สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง คือรางวัลของคนที่ดูแลตัวเองอย่างตั้งใจเต็มที่ หลายคนหมั่นออกกำลังกายเพื่อร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มเป็นประจำ หลายคนเลือกรับประทานแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์ แต่คนรักสุขภาพเหล่านี้ บางคนกลับยังต้องเผชิญกับปัญหาน่าเหนื่อยใจอย่างเช่น “ผมร่วงและผมบาง”
ทั้งที่ดูแลตัวเองดีขนาดนี้
แต่ทำไมสุขภาพผมถึงไม่ดีตามไปด้วยนะ
นั่นเป็นเพราะว่า ภาวะผมร่วงและผมบาง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แม้ว่าเจ้าของเส้นผมจะดูแลสุขภาพดีแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่ใช่การดูแลปัญหาผมอย่างตรงจุดตรงสาเหตุ ก็อาจจะไม่สามารถยับยั้งหรือชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมได้
ผมร่วงระดับไหน
ที่ควรเริ่มกังวลใจได้แล้ว
มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ที่จริงแล้ว ผมของคนเราจะหลุดร่วงเป็นปกติอยู่ทุก ๆ วัน ตามวงจรธรรมชาติของเส้นผม แต่อาการผมร่วงที่อาจเรียกได้ว่าผิดปกติ และเป็นสัญญาณว่าควรได้รับการดูแลรักษา สามารถสังเกตเบื้องต้นง่าย ๆ ได้ดังนี้
- เส้นผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ สังเกตได้จากเวลาที่เราสระผม หวีผม กวาดพื้นห้อง หรือสังเกตผมที่ร่วงบนหมอน
- ผมร่วงจำนวนมากแบบเฉียบพลัน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- ผมร่วงเป็นหย่อม จนมองเห็นหนังศีรษะ
- ผมร่วง ร่วมกับอาการอักเสบและเป็นแผลบนหนังศีรษะ
ได้เวลาค้นหาสาเหตุที่จริงของอาการ “ผมร่วง”
เมื่อเริ่มรู้สึกแล้วว่า อาการผมร่วงของเรา น่าจะอยู่ในระดับที่ผิดปกติ ขั้นถัดมาคือการสังเกตตัวเองเพื่อมองหาสาเหตุของภาวะผมร่วง หรือปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านเส้นผม เพื่อร่วมกันวิเคราะห์หาสาเหตุ รวมถึงแนวทางรักษา ซึ่งสาเหตุของการที่ผมหลุดร่วงมากกว่าที่ควร มาจากปัจจัยที่หลากหลาย นอกเหนือไปจากการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม
ย้อนมองคนใกล้ตัว
มีใครในครอบครัว ผมบางหรือผมล้านบ้างไหม
ปัจจัยด้านกรรมพันธุ์ คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คุณผู้ชายส่วนมากต้องเผชิญกับอาการผมร่วง ผมบาง ที่อาจนำไปสู่ภาวะผมล้านในที่สุด ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่มีอาการผมร่วงจากพันธุกรรม มักจะมีเจ้าฮอร์โมนที่ชื่อ DHT เป็นสาเหตุสำคัญร่วมด้วย โดยเอนไซม์ 5-alpha reductase ที่หนังศีรษะ จะเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชาย เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ให้กลายเป็นฮอร์โมน ไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) หรือ DHT ซึ่งจะพบเป็นปริมาณมากในผู้ที่ได้รับกรรมพันธุ์ผมร่วงผมบาง ส่งต่อกันมาจากคนในครอบครัว เพราะพันธุกรรมจะเป็นตัวกำหนดว่ารูขุมขนจะไวต่อ DHT มากน้อยแค่ไหน

ฮอร์โมน DHT จะเข้าไปจับกับตัวรับสัญญาณที่บริเวณรูขุมขนหรือรากผม ส่งผลให้วงจรชีวิตตามธรรมชาติของเส้นผมเปลี่ยนไป นั่นคือทำให้ระยะเจริญเติบโตของเส้นผมบนหนังศีรษะสั้นลง ขณะเดียวกันก็ทำให้ระยะพักตัว หรือระยะที่เส้นผมเก่าจะถูกดันให้หลุดร่วง เพื่อเตรียมฟื้นฟูสร้างเส้นผมใหม่ กินเวลานานขึ้น ทำให้เส้นผมหลุดร่วงไปก่อนเวลาอันควร อีกทั้งงอกใหม่ช้าลง ๆ ไม่เพียงเท่านั้น ฮอร์โมน DHT ยังส่งผลให้รูขุมขนเล็กลง รากผมอ่อนแอลง เส้นผมที่งอกใหม่จึงมีขนาดเล็ก บาง ไม่แข็งแรง เสี่ยงต่อการหลุดร่วงมากขึ้น หรืออาจถึงขั้นหยุดงอกใหม่ตลอดไป
ลองสำรวจสภาพใจดูบ้าง
เพราะบางครั้งเราอาจจะเครียดโดยไม่รู้ตัว
ความเครียด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมหลุดร่วงผิดปกติได้เช่นกัน เพราะเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งจะไปรบกวนวงจรชีวิตตามธรรมชาติของเส้นผม ทำให้เข้าสู่ระยะพักตัวเป็นเวลานานขึ้น วงจรชีวิตผมสั้นลง และหลุดร่วงเร็วกว่าที่ควร ความเครียดยังส่งผลต่อพฤติกรรมบางอย่างที่อาจจะทำร้ายเส้นผมซ้ำได้อีก เช่น การแกะเกา หรือดึงผมตัวเองโดยไม่รู้ตัว ยิ่งทำให้รากผมเสียหาย และงอกใหม่ช้าลง
ส่วนใครที่มักจะนอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ นี่ก็เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเช่นกัน ทั้งยังรบกวนการผลิตโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่มีส่วนในการสร้างเซลล์ผมอีกด้วย
กินอาหารดี
แต่บางทีอาจไม่ครบตามหลักโภชนาการก็เป็นได้
แม้ว่าเราจะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่อาจจะยังตกหล่นสารอาหารที่จำเป็นต่อการดูแลเส้นผมไป โดยเฉพาะวิตามินหรือแร่ธาตุที่จำเป็น อย่างเช่น ไบโอติน ธาตุเหล็ก หรือสังกะสี รวมไปถึงโปรตีนที่อาจจะยังไม่เพียงพอ ซึ่งโครงสร้างส่วนใหญ่ของเส้นผมคือโปรตีนนั่นเอง ที่สำคัญ ยังควรต้องระมัดระวังเรื่องการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เพราะ 2 สิ่งนี้ ก็เป็นตัวการที่กระตุ้นให้เกิดอาการผมร่วงโดยตรงเช่นกัน
เรื่องเล็กที่เรามักมองข้าม
สำรวจพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัว
แม้จะเป็นพฤติกรรมเล็ก ๆ แต่เมื่อทำบ่อย ๆ วนซ้ำเป็นประจำ ก็อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เส้นผมของเราอ่อนแอลงได้เหมือนกัน เริ่มจากการสระผมบ่อยเกินไป ที่ทำให้หนังศีรษะแห้ง จนส่งผลให้รากผมอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการหลุดร่วงของเส้นผม บางคนอาจใช้แชมพูทำความสะอาดที่ไม่เหมาะกับเส้นผม หรือมีสารเคมีที่ทำให้ผมอ่อนแอลง หรือบางคนหวีผมขณะผมเปียกหลังสระเสร็จใหม่ ๆ ซึ่งผมที่เปียกคือผมที่อยู่ในช่วงเปราะบาง ทำให้ขาดง่ายกว่าปกติ
การจัดแต่งทรงผม ก็มีส่วนทำให้ผมร่วงได้ เพราะเป็นการใช้สารเคมีต่าง ๆ กับเส้นผมและหนังศีรษะโดยตรง และบางครั้งก็มีการใช้ความร้อนที่มากเกินไป ซึ่งหากผมไม่ได้รับการบำรุงดูแลอย่างดี ก็จะยิ่งถูกทำร้ายได้ง่ายขึ้น
ส่วนใครที่มักจะใช้ชีวิตประจำวันกลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่มีหมวก หรือร่ม ช่วยปกป้องเส้นผม ก็อาจถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ เช่นผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้งเป็นประจำ เป็นต้น
วัยและโรคภัยไข้เจ็บ
อีกสาเหตุหนึ่งของอาการผมร่วง
ทราบหรือไม่ว่า ผู้ชายที่เข้าสู่ช่วงอายุ 30 – 40 ปี มักจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเส้นผม ทั้งผมร่วงมากขึ้น ผมบางลง หรือผมบริเวณหน้าผากเว้าเข้าไปเป็นรูปตัว M ลึกขึ้นกว่าเดิม และยังรวมถึงสาเหตุจากปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อย่างเช่นการที่ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ การได้รับเคมีบำบัด หรืออาจมีโรคผิวหนังบางชนิดเกิดขึ้นบริเวณหนังศีรษะ เป็นต้น
แม้ว่าใคร ๆ ก็มีโอกาสเผชิญกับปัญหาผมร่วงและผมบาง จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งที่ดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะผมร่วง ผมบาง เป็นอาการที่คุณผู้ชายสามารถดูแลหรือรักษาให้ดีขึ้นได้ (ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผมของแต่ละคน) และเมื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการเลือกแนวทางการฟื้นฟูเส้นผมที่เหมาะสมและตอบโจทย์มากที่สุด
แนะวิธีรับมือปัญหาผมร่วง ผมบาง เบื้องต้น
สำหรับคุณผู้ชาย
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมในชีวิตในประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการสระผม หวีผม จัดแต่งทรงผม หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องรับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน
- พฤติกรรมต่าง ๆ ยังรวมไปถึงการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดูแลจิตใจไม่ให้เกิดความเครียด และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- เลือกรับประทานอาหารถูกต้องครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เน้นสารอาหารที่หลากหลายและจำเป็นสำหรับการดูแลเส้นผม เช่น วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี ไบโอติน สังกะสี ธาตุเหล็ก รวมถึงสารอาหารสำคัญอย่าง โปรตีน ซึ่งในปัจจุบันสามารถเลือกรับประทานโปรตีน ในรูปของเปปไทด์ที่สกัดจากพืช เช่นถั่วลันเตาหรือถั่วเหลืองได้อย่างสะดวกสบาย
- อีกทางเลือกหนึ่งที่คุณผู้ชายสามารถดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ ก็คือการทาเซรั่มบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และดูแลหนังศีรษะให้แข็งแรง
ผมร่วงจนเหนื่อยใจ
ได้เวลาปรึกษาแพทย์
หลายคนอาจจะปล่อยเวลาล่วงเลยจนอาการผมร่วงอยู่ในระดับที่รุนแรงขึ้น บางคนเริ่มสังเกตเห็นหนังศีรษะตรงบริเวณที่ผมบางชัดขึ้น ถึงตรงนี้ นามนินขอแนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการดูแลฟื้นฟูเส้นผม เพื่อวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด ด้วยวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้
ปลูกผมถาวร เทคนิค NEAT
เป็นการเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอยมาปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยไม่ต้องโกนผม ไม่ต้องผ่าตัด เพียงใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการปลูกผมโดยเฉพาะ จึงลดอาการบวม เจ็บ เลือดออกน้อย รอยแผลเล็ก จนแทบไม่ต้องพักฟื้น หลังปลูกเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที โดยแพทย์จะเป็นผู้วางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ให้ตอบโจทย์สภาพปัญหาและความต้องการของคนไข้อย่างแท้จริง อาศัยทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในการเติมเต็มเส้นผม เพื่อคืนความมั่นใจให้กับคนไข้
ที่สำคัญ เทคนิค NEAT เป็นการปลูกผมโดยแพทย์เองแบบเส้นต่อเส้น จึงวางใจได้ในประสิทธิภาพ ความละเอียดพิถีพิถันและความใส่ใจ แพทย์ยังต่อยอดเทคนิคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนไข้ ทั้งในขณะเข้ารับการปลูกผม และเมื่อกลับไปใช้ชีวิตประจำวันหลังปลูก
ทั้งนี้ แพทย์ให้แนะนำให้เริ่มเข้ารับการปลูกผมเทคนิค NEAT โดยไม่ต้องรอให้สูงวัย หรือรอให้ปัญหาผมบางรุนแรงเสียก่อน และนี่คือเหตุผลที่คุณผู้ชายควรเริ่มรักษาตั้งแต่ผมเริ่มร่วงเพียงไม่มาก หรือผมเริ่มบางเพียงเล็กน้อย
- ข้อแรก การปลูกผมเป็นการใช้กราฟต์ผมคุณภาพดีจากด้านหลังท้ายทอยของคนไข้เอง ซึ่งมีปริมาณจำกัด และอาจเหลือน้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น การเริ่มปลูกผมตั้งแต่อายุยังน้อย พื้นที่ผมบางยังไม่กว้าง ทำให้มั่นใจได้ว่า จะมีกราฟต์ผมเพียงพอสำหรับปลูกใหม่
- ต่อเนื่องจากข้อแรก เมื่อใช้จำนวนกราฟต์ผมน้อยในการปลูกใหม่ นั่นหมายความว่า ค่าใช้จ่ายก็จะยังไม่สูงเมื่อเทียบกับผู้ที่ผมบางหรือผมล้านรุนแรงเป็นวงกว้าง
- ข้อต่อมา หากปลูกผมตั้งแต่ในช่วงวัยหนุ่ม ซึ่งปัญหาผมบางยังไม่รุนแรง หลังปลูกเพื่อเติมเต็มผมใหม่แล้ว ภาพลักษณ์และบุคลิกจะยังดูไม่เปลี่ยนไปมาก จนแทบไม่มีใครสังเกตหรือทักว่าไปปลูกผมมา จึงไม่ต้องกังวลในจุดนี้
- สุดท้าย แพทย์จะติดตามดูแลผลทุกระยะด้วยตัวเอง ตลอดเวลา 1 ปีเต็ม จนกว่าผมใหม่จะเติบโตแข็งแรงอย่างสมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่ได้จึงอยู่กับคนไข้ไปได้นานที่สุด
PHB Treatment
นอกจากการปลูกผมถาวรแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้เข้ารับบริการ Treatment อย่างเช่นโปรแกรม PHB ที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงและฟื้นฟูผมถึงชั้นลึก ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมจากภายใน ทั้งเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ เร่งการสร้างเซลล์ผมใหม่ พร้อมชะลอผมหลุดร่วง
โปรแกรม PHB มีขั้นตอนที่สะดวกสบาย เพียงใช้วิธีฉีดเข้าสู่หนังศีรษะโดยตรงในจุดที่มีปัญหา โดยไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มพบปัญหาผมร่วง ผมบาง ในระยะเริ่มต้น ซึ่งคนไข้สามารถสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่เข้ารับบริการครั้งแรก
Hair Revive Treatment
สำหรับ Hair Revive Treatment เป็นโปรแกรมที่เน้นคุณประโยชน์จากสารสกัดจากธรรมชาติร่วมกับสารอาหารผม ช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้น ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย กระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม เร่งการงอกใหม่ และลดโอกาสผมหลุดร่วง โดยจะเป็นการเปิดผิวด้วย Microneedle Therapy ความลึก 0.5 มิลลิเมตร ให้ผิวพร้อมเต็มที่สำหรับรับการบำรุงจากผลิตภัณฑ์ที่จะทาลงบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง
Hair Revive Treatment ตอบโจทย์ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากหลากหลายสาเหตุที่นำเสนอไว้ในช่วงต้น ทั้งยังเหมาะกับผู้ที่เข้ารับบริการปลูกผมแล้วตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณผู้ชายเข้าใจที่มาที่ไปของอาการผมร่วง ผมบาง ได้ดีขึ้น เพื่อนำไปสู่แนวทางการรักษาฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะที่ถูกต้อง หรือสามารถเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ของนามนินได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อผลลัพธ์การรักษาที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง