้ง ด้วย โปรแกรม PHB และ Hair Revive Program ที่ได้รับออกแบบและพัฒนาโดย พญ.นิล นามทองต้น แพทย์ปลูกผม ซึ่งทั้งสองโปรแกรมเป็นทางเลือกในการฟื้นฟูเส้นผมโดยไม่จำเป็นต้องปลูกผมค่ะ 

ในทุกขั้นตอนของโปรแกรม PHB และ Hair Revive Program คุณหมอนินจะดูแลด้วยตัวเอง เริ่มจากการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจปัญหาเฉพาะบุคคล และตรวจวิเคราะห์สภาพเส้นผมกับหนังศีรษะอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการดูแลอย่างเหมาะสมที่สุด เพราะเส้นผมและรากผมของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การดูแลอย่างตรงจุดจึงเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูค่ะ

เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดูแล คุณจะได้รับการฉายแสง LLLT (Low-Level Laser Therapy) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแสงเลเซอร์อ่อนโยนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ปุ่มผมให้สามารถลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงรากผมได้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะ เสริมให้รากผมแข็งแรงและพร้อมสำหรับการฟื้นตัว


สองโปรแกรมนี้จะมีเทคนิคแตกต่างกันเล็กน้อย โปรแกรม PHB จะเป็นการฉีดสารบำรุงเข้าที่หนังศีรษะ เพื่อเติมเต็มความแข็งแรงให้รากผมโดยตรง ช่วยให้เส้นผมที่อ่อนแอกลับมามีชีวิตชีวา ดกดำ และเงางามขึ้น ส่วน Hair Revive Program เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงลึกแต่ไม่สะดวกใจกับการใช้เลือดของตนเอง เป็นการบำรุงด้วยเทคนิค Microneedle Therapy โดยใช้เข็มขนาดเล็กเพียง 0.5 มิลลิเมตร สะกิดเบา ๆ บนหนังศีรษะ เพื่อเปิดทางให้ตัวยาซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซลล์ผมใหม่ จากนั้นจึงลงผลิตภัณฑ์บำรุงเฉพาะจุด เพื่อเสริมความแข็งแรงให้รากผมในระยะยาว ซึ่งคุณหมอนินจะเป็นผู้ให้คำแนะนำและเลือกแนวทางการดูแลที่เหมาะสมให้แต่ละท่านค่ะ



เมื่อดูแลต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ทั้งสองโปรแกรมจะค่อย ๆ กระตุ้นให้เส้นผมกลับมางอกใหม่ เพิ่มความหนาแน่น และทำให้เส้นผมดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เส้นผมที่เคยบางจะค่อย ๆ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พร้อมคืนความมั่นใจให้คุณได้อย่างอ่อนโยนและยั่งยืน

แม้การเผชิญกับโรค SLE อาจเป็นเส้นทางที่ยาวนานและต้องอาศัยทั้งความอดทนและกำลังใจ แต่โปรดรู้ไว้ว่าคุณไม่ได้เดินอยู่ลำพัง ทุกการดูแลและความตั้งใจเล็ก ๆ ที่คุณมอบให้ตัวเองในแต่ละวัน ล้วนเป็นก้าวสำคัญของการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ นามนินคลินิกเชื่อว่า “ความงามและความมั่นใจ” ไม่ได้หายไปพร้อมกับเส้นผมที่ร่วงหล่น หากแต่สามารถกลับมาได้เสมอ เมื่อได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ขอเพียงคุณเปิดใจให้เราดูแลไปพร้อมกัน ผมที่เคยอ่อนแอจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง พร้อมรอยยิ้มและความมั่นใจจากภายในค่ะ 



แพทย์ไทยร่วมทีม ผลงานวิจัยนานาชาติชี้ “ไคโตซาน“ สารสกัดธรรมชาติทางเลือกใหม่ เสริมการงอกของเส้นผม ผลลัพธ์เทียบ Minoxidil 5%
ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นเรื่องที่หลายคนกังวล โดยเฉพาะภาวะ ผมร่วงแบบพันธุกรรม (Androgenetic alopecia) และ ผมร่วงกระจาย (Diffuse hair loss) ซึ่งพบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ประมาณ 50% ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ปัจจุบันการรักษามาตรฐานที่นิยมคือ ไมนอกซิดิล ( minoxidil ) และ ฟิแนสเตอไรด์ (finasteride ) แต่ก็มีผู้ที่ตอบสนองต่อการรักษาไม่เท่ากัน และมีข้อจำกัด เช่น ผลข้างเคียงต่อระบบร่างกาย และการตอบสนองที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ทำให้เกิดความสนใจในทางเลือกอื่น ๆ ที่ไม่พึ่งฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้น

ล่าสุดทีมนักวิจัยจากนานาชาติ ได้ร่วมกันศึกษาประสิทธิภาพของ ไคโตซาน (Chitosan) สารสกัดจากธรรมชาติจากพืช ที่มีคุณสมบัติที่สามารถนำมาใช้เสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม



การวิจัยครั้งนี้จัดทำโดยคณะแพทย์จากหลายสถาบันในประเทศเกาหลีใต้  ประเทศไทย และอินโดนีเซีย ซึ่งหนึ่งในคณะแพทย์ผู้ร่วมวิจัยคือ พญ.นิล นามทองต้น แพทย์ปลูกผม จาก นามนิน คลินิก ประเทศไทย ซึ่งได้เข้าร่วมออกแบบและวิเคราะห์ผลการศึกษา

ผลลัพธ์จากการศึกษานี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทางเลือกการรักษาผมร่วงรูปแบบใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน
การใช้ไคโตซานอาจมี ข้อได้เปรียบที่สำคัญ ได้แก่
 • การดูดซึมเข้าสู่ระบบร่างกายน้อยมาก (minimal systemic absorption)
 • ไม่มีผลต่อฮอร์โมน (absence of hormonal effects)



แสดงให้เห็นถึง ความปลอดภัยที่ดีและการตอบสนองทางคลินิกในระยะแรก จากการใช้บนหนังศีรษะของมนุษย์  สามารถเพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม, จำนวนของเส้นผม และความพึงพอใจของผู้ป่วยได้ โดยไม่พบผลข้างเคียงใด ๆ ระหว่างการศึกษา

นอกจากนี้ วรรณกรรมทางการแพทย์ก่อนหน้านี้ที่ศึกษา ผลิตภัณฑ์ไคโตซานทาผิวหนัง ยังสนับสนุนว่า ความเข้มข้น สูงสุดถึง 2% สามารถใช้ได้อย่าง ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในการเร่งการสมานแผลและการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ

ผลการศึกษานี้สนับสนุนว่า ไคโตซาน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับไมโครนีดเดิล อาจเป็นทางเลือกที่ไม่ใช้ฮอร์โมน (non-hormonal alternative) เป็นแนวทางการรักษาใหม่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับการฟื้นฟูเส้นผม

รายละเอียดงานวิจัยฉบับเต็ม
https://journals.lww.com/jcraniofacialsurgery/abstract/9900/comparative_efficacy_of_topical_chitosan_and.3275.aspx

หมายเหตุ
Journal of Craniofacial Surgery เป็นวารสารทางการแพทย์ที่มีการผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer-reviewed journal) เน้นเผยแพร่บทความวิจัยและบทความวิชาการด้านศัลยกรรมใบหน้าและกะโหลกศีรษะ รวมถึงศัลยกรรมตกแต่งเด็กและศัลยกรรมช่องปาก มีลักษณะเป็นวารสารวิชาการแบบตีพิมพ์เป็นระยะ (bi-monthly) โดยสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียง Lippincott Williams & Wilkins


เติมอาหารผม ด้วย “วิตามิน” แก้ผมร่วง
วันนี้ คุณเติมอาหารดี ๆ ให้เส้นผมหรือยัง ? 

เส้นผมก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ที่ต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงเพื่อการเจริญเติบโตและการทำงานของเซลล์ที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน และหนึ่งในอาหารที่คนรักผมควรเลือกรับประทานเพื่อบำรุงผมให้แข็งแรง ก็คือ “วิตามิน” ซึ่งเป็นสารอาหารเปี่ยมคุณประโยชน์ที่จำเป็นต่อการทำงานแทบทุกส่วนของร่างกาย 

นามนินจึงขอแนะนำคุณประโยชน์ของวิตามินชนิดต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมให้เส้นผมสุขภาพดีจากภายใน ไม่หลุดร่วงง่าย ไม่ต้องโบกมือบ๊ายบายเส้นผมไปก่อนเวลาอันควร เพราะบางครั้งสาเหตุของอาการผมร่วง ก็มาจากการขาดวิตามินบางชนิดได้เหมือนกัน โดยเราสามารถเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินสูง หรือรับประทานวิตามินเสริมเพื่อบำรุงและฟื้นฟูเส้นผม ภายใต้คำแนะนำของแพทย์


Biotin 
ช่วยเสริมสร้างเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนส่วนประกอบหลักของผม กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรง ลดอาการผมเปราะบาง แห้งเสีย ขาดหลุดร่วงง่าย
แหล่งอาหาร – ปลาแซลมอน ไข่ ตับ ถั่ว มันหวาน อะโวคาโด

Vitamin D 
ช่วยเสริมการทำงานของรูขุมขนให้เป็นไปอย่างปกติ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผมใหม่ เพิ่มความเงางามให้เส้นผม หากขาดวิตามินดี จะยิ่งเสี่ยงต่ออาการผมร่วงเป็นหย่อม ๆ
แหล่งอาหาร - นม ไข่ ปลาแซลมอน (หรือสามารถใช้วิธีออกไปรับแสงแดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าก็ได้เช่นกัน)

Vitamin E 
มีส่วนสำคัญในการสร้างเคราติน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนเลือดที่หนังศีรษะ ทำให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม ดูมีชีวิตชีวา
แหล่งอาหาร - เนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่ว ธัญพืชต่าง ๆ

Vitamin A 
มีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของเซลล์ทุกส่วนในร่างกาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังกระตุ้นการผลิตซีบัม หรือน้ำมันตามธรรมชาติ ทำให้หนังศีรษะไม่แห้ง โดยควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม
แหล่งอาหาร – ผักใบเขียว มะเขือเทศ ฟักทอง ผลไม้ ตับ น้ำมันปลา ไข่ นม

Vitamin C 
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บำรุงรากผม ลดการอักเสบ พร้อมปกป้องเส้นผมจากสารอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุทำให้ผมอ่อนแอหลุดร่วงง่ายได้เช่นกัน
แหล่งอาหาร - ส้ม มะนาว ฝรั่ง ผักคะน้า ผักโขม ผักกาดขาว ดอกกะหล่ำ

Vitamin B รวม 
ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดไปที่หนังศีรษะ เสริมบำรุงรากผมให้แข็งแรง
แหล่งอาหาร -  เนื้อสัตว์ โดยเฉพาะปลา ไข่ ถั่ว ผักใบเขียว 


เมื่ออาหารผมที่ดี คือทางเลือกในการปกป้องและแก้ปัญหาเส้นผมจากภายใน ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะหันมาใส่ใจดูแลเส้นผม และบอกรักผมด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างเช่นการเติมวิตามินที่ใช่ให้เส้นผมนั่นเอง

ยกหน้า Endotine ทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
อาการ “ผมร่วง” หลังการทำศัลยกรรม เป็นปัญหาที่อาจพบได้ในบางกรณี เนื่องจากการทำศัลยกรรมบางครั้งจำเป็นต้องมีการผ่าตัดและการเย็บแผลในบริเวณหนังศีรษะ เท่ากับว่าอาจเกิดความเสี่ยงที่จะไปรบกวนหรือกระทบกระเทือนรากผมบริเวณนั้น จนเกิดภาวะผมร่วงตามมาได้

Endotine เป็นหัตถการหนึ่งที่เน้นดูแลปัญหาใบหน้าส่วนบน ได้แก่ช่วงหน้าผากและคิ้ว จึงมีโอกาสที่จะส่งผลกระทบถึงรากผมได้เช่นกัน โดย Endotine เป็นชื่อเรียกเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ขนาดเล็กที่เป็นส่วนหนึ่งของการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ผลิตจากวัสดุทางการแพทย์ สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ Endotine จะถูกสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยึดกับเนื้อเยื่อและช่วยยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงขึ้น สามารถยกกระชับใบหน้าได้หลายส่วน เช่น แก้ม คาง แต่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือการใช้ Endotione ยกกระชับหน้าผากและคิ้ว เพื่อปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย และคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าอีกครั้ง



ทั้งนี้ แผลผ่าตัดที่เกิดขึ้นจากการทำ Endotine ยกกระชับหน้าผากและคิ้ว จะได้รับการซ่อนไว้ในบริเวณไรผม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการ “ผมร่วง” ได้ หากแพทย์ผู้ทำหัตถการไม่ได้มีความชำนาญในการผ่าตัด หรือมีความระมัดระวังมากเพียงพอ แผลดังกล่าวอาจไปกระทบกระเทือนให้รากผมเกิดความเสียหาย หรืออีกกรณีหนึ่ง หลังทำหัตถการเรียบร้อยแล้ว คนไข้ขาดความเอาใจใส่ที่จะดูแลแผลให้ดี จนเกิดอาการแทรกซ้อนหรือติดเชื้อ ก็ส่งผลให้รากผมเกิดการบาดเจ็บ เสียหายได้เช่นกัน






อย่างไรก็ตาม หากแพทย์ผู้ทำหัตถการ เลือกตำแหน่งหรือวางแนวแผลผ่าตัดที่เหมาะสม พร้อมกับเพิ่มความระมัดระวังทะนุถนอมรากผมไม่ให้ถูกรบกวนหรือทำลายระหว่างผ่าตัด ก็จะลดโอกาสการหลุดร่วงของเส้นผมได้
และสำหรับคนไข้บางรายที่เผชิญกับภาวะผมร่วงหลังการทำหัตถการ Endotine ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะโดยทั่วไป อาการเหล่านั้นจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งผมของคนไข้จะเริ่มกลับมาหลังผ่านไป 6 - 8 เดือน ขณะที่คนไข้บางคนอาจเผชิญภาวะผมร่วงกินพื้นที่กว้าง หรือในระยะเวลาที่นานกว่านั้น ซึ่งคนไข้สามารถดูแลตนเองเบื้องต้นได้ ด้วยการทาเซรั่มลดการหลุดร่วงและเร่งการงอกใหม่ของเส้นผม หรือรับประทานวิตามินบำรุงที่อุดมไปด้วยสารอาหารผมมากคุณประโยชน์โดยตรง

แต่สำหรับใครที่ต้องการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาเร็วขึ้น ปัจจุบันนามนินมีโปรแกรมแก้ปัญหาผมร่วงหลัก 2 แบบ คือ
Hair Revive Program และ PHB  ซึ่งต่างให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่มีวิธีการรักษาแตกต่างกัน

Hair Revive Program
โปรแกรมลดโอกาสผมหลุดร่วง กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม มีข้อดีคือไม่จำเป็นต้องใช้เลือดของผู้เข้ารับบริการ ระหว่างทำจะใช้แสงเลเซอร์พลังต่ำ (LLLT) และใช้ Microneedle สะกิดหนังศีรษะเพื่อส่งสารบำรุงสู่ผิวชั้นลึก


PHB
เป็นทรีตเมนต์ที่ต้องใช้เลือดของผู้เข้ารับบริการ โดยแพทย์จะนำเลือดไปผ่านกระบวนการแยกส่วนประกอบพร้อมกับเพิ่มวิตามินของนามนินเข้าไปแล้วจึงฉีดกลับเข้าสู่หนังศีรษะโดยตรง วิธีนี้ช่วยฟื้นฟูรากผม ลดการหลุดร่วง และกระตุ้นให้ผมงอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเร่งฟื้นฟูเส้นผม หรืออยู่ในช่วงเริ่มมีปัญหาผมบาง




ไม่ว่าคุณจะเลือก Hair Revive Program หรือ PHB ทั้งสองวิธีล้วนออกแบบมาเพื่อฟื้นบำรุงและเสริมความแข็งแรงของรากผม ให้เส้นผมค่อย ๆ กลับมาดกหนาและมีสุขภาพดีอีกครั้ง โดยแพทย์จะช่วยประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพผมและความต้องการของคุณ