Tag : ผมบาง
รอยแสกกว้าง รักษาได้ไม่ยาก
นอกจากจะต้องกังวลปัญหาไรผมสูง หน้าผากกว้าง ผมบางทั่วศีรษะเห็นชัดแล้ว สาว ๆ หลายคนก็ยังต้องกังวลกับปัญหารอยแสกผมกว้างอีกด้วย ซึ่งถ้าปล่อยไว้ ไม่หาวิธีการรักษาที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา ก็อาจทำให้เกิดปัญหาผมบางจนเห็นหนังศีรษะชัดได้ ซึ่งทำให้สูญเสียความมั่นใจสุด ๆ

โดยทั่วไปแล้วรอยแสกกว้างนั้นถือเป็นลักษณะผมบางรูปแบบหนึ่งที่พบมากในเพศหญิง มีสาเหตุหลักมาจากกรรมพันธุ์ และพฤติกรรมการแสกผมในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะส่งผลต่อการขึ้นใหม่ของเส้นผมที่จะเบนไปตามทิศทางที่แสกผม หรือมีการมัดผมที่รวบตึงจนเกินไป บวกกับความแข็งแรงของรากผมลดลง เมื่ออายุมากขึ้น ก็ทำให้เส้นผมหลุดร่วง เกิดรอยแสกกว้าง และมีปัญหาผมบางลงในที่สุด 

ปัญหารอยแสกกว้างแบบไหนที่ควรกังวล 
ผู้หญิงส่วนใหญ่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น จะเริ่มมีปัญหาผมบางจากบริเวณกลางศีรษะ ปรากฏเป็นรอยแสกผมกว้างเห็นชัด ซึ่งสามารถแบ่งระยะผมบางได้ตามระดับความรุนแรง เป็น 4 ระดับ ดังนี้
  • ระดับ 1 ที่สามารถสังเกตได้จากผมร่วงมากกว่า 200 เส้นต่อวัน
  • ระดับ 2 ลูกผมบริเวณกลางศีรษะขึ้นใหม่ลดน้อยลง
  • ระดับ 3 ที่รอยแสกผมมีลักษณะคล้ายกับต้นคริสต์มาสและเห็นหนังศีรษะชัดเจน  
  • ระดับ 4 ที่รอยแสกกลางไม่มีผมชุดใหม่ขึ้นเลย มองเห็นหนังศีรษะชัด และหนังศีรษะมีลักษณะเรียบไร้รูขุมขน  


วิธีป้องกันปัญหารอยแสกผมกว้าง
นอกจากสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยแสกผมกว้างจะมาจากกรรมพันธุ์แล้ว พฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็มีส่วนทำให้เกิดรอยแสกผมกว้างได้เช่นกัน ซึ่งมีวิธีป้องกันปัญหารอยแสกกว้าง ดังนี้

  • เปลี่ยนรอยแสกผม เช่น จากเดิมเคยไว้แสกกลาง อาจไว้แสกข้างไปทางซ้าย หรือขวาแทน เพื่อปรับแนวการขึ้นใหม่ของเส้นผม และยังเป็นการเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนลุค ให้น่าสนใจกว่าเดิมอีกด้วย 
  • เลี่ยงการมัดผม หรือรวบผมตึงเกินไป เพราะอาจเป็นการทำร้ายรากผมให้อ่อนแอได้
  • เลี่ยงการทำผมบ่อย ๆ หรือใช้สารเคมีกับเส้นผมและหนังศีรษะบ่อย ๆ เช่น การดัด ยืด ทำสีผม
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะสูตรอ่อนโยน ป้องกันการหลุดร่วงเส้นผม
  • ไม่หวีผมขณะผมเปียก เพื่อป้องกันผมร่วง 
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารกลุ่มโปรตีน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้รากผม 

ทั้งนี้หากเผชิญกับปัญหารอยแสกผมกว้างที่รุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก (ระยะ1-2) ก็ยิ่งดี  เพื่อรับการวินิจฉัยถึงสาเหตุ และรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมทันที เพื่อป้องกันไม่ให้รอยแสกกว้างกว่าเดิมในอนาคต 

และที่สำคัญหากเริ่มรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นก็จะยิ่งเห็นผลได้ดีในระยะเวลารวดเร็ว  แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกด้วย แต่จะรักษาด้วยวิธีไหนดีที่เจ็บตัวน้อยที่สุด และให้ประสิทธิภาพหลังการรักษาที่ดี ติดตามบทความของนามนินกันต่อเลย

โปรแกรม PHB หรือ Premium Hair Booster รักษารอยแสกกว้างโดยไม่ต้องผ่าตัด 
เพราะปัญหารอยแสกกว้างส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักมาจากกรรมพันธุ์ แม้การปลูกผมจะช่วยให้ผมหนาขึ้นได้ แต่ในอนาคตก็มีโอกาสที่จะเกิดรอยแสกกว้างเห็นชัดขึ้นอีก ฉะนั้นที่นามนินเราจะดูแลปัญหารอยแสกกว้าง ผมบางในผู้หญิงสำหรับเคสผมร่วงจากกรรมพันธุ์ ที่ไม่เหมาะกับการปลูกผม ด้วยเทคนิคพิเศษจากนามนิน ที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นด้วยโปรแกรม PHB หรือ Premium Hair Booster


โปรแกรมทรีตเมนต์ที่จะช่วยบำรุงดูแลผมอย่างล้ำลึกได้ถึงเซลล์รากผม อัดแน่นไปด้วยสารชีวโมเลกุลวิตามิน โปรตีน สารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงรากผมโดยเฉพาะ คิดค้นสูตรโดยแพทย์ผู้ชำนาญของนามนิน


ขณะเดียวกันโปรแกรม PHB ยังเห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับบริการ เช่น
  • สัมผัสได้ถึงเส้นผมร่วงลดน้อยลงภายใน 3-7 วันหลังเข้ารับบริการ  
  • สังเกตเห็นเส้นผมอ่อน เส้นผมงอกใหม่ใน 1-3 เดือนหลังเข้ารับบริการ
  • รู้สึกว่าเส้นผมมีลักษณะเส้นใหญ่ขึ้น ปริมาณความหนาแน่นมากขึ้นใน 2-4 เดือน
  • ภายใน 6-9 เดือนจะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด 


นอกจากนี้ โปรแกรม PHB หรือ Premium Hair Booster  ยังถือเป็นวิธีการรักษารอยแสกกว้างที่สะดวกสบาย ไม่สร้างความเจ็บปวดให้แก่ผู้เข้ารับบริการ ไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียง หรือรอยแผลที่อาจเห็นชัดอีกด้วย 
 
สำหรับใครที่กังวลปัญหารอยแสกกว้าง สัญญาณผมบางอยู่ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะรอยแสกกว้าง เป็นแล้วสามารถรักษาได้ และไม่จำเป็นต้องผ่าตัด หรือปลูกผม นามนินขอแนะนำทรีตเมนต์ฉีดบำรุงเส้นผมด้วยโปรแกรม PHB นี้เลย การันตีผลลัพธ์จากคนไข้มากมายว่าสามารถฟื้นบำรุงรากผมให้แข็งแรงได้จากภายใน เพิ่มปริมาณผมให้หนาแน่นดกดำกว่าเดิม  


ทั้งนี้เพื่อการรักษาที่เห็นผลและตรงจุด หากพบสัญญาณผมบาง เริ่มสังเกตเห็นรอยแสกผมกว้าง ควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการ และวางแผนวิธีการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมให้เร็วที่สุด จะได้ช่วยหยุดการลุกลามของปัญหาผมบางนี้ได้ ก่อนจะทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจไปมากกว่านี้นั่นเอง

ผมร่วง ผมบาง รักษาอย่างไร ไม่ต้องกินยา
การรับประทานยารักษาอาการผมร่วง ผมบาง เป็นทางออกที่คุณผู้ชายจำนวนมากเลือกใช้เพื่อจัดการกับปัญหาเส้นผม ซึ่งเป็นปัญหากวนใจที่ส่งผลกระทบต่อรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ และความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยยาสำหรับรับประทานนั้น มักจะได้ผลสำหรับผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุของกรรมพันธุ์และฮอร์โมนในร่างกาย 

ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า คุณผู้ชายที่สืบต่อกรรมพันธุ์ผมร่วงจากคนในครอบครัว จะมีเอนไซม์ชื่อ 5-alpha reductase บริเวณหนังศีรษะ เอนไซม์ตัวนี้เอง ที่จะเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) ให้กลายเป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือที่เรียกว่าฮอร์โมน DHT และฮอร์โมน DHT นี้ ก็เป็นตัวการที่ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะเล็กลง ผมที่งอกออกมาจึงอ่อนแอ มีขนาดเล็ก ลีบแบน ทำให้ขาดหลุดร่วงได้ง่ายกว่าปกติ แม้เจ้าของเส้นผมจะยังอายุน้อยอยู่ก็ตาม ซึ่งการรับประทานยา จะช่วยเข้าไปหยุดยั้งการทำงานของฮอร์โมน DHT เจ้าปัญหา ทำให้เส้นผมหลุดร่วงน้อยลงนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการรับประทานยา จะเป็นวิธีได้ผลในการลดอาการหลุดร่วงของเส้นผม กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผม และช่วยให้เส้นผมมีขนาดหนาขึ้น จนหลาย ๆ คนสามารถจบการรักษาด้วยการรับประทานยาเพียงวิธีเดียวได้ โดยไม่ต้องเสริมด้วยการรักษารูปแบบอื่น ๆ แต่สำหรับคนไข้อีกหลาย ๆ เคส ยาสำหรับรับประทาน อาจไม่ใช่ทางออกที่ตอบโจทย์การรักษาอย่างตรงจุด เนื่องด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้

  • เลือกใช้ยาไม่ตรงกับสาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง เนื่องจากสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน โรคภัยไข้เจ็บ การขาดสารอาหาร หรือพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมโดยไม่รู้ตัวของเราเอง อย่างเช่นการสูบบุหรี่ การสระผมผิดวิธี หรือการสวมหมวกที่รัดศีรษะแน่นเกินไปอยู่บ่อย ๆ ก็เป็นได้
  • ไม่ได้ใช้ยาอย่างถูกต้องภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ชำนาญ
  • วิธีการรักษา หรือขนาดยาที่ใช้ ไม่เหมาะสมกับระยะหรือความรุนแรงของอาการที่เป็น
  • ยาที่เลือกใช้ อาจให้ผลที่แตกต่างกันในบริเวณต่าง ๆ ของหนังศีรษะ เช่นบริเวณด้านหน้า หรือบริเวณกลางศีรษะ
  • การตอบสนองต่อยาของตัวคนไข้เอง ซึ่งแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน 
  • ในคนไข้ที่มีอาการผมบางอย่างรุนแรงจนเข้าสู่ภาวะผมล้าน รากผมในชั้นหนังศีรษะอาจจะเสื่อมไปแล้ว จึงไม่สามารถรักษาด้วยการรับประทานยา ซึ่งจะทำงานด้วยการกระตุ้นการเจริญเติบโตที่รากผมโดยตรง
  • สำหรับคนไข้บางคน ยังรู้สึกเป็นกังวลต่อผลข้างเคียงของการใช้ยารับประทานบางชนิด ที่อาจส่งผลสภาพอารมณ์รวมถึงสมรรถภาพทางเพศ

ในกรณีเหล่านี้ แพทย์ผู้ชำนาญสามารถช่วยแนะนำวิธีการรักษาด้วยแนวทางอื่น ๆ โดยไม่ต้องรับประทานยา ซึ่งมีความเป็นไปได้ตั้งแต่การเข้ารับการปลูกผมถาวรโดยไม่ต้องผ่าตัด หรือการเข้ารับบริการ Treatment ตามที่แพทย์แนะนำเพื่อเสริมความแข็งแรง ดกดำ เงางาม ให้กับเส้นผม

NEAT 
เทคนิคปลูกผมถาวรจากนามนิน

ปัจจุบัน เทคนิคการปลูกผมถาวรแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) มีความล้ำหน้าแตกต่างจากเทคนิคการปลูกผมถาวรแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) ในอดีต ซึ่งเดิมเป็นการผ่าตัดเพื่อนำชิ้นหนังศีรษะด้านหลังท้ายทอยที่มีกราฟต์ผมแข็งแรง มาปลูกในบริเวณที่เป็นปัญหาผมร่วงและผมบาง แต่เทคนิค FUE ได้เปลี่ยนให้การปลูกผมโดยไม่ต้องผ่าตัดสามารถทำได้จริง โดยใช้วิธีเจาะย้ายเฉพาะกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอยทีละกราฟต์ เพื่อนำมาปลูกในบริเวณที่เป็นปัญหาแทน เนื่องจากผมด้านหลังท้ายทอยหรือที่เรียกว่า Safe Zone มีความคงทนแข็งแรงเป็นพิเศษ ไม่หลุดร่วงง่าย และจะยังคงคุณสมบัติเช่นนี้ต่อไปแม้จะย้ายมาปลูกในพื้นที่ใหม่แล้วก็ตาม เทคนิค FUE จึงลดโอกาสการเกิดรอยแผลขนาดใหญ่ที่ทำให้คนไข้ต้องพักฟื้นเป็นเวลานานจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน


และแพทย์ของนามนินก็ได้พัฒนาเพิ่มเติมจากเทคนิค FUE จนกลายเป็น “NEAT” เทคนิคปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน เทคนิคนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่ทักษะ ประสบการณ์ และความชำนาญของแพทย์ ซึ่งลงมือปลูกผมให้กับคนไข้ด้วยตัวเองทุกกราฟต์ ด้วยความละเอียด ประณีต ใส่ใจ ทั้งยังอาศัยมุมมองเชิงศิลป์หลอมรวมกับศาสตร์การแพทย์ เพื่อทำการรักษาอาการผมร่วงและผมบางให้กับคนไข้ ไปพร้อม ๆ กับการช่วยให้คนไข้กลับมามีสัดส่วนใบหน้าที่สมดุลขึ้น จึงเสริมรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ และความมั่นใจไปอีกขั้น 


ที่สำคัญแพทย์จะรับฟังปัญหาของคนไข้ และออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ไม่มีสูตรสำเร็จ ด้วยความเข้าใจว่าคนไข้แต่ละคนมาด้วยลักษณะปัญหา สภาพผม และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการรักษาโดยยึดคนไข้เป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง



ไม่เพียงเท่านั้น แพทย์ยังเลือกใช้อุปกรณ์เจาะย้ายรวมถึงอุปกรณ์ปลูกผมที่ได้คุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศ ช่วยเพิ่มความแม่นยำปลอดภัยตลอดทุกขั้นตอนการปลูกผม และยังเสริมเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ลดอาการเจ็บ บวม จนแทบไม่ต้องพักฟื้น และได้ผลลัพธ์การรักษาที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนไข้ที่มีอาการผมร่วง ผมบาง อย่างรุนแรง จนเข้าสู่ภาวะผมล้าน ทำให้รากผมฝ่อหรือเสื่อมไปจนไม่สามารถรักษาด้วยการรับประทานหรือทายาต่าง ๆ ได้แล้ว การปลูกผมใหม่คือทางออกเดียวที่จะช่วยคืนความหนาแน่นของเส้นผมอย่างถาวรให้กับคุณผู้ชายได้อีกครั้ง

Premium Hair Booster Treatment 
บูสต์ผมหนาขึ้นด้วยวิธีง่าย ๆ

สำหรับใครที่เพิ่งพบว่าตนเองมีปัญหาผมร่วง ผมบาง แต่ยังมีรูรากผม  นามนินขอแนะนำ “Premium Hair Booster” ซึ่งเป็น Treatment ฉีดบำรุงที่เหมาะสำหรับสภาพหนังศีรษะซึ่งรูขุมขนหรือรากผมบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ต้องยังไม่ฝ่อหรือเสื่อมไป เนื่องจาก Premium Hair Booster จะตรงเข้าฟื้นฟูดูแลรากผม กระตุ้นการทำงานของรากผมทำให้เส้นผมงอกขึ้นมาใหม่ และลดโอกาสการหลุดร่วงของเส้นผม ขณะเดียวกันก็บำรุงให้เส้นผมที่เคยอ่อนแอ มีขนาดเล็ก ลีบ บาง มีความแข็งแรงขึ้น มีขนาดเส้นผมที่หนาและใหญ่ขึ้น จึงส่งผลให้ผมบริเวณนั้นดูหนาแน่นขึ้นได้


วิธีการก็ง่าย ๆ เพียงฉีดบำรุงเข้าที่หนังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้น มีความปลอดภัยสูง ปราศจากผลข้างเคียงอื่น ๆ และสามารถเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่องได้หลายครั้งภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ผมดูหนาขึ้น ดกดำเงางามขึ้น และกลับมาแข็งแรงสุขภาพดีจากภายใน 



ทั้งนี้ แพทย์ผู้ชำนาญของนามนิน ยังได้เตรียมออกแบบแผนการรักษาด้วย Premium Hair Booster Treatment โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยา จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแนวทางการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ที่สะดวกสบายและได้ผลดีขึ้นกว่าที่เคย

ฟื้นบำรุงผมคูณสอง
ด้วย NEAT + Premium Hair Booster 

ขณะเดียวกัน สำหรับคนไข้ในบางเคส แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ทั้ง 2 วิธีในการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง ทั้งการปลูกผมถาวรเทคนิค NEAT ร่วมกับการฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster Treatment เพื่อเป็นการดูแลผมอย่างต่อเนื่อง โดยวิธีนี้จะเหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาผมบางกินบริเวณกว้าง และการปลูกผมเพียงอย่างเดียวยังไม่สามารถเติมเต็มความหนาแน่นได้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ เนื่องจากกราฟต์ผมต้นทุนของคนไข้เองที่จะนำมาปลูกใหม่มีอยู่เพียงจำกัด จึงต้องอาศัยการฉีดบำรุงช่วยเสริม 

ซึ่งที่ผ่านมา คนไข้ที่มีอาการผมร่วง ผมบาง ค่อนข้างรุนแรงเช่นนี้ มักเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ อย่างเช่น คนไข้ผ่านการปลูกผมครั้งแรกมาแล้ว แต่เป็นการรักษาที่ไม่ได้ประสิทธิภาพเพียงพอ จึงต้องมาปลูกแก้ไขเป็นครั้งที่ 2 หรือคนไข้ผ่านการปลูกผมครั้งแรกมาแล้ว แต่ไม่ได้ใส่ใจดูแลสุขภาพผมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผมใหม่หลุดร่วง และเกิดภาวะผมล้านต่อในบริเวณข้างเคียง กรณีนี้คนไข้มักจะเหลือกราฟต์ผมต้นทุนไม่เพียงพอที่จะปลูกใหม่เพียงวิธีเดียว



นอกจากนั้น ยังรวมถึงสาเหตุอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่คนไข้ตัดสินใจมาพบแพทย์เมื่ออายุมากแล้ว ทำให้ปัญหาผมบางกินบริเวณกว้างขึ้น หรือเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุด อีกทั้งกราฟต์ผมต้นทุนก็เริ่มเสื่อมสภาพไปตามวัย หรือในบางเคส แม้คนไข้จะมียังอายุไม่มาก แต่ปล่อยให้ปัญหาผมบางเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายปีโดยไม่เริ่มต้นรักษาแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาสที่พื้นที่ผมบางจะขยายตัวจนเป็นปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน


ทั้งนี้ แพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์สภาพปัญหา และออกแบบแนวทางการรักษาที่ดีที่สุดร่วมกันกับคนไข้ ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster Treatment ก่อนการปลูกผม หรือหลังการปลูกผม และประเมินความถี่ในการเข้ารับบริการที่เหมาะสม โดยแพทย์จะคอยติดตามผลลัพธ์เพื่อให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การปลูกผมเทคนิค NEAT และการฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster Treatment เป็นทางเลือกที่วางใจได้ในการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง โดยไม่ต้องรับประทานยา สามารถตอบโจทย์ในการคืนความหนาแน่นและความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้จริง

รับมือกับปัญหาผมบางของคุณแม่และภาวะผมร่วงหลังคลอด
เก็บตกกิจกรรมดี ๆ ในงาน Amarin Baby & Kids Fair Play กับเสวนาหัวข้อ “รับมือกับปัญหาผมบางของคุณแม่ และภาวะผมร่วงหลังคลอด”


ผมบางรับมือได้สไตล์คุณผู้หญิง
ทำความเข้าใจปัญหา “ผมบาง” ของผู้หญิงทุกวัย  คุณแม่หลังคลอด และคุณผู้ชาย ทั้งจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมไปถึงพฤติกรรมเสี่ยงทำร้ายผมโดยไม่รู้ตัว
.
รับฟังคำแนะนำเพื่อรับมือกับภาวะผมร่วง ผมบาง สำหรับผู้หญิงวัยทำงาน คุณแม่หลังคลอด ผู้สูงวัย ที่อยากคืนความมั่นใจด้วยผมสวย หนาแน่น สุขภาพดี 


.
พิเศษกับ Q&A Live Session  เคลียร์ทุกคำถามคาใจ สำหรับคนรักเส้นผม โดย พญ.นิล นามทองต้น แพทย์ปลูกผม จาก #นามนินคลินิก อาจารย์พิเศษ หลักสูตรปริญญาโท วิชา Hair Transplantation  สาขาวิชาเวชศาสตร์ความงาม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
.
บรรยากาศเป็นไปอย่างสบายๆ เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ รวมถึงประสบการณ์ตรงในการเลี้ยงลูกของแม่ๆ ที่มาเข้าร่วมฟัง 

รับชม คลิปย้อนหลังได้ที่ 
https://fb.watch/roCcEQPn43/

ผมบางของผู้หญิง รักษาได้ไหม
ไขข้อสงสัย ผมร่วงเยอะ เกิดจากอะไร?
เรื่องของเส้นผมเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะผมเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของใบหน้าที่ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูดี จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องดูแลและบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดีอยู่เสมอ 

อย่างไรก็ตามทุกวันจะมีผมหลุดร่วงเองตามธรรมชาติอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ แต่หากผมหลุดร่วงมากเกินไปนั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงอะไรบางอย่าง ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร? มีหนทางในการรักษาอย่างไรบ้าง? นามนินจะพามาไขข้อสงสัยกัน

ผมร่วงเยอะ เกิดขึ้นจากอะไร?
ลักษณะของผมร่วงที่เกิดขึ้นจะมีความรุนแรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ปกติแล้วในแต่ละวันเส้นผมของคนเราจะมีการหลุดร่วงอยู่แล้วประมาณ 50-100 เส้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากบนศีรษะจะมีเส้นผมอยู่มากถึง 100,000 เส้น โดยจะมีการหลุดร่วงของเส้นผมได้ตามกระบวนการเจริญเติบโตของเส้นผม และหลังจากนั้นก็จะมีผมใหม่งอกขึ้นมาแทนที่ ซึ่งจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ตามวงจรชีวิตของเส้นผม

แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความหนาแน่นของเส้นผมก็จะน้อยลงตามไปด้วย เนื่องจากวงจรชีวิตของเส้นผมสั้นขึ้น จึงทำให้ผมร่วงถี่มากขึ้น ผมจะค่อย ๆ บางลง และอาจไม่มีการงอกใหม่ขึ้นมาทดแทนอีกต่อไป



นอกจากนี้พันธุกรรมก็ถือเป็นสาเหตุของปัญหาผมร่วงที่พบได้บ่อย หากคนในครอบครัวส่วนใหญ่มีผมบาง ก็จะส่งผ่านทางพันธุกรรมได้ด้วยเช่นกัน และอาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
  • ความเครียด 
  • มลภาวะ
  • การเจ็บป่วย เช่น การติดเชื้อที่หนังศีรษะ, โรคที่ทำให้เกิดแผลบนหนังศีรษะ และโรคไทรอยด์ เป็นต้น
  • การผ่าตัด
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น  การตั้งครรภ์, การคลอดบุตร หรือการอยู่ในวัยหมดประจำเดือน
  • ผลกระทบจากยาที่ใช้รักษา เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง, ภาวะซึมเศร้า หรือโรคความดันโลหิตสูง
  • การลดน้ำหนักเยอะมากในระยะเวลาที่สั้น
  • มีไข้สูง 
  • ขาดสารอาหาร เช่น การขาดธาตุเหล็ก หรือโปรตีน เป็นต้น

แบบไหนถึงเรียกว่า ผมร่วงเยอะผิดปกติ? 
ทุก ๆ วันผมของคนเราจะมีการหลุดร่วงอยู่แล้ว แต่จะร่วงในปริมาณที่น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับปริมาณเส้นผมที่มีอยู่บนศีรษะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้หญิงจะมีผมร่วงเยอะกว่าผู้ชาย โดยผู้หญิงมักจะมีผมร่วงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100-150 เส้น ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมและสุขภาพโดยรวม 

ส่วนผู้ชายจะมีผมร่วงโดยเฉลี่ยในแต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 50-60 เส้น หากเยอะกว่านี้ก็พึงสังเกตได้ว่า อาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น  ซึ่งแน่นอนว่าการนับจำนวนเส้นผมเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็สามารถสังเกตได้เองเลย เพราะถ้าเกิดปัญหาผมหลุดร่วงเยอะจริง ๆ จะมีผมร่วงอยู่ตามที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ทั้งเวลาที่อาบน้ำ สระผม การนอนบนหมอน การหวีผม หรือตามพื้นบ้านนั่นเอง

ผมร่วงเยอะ สามารถรักษาได้อย่างไร?
ผมร่วงเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้ใครหลาย ๆ คน แต่ก็ยังพอมีแนวทางที่สามารถรักษาได้  ดังนี้
1. การรับประทานวิตามินเสริม
วิธีแรกที่สามารถช่วยรักษาปัญหาผมร่วงได้ คือ การรับประทานวิตามินเสริม เพราะหากร่างกายขาดสารอาหารบางอย่างที่จำเป็นต่อเส้นผม ก็จะส่งผลให้รากผมอ่อนแอ และขาดหลุดร่วงได้ง่าย 

วิตามินบำรุงเส้นผมอย่าง VITAMIN H ของนามนิน จะช่วยบำรุงรากผม ให้ผมที่งอกใหม่ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ มีเส้นผมที่หนาและแข็งแรงยิ่งขึ้น โดยผสานคุณประโยชน์จากทั้ง
  • สารสกัดจากข้าวกล้องและผลกระบองเพชร ช่วยลดความมันและการอักเสบของหนังศีรษะ 
  • Biotin ช่วยเสริมสร้างให้ผมแข็งแรงมากขึ้น 
  • Zinc Gluconate ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม 
  • Iron Amino Acid Chelate ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม และเติมสารอาหารให้เส้นผม 
  • Vitamin B Premix ช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวยสุขภาพดี 
ซึ่งสารอาหารบำรุงผมทั้งหมดนี้ ก็มีผนวกรวมมาไว้แล้วในอาหารเสริม VITAMIN H  เพราะเส้นผมสวยสุขภาพดี เริ่มต้นได้จากรากผมที่แข็งแรงนั่นเอง


2. การรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
อีกหนึ่งวิธีการรักษาปัญหาผมร่วงเยอะ ที่ดูจะช่วยจบปัญหาผมบางได้อย่างตรงจุด คือ การพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และทำการรักษา โดยแพทย์จะมีการจ่ายยาช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมตามอาการที่เป็น และสาเหตุของปัญหาผมร่วง ซึ่งมีทั้งรูปแบบยากินและยาทา หรืออาจมีการทำหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติม ตามปัญหาเส้นผมที่มี



3. การทำทรีตเมนต์บำรุงเส้นผม
การทำทรีตเมนต์บำรุงเส้นผม ก็เป็นอีกวิธีการที่สามารถช่วยรักษาอาการผมร่วงได้เช่นกัน โดยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการงอกของเส้นผมใหม่ ๆ อีกทั้งยังช่วยบำรุงและรักษาเส้นผมที่มีอยู่ ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย 

หากคุณกำลังมองหาโปรแกรมทำทรีตเมนต์บำรุงเส้นผมอยู่ ที่เห็นผลลัพธ์หลังการทำได้อย่างน่าพึงพอใจ กลับมามีผมหนาขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ก็อยากแนะนำให้ลองใช้บริการ Premium Hair Booster นวัตกรรมบำรุงรากผม สูตรเฉพาะของนามนิน 

จะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมจากภายใน อีกทั้งยังช่วยให้เซลล์รากผมเกิดการซ่อมแซมตัวเอง และกลับมาทำหน้าที่สร้างเส้นผมใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น




4. การฉายแสง
การฉายแสงเป็นวิธีการรักษาผมร่วงด้วยการใช้แสงจาก LED หรือ Light Emitting Diode ในการบำบัดด้วยคลื่นแสง ที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ นำมาช่วยกระตุ้นรากผม และยับยั้งการหลุดร่วงของเส้นผม เพื่อแก้ปัญหาและรักษาผมร่วงได้แบบที่ไม่ต้องเจ็บตัว ปลอดภัย และไม่เกิดบาดแผล 





5. การปลูกผม
อีกหนึ่งวิธีจัดการกับปัญหาผมร่วงได้อย่างยั่งยืน นั่นก็คือ การปลูกผม เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันนี้ เนื่องจากสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ที่นามนินเองก็มีโปรแกรมปลูกผมด้วยเทคนิค NEAT ให้บริการ 

ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษจากนามนิน ที่ดูแลในทุก ๆ ขั้นตอนโดยแพทย์ที่มีความชำนาญในการรักษาและประเมินอาการ รวมถึงวางแผนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละบุคคล และทำการปลูกผมโดยแพทย์เองทุกกราฟต์ ทำให้ได้แนวผมสวย มีทิศทางตามองศาผมเดิม ดูเป็นธรรมชาติ แถมไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเล




สรุป
หากใครกำลังเผชิญกับปัญหาผมบางอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะนามนินเองก็มีวิธีการหลากหลายรูปแบบที่สามารถรักษาและบรรเทาอาการผมร่วงให้คุณได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้หากพบปัญหาผมบาง ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินอาการและหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป ก่อนที่อาการจะดำเนินไปมากขึ้น ซึ่งจะยากต่อการแก้ไข แถมยังมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงกว่าการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อีกด้วย

Checklist จุดคุ้มค่าราคาปลูกผม
สำหรับหลาย ๆ คนที่เลือกการปลูกผมเป็นทางออกถาวรให้กับปัญหาผมร่วงผมบาง และกำลังตัดสินใจว่าจะเข้ารับบริการกับคลินิกปลูกผมแห่งไหนดี แน่นอนว่า ปัจจัยสำคัญก็คือ “ราคา” ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่า ในตลาดปลูกผมของประเทศไทยที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้ มีการตั้งราคาที่หลากหลายตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว คำถามคือ ตัวเลขราคาเหล่านั้นสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการปลูกผมด้วยหรือไม่ ยิ่งลงทุนจ่ายราคาแพง ยิ่งการันตีความสำเร็จในการปลูกผมจริงหรือ

ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขราคาที่เห็น อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดผลลัพธ์ของการปลูกผมได้ 100% (เพราะมักจะบวกรวมค่าใช้จ่ายด้านการทำการตลาดลงไปด้วย) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากกว่า “ราคา” นั่นก็คือ “ความคุ้มค่า” 

ถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยแล้วว่า ความคุ้มค่าที่ว่านั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยอะไรบ้าง นามนินจึงรวบรวม Checklist สำหรับประเมินจุดคุ้มค่าของการปลูกผม เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจเลือกปลูกผมด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนอย่างรอบคอบ และตามหาจุดที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย รวมถึงตอบโจทย์ความพึงพอใจในการรักษาได้มากที่สุด

สำรวจความเห็นจากผู้เข้ารับบริการจริง
เริ่มจากการลองเข้าไปศึกษารีวิวการใช้บริการปลูกผมจากคนไข้ตัวจริงเสียงจริงหลาย ๆ คน ว่าแต่ละคนแชร์ประสบการณ์ในการรักษาไว้อย่างไร ผลลัพธ์ที่ได้ช่วยแก้ปัญหาผมร่วงผมบางได้จริงหรือไม่ หรือลองศึกษาจากข้อมูลที่แพทย์แต่ละคลินิกออกมาให้ความรู้ รวมถึงลองสังเกตสไตล์การอธิบายให้คำปรึกษา ซึ่งแพทย์แต่ละคนก็มีแนวทางที่ต่างกัน เป็นการประเมินความน่าเชื่อถือเบื้องต้น และได้โอกาสมองหาแนวทางการรักษาที่ตรงใจเราที่สุดด้วย



คำถามสำคัญ ปลูกผมโดย “ใคร” ?
ข้อนี้เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอาจมองข้าม แต่ที่จริงแล้ว นี่เป็นคำถามเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดข้อหนึ่งเลย เนื่องจากผู้ที่จะลงมือทำหัตถการปลูกผมนั้น นอกจากจะเป็นแพทย์ผู้ชำนาญด้านการปลูกผมโดยตรงแล้ว ยังสามารถเป็นทีมสหวิชาชีพแพทย์ หรืออาจเป็นบุคลากรในสาขาอาชีพอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับเทคนิคและแนวทางการรักษาที่คนไข้เลือก ว่าต้องการทักษะฝีมือ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในระดับไหน ถ้าเรารู้คำตอบว่าใครเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้เราแล้ว ก็จะช่วยให้พิจารณาความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายได้ชัดเจนขึ้น



หาโอกาสลองพบคุณหมอตัวจริง
ข้อมูลหรือภาพที่เห็นในโลกอินเทอร์เน็ต จะตรงกับความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน ได้เวลาพิสูจน์ด้วยการก้าวเข้ามาพูดคุยปรึกษากับแพทย์ที่คลินิกปลูกผม ลองดูซิว่า ความประทับใจแรกของเราจะเป็นอย่างไร



แพทย์มีความรู้มากน้อยแค่ไหน และเลือกใช้วิธีถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นออกมาอย่างไร 
แพทย์รับฟังปัญหาและความต้องการของเรามากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะนำไปสู่การออกแบบแนวทางการรักษาร่วมกัน เพื่อตอบโจทย์คนไข้ได้มากที่สุด
แพทย์วิเคราะห์ปัญหาเส้นผมแบบเฉพาะบุคคลหรือไม่ เพราะคนไข้แต่ละเคสมาด้วยปัญหาที่แตกต่างและไม่ซ้ำกันเลย
แพทย์มีความจริงใจที่จะให้คำแนะนำโดยอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงหรือไม่ เช่น ในกรณีที่ปัญหาผมค่อนข้างรุนแรงจนไม่อาจปลูกผมคืนความหนาแน่นได้เต็มร้อย แพทย์มีวิธีบอกกับเราและเสนอแนะทางแก้ปัญหาอย่างไร
แพทย์มีเทคนิคในการปลูกผมที่น่าสนใจและช่วยให้เราสะดวกสบายขึ้นอย่างไร
ขั้นตอนการปลูกผมที่แพทย์อธิบายให้ฟัง ดูน่าเชื่อถือแค่ไหน

ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราลดความกังวลในการเข้ารับบริการ และตัดสินใจเลือกคลินิกที่จะปลูกผมได้ง่ายขึ้น

สถานที่และอุปกรณ์ได้มาตรฐาน
อย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานความสะอาดของสถานที่ทำหัตถการปลูกผม รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ที่สำคัญ อุปกรณ์ที่แพทย์เลือกใช้ควรมีความน่าเชื่อถือ ออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์เจาะย้ายรากผม อุปกรณ์ปลูกผม รวมไปถึงเครื่องมือและน้ำยาที่ใช้ในการแช่รักษาสภาพกราฟต์ผมระหว่างรอปลูกใหม่ อีกทั้งเรายังสังเกตความใส่ใจของแพทย์ได้จากการเตรียมอุปกรณ์เจาะย้ายรากผมและอุปกรณ์ปลูกผมที่สามารถปรับการใช้งานให้เข้ากับขนาดกราฟต์ผมที่แตกต่างกันของคนไข้ได้ เพื่อลดโอกาสที่กราฟต์ผมจะถูกทำร้ายให้น้อยที่สุดนั่นเอง



ความช่วยเหลือในการเตรียมตัวก่อนปลูกผม
ความคุ้มค่าของการให้บริการปลูกผม ไม่เพียงวัดกันที่ผลลัพธ์ปลายทาง แต่สามารถบอกได้ตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางการรักษา อย่างเช่นขั้นตอนการเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผม ลองนึกภาพดูว่า เป็นใครก็คงจะกังวลไม่น้อยกับการปลูกผมครั้งแรกในชีวิต แต่ถ้าคนไข้เลือกคลินิกและแพทย์ที่สามารถช่วยในการ “เตรียมตัว” ได้เป็นอย่างดี คนไข้ก็จะเข้ารับการรักษาอย่างสบายใจไร้กังวล 

ทั้งนี้ ทางคลินิกสามารถช่วยเราเตรียมตัวได้ในหลาย ๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น  การอธิบายขั้นตอนการปลูกผมแบบเข้าใจง่าย จนเห็นภาพได้ชัดเจนว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมถึงการให้คำแนะนำในเรื่องของอาหารและยาที่ควรงดรับประทานก่อนวันปลูก การออกกำลังกายในระดับที่เหมาะสม การนอนหลับให้เพียงพอ ไปจนถึงเสื้อผ้าแบบไหนที่ควรสวมใส่ในวันปลูกผมเพื่อความคล่องตัว


วันปลูกผม ..หนึ่งวันที่จะเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่..
วันปลูกผมถือเป็นวันสำคัญที่ควรศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนตัดสินใจเลือกว่าจะปลูกผมที่ไหน เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่จะช่วยให้เราประเมินความคุ้มค่าของการปลูกผมได้อย่างชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรักษาที่แพทย์เลือกใช้ หรือเทคนิคที่ออกแบบมาด้วยความเข้าใจ pain point ของคนไข้ ซึ่งจะช่วยให้คนไข้กลับไปใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น เทคนิคซ่อนแผลด้านหลังท้ายทอย ทำให้คนไข้ไม่ต้องคอยปกปิดรอยแผลและจัดแต่งผมทรงต่าง ๆ ได้อิสระทุกสไตล์ 

และยังรวมไปถึงปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่ความใส่ใจจากทีมแพทย์และบุคลากร ความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการ ผลข้างเคียงจากการรักษา เช่นอาการเจ็บ บวม ช้ำ มีมากน้อยแค่ไหน และคนไข้จะได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งทีมแพทย์ที่ดีจะช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจและมั่นใจได้ตลอดกระบวนการรักษา


เส้นทางการรักษา 1 ปีเต็ม
การปลูกผมไม่ได้จบแค่วันทำหัตถการ แต่ยังมีเส้นทางต่อเนื่องหลังจากนั้นอีก 1 ปีเต็ม เนื่องจากผมที่ปลูกใหม่ต้องการระยะเวลาที่จะค่อย ๆ เจริญเติบโตตามวงจรธรรมชาติ ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกปลูกผมที่จะไม่ทิ้งคนไข้ไว้กลางทาง แต่จะคอยดูแลนัดติดตามผล ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการพักฟื้น การปฏิบัติตัว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ตลอดจนแนะนำบริการ Treatment ต่าง ๆ ที่จะลดโอกาสเสี่ยงในการหลุดร่วงของเส้นผม และช่วยให้เส้นผมมีเปอร์เซ็นต์การอยู่รอดสูงขึ้น คลินิกปลูกผมหลาย ๆ แห่ง ยังเปิดให้คนไข้สามารถปรึกษาและซักถามข้อสงสัยได้ตลอดเวลา ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของความคุ้มค่าคุ้มราคาทั้งในเชิง “เวลา” และ “ความใส่ใจ” อีกด้วย



ผลลัพธ์ผมใหม่ที่ตรงใจคุณ
ข้อนี้ก็เป็นตัวชี้วัดความคุ้มค่าของการลงทุนปลูกผมได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งมีจุดที่ควรคำนึงถึงดังนี้

  • หลังปลูกผมแล้ว สามารถแก้ปัญหาผมบาง เติมเต็มผมให้ดูหนาแน่นขึ้นได้
  • ทิศทางของเส้นผมใหม่ เรียงตัวกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม ไม่ย้อนผิดทิศทาง ดูเป็นธรรมชาติ
  • หากเป็นแนวผมบริเวณหน้าผาก ควรวางตัวเนียน เรียบ เป็นระเบียบ เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า
  • หากเป็นผมปลูกใหม่บริเวณขวัญกลางศีรษะ ควรเรียงตัววนไปในทิศเดียวเส้นผมเดิมอย่างกลมกลืน
  • ความหนาแน่นของผมปลูกใหม่กำลังดี ไม่บางจนเกินไป และไม่แน่นจนเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้ผมหลุดร่วงได้ง่าย
  • เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของผมปลูกใหม่สูง ไม่หลุดร่วงมากจนผิดปกติ
  • ผลลัพธ์ผมใหม่ได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสมกับเพศ วัย และความต้องการของคนไข้อย่างแท้จริง

และนี่ก็คือ Checklist ที่คนรักผมไม่ควรมองข้าม เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการปลูกผม ว่าคุ้มกับราคาที่จะต้องจ่ายหรือไม่ ที่สำคัญ การลงทุนปลูกผมไม่ว่าจะในราคาสูงหรือราคาต่ำ ก็ไม่ใช่เรื่องผิดทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าการลงทุนนั้นให้ผลลัพธ์ตรงกับสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ และเหมาะสมกับเราที่สุดแล้วหรือไม่ 

...เพราะการปลูกผมครั้งนี้ อาจจะเป็นโอกาสครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตของคุณก็เป็นได้...

ถึงเวลารักษา “ผมร่วง” หรือยัง?
สังเกตกันมั้ยว่า ผมของคนเราหลุดร่วงเป็นปกติในทุก ๆ วัน ซึ่งนั่นเป็นไปตามธรรมชาติของวงจรเส้นผม ที่เมื่อหลุดร่วงไปก็จะงอกขึ้นมาทดแทนใหม่อยู่เรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุดตลอดชีวิตของเจ้าของเส้นผม 

แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าในแต่ละวัน ผมที่หลุดร่วงออกมาตอนเรากำลังสระผม ตอนเรากำลังหวีผม หรือหล่นอยู่บนหมอน รวมไปถึงตามพื้นบ้านนั้น มีจำนวนมากจนน่ากังวลว่าเราจะเริ่มเข้าสู่ภาวะ “ผมร่วง” ซึ่งจะนำไปสู่อาการ “ผมบางและผมล้าน” แล้ว และยังเป็นสัญญาณว่าควรต้องรีบปรึกษาแพทย์ หรือเข้ารับการรักษาก่อนจะสายเกินไป


อาการ “ผมร่วง” มีที่มาจากหลายปัจจัยเลยทีเดียว ที่เราคุ้นเคยกันดีก็คงเป็นผมร่วงจาก “กรรมพันธุ์” ส่งต่อกันมาในครอบครัวทั้งแบบรุ่นสู่รุ่นหรือแบบข้ามรุ่น แม้ว่านี่จะเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมร่วง ผมบาง ในผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็มีโอกาสผมร่วงจากพันธุกรรมได้ แม้ไม่มากเท่าผู้ชายก็ตาม

ไม่เพียงเท่านั้น สาเหตุต่าง ๆ ต่อไปนี้ ก็อาจส่งผลให้คุณผู้หญิงเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะผมร่วงได้เช่นกัน 
  • อายุที่เพิ่มขึ้น
  • ผลข้างเคียงจากโรคประจำตัว
  • ระดับฮอร์โมนในร่างกาย
  • ภาวะหลังคลอดบุตร
  • ความเครียด


ทั้งนี้ ยังรวมไปพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจทำไปโดยไม่รู้ตัว และส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอลง จนขาดหลุดร่วงง่ายก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็น
  • การใช้ความร้อนหรือสารเคมีกับเส้นผมมากเกินไป
  • การสระผมผิดวิธี
  • การขาดสารอาหารบางชนิด
  • การนอนดึก หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • การสูบบุหรี่

ส่วนวิธีการสังเกตว่า อาการผมร่วงของเรายังอยู่ในระดับปกติ หรือควรต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่ถูกต้องแล้ว สามารถสังเกตได้จาก “จำนวนเส้นผมที่หลุดร่วง” เพราะผมของคนเราโดยปกติจะหลุดร่วงได้ถึงวันละ 70 – 100 เส้น หากพบว่าผมร่วงมากกว่านั้น ติดต่อกันเป็นเวลานานหลาย ๆ วัน แสดงว่าเกิดความผิดปกติบางอย่างขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ อาจสังเกตร่วมกับรูปแบบของผมบางในลักษณะต่าง ๆ อย่างเช่นอาการ “ผมร่วงทั่วทั้งศีรษะ” มักจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โรคผมร่วงเฉียบพลัน ซึ่งแต่ละคนจะมีผมร่วงมากหรือน้อยไม่เท่ากัน แต่จะไม่ถึงขั้นศีรษะล้าน เกิดจากการที่เส้นผมเข้าสู่ระยะพักตัวพร้อม ๆ กัน โดยมีสาเหตุได้จากทั้งผลข้างเคียงของโรคต่าง ๆ ตลอดจนภาวะทางจิตใจ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้า

และในบางราย อาจเกิดอาการ “ผมร่วงเป็นหย่อม ๆ” หลายจุดพร้อมกัน ซึ่งเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของภูมิคุ้มกันในร่างกาย ที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของรากผมลดลง จนไปหยุดการเจริญเติบโตของเส้นผม เกิดขึ้นจากผลข้างเคียงของโรคต่าง ๆ ความเครียด หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ และหากเป็นสาเหตุจากพันธุกรรม จะสังเกตเห็นผมเริ่มบางบริเวณรอยแสกกลางศีรษะก่อน แล้วจึงขยายออกไปด้านข้าง

เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าหากสงสัยว่าเกิดอาการผมร่วงมากผิดปกติ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการเข้ามาพูดคุยปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญของนามนิน โดยแพทย์จะช่วยวินิจฉัยแบบเฉพาะบุคคลเพื่อหาสาเหตุของอาการผมร่วง และออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งนอกจากจะรักษาด้วยวิธีรับประทานยาลดผมร่วงตามที่แพทย์แนะนำแล้ว ที่นามนิน แพทย์จะช่วยแนะนำทางเลือกอื่น ๆ ในการบำรุงเส้นผมและบรรเทาอาการผมร่วงได้อย่างปลอดภัย 


  • การใช้เซรั่ม Elixir Hair Serum by NEAT HAIRNUE จากส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% เพื่อฟื้นบำรุงเส้นผมอย่างอ่อนโยน 

  • การรับประทาน VITA H ซึ่งแพทย์ค้นคว้าและคัดสรรวิตามินรวมถึงสารสกัดมากคุณค่ามาอย่างตั้งใจ เพื่อการบำรุงรากผมอย่างล้ำลึก

  • การฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster เข้าที่หนังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาผมบางโดยตรง เพื่อกระตุ้นการทำงานลึกถึงระดับรากผม ลดการหลุดร่วงตั้งแต่การฉีดครั้งแรก เร่งการงอกใหม่ของเส้นผม ทั้งยังเสริมความแข็งแรงของเส้นผม จากที่เคยลีบ เล็ก แบน ให้ดูหนาและใหญ่ขึ้น จึงสามารถคืนความหนาแน่น ให้ผมดูดกดำ เงางาม สุขภาพดีได้อย่างที่ต้องการ


ที่สำคัญ การรักษาอาการผมร่วงนั้น มีปัจจัยความสำเร็จที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือเรื่อง “ระยะเวลา” เพราะยิ่งเราสังเกตพบความผิดปกติเร็ว และเข้ามาปรึกษาแพทย์ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการฟื้นฟูดูแลเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง

“คุณคนใหม่” ด้วย Premium Hair Booster
การดูแลบุคลิกภาพตัวเองให้ดูดีนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่จำกัดอยู่แต่เฉพาะในวัยหนุ่มสาวเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด ภาพลักษณ์และความมั่นใจก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่เสมอ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงวัย 45up การดูแลตนเองจะมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจและข้อจำกัดที่มากขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพภายในที่มองไม่เห็นด้วยตาและภาพลักษณ์ภายนอกที่มีผลต่อความมั่นใจ



“เส้นผม” เป็นปัญหาหนึ่งที่มักจะสร้างความกังวลใจให้คนในวัยนี้ จากเส้นผมที่เคยแข็งแรง ผมหนา ดกดำ ก็เริ่มเจอภาวะผมร่วง ผมบาง ที่มาจากหลายสาเหตุ เช่น ความเสื่อมถอยของสุขภาพ ความเครียด ความเจ็บป่วยหรือแม้แต่กรรมพันธุ์ ซึ่งหากคุณหรือมีคนใกล้ตัวกำลังประสบปัญหานี้ การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม จะช่วยให้เส้นผมกลับมาหนาแน่นขึ้นได้ด้วยวิธีที่เหมาะสมและมีความเป็นไปได้มากที่สุด


การปลูกผมถาวร เป็นการแก้ปัญหาที่เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน แต่ผลลัพธ์นั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและข้อจำกัดของแต่ละบุคคลด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีปัญหาผมบางเป็นวงกว้าง แต่ต้นทุนกราฟต์ผมบริเวณด้านหลังท้ายทอยหรือ Safe  Zone เหลือน้อยลง หรือเส้นผมอ่อนแอลงเนื่องจากอายุที่มากขึ้น ในกรณีนี้ แพทย์จะต้องประเมินและวางแผนการใช้กราฟต์ผมอย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


ที่นามนิน นอกจากการปลูกผมถาวรแล้ว อีกทางเลือกหนึ่งของการฟื้นฟูเส้นผมที่แพทย์จะแนะนำให้ผู้เข้ารับบริการทำควบคู่กันไปคือ โปรแกรม Premium Hair Booster ที่คุณหมอนิน ได้ดึงพลังแห่งการฟื้นฟูดูแลเส้นผมจากสารชีวโมเลกุล มาพร้อมกับการเติมวิตามินสูตรเฉพาะของนามนิน ฉีดตรงเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ให้รากผมซ่อมแซมตัวเองพร้อมทั้งสร้างเซลล์ผมใหม่ ลดผมหลุดร่วง เพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม 



หลังการเข้ารับบริการโปรแกรม Premium Hair Booster ผลลัพธ์ที่สัมผัสได้คือ จากเส้นผมที่เคยเล็ก ลีบแบน อ่อนแอ หลุดร่วงง่าย จะกลายเป็นเส้นผมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หนาขึ้น แข็งแรงขึ้น และเริ่มมีเส้นผมงอกขึ้นใหม่ เมื่อเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ เส้นผมจะหนาแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน 


ในการรักษาผมร่วงผมบาง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหารุนแรงหรือผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัดในการปลูกผม แพทย์อาจวางแผนให้เข้ารับบริการโปรแกรม Premium Hair Booster ร่วมกับการปลูกผมเทคนิค NEAT เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น และส่วนใหญ่ก็จะได้รับความประทับใจและความมั่นใจจากเส้นผมใหม่กลับคืนมา



ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ บางคนอาจจะรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการจริงๆ เมื่อตอนอายุ 40 ก็เป็นไปได้ ในขณะที่บางคน “ชีวิต” อาจจะเริ่มต้นตอนอายุ 50 ก็ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับทัศนคติ การมองโลก และการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใด เราก็มีสิทธิ์ที่จะรักตัวเองและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเราเองได้เสมอค่ะ    
ปลูกผมเทคนิค NEAT ไม่ต้องลางานพักฟื้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือผมด้านหน้าเริ่มเว้าสูงเป็น M Shape “นามนิน” ขอเวลาที่มีค่าของคุณแค่เพียง 1 วัน เพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ด้วยการปลูกผมเทคนิค NEAT ค่ะ

NEAT เปลี่ยนภาพจำของการปลูกผมในรูปแบบเดิมๆ ที่หลังการปลูกผมต้องพันผ้า พักฟื้น และยังต้องมีการดูแลตัวเองที่ยุ่งยากไม่ต่างจากการผ่าตัดใหญ่ การปลูกผมจึงเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากและดูเป็นการรักษาทางการแพทย์มากกว่าเรื่องความสวยงาม




พัฒนาการของ NEAT เริ่มต้นที่ คุณหมอนินเห็นถึงคุณค่าของการปลูกผมที่มอบให้ได้มากกว่า “เส้นผม” จึงได้ออกแบบและพัฒนาการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่เป็นการผสมผสาน “ศาสตร์และศิลป์” เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมดุล เพื่อจุดประสงค์หลัก คือ การมอบทั้งความสวยงามและความสะดวกสบายให้ผู้เข้ารับบริการ




เทคนิคแรกคือ การนำเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอยออกแบบ “ขั้นบันได” เป็นการใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะเพื่อนำรากผมออกมาอย่างประณีต ซ่อนแผลอย่างแนบเนียนและกลมกลืนไปกับทรงผมเดิมของผู้เข้ารับบริการ ไม่ต้องโกนผม ไร้แผลเย็บพร้อมซ่อนแผล ด้วยเทคนิคนี้ ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นเลย




เทคนิคต่อมาที่เป็นหัวใจของ NEAT คือ คุณหมอนินที่ลงมือปลูกผมด้วยตนเองทุกๆ กราฟต์ และเลือกใช้อุปกรณ์การปลูกผมด้วย Implanter ขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตร แผลหลังการปลูกผมจึงมีขนาดเล็ก มีเลือดออกน้อย อาการบวมช้ำมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย  รอยปลูกผมเป็นแผลที่ขนาดเล็กละเอียดมากดูไม่น่ากลัว ด้วยเทคนิคปลูกแทรกแซมเข้าไปกับผมจึงทำให้ดูแนบเนียนกับผมเดิมของผู้รับบริการ ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องทนกับอาการเจ็บปวด ไม่ต้องพักฟื้นหรือหยุดงาน ตอบสนอง lifestyle ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนาน  ไม่เสียบุคลิกภาพแม้จะเป็นช่วงหลังการปลูกผมใหม่ๆก็ตาม ไม่เป็นเป้าสายตา สามารถออกจากบ้านไปทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้ตามปกติ




และสิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากเทคนิคก็คือ ประสบการณ์ ความประณีตและความใส่ใจในทุกรายละเอียดของคุณหมอนิน นามทองต้น ที่เป็นผู้ลงมือปลูกผมทุกเส้นด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ที่เคยเข้ารับบริการทุกคนคอนเฟิร์มว่า ไม่ว่าจะต้องใช้เวลากี่ชั่วโมง คุณหมอก็จะอยู่กับคุณในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ เพื่อให้หนึ่งวันที่ “นามนิน” เป็นวันพิเศษที่ NEAT จะมอบเส้นผมใหม่ ที่จะนำบุคลิกภาพและความมั่นใจกลับมาให้คุณได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

เมื่อการปลูกผมไม่ได้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากหรือเสียเวลาชีวิตอีกต่อไปแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาผมร่วงผมบางมาทำลายความมั่นใจอีกเลยค่ะ เปิดใจให้ NEAT ได้เติมเต็ม “เส้นผมใหม่” ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นคนใหม่ที่ดูดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมเปิดโอกาสรับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิตกันดีกว่าค่ะ

ผมบางของผู้หญิง แตกต่างจากของผู้ชาย
 ตอบปัญหาคาใจ ปัญหาผมบางในผู้หญิงแตกต่างจากผู้ชายอย่างไร?

ปัญหาผมร่วง เป็นปัญหาที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอทั้งนั้น หากเกิดขึ้นแล้วก็มักสร้างความหนักใจให้มากทีเดียว ทำให้หลายคนต้องสูญเสียความมั่นใจไปไม่ใช่น้อย หมดพลังความกล้าหาญ และออร่าอันน่าดึงดูดได้ 

รู้หรือไม่? ว่าความจริงแล้วปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่จะมีความรุนแรงแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ซึ่งอายุก็ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหานี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในสาว ๆ ยิ่งกังวลใจกับปัญหานี้มาก เพราะทรงผมมีผลต่อหน้าตา ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมบุคลิกมากพอ ๆ กับการแต่งตัวเลย จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมผู้หญิงถึงให้ความสำคัญกับเส้นผมมาก ๆ นั่นเอง


เผยความต่างปัญหาผมบางระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย

ปัญหาผมบางในผู้หญิง

สำหรับปัญหาผมบางในผู้หญิงมักจะมีอาการเริ่มขึ้นจากผมบางในช่วงบริเวณรอยผมแสกกลาง เมื่อมองแล้วจะสามารถเห็นหนังศีรษะได้อย่างชัดเจน และเมื่อนานวันขึ้น ผมก็จะเริ่มร่วงมากยิ่งขึ้นและขยายตัวออกเป็นวงกลมกลางศีรษะ 

ซึ่งปัญหาผมบางที่เกิดขึ้นในผู้หญิงมักจะเกิดจากฮอร์โมนและพันธุกรรมเป็นหลัก สามารถแบ่งระดับความรุนแรงของปัญหาผมบางในผู้หญิงได้เป็น 3 ระยะหลัก ๆ คือ
  • ระยะแรก ในระยะนี้จะเห็นได้เลยว่าผมบางลงมากกว่าปกติ จนทำให้เห็นรอยแสกกลางที่กว้างขึ้น และเริ่มเห็นหนังศีรษะตรงรอยแสกผมได้ชัดเจน
  • ระยะที่สอง ในระยะนี้จะเห็นได้ว่าปัญหาผมบางจะอยู่ในระดับปานกลาง คือ เริ่มจะเห็นรอยแสกกลางที่กว้างขึ้นและเห็นหนังศีรษะที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าระยะแรก 
  • ระยะสุดท้าย ในระยะนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่ามีผมบางลงมาก รอยแสกกลางขยายกว้าง จนทำให้เห็นเป็นหนังศีรษะเป็นบริเวณกว้างอย่างชัดเจนเลย



ปัญหาผมบางในผู้ชาย

โดยส่วนใหญ่แล้วจะเห็นได้จากแนวผมบริเวณกรอบหน้าหรือบริเวณกลางศีรษะเริ่มบางลง อาจจะเกิดขึ้นแบบพร้อมกันทั้งสองบริเวณ หรือเกิดขึ้นบริเวณใดบริเวณหนึ่งก็ได้เช่นกัน หากว่าปล่อยให้เกิดปัญหาผมร่วงไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้บริเวณที่มีปัญหาค่อย ๆ ขยายวงกว้างมากขึ้น จนกลายเป็นวงที่ใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นต้องรักษา เพราะถ้าปล่อยไว้ก็อาจจะลามไปจนทำให้เหลือผมอยู่แค่ในบริเวณหลังกกหูและท้ายทอยนั่นเอง

ปัญหาผมบางที่เกิดขึ้นในผู้ชายหลัก ๆ แล้วมักเกิดจากฮอร์โมน DHT ที่เข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเส้นผม ส่งผลให้รากผมไม่แข็งแรง ในที่สุดรากผมก็จะฝ่อและหายไป แต่ที่ยังเห็นว่ามีส่วนของผมที่ยังคงเหลืออยู่ในบริเวณหลังกกหูและท้ายทอยนั้น ก็เป็นเพราะว่าเส้นผมในส่วนนั้น คือ “เส้นผมถาวร” นั่นเอง โดยฮอร์โมนดังกล่าวจะไม่มีการออกฤทธิ์ทำลายผมเหล่านี้ และเส้นผมชนิดนี้ก็มีเฉพาะในผู้ชายเท่านั้น




ปัญหาผมบางระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันอย่างไร?

เมื่อเทียบถึงความแตกต่างของปัญหาผมบางในผู้หญิงกับผู้ชายแล้ว พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงมักจะเกิดขึ้นในบริเวณช่วงกลางศีรษะ หรือทั่วศีรษะมากกว่า แต่ก็มีโอกาสพบปัญหานี้ในบริเวณกรอบหน้าเหมือนกับผู้ชายได้เช่นกัน  ทั้งนี้ปัญหาผมบางในผู้หญิง อาจไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกผมอย่างคุณผู้ชายเสมอไป เนื่องจากในผู้หญิงจะไม่มีโซนผมถาวรบริเวณด้านท้ายทอยแบบของผู้ชาย ส่งผลให้ผู้หญิงมักมีต้นทุนผมเหลือน้อย และรากผมแข็งแรงไม่พอต่อการหยุดปัญหาผมบางได้ด้วยการปลูกผมนั่นเอง 


ผู้หญิงสามารถปลูกผมได้ไหม? หรือควรแก้ปัญหาผมบางด้วยวิธีไหนดี?

แม้ปัญหาผมบางที่เกิดขึ้นในผู้หญิงและผู้ชายจะมีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในผู้หญิงหรือผู้ชายก็ล้วนแต่จะต้องได้รับการรักษาและหาแนวทางแก้ไข เพื่อไม่ให้ปัญหาผมร่วงลุกลามจนเกิดปัญหาผมบางที่ขยายบริเวณกว้างขึ้น

ซึ่งผู้หญิงจะไม่มีโซนผมถาวรเหมือนกับในผู้ชาย จึงไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการปลูกผมเพียงอย่างเดียว เพราะมีโอกาสสูงที่ผมจะกลับมาร่วงได้อีกครั้ง จึงจำเป็นต้องใช้การบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงเข้าช่วย ในขณะที่ผู้ชายจะสามารถรักษาได้ด้วยการนำผมบริเวณท้ายทอยมาปลูกทดแทนผมที่บางได้ 

ดังนั้นปัญหาผมบางในผู้หญิงจะแนะนำให้แก้ไขด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างการทำทรีตเมนต์โปรแกรม Premium Hair Booster เป็นประจำ จะช่วยฟื้นฟูผมให้กลับมามีสุขภาพดีได้อีกครั้ง เข้าจัดการกับปัญหาผมบางได้อย่างตรงจุด สามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพหลังการปลูกผมได้ 





เป็นวิธีที่ให้ประสิทธิภาพดีไม่ว่าจะผมร่วงในผู้หญิงหรือผู้ชาย แม้จะมีสาเหตุผมร่วงมาจากพันธุกรรมก็ตาม การบำรุงผมด้วยทรีตเมนต์อย่างต่อเนื่อง ก็สามารถช่วยบรรเทาปัญหาผมร่วง ไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายได้ หากทำร่วมกับการปลูกผมจะยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพ มอบหนังศีรษะและเส้นผมที่แข็งแรงยิ่งขึ้น พร้อมบำรุงรักษาผมที่ปลูกให้อยู่กับเราได้ยาวนานขึ้น
ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาใกล้ตัว สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน อยู่ที่ว่าปัญหานี้จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ถึงอย่างนั้นเมื่อเกิดปัญหาผมร่วงขึ้นแล้วก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรจนอาจนำไปสู่ปัญหาผมร่วงที่บานปลายยิ่งขึ้นได้ จึงควรหมั่นสังเกตสุขภาพเส้นผมของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้เห็นถึงความผิดปกติและสามารถหาแนวทางรักษาได้อย่างทันท่วงที 









ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย ก็สามารถขอรับคำปรึกษาจากคลินิกนามนินของเราเพื่อรับบริการฉีดบำรุงเส้นผมด้วยโปรแกรม Premium Hair Booster Treatment หรือปรึกษาคุณหมอนินเพื่อเลือกบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การรักษากับปัญหาผมบางที่มีได้ เพื่อเรียกคืนเส้นผมสุขภาพดี ช่วยบูสต์รอยยิ้มและพลังความมั่นใจในการใช้ชีวิตของคุณได้อีกครั้ง 

Premium Hair Booster คำตอบของสาวผมบาง
หนึ่งในปัญหาสามัญของชีวิตที่ผู้หญิงไทยวัยเข้าเลขสาม มักจะนำมาแชร์กันด้วยความเข้าอกเข้าใจ นอกจากอาการปวดหลัง อ้วนง่าย หรือสายตาแย่ลงแล้ว อาการ “ผมร่วง ผมบาง” ของสาว ๆ ก็เรียกได้ว่าติดแฮชแท็ก #1ในมาแรง กับเขาแบบไม่มีทางหลุดอันดับเช่นกัน ซึ่งสาว ๆ ก็มักจะกังวลกับปัญหาเส้นผมบนศีรษะเป็นพิเศษ เพราะนั่นหมายถึงภาพลักษณ์ ความอ่อนวัย และความสวยความงามด้วย 

โดยสาเหตุของอาการผมร่วง ผมบาง ที่เกิดกับผู้หญิงนั้น เป็นได้ตั้งแต่พันธุกรรมที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว ระดับฮอร์โมนในร่างกาย อายุที่มากขึ้น ผลข้างเคียงของโรค ความเครียด หรือการคลอดบุตร รวมไปถึงพฤติกรรมทำร้ายเส้นผมในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นการใช้ความร้อนหรือสารเคมีกับเส้นผมมากเกินไป ตลอดจนการขาดสารอาหารบางชนิด ก็มีส่วนทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่ายได้เช่นกัน


และถ้าลองสังเกตดี ๆ จะพบว่าลักษณะอาการผมร่วง ผมบาง ของผู้หญิงกับผู้ชายนั้นไม่เหมือนกัน ขณะที่ผู้ชายจะเริ่มเห็นแนวผมบริเวณหน้าผากถอยร่นขึ้นก่อน ตามมาด้วยผมบางกลางศีรษะ ซึ่งอาจจะเชื่อมกันจนกลายเป็นภาวะผมล้านเกือบทั้งศีรษะเลยก็เป็นได้ แต่สำหรับผู้หญิง ผมจะค่อย ๆ เริ่มบางจากรอยแสกผมตรงกลางศีรษะก่อน แล้วจึงขยายออกไปด้านข้าง อีกทั้งยังมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดภาวะผมล้านทั้งศีรษะแบบผู้ชาย 


แม้ว่าลักษณะอาการผมบางของผู้หญิงจะดูไม่รุนแรงเท่าผู้ชาย แต่ก็สร้างความหนักใจ และบั่นทอนความมั่นใจในตัวเองของผู้หญิงได้ทุกช่วงวัย ยิ่งในปัจจุบัน บางคนเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่ “วงการสาวผมบาง” ตั้งแต่อายุหลักสองเลยด้วยซ้ำ สาว ๆ หลายคนยังเชื่อว่า วงการผมบาง เข้าแล้วออกยาก ซึ่งนามนินขอเห็นต่างว่า ไม่ยาก ถ้ารีบมาปรึกษาคุณหมอตั้งแต่เริ่มต้น เพราะที่นามนิน คุณหมอมีทางเลือกหลากหลายไว้สำหรับดูแลแก้ปัญหาผมบางของผู้หญิงโดยเฉพาะ


และหนึ่งในทางเลือกที่คุณหมอแนะนำ นอกเหนือไปจากการปลูกผมถาวร ก็คือการเข้ารับบริการ Premium Hair Booster Treatment โปรแกรมบำรุงดูแลผมชั้นลึกถึงระดับเซลล์รากผม ด้วยสารชีวโมเลกุล สารบำรุงโปรตีน และวิตามินต่าง ๆ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยแพทย์ผู้ชำนาญของนามนิน ที่เข้าใจความต้องการคนรักเส้นผมอย่างแท้จริง ถือเป็นตัวช่วยฟื้นฟูและ Boost เส้นผมให้กลับมาแข็งแรง พร้อมกับลดปัญหาผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุต่าง ๆ อย่างได้ผล


Premium Hair Booster Treatment จึงตอบโจทย์ผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบาง  สามารถเข้ารับบริการโดยไม่จำเป็นต้องปลูกผมถาวร ก็ช่วยคืนความหนาแน่นให้กับเส้นผมได้ หรือหากใครเข้ารับบริการปลูกผมถาวรมาแล้ว ก็สามารถเพิ่มความหนาแน่นและความแข็งแรงของเส้นผม ด้วยการฉีดบำรุง Premium Hair Booster ได้ด้วยเช่นกัน

โปรแกรม Boost ผมระดับพรีเมียมนี้ จะตรงเข้าดูแลรากผมให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ยับยั้งกลไกการอักเสบต่าง ๆ รวมถึงชะลอความเสื่อมของเซลล์ จนให้ผลลัพธ์ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่เข้ารับบริการครั้งแรก นั่นคือ

  • อาการผมร่วง ลดลงภายใน 3-7 วัน
  • กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม โดยเส้นผมอ่อนจะเริ่มขึ้นใน 1-3 เดือน
  • เพิ่มขนาดและความหนาของเส้นผมให้ใหญ่ขึ้น แลดูหนาแน่นขึ้น ใน 2-4 เดือน
  • ฟื้นฟูผมอ่อนแอ ขาดการบำรุง ให้กลับมาดกดำ เงางาม สุขภาพดีจากภายใน

ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเห็นผลชัดที่สุดหลังเข้ารับบริการไปแล้ว 6-9 เดือนนั่นเอง


ไม่เพียงคุณสมบัติที่ตรงใจสาวผมบางที่อยากกลับมามีผมหนาแน่นเท่านั้น Premium Hair Booster Treatment ยังเป็นบริการที่สะดวกสบาย เพียงฉีดสารบำรุงเข้าสู่บริเวณหนังศีรษะ โดยไม่มีอาการเจ็บ ไม่ทิ้งรอยแผล และไม่มีผลข้างเคียง จึงไม่ต้องการการพักฟื้นหรือดูแลเป็นพิเศษ ทั้งยังอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอที่คำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้มาเป็นอันดับต้น ๆ 


Premium Hair Booster Treatment จากนามนิน จึงเป็นคำตอบของผู้หญิงผมบางทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย
...มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ฟื้นบำรุงเส้นผมที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร 
เพียงเริ่มเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอ 
และวางแผนการรักษาไปสู่ปลายทางผมหนาแน่นสุขภาพดีไปด้วยกัน...

นับ 1 ถึง 365 ภารกิจ “หลังปลูกผม”
คุณคิดว่า ขั้นตอนสำคัญที่สุดของการปลูกผมคือขั้นตอนไหน? 

เชื่อว่าคำตอบในใจของหลาย ๆ คน คงหนีไม่พ้นวันทำหัตถการปลูกผม ซึ่งคุณหมอเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้ด้วยเองแบบกราฟต์ต่อกราฟต์ เพื่อเติมเต็มพื้นที่ที่มีปัญหาผมร่วงและผมบางให้กลับมาดูหนาแน่น แต่ที่จริงแล้ว ...การปลูกผม ไม่ได้จบแค่วันที่คุณหมอปักกราฟต์... เพราะไม่ว่าในวันนั้น คุณหมอจะฝากฝีมือในการปักกราฟต์ผมไว้อย่างดีแค่ไหน ถ้าหลังจากนั้น เส้นผมที่เพิ่งปลูกใหม่ ไม่ได้รับการดูแลทะนุถนอมอย่างใส่ใจเพียงพอ ก็มีโอกาสที่ผมปลูกใหม่จะอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการหลุดร่วง และไปไม่ถึงปลายทางผลลัพธ์ผมหนาแน่นสุขภาพดีแบบที่คาดหวังกันไว้

ดังนั้น จึงอาจพูดได้ว่า ขั้นตอนการดูแลอย่างต่อเนื่องหลังการปลูกผม ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้วันปลูกหรือวันไหน ๆ ที่สำคัญ ขั้นตอนที่กินเวลาแสนยาวนานนี้ ไม่มีทางลัด!! เพราะกว่าผมปลูกใหม่จะเติบโตสมบูรณ์เต็มที่ตามวงจรธรรมชาติ ก็ต้องใช้เวลาถึง 1 ปีเต็มเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็เป็น “ภารกิจหลังปลูกผม” ของทั้งคุณหมอและคนไข้ ที่จะต้องร่วมมือกันบำรุงดูแลผมปลูกใหม่ให้อยู่รอด และเติบโตอย่างแข็งแรง ตั้งแต่วันที่ 1 จนถึงวันที่ 365 เลยนั่นเอง

ทราบหรือไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้น หากเราละเลยขั้นตอนการดูแลหลังปลูก เพียงเพราะคิดว่า ปลูกเสร็จแล้วก็จบกัน ไม่ต้องทำอะไรอีก...

  • ข้อแรกเลย ลองนึกภาพว่า กราฟต์ผมของเราเพิ่งได้รับการย้ายมาปลูกใหม่ เซลล์รากผมยังไม่แข็งแรง และยังไม่ฝังตัวในชั้นหนังศีรษะอย่างมั่นคงดี เส้นเลือดเล็ก ๆ ก็ยังไม่เชื่อมต่อกันจนพร้อมที่จะลำเลียงสารอาหารอย่างเต็มที่ จึงมีโอกาสที่รากผมจะเกิดการอักเสบ อ่อนแอ และหลุดร่วงได้ง่าย หรือที่เรียกกันว่า ปลูกผมไม่ติด ซึ่งอาจเกิดจากการปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้อง อย่างเช่นการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนัก ๆ มากเกินไป การปล่อยให้ศีรษะเกิดการกระทบกระแทก การนอนผิดวิธี หรือแม้กระทั่งการสระผมผิดวิธี จนสุดท้ายอาจทำให้บริเวณที่เพิ่งปลูกผมใหม่นั้น กลับไปมีภาวะผมบางหรือผมล้านเหมือนเดิมก็เป็นได้



  • ข้อต่อมา แม้จะปลูกผมไปแล้ว แต่บางคนอาจจะมีภาวะ “ผมล้านต่อ” หมายถึงการที่ผมเดิมในบริเวณใกล้เคียงกับที่ปลูกใหม่ ยังคงทยอยหลุดร่วง โดยจะพบในคนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง จากกรรมพันธุ์ ซึ่งฮอร์โมนที่ชื่อ DHT หรือ Dihydrotestosterone เป็นตัวการออกฤทธิ์ทำให้รูขุมขนมีขนาดเล็กลงผิดปกติ จนเส้นผมที่งอกขึ้นมานั้นมีขนาดเล็ก สั้น บาง และอ่อนแอตามไปด้วย นำไปสู่การหลุดร่วงในที่สุด 

โดยทั่วไป แม้ว่าแพทย์จะช่วยย้ายกราฟต์ผมต้นทุนจาก Safe Zone ด้านหลังท้ายทอย ซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานฮอร์โมน DHT ทำให้เส้นผมแข็งแรง ทนทานต่อการหลุดร่วง มาปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา แต่อย่าลืมว่า ผมเดิมในบริเวณอื่น ๆ ก็ยังได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT อยู่ และมีโอกาสหลุดร่วงต่อเนื่อง ซึ่งหากมีการดูแลหลังปลูกผมอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมเดิมในส่วนอื่น ๆ นี้ได้ด้วย



เพราะฉะนั้น 365 วันหลังการปลูกผม จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่แพทย์จะคอยติดตามผลเป็นระยะ ๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบเฉพาะบุคคล ตามลักษณะปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป ขณะเดียวกันก็เป็นหน้าที่และความร่วมมือของคนไข้เองด้วย ที่จะต้องดูแลบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะการปลูกผมถือเป็นการลงทุนที่ต้องวัดความคุ้มค่าและความสำเร็จกันยาว ๆ หากคนไข้มีวินัย และใส่ใจดูแลผมอย่างดีเพียงพอ ผมใหม่ก็จะค่อย ๆ อวดความแข็งแรง หนาแน่น สุขภาพดี เมื่อครบระยะเวลา 1 ปีเต็ม ทั้งยังช่วยบำรุงฟื้นฟูผมเดิมให้แข็งแรงขึ้นด้วยไปพร้อม ๆ กัน

และเพราะความเข้าใจในธรรมชาติของวงจรเส้นผม รวมถึงเข้าใจความต้องการของคนไข้ นามนินจึงออกแบบบริการและผลิตภัณฑ์ ที่จะช่วยให้เส้นทางสู่การมีผมหนาแน่นสุขภาพดีเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ 


  • เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมสุดอ่อนโยน อย่าง Mojelim Elixir Shampoo ซึ่งเป็นแชมพูที่ผลิตโดยโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านเส้นผมจากเกาหลี ผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่า ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทางผิวหนัง หรือ Hypoallergenic Agent นี่คือแชมพูเหมาะกับผู้ที่มีผมแห้งและผมมัน เนื่องจากมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาสมดุลระหว่างความมันและความชุ่มชื้นบนหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี ทำความสะอาดผมพร้อมบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย และที่สำคัญ ลดโอกาสการหลุดร่วงของเส้นผม ซึ่งคุณหมอแนะนำให้ใช้ควบคู่กันกับ Mojelim Elixir Treatment ครีมนวดที่ช่วยบำรุงอย่างอ่อนโยนไม่แพ้กันนั่นเอง


  •  แล้วมาฟื้นฟูเส้นผมให้แข็งแรงจากภายในกันต่อ ด้วยเซรั่มประสิทธิภาพเยี่ยมอย่าง Elixir Hair Serum by NEAT HAIRNUE ที่จะตรงเข้าบำรุงเส้นผม กระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผมได้รวดเร็วขึ้น และลดการหลุดร่วงของผมที่ปลูกใหม่และผมเดิมในเวลาเดียวกัน มีจุดเด่นอยู่ที่ส่วนผสมสำคัญจากธรรมชาติ 100% ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากดอกอัญชัน หญ้าหางม้า เมล็ดข้าวสาลี และธูปฤาษี ซึ่งจะช่วยกันบำรุงเส้นผมให้ดกดำ เงางาม แลดูสุขภาพดี



  • ขณะเดียวกัน วิตามินต่าง ๆ ก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อความแข็งแรงของเส้นผม โดยคุณหมอได้ค้นคว้า คัดสรร และรวบรวมวิตามินตัวสำคัญมาไว้ด้วยกันในแคปซูลเดียว ในชื่อ VITA H นอกจากรับประทานสะดวกแล้ว ยังได้คุณประโยชน์เต็ม ๆ จากสารสกัดธรรมชาติที่เป็นแหล่งของวิตามินหลากชนิด ทั้งสารสกัดจากข้าวกล้องและผลกระบองเพชร ช่วยลดความมัน การเกิดสิว และการอักเสบของหนังศีรษะ ตามมาด้วย D-Biotin ทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างเส้นผม Zinc Gluconate ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อของเส้นผม และเสริมการเติบโตของเส้นผมอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน Iron Amino Acid Chelate ยังบำรุงรากผมให้แข็งแรง จึงลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ และสุดท้าย Vitamin B Premix ยังช่วยฟื้นฟูให้เส้นผมกลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง


  • ไม่เพียงเท่านั้น นามนินยังขอนำเสนอโปรแกรม Treatment ฉีดบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ที่เหมาะกับผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบาง นั่นคือ Premium Hair Booster Treatment ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูสภาพของเส้นผม กระตุ้นการทำงานของรากผม ทำให้เส้นผมใหม่มีโอกาสงอกได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ส่วนเส้นผมเดิมก็จะได้รับการบำรุงจากที่เคยลีบแบนหรือมีขนาดเล็ก ทำให้ผมเส้นหนาและมีขนาดใหญ่ขึ้น เสริมความหนาแน่น พร้อมกับความดกดำ เงางาม สุขภาพดี ไม่หลุดร่วงง่าย สามารถพิสูจน์ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนตั้งแต่การทำครั้งแรก

ข้อดีของ Premium Hair Booster Treatment ยังรวมถึงความสะดวกสบายที่คนไข้จะได้รับ เพราะเป็นบริการที่ไม่ยุ่งยากเลย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ทิ้งรอยแผลและปราศจากผลข้างเคียงใด ๆ โดยคุณหมอจะคอยดูแลให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด หรืออาจแนะนำให้รับบริการร่วมกับ Treatment โปรแกรมอื่น ๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น



บริการและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากนามนินเหล่านี้ คุณหมอจะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำโดยยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง เนื่องจากคนไข้แต่ละคนก็มีปัญหาเส้นผมรุนแรงมากน้อยต่างกัน และมีความต้องการหรือความจำเป็นเฉพาะบุคคลที่ไม่ซ้ำกัน 

และทั้งหมดนี้ก็คือภารกิจ 365 วันหลังปลูกผม ที่คุณหมอกับคนไข้ จะช่วยกันดูแลผมปลูกใหม่ให้เติบโตอย่างเต็มที่ และมีรากผมสมบูรณ์ แข็งแรง ที่จะอยู่คู่กับคนไข้ไปตลอดชีวิต เพียงอย่าลืมให้ความสำคัญกับขั้นตอนการดูแลหลังปลูกผม ที่แม้จะกินเวลานานสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับผลลัพธ์ผมใหม่ ที่จะคืนความหนาแน่น คืนผมสุขภาพดี และคืนความมั่นใจให้คุณได้อย่างแน่นอน 

เปิดเทรนด์ปลูกผม 2024
“การปลูกผมถาวร” นับเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งทางการแพทย์ ที่คนเกือบทั่วโลกให้ความเชื่อถือ และตัดสินใจเลือกเป็นทางออกในการแก้ปัญหาผมร่วงผมบางมานานหลายสิบปี ซึ่งในช่วงหลังมานี้ เราจะเห็นความก้าวหน้าของเทรนด์การปลูกผมถาวรอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่จำนวนผู้เข้ารับบริการปลูกผมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคนิควิธีการปลูกผม ที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยและสะดวกสบายต่อคนไข้มากขึ้นด้วย 

ในปี 2024 นี้ นามนินจึงขอชวนมาส่องเทรนด์การปลูกผมถาวรที่อัปเดตมาเพื่อคนรักผมโดยเฉพาะ ...แล้วคุณจะทึ่งว่า วงการปลูกผมไทย ไปไกลขนาดนี้แล้วนะ...

เมื่อ Hairline มีความหมายมากกว่าแค่ “แนวผม”
การปลูกผมเพื่อเติมเต็ม Hairline หรือแนวผมบริเวณหน้าผาก ไม่ได้ช่วยแก้แค่ปัญหาผมร่วง ผมบาง อีกต่อไป แต่แพทย์ผู้ชำนาญยังสามารถออกแบบแนวผมใหม่ที่รับกับสัดส่วนความงามของใบหน้าตามหลัก Golden Ratio เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น น่ามองขึ้น จึงช่วยเสริมบุคลิกและสะท้อนตัวตนในแบบที่คนไข้ต้องการได้อีกด้วย



รอยแผลกวนใจ...ซ่อนได้เนียนกริ๊บ
หมดยุคของการเจาะย้ายกราฟต์ผมด้านหลังออกด้วยการผ่าตัด การโกนผม หรือวิธีการเก่า ๆ ที่ทิ้งรอยแผลให้คนไข้ต้องคอยกังวลปกปิดจนเสียบุคลิก เพราะเดี๋ยวนี้มีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องโกนผม ทั้งยังช่วยซ่อนแผลแนบเนียนไปกับทรงผมเดิมได้อย่างกลมกลืน 



ปลูกผมใหม่ วางใจแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น
ปลูกผม ไม่ใช่ว่าใครก็ปลูกกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าจะปลูกให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แพทย์ที่ชำนาญด้านการปลูกผม จะใช้ทั้งความรู้ ทักษะ และความละเอียดประณีตในการปักกราฟต์ผมที่ละกราฟต์ด้วยตัวเอง โดยคำนึงถึงขนาดของเส้นผม รวมถึงทิศทางและองศาให้ดูกลมกลืนไปกับผมเดิม เพื่อให้ได้ผมใหม่ที่ใกล้เคียงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด



“ปากกาปลูกผม” ตัวช่วยสำคัญของแพทย์
นอกจากทักษะ ประสบการณ์ และความใส่ใจของแพทย์แล้ว ปี 2024 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ นั่นคือ Implanter Pen หรือปากกาปลูกผม ที่ทุกวันนี้มีขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตร และสามารถเลือกขนาดหัวปากกาให้เข้ากับลักษณะกราฟต์ผมที่แตกต่างกันของคนไข้ได้ จึงช่วยให้แพทย์ปลูกผมได้แม่นยำ ละเอียด แผลเล็ก หายเร็ว ไม่น่ากลัวเหมือนที่เคยได้ยินกันมาอีกต่อไป



ปลูกผมยุคใหม่ แทบไม่ต้องพักฟื้น
และด้วยปัจจัยที่เล่ามา ไม่ว่าจะเป็นความชำนาญของแพทย์ อุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมไปถึงเทคนิคต่าง ๆ ที่พัฒนาเพื่อให้คนไข้สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ทำให้การปลูกผมใน พ.ศ. นี้ แทบไม่ต้องเก็บตัวพักฟื้นนาน ๆ เหมือนในอดีต เพราะแผลขนาดเล็ก หายไว จึงสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้นกว่าที่เคย คืนเวลาชีวิตให้คุณใช้ได้อย่างเต็มที่


แพทย์ติดตามผล 1 ปีเต็ม
เพราะผมปลูกใหม่ต้องการระยะเวลาในการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามวงจรธรรมชาติ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่แพทย์ผู้ชำนาญจะคอยดูแลติดตามผลอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องตลอด 1 ปีเต็ม ซึ่งระหว่างนั้น คนไข้สามารถสอบถามหรือขอคำแนะนำได้ตลอดเวลา เรียกว่าจับมือไปด้วยกันจนสุดทางจนกว่าผมใหม่จะเติบโตอย่างสมบูรณ์เต็มที่ ไม่มีทิ้งไว้กลางทางแน่นอน



“2024” ปีแห่งอิสระและความมั่นใจจากเส้นผม
หากจะตัดสินใจปลูกผมให้คุ้มค่าทั้งที นอกจากผลลัพธ์เส้นผมที่กลับมาหนาแน่น ไม่หลุดร่วงง่ายแล้ว นี่ยังเป็นโอกาสที่คุณจะได้ปลดล็อกตัวเองสู่อิสระในการจัดแต่งทรงผมได้ทุกสไตล์ หรือเลือกทรงที่สะท้อนบุคลิกในแบบที่คุณต้องการมากที่สุด โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องผมบางอีกต่อไป คืนความมั่นใจให้คุณก้าวออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ วัน

และหากคุณกำลังมองหาเทคนิคการปลูกผมรับเทรนด์เด่นแห่งปี 2024 นามนินขอนำเสนอเทคนิค NEAT ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญของนามนินพัฒนาต่อยอดจนสามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาผมตามหลักการแพทย์ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนไข้ได้มากกว่าที่เคย ...เลือกเทคนิค NEAT ไม่มีตกเทรนด์แน่นอน...

ยาคุมกำเนิดทำผมร่วง ทำยังไงดี?
ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ของการใช้ "ยาคุมกำเนิด" ที่อาจพบได้ คือ “ผมร่วง”  เพราะยาคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมนเพศถ้าหากมีภาวะผมบาง ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ก็มีโอกาสสูงที่ผมบาง ผมร่วงจากกรรมพันธุ์ก็มีโอกาสสูงที่ผมร่วงมากกว่าคนปกติ

สำหรับยาคุมกำเนิดสร้างมาจากฮอร์โมนเพศหญิงสองชนิด คือ estrogen และ progesterone บางยี่ห้ออาจะมีเฉพาะ progesterone เพียงอย่างเดียว เมื่อกินยาคุมกำเนิดเข้าไปแล้วจะมีกลไกยังยั้งการตกไข่

สำหรับยาคุมกำเนิดที่มี progesterone (progestin) สูง จะมี androgen index สูง ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้ผมร่วง ทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้มากขึ้น  หากยาคุมนั้น มี progesterone อยู่ด้วย


สำหรับวงจรของรากผม มี 3  ระยะ ได้แก่
  • Anagen phase ระยะที่กระเปาะผมจะอยู่ลึกสุด สร้างเซลล์และเจริญเติบโตออกมาเป็นเส้นผม
  • Catagen phase ระยะที่กระเปาะผมหยุดสร้างผม รากผมจะแยกตัวออกจากเส้นเลือดที่เลี้ยงผม ผมจึงขาดสารอาหาร เตรียมพร้อมหลุดร่วง
  • Telogen phase  ระยะที่รากผมจะหยุดสร้างเส้นผม เพื่อเตรียมสร้างเส้นผมชุดใหม่



การกินยาคุมกำเนิด จึงทำให้เส้นผมจาก Anagen phase ไปเป็น Telogen phase ได้เร็วกว่าปกติ กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงมากขึ้น โดยปกติผมคนเราจะร่วงประมาณวันละ 100 เส้น ดังนั้นถ้าหากเรากินยาคุมกำเนิดแล้วพบว่ามีผมร่วง อาจจะเฝ้าดูอาการในช่วงระยะ 3 เดือนแรกก่อน

ถ้าหากหลังจาก 3 เดือนไปแล้วผมยังร่วงต่อเนื่อง แนวทางการรักษา มีได้หลายวิธี 
1.เปลี่ยนยาคุมกำเนิด
อย่างแรกที่อาจจะทำได้ทันทีคือ การเปลี่ยนชนิดยาที่ใช้อยู่ ควรปรึกษาแพทย์ว่าควรเลือกใช้แบบไหน หรือหากจะเปลี่ยนยาคุมใหม่ควรจะถามเพิ่มเติมด้วยว่ามีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงเส้นผม
หากร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ประกอบการกินยาคุมเข้าไปก็อาจจะเป็นปัจจัยที่เร่งให้ผมร่วงมากขึ้น แนะนำให้กลับมาดูแลและบำรุงเส้นผมด้วยการใช้เซรั่มทาเส้นผมไปพร้อมกับการกินวิตามินที่ดูแลด้านเส้นผมโดยเฉพาะเพื่อช่วยลดการหลุดร่วงและเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผม



3.รับบริการโปรแกรม Premium Hair Booster
เป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบโดยคุณหมอนิน เพื่อคนที่ต้องการฟื้นฟูดูแลผม ผมร่วง ผมบาง ผมบางผู้หญิงให้กลับมาสุขภาพดีจากภายใน และยังเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาผมร่วงและผมบางในระยะเริ่มต้น ไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ ภาวะทางสุขภาพ ความเครียด การขาดสารอาหาร หรือการใช้สารเคมีในการแต่งผม หรือการกินยาบางชนิดและมีผลข้างเคียง 


ดังนั้นการกินยาคุมกำเนิดทำให้ผมร่วงได้หรือไม่  ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ประกอบกันไปด้วย แนวทางการรักษาดังกล่าวจึงเป็นข้อแนะนำเบื้องต้น ซึ่งถ้าหากต้องการคำแนะนำที่ตรงกับปัญหาเส้นผมของท่าน นามนิน คลินิกแนะนำให้เข้ารับการปรึกษาจากคุณหมอนิน เพื่อให้คุณหมอได้ตรวจ วินิจฉัยและประเมินการรักษาได้เหมาะสมมากที่สุด



Premium Hair Booster ทางออกใหม่เพื่อสาวผมบาง
...ผมที่ดี คือผมที่ยังอยู่บนศีรษะ... 

ใครที่เริ่มมีอาการผมร่วง ผมบาง จะต้องเข้าใจในคำกล่าวนี้แบบมองตาก็รู้ใจ ตบไหล่ก็รู้กัน เพราะผู้หญิงแทบทุกคนก็คงฝันอยากจะมีผมสวยแน่นระดับฟาร์มผม ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะแต่งทรงอย่างไรให้ดูหนาดูมีวอลลุ่ม แต่ในความเป็นจริง ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยกำลังกลุ้มใจที่ต้องเห็นเส้นผมมากมายของตัวเองอยู่บนพื้นห้อง อยู่ตรงฝาท่อในห้องน้ำ หรืออยู่บนปลอกหมอน แทนที่จะอยู่บนศีรษะ!! แถมเวลาหวีผมหน้ากระจก ก็ยังเห็นรอยแสกที่เริ่มกว้างจนเห็นพื้นที่หนังศีรษะสีขาว ๆ เพิ่มมากขึ้นทุกที!!  เรียกได้ว่าภาวะผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาระดับชาติของผู้หญิงเลยก็ว่าได้


"ทราบหรือไม่ว่า สาวผมบางส่วนใหญ่มีสาเหตุของอาการผมร่วง ผมบาง มาจากกรรมพันธุ์มากเป็นอันดับต้น ๆ ภาวะผมร่วงจากพันธุกรรม หรือ Androgenetic Alopecia สามารถพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยพบมากถึงร้อยละ 80 ในผู้ชาย และพบได้ราวร้อยละ 50 ในผู้หญิง ซึ่งหากใครได้ลองศึกษาเกี่ยวกับภาวะผมร่วงผมบางมาบ้าง ก็อาจจะคุ้นกับชื่อของฮอร์โมน DHT ในฐานะตัวการทำให้ผมร่วง"

ที่มาของฮอร์โมน DHT นั้น เกิดจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งแม้จะได้ชื่อว่าเป็นฮอร์โมนเพศชาย แต่ก็มีอยู่ในร่างกายของผู้หญิงด้วยเช่นกัน เมื่อฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนนี้ ถูกเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่อยู่บริเวณหนังศีรษะ เปลี่ยนให้กลายเป็นฮอร์โมน DHT หรือ Dihydrotestosterone ก็จะออกฤทธิ์ทำให้รูขุมขนบริเวณกลางศีรษะมีขนาดเล็กลง จนเส้นผมที่งอกขึ้นนั้นมีลักษณะเส้นเล็ก บาง สั้น ง่ายต่อการหลุดร่วงไปก่อนเวลาอันควร นำไปสู่ภาวะผมบางในที่สุดนั่นเอง

ขณะเดียวกัน ผู้หญิงที่มีอาการผมร่วง ผมบาง ก็อาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมต่าง ๆ อย่างเช่นการยืด ดัด ย้อม ทำสีผม การใช้สารเคมีและความร้อนกับเส้นผมมากเกินไป การสระผม เช็ดผม และหวีผมผิดวิธี บางคนอาจรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ไม่ครบตามโภชนาการ บางคนเกิดภาวะเครียดสะสม จนร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ไปรบกวนการทำงานของเส้นผมให้ยิ่งอ่อนแอลง และบางคนอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น หลังคลอดบุตร หรือได้รับผลข้างเคียงจากโรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ ก็ส่งผลทำให้ผมร่วงมากขึ้นได้เช่นกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัญหาผมร่วง ผมบาง ไม่ได้จบแค่ที่ผม แต่ยังส่งผลกระทบถึงสภาพจิตใจด้วย เพราะเส้นผมคือเครื่องประดับชิ้นสำคัญของใบหน้า ทำหน้าที่เสริมแต่งบุคลิกภาพ เป็นเครื่องหมายของความสวยงามและสะท้อนความใส่ใจในการดูแลตนเองของเจ้าของเส้นผม ทั้งยังเป็นตัวช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงเรา ในการก้าวออกไปใช้ชีวิตและพบปะผู้คนในสังคม จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงจะเริ่มมองหาทางออกในการดูแลเส้นผม เพื่อคืนความหนาแน่น คืนผมสุขภาพแข็งแรง และคืนความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้หญิงหลายคนจะให้ความสนใจเกี่ยวกับ “การปลูกผม” เพิ่มขึ้น และการปลูกผมก็เริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสูงวัยหรือวัยสาว แต่มีข้อเท็จจริงเล็ก ๆ ที่คุณผู้หญิงไม่ควรมองข้าม นั่นคือ การปลูกผมอาจไม่ใช่วิธีการที่ตอบโจทย์สำหรับผู้หญิงทุกคน ก็เป็นได้ 


เป็นความจริงที่ว่า การปลูกผมในผู้ชาย มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูงกว่าการปลูกผมในผู้หญิง ทั้งนี้ ต้องเข้าใจก่อนว่า การปลูกผม คือการเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอย เพื่อนำไปปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นแนวผมบริเวณหน้าผาก หรือกลางศีรษะ ซึ่งความแตกต่างอยู่ตรงผมด้านหลังท้ายทอย ที่เราเรียกว่า “ผมต้นทุน” นี่เอง เพราะสำหรับผู้ชาย จะเรียกผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอยนี้ว่าเป็น “บริเวณ Safe Zone” เนื่องจากเป็นบริเวณที่เส้นผมมีคุณสมบัติพิเศษในการต้านฮอร์โมน DHT ทำให้มีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย (ลองสังเกตดูว่า ในคุณผู้ชายที่มีภาวะผมล้านรุนแรง ผมด้านหลังท้ายทอยมักจะเหลืออยู่เป็นบริเวณสุดท้ายเสมอ) 

ดังนั้น เมื่อเราย้ายผมต้นทุนจากบริเวณ Safe Zone ไปปลูกใหม่ คุณสมบัติความแข็งแรง ทนทานต่อการหลุดร่วงนี้ ก็จะยังติดไปกับเส้นผมเหล่านั้นด้วย ทำให้ผมปลูกใหม่มีโอกาสอยู่รอดสูง และคงทนถาวรไปตลอดวงจรชีวิตของเส้นผม 

แต่สำหรับผู้หญิง เรื่องราวไม่ได้จบแฮปปี้เอนดิ้งแบบนั้น!! เพราะผู้หญิงไม่มี Safe Zone หรือพูดง่าย ๆ คือ ผมด้านหลังท้ายทอยของผู้หญิงเรา ไม่ได้มาพร้อมคุณสมบัติต้านฮอร์โมน DHT และทนทานต่อการหลุดร่วง นั่นหมายความว่า แม้จะย้ายผมต้นทุนจากด้านหลังท้ายทอยของผู้หญิงไปปลูกใหม่ ก็ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ผมใหม่เหล่านั้นจะมีโอกาสอ่อนแอและหลุดร่วงง่าย ทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่เต็มที่หากเปรียบเทียบกับผู้ชาย และเท่ากับต้องสูญเสียผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอยเพื่อย้ายมาปลูกใหม่แบบไม่คุ้มค่านัก

และนั่นทำให้ คุณหมอนิน – แพทย์หญิงดิลกณิกนันต์ นามทองต้น ซึ่งเข้าใจปัญหาของผู้หญิงเป็นอย่างดี พยายามพัฒนา Treatment ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นทางออกใหม่สำหรับผู้หญิงผมบาง นอกเหนือไปจากการปลูกผม จนเกิดเป็นโปรแกรม Premium Hair Booster Treatment นวัตกรรมฉีดบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ สูตรเฉพาะตัวของนามนิน ที่มีความพิเศษตรงที่คุณหมอนินได้ทดลองกับตัวเองจนได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แล้วจึงเริ่มให้บริการแก่คนรักเส้นผมทั่วไป



Premium Hair Booster Treatment เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมร่วง ผมบาง โดยสภาพหนังศีรษะยังมีรูขุมขนที่เปิดเป็นปกติ คุณสมบัติของ Treatment นี้ จะช่วยฟื้นฟูดูแลเส้นผม กระตุ้นการทำงานของรากผม เพิ่มโอกาสการงอกใหม่ของเส้นผมให้สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็บำรุงเส้นผมที่เคยมีขนาดเล็ก หรือลีบแบน ให้มีขนาดใหญ่และหนาขึ้น ดกดำ เงางามยิ่งขึ้น ที่สำคัญ เพิ่มความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายอีกต่อไป ช่วยให้รอยแสกกลางศีรษะของคุณผู้หญิงที่เคยดูกว้าง ได้รับการเติมเต็มจนดูหนาแน่นขึ้น และดูสุขภาพดีขึ้นกว่าที่เคย

ปัจจุบัน Premium Hair Booster Treatment กลายเป็นโปรแกรมยอดนิยมที่คนไข้ของนามนินหลายท่านให้การตอบรับเลือกใช้บริการ และยังกลับมาเข้ารับบริการซ้ำเป็นจำนวนมากตามคำแนะนำของคุณหมอ โดยคุณหมอจะออกแบบแนวทางการรักษาและดูแลเส้นผมแบบเฉพาะบุคคล ให้เหมาะสมและตอบโจทย์คนไข้แต่ละคนมากที่สุด ส่งผลให้คนไข้หลายท่านสามารถพิสูจน์ผลลัพธ์เส้นผมที่สุขภาพดีและหนาแน่นขึ้นได้ โดยไม่ต้องรับประทานยากดฮอร์โมนร่วมด้วย ซึ่งคุณหมออาจจะแนะนำให้ใช้บริการ Premium Hair Booster Treatment ร่วมกับเซรั่มบำรุงผมจากสารสกัดธรรมชาติ Elixir Hair Serum by NEAT HAIR NUE หรือร่วมกับการรับประทาน VITA H วิตามินรวมที่คุณหมอเป็นผู้พัฒนาสูตรขึ้น เพื่อช่วยบำรุงรากผมอย่างล้ำลึก


ทั้งหมดนี้ นับเป็นทางออกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้หญิงผมบาง ไม่เพียงจากสาเหตุเกี่ยวกับกรรมพันธุ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ที่มีเส้นผมไม่แข็งแรง หรือผ่านการยืด ดัด ย้อม ทำสี จนผมอ่อนแอด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับคุณหมอเกี่ยวกับการฉีดบำรุงด้วย โปรแกรม Premium Hair Booster Treatment หรือเลือกบริการและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การรักษามากที่สุดได้ เพื่อให้เส้นผมคืนกลับมาช่วยบูสต์รอยยิ้มและความมั่นใจการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง


ก้าวข้ามความกังวล ปลูกผมเทคนิค NEAT
ด้วยประสบการณ์ปลูกผมปรับรูปลักษณ์ให้กับคนรักผมวัย 50+ มาแล้วมากมาย ทำให้นามนินเข้าใจทุกความกังวลที่คนวัยนี้ต้องเผชิญ ...แล้วคุณล่ะ... เป็นหนึ่งในคนที่ยังลังเลใจ ไม่กล้าลองเปิดใจทำความรู้จัก หรือตัดสินใจปลูกผมเสียที เพราะเหตุผลเหล่านี้เหมือนกันหรือเปล่า

มาดูกันว่า นามนินช่วยให้คนรักผมวัย 50+ ได้ก้าวข้ามผ่านความกังวล และจบปัญหาคาใจเกี่ยวกับการปลูกผมทั้งหมดนี้ได้อย่างไร

“ไม่เคยรู้จักการปลูกผมถาวรเลยว่าเป็นยังไง หรือลองศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเองแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะบางทีเขาพูดเป็นเชิงวิชาการ”

ก่อนอื่น ไม่ว่าคุณจะมีพื้นความรู้เรื่องการปลูกผมมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถเข้าพูดคุยปรึกษากับคุณหมอนินได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งหลายเสียงบอกตรงกันว่า คุณหมอนินอธิบายได้ชัดเจน เป็นเหตุเป็นผล  เข้าใจง่าย ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ทำให้เห็นภาพว่าเป็นการย้ายกราฟต์ผมจากข้างหลังท้ายทอยมาปลูกใหม่ และจะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างตลอดระยะเวลาการปลูก 1 ปีเต็ม 


อีกทั้งคุณหมอนินยังมีความเป็นกันเอง พูดคุยและรับฟังคนไข้ในบรรยากาศสบาย ๆ เชื่อมั้ยว่า หลาย ๆ คนพอใจและตัดสินใจเลือกเป็นคนไข้ปลูกผมของคุณหมอนินตั้งแต่คุยกันวันแรกนี่เลย

“ไม่อยากปลูกผม กลัวต้องผ่าตัดหรือโกนผม / กลัวเจ็บตอนทำ / หลังทำก็กลัวแผลใหญ่ บวม ออกไปเจอใครไม่ได้ ต้องพักฟื้นรักษาตัวอีกนาน”

นามนินเข้าใจว่าหลายคนติดภาพการปลูกผมด้วยวิธีการเดิม ๆ ที่อาจจะดูน่ากลัว ไม่สะดวกสบาย และเสียเวลาหลายสัปดาห์ในการพักฟื้น แต่คุณหมอนินเลือกใช้เทคนิคใหม่ล่าสุดในการปลูกผม ซึ่งนำมาพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมจนกลายเป็นเทคนิคที่ไม่เหมือนใคร ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องโกนผม เพียงเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอยมาปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา ซึ่งมีโอกาสเจ็บหรือบวมน้อยมาก และคุณหมอยังใช้อุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศ คือ Implanter หรือปากกาปลูกผมขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร 



ซึ่งหลังปลูกเสร็จ จะเหลือเพียงรอยแผลที่เล็กลงมากเมื่อเทียบกับเทคนิคในอดีต โอกาสที่จะเลือดออกหรือบวมช้ำก็น้อยมากเช่นกัน ทำให้ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถลุกออกไปใช้ชีวิตประจำวันหรือพบปะใคร ๆ ตามปกติได้เลย

“ถึงเวลาปลูกผมจริง ๆ กลัวว่าจะเป็นผู้ช่วยปลูกให้ ไม่ใช่คุณหมอ”

สำหรับการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่พัฒนาขึ้นโดยคุณหมอนิน สบายใจได้เลยว่า คุณหมอนินเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้ด้วยตัวเองทั้งหมด แบบกราฟต์ต่อกราฟต์ ซึ่งต้องใช้ความละเอียด พิถีพิถัน และความชำนาญเฉพาะตัวมาก ๆ ในการปักกราฟต์ผมใหม่ให้ได้ทิศทางและองศากลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม เพื่อให้ผมใกล้เคียงความเป็นธรรมชาติ ไม่ชี้ย้อนผิดทิศผิดทาง 


อีกทั้งต้องเลือกขนาดความหนาบางของเส้นผมที่พอเหมาะกับจุดที่จะปลูก ต้องปักกราฟต์ให้ได้ความหนาแน่นกำลังดี ไม่แน่นเกินไปจนเสี่ยงกราฟต์หลุด และไม่น้อยเกินไปจนดูผมบาง รวมถึงต้องควบคุมระยะความลึกในการปักที่เหมาะสมต่อการเติบโตของเส้นผมใหม่ด้วย ...งานละเอียดขนาดนี้ จึงต้องวางใจให้คุณหมอดูแลเท่านั้น...

“ผมบางพร้อมกันหลายจุดเลย ปัญหาหนักขนาดนี้ การปลูกผมจะยังช่วยได้มั้ย”

ผมบางหลายจุด (เช่น ด้านหน้า กลางศีรษะ และบริเวณขวัญ) เรียกได้ว่าเป็นปัญหาสามัญประจำคนสูงวัยเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวลใจไป ลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอนินดูก่อน ซึ่งคุณหมอจะวิเคราะห์สภาพปัญหา และกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอย ว่ามีเพียงพอที่จะเติมเต็มส่วนที่บางได้ทั้งหมดหรือไม่ โดยคุณหมอนินจะอธิบายกับคนไข้ตามความเป็นจริง หากกราฟต์ผมเหลือน้อย หรือต้องไปรอดูคุณภาพกราฟต์ผมหลังย้ายออกจากด้านหลังแล้วอีกทีหนึ่ง ก็จะแจ้งให้คนไข้ทราบอย่างจริงใจ 



ทั้งนี้ สำหรับคนไข้ในวัย 50+ เราพบทั้งกรณีที่ยังมีกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังเพียงพอแบบหายห่วง และกรณีที่เหลือกราฟต์ผมอยู่น้อย ซึ่งในกรณีหลัง คุณหมอจะช่วยคำนวณและจัดสรรการใช้กราฟต์ผมอย่างเหมาะสม เช่น เลือกเติมผมด้านหน้าที่จะส่งผลต่อบุคลิกและรูปลักษณ์มากที่สุดให้ดูหนาแน่นเต็มที่ ขณะที่บริเวณขวัญอาจจะเติมพอให้ดูไม่บางเกินไป เนื่องจากไม่ใช่จุดสังเกตหลัก วิธีนี้ก็ช่วยให้คนไข้คืนความมั่นใจกลับมาได้เช่นกัน

“ผมบางพร้อมกันหลายจุด แต่อยากปลูกเน้นแค่บางจุดเป็นพิเศษ สามารถบอกคุณหมอได้มั้ย”

ที่นามนิน คุณหมอนินจะรับฟังความต้องการของคนไข้เป็นหลักเสมอ เปิดโอกาสให้คนไข้ได้เล่าถึงความกังวลใจ และเป้าหมายในมาปลูกผม เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาร่วมกัน ให้สามารถตอบโจทย์คนไข้ได้ตรงจุด ขณะเดียวกันก็เสริมคำแนะนำถูกต้องตามหลักการแพทย์ด้วย 

ตัวอย่างเช่น คนไข้บางคนอาจจะบอกคุณหมอว่าอยากได้แนว Hairline หรือกรอบหน้าใหม่แบบไหน ซึ่งคุณหมอก็จะช่วยปรับให้แลดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับสัดส่วนใบหน้า และคนไข้หลายคนก็ขอคุณหมอให้ปลูกเน้นด้านหน้าเป็นพิเศษ ซึ่งคุณหมอจะช่วยจัดสรรกราฟต์ผมให้ หรือบางรายอาจใช้วิธีปลูกด้านหน้า ควบคู่ไปกับการฉีดสารบำรุง Premium Hair Booster Treatment เพื่อแก้ปัญหาผมบางกลางศีรษะควบคู่กันไป ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจไม่แพ้กัน

ที่สำคัญ ยิ่งสูงวัย ปัญหาผมบางอาจยิ่งรุนแรงขึ้น ตรงข้ามกับผมต้นทุนด้านหลังที่เหลือน้อยลงหรือไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น การตัดสินใจปลูกผมให้เร็วที่สุด ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเติมเต็มผมให้กลับมาหนาแน่นเต็มที่ได้มากกว่า และสำหรับใครที่ยังรู้สึกว่า สูงวัยแล้วจะปลูกผมไปทำไม ปลูกไปให้ใครดู เหล่าคนไข้วัย 50+ ของนามนินเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเลยว่า คนสูงวัยก็ยังต้องมีสังคม หลายคนยังทำงานต่อเนื่อง ยังออกไปพบปะเพื่อนฝูงญาติมิตร หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ดังนั้น การปลูกผมในวัยนี้ก็ยังถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างไม่ต้องกังวล

นามนิน คำตอบของ “คนรักผม”
“เส้นผม” เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงอัตลักษณ์ของแต่ละคนได้อย่างชัดเจนไม่ต่างจากเสื้อผ้าที่เลือกสวมใส่ในแต่ละวัน โดยเฉพาะในปัจจุบัน ที่ไลฟ์สไตล์ของคนเปลี่ยนไป ทุกเพศทุกวัยมีอิสระในการที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น การย้อม ยืด ดัด ไดร์ เป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่ใครๆ ก็ทำกัน และยังไม่นับมลภาวะต่างๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น แสงแดด ฝุ่น ควัน ที่ทำร้ายเส้นผมอยู่ตลอดเวลา ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมจึงตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ปัญหาบางอย่างอาจดูแลด้วยตัวเองได้หากเป็นในระยะเริ่มต้น เช่น ผมแห้งเสียจากการทำเคมี การเลือกผลิตภัณฑ์ที่วางขายในท้องตลาดมาใช้แก้ปัญหาอาจยังพอช่วยได้ แต่หากปัญหาผมแห้งเสียรุนแรงขึ้นจนเริ่มผมร่วง ผมบาง หรือมีปัญหาอื่นๆร่วมด้วย ผลิตภัณฑ์ต่างๆเหล่านั้นก็ไม่สามารถช่วยได้อีกต่อไป ก็ถึงเวลาที่ต้องแก้ไขปัญหาจากภายในและฟื้นฟูอย่างถูกวิธี

นามนิน เข้าใจถึงปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน จึงได้พัฒนาและพร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม ออกแบบการรักษา ดูแลและฟื้นฟูเส้นผมโดยแพทย์เฉพาะทาง ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีปัญหาผมร่วงผมบางเพียงอย่างเดียวจึงจะมาพบแพทย์ได้ เพียงแค่คุณเป็น “คนรักผม” ก็มาที่นามนินได้ตลอดเวลา

เริ่มต้น หากต้องการให้เส้นผมได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แนะนำ Hair Spa ของนามนิน เป็นการดูแลเส้นผมที่ประกอบไปด้วยโปรแกรม Namnin Perfect Hair Treatment ที่ผสานศาสตร์การนวดบำรุงหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการปวดศีรษะ บรรเทาความเมื่อยล้าจากการทำงาน ร่วมกับการฟื้นฟูเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ช่วยปรับสมดุล



หนังศีรษะ มีคุณสมบัติลดการหลุดร่วง กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ส่งผลให้ผมแข็งแรง เงางาม มีน้ำหนักตั้งแต่โคนจรดปลาย และในทุกขั้นตอนการทำทรีทเม้นต์ คุณจะสัมผัสได้ถึงความสบายและผ่อนคลายเหมือนอยู่ในสปา การได้ดูแลเส้นผมที่รักพร้อมกับได้ฮีลใจตัวเองไปด้วย เป็นโมเมนต์ที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้งค่ะ


อีกหนึ่งบริการในกลุ่ม Hair Spa คือ Namnin Natural Hair Color เป็นการปิดผมขาวจากสารสกัดธรรมชาติ พร้อมบำรุงเส้นผมอย่างอ่อนโยน ในการทำทรีทเม้นต์ คุณจะได้รับการย้อมผมด้วยสารบำรุงออร์แกนิก ที่ผสานพลังและคุณค่าของธัญพืชและสมุนไพรกว่า 30 ชนิด ปราศจากแอมโมเนีย เฮนน่า และสารเคมีอันตราย ปิดท้ายด้วยการเสริมความแข็งแรงของเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผมเข้มข้น ที่คัดสรรมาเพื่อดูแลเส้นผมให้เงางามและสุขภาพดีกว่าที่เคย 



สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงและบาง หากต้องการฟื้นคืนสุขภาพเส้นผม ทรีทเม้นต์หนึ่งของนามนินที่ตอบโจทย์ได้ดีมากคือ Premium Hair Booster การบำรุงผมที่เสริมความแข็งแรงจากภายใน กระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม ส่งผลให้ผมที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรง เส้นผมมีขนาดใหญ่ขึ้น หนาแน่น ดกดำ เงางาม และสุขภาพดีจากรากจรดปลายผม ไม่มีผลข้างเคียง และสัมผัสได้ว่าเส้นผมแข็งแรงขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับบริการ




ทุกคนที่เข้ามารับบริการจะได้รับการการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาโดยคุณหมอนิน ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ชำนาญด้านการปลูกผม โดยจะเป็นการออกแบบการฟื้นฟูและรักษาเฉพาะรายบุคคล เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม เพื่อให้หน้าผู้รับบริการกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีอิสระในแบบของตัวเอง แล้วให้นามนินเป็นผู้ดูแลเส้นผมที่คุณรัก  Enjoy your life

ปลูกผมครั้งแรก “เลือก” ให้ดีที่สุด
ก่อนตัดสินใจเลือกการปลูกผม ลองพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าเลือกที่ “คุณภาพ” หรือ “ราคา” เพราะการปลูกผมเป็นศาสตร์ที่ละเอียดอ่อน มีรายละเอียดซับซ้อน หากเลือกที่ราคาเป็นหลักมากกว่าคำนึงถึงคุณภาพ อาจกลายเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด สร้างปัญหาใหม่ที่ต้องตามแก้ไขกันอีกยาวค่ะ

ทำไมถึงต้องเน้นย้ำอยู่เสมอว่า การปลูกผมต้องเลือกให้ดีตั้งแต่ครั้งแรก เพราะหากเลือกผิดตั้งแต่แรก การจะปลูกผมใหม่เพื่อแก้ไขนั้นยากกว่ามากค่ะ ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง อย่างแรกคือ ต้นทุนผมที่เหลือบริเวณ Safe Zone นั้นพอหรือไม่ ถ้าเหลือน้อยเกินไป จำเป็นต้องนำผมจากนอก Safe Zone มาปลูก ผมที่ปลูกใหม่ก็จะเผชิญปัญหาผมร่วงบางจากกรรมพันธุ์เช่นเดิม และต้องคอยระมัดระวังในการดูแลต่อเนื่องหลังการปลูกต่อไปอีก ผลลัพธ์การปลูกผมเพื่อแก้ไขก็จะ “ดีกว่าเดิม แต่ยังมีข้อควรระวัง”


อีกข้อจำกัดหนึ่งที่คนทั่วไปอาจจะมองข้ามคือ ทิศทางของผมที่ปลูกในครั้งแรกนั้นเป็นอย่างไร เป็นธรรมชาติ แนบเนียนกับผมเดิมหรือไปกันคนละทิศคนละทางกับผมเดิม ถ้าคำตอบคือ “เส้นผมไม่สามัคคีกัน” นั่นยิ่งกลายเป็นการปลูกผมครั้งแรกนั้นได้สร้างปัญหาใหม่ที่แก้ยากยิ่งกว่าเดิม จะรื้อออกเพื่อปลูกใหม่ก็ทำไม่ได้ แม้แพทย์จะอยากทำมากแค่ไหนก็ตาม ทำได้เพียง แก้ไขให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 



หากตัดสินใจจะปลูกผม สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือ “คุณภาพ” ทั้งในด้านวิธีการ ขั้นตอนการทำหัตถการ ความชำนาญของแพทย์ เทคนิคและเครื่องมือที่ใช้ และต้องครอบคลุมไปจนถึงการดูแลหลังการปลูกผม การศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านจะช่วยให้การตัดสินใจไม่ผิดพลาด หากไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร 

วิธีที่ดีที่สุดคือ การเดินเข้าไปปรึกษาปัญหากับแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง โดยเฉพาะที่นามนิน แพทย์จะเป็นผู้ประเมินปัญหาและให้คำปรึกษาตั้งแต่ครั้งแรก ออกแบบการรักษาให้เฉพาะเป็นรายบุคคล และแพทย์เป็นผู้ลงมือปลูกผมทุกเส้นให้ด้วยตัวเอง พร้อมทั้งยังดูแลต่อเนื่องหลังการปลูกผม ดูแลครบทุกมิติตั้งแต่รากผมจนถึงปลายเส้นผม สายส่องรีวิวที่ว่าแน่ก็ยังแพ้การเปิดใจเดินเข้าไปคุยกับหมอนะคะ  


การปลูกผมนั้นใช้ระยะเวลายาวนานเป็นปีจึงจะได้เห็นผลลัพธ์เป็นเส้นผมใหม่ที่สมบูรณ์ และที่สำคัญ เส้นผมนั้นจะอยู่กับคุณและสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณไปอีกตลอดชีวิต ในเมื่อเป็นสิทธิ์ของคุณเองในการเลือก ขอให้เลือกให้ดีตั้งแต่ครั้งแรก เพราะในนาทีที่คุณได้สัมผัสเส้นผมใหม่ได้อย่างใจที่รอคอย คุณจะเข้าใจคำว่า “คุ้มค่า” ด้วยความรู้สึกของตัวคุณเอง และหลังจากนั้น นอกจากความคุ้มค่าทางใจแล้ว ยังได้กำไรเป็นความสุขในการใช้ชีวิตแบบยาวๆ และยั่งยืนอีกด้วยค่ะ 
ปลูกผมให้ดี เริ่มที่ “กราฟต์ผม”
กว่าจะถึงปลายทางของการปลูกผม ที่ให้ผลลัพธ์เป็นผมใหม่หนาแน่น เรียงตัวสวย เนียนเป็นธรรมชาติ ทราบหรือไม่ว่า จุดสตาร์ทของเส้นทางสู่ผมใหม่นั้น จะต้องตั้งต้นอยู่บนพื้นฐาน “กราฟต์ผมต้นทุน” ที่ดี ซึ่งแต่ละคนจะมีลักษณะและคุณภาพของกราฟต์ผมไม่เหมือนกัน และนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้การปลูกผมประสบความสำเร็จมากน้อยแตกต่างกันตามไปด้วย 

กราฟต์ผม หรือกอผม คือกลุ่มของรากผมและเส้นผมที่อยู่รวมกันประมาณ 1-4 เส้นในรูขุมขนเดียว และคำว่ากราฟต์ผมต้นทุน ก็หมายถึงกราฟต์ผมเฉพาะบริเวณด้านหลังท้ายทอย หรือ Safe Zone ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับนำมาปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหาได้ โดยในขั้นตอนการปลูกผม จะต้องย้ายกราฟต์ผมจากบริเวณดังกล่าวออกมาเตรียมปลูกใหม่ทีละกราฟต์ โดยเลือกกราฟต์ผมที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงมากที่สุด

ในความเป็นจริงแล้ว กราฟต์ผมต้นทุนของเรามีคุณภาพไม่เท่ากัน เนื่องมาจากสาเหตุหลายข้อ ดังนี้

  • กรรมพันธุ์ 
เป็นตัวกำหนดให้บางคนมีผมเส้นหนา หรือเส้นบาง หรือมีความหนาแน่นของผมแตกต่างกัน เช่นบางคนมีผม 1-2 เส้นใน 1 กราฟต์ ขณะที่บางคนมีผม 3-4 เส้นใน 1 กราฟต์ ซึ่งจะทำให้ผมดูหนาแน่นกว่า

  • วัย 
เมื่ออายุมากขึ้น แน่นอนว่าสุขภาพเส้นผมจะค่อย ๆ เริ่มเสื่อมถอยลง และมีโอกาสหลุดร่วงมากขึ้น นี่เองเป็นเหตุผลหนึ่งที่คุณหมอบอกว่า ไม่ควรรอจนสูงวัยแล้วจึงค่อยตัดสินใจมาปลูกผม เพราะทั้งคุณภาพและปริมาณของกราฟต์ผมต้นทุนอาจจะน้อยลง ไม่เหมือนเมื่อยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวนั่นเอง

  • การดูแลสุขภาพ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารให้ครบตามโภชนาการ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ การใช้สารเคมีและความร้อนกับเส้นผมมากเกินไป ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้สุขภาพผมแย่ลง ไม่คงทนแข็งแรง เสี่ยงต่อการหลุดร่วง

  • แสงแดด ฝุ่น ควัน และมลภาวะ
เป็นตัวการทำร้ายเส้นผมให้อ่อนแอ แห้ง แตกปลาย เปราะหักหรือหลุดร่วงง่ายกว่าที่ควร

  • โรคและความเจ็บป่วยต่าง ๆ
โรคบางประเภท รวมถึงการต้องกินยาจำเป็นบางชนิด ก็มีส่วนในการส่งผลข้างเคียงต่อเส้นผมเช่นกัน อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงมากขึ้นกว่าปกติ

ทั้งหมดนี้ ทำให้ลักษณะกราฟต์ผมของแต่ละคน มีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ผมตรง ผมหยิก ผมเส้นเล็กบาง ผมเส้นหนาใหญ่ กราฟต์ผมเส้นเดี่ยว หรือกราฟต์ผม 4 เส้น ซึ่งแพทย์จะต้องวิเคราะห์สภาพกราฟต์ผมต้นทุนเหล่านี้ เพื่อนำมาวางแผนการปลูกผมใหม่ และคำนวณว่าควรจะใช้กราฟต์ผมปริมาณเท่าไร เพื่อเติมเต็มส่วนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ให้กลับมาหนาแน่นอีกครั้ง






ทำไมแพทย์จึงต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับการวางแผนและคำนวณกราฟต์ผม นั่นก็เป็นเพราะ กราฟต์ผมต้นทุนบนศีรษะของเรามีอยู่อย่างจำกัด หากจะปลูกผมใหม่ ควรใช้กราฟต์ผมต้นทุนจากบริเวณด้านหลังท้ายทอย หรือที่เรียกว่า Safe Zone เท่านั้น เนื่องจากผมบริเวณนี้มีคุณสมบัติในการต้านฤทธิ์ของฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมหลุดร่วง เมื่อย้ายผมจากบริเวณนี้ไปปลูกใหม่ คุณสมบัติความคงทนแข็งแรงนี้ก็จะติดตามไปด้วย 


ดังนั้น การปลูกผมจึงไม่ใช่หัตถการที่ทำได้บ่อย ๆ ในชีวิตของคนคนหนึ่งอาจปลูกผมใหม่ได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้นเอง แพทย์จึงต้องวิเคราะห์ และคำนวณเป็นอย่างดี เพื่อใช้กราฟต์ผมต้นทุนที่มีอยู่ให้คุ้มค่า และวางแผนไว้เผื่อในวันข้างหน้าหากจะต้องมีการปลูกผมซ้ำด้วย เนื่องจากผมในบริเวณอื่น ๆ ที่อยู่ข้างเคียงอาจเกิดภาวะผมร่วงและผมล้านต่อจากจุดเดิมที่เคยปลูกไว้ก็เป็นได้

แต่ไม่ว่ากราฟต์ผมต้นทุนของเราจะมีคุณภาพเป็นอย่างไร ก็สามารถลองเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผม เพื่อร่วมกันออกแบบแนวทางการปลูกผมที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดที่สุด โดยใช้กราฟต์ผมต้นทุนอย่างเหมาะสม รวมถึงเสนอแนะทางออกอื่น ๆ เช่น หากกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ไม่เพียงพอ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้กราฟต์ผมนอก Safe Zone (ซึ่งไม่ได้มีคุณสมบัติต้านฮอร์โมน DHT) ร่วมด้วยได้ เพียงแต่ต้องดูแลเป็นพิเศษ รับประทานยา และรับบริการ Treatment อย่างสม่ำเสมอ และหลังจากเข้ารับการปลูกผมเรียบร้อยแล้ว ก็ควรใส่ใจดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้งผมใหม่ และผมเดิม มีความแข็งแรง คงทน อยู่กับเจ้าของเส้นผมต่อไปแบบถาวร


บุหรี่ไฟฟ้า ภัยเงียบของคนรักผม
“บุหรี่” คือเจ้าของฉายา ฆาตกรผ่อนส่ง ซึ่งหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำกล่าวว่า การสูบบุหรี่ 1 ซอง ทำให้ชีวิตสั้นลง 2 ชั่วโมง 20 นาที และการสูบบุหรี่เพียงมวนเดียว ก็ทำให้ชีวิตสั้นลงไป 7 นาที เนื่องจากสารพิษในบุหรี่นั้น เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ หลายโรค รวมทั้งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ ส่วนของหนังศีรษะและเส้นผม 

ในช่วงหลังมานี้ เราจึงเริ่มเห็นเทรนด์การใช้ “บุหรี่ไฟฟ้า” แทนบุหรี่ทั่วไปแบบเดิม ซึ่งถ้าไม่นับข้อดีในแง่ของการหยุดส่งควันบุหรี่กลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมารบกวนคนรอบข้างแล้ว ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า บุหรี่ไฟฟ้า ควรจะมาทดแทนบุหรี่ทั่วไปหรือไม่ เป็นอันตรายน้อยลง หรือมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน แล้วจะสามารถช่วยในการเลิกบุหรี่ได้จริงหรือ อีกทั้งในปัจจุบัน ประเทศไทยก็ยังไม่อนุญาตให้มีการนำเข้า ซื้อขาย หรือครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

การมาถึงของบุหรี่ไฟฟ้า ยังทำให้เกิดคำถามใหม่ ๆ ในแวดวงของคนรักเส้นผม ว่าหากการสูบบุหรี่แบบเดิมมีส่วนทำให้ผมอ่อนแอ หลุดร่วงง่าย จนนำไปสู่ภาวะผมร่วงและผมบางได้แล้ว ถ้าอย่างนั้น บุหรี่ไฟฟ้า จะเป็นอันตรายต่อเส้นผมของเรามากน้อยแค่ไหน ผู้ที่จะเข้ารับการปลูกผม ซึ่งคุณหมอมักจะขอให้งดการสูบบุหรี่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะสามารถเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าทดแทนได้หรือไม่ 

...มาทำความเข้าใจบุหรี่ทั้ง 2 แบบ รวมถึงผลลัพธ์ต่อเส้นผมของเราไปพร้อม ๆ กัน...


บุหรี่ทั่วไป VS บุหรี่ไฟฟ้า

เราคงคุ้นเคยกับภาพของบุหรี่ทั่วไป ที่ประกอบด้วยกระดาษ ใบยาสูบ และก้นกรอง เมื่อจุดบุหรี่แล้ว จะเกิดการเผาไหม้ ซึ่งส่วนที่เป็นอันตรายที่สุดของบุหรี่ ก็จะอยู่ที่ “ควันบุหรี่” นั่นเอง เพราะเต็มไปด้วยสารเคมีหลายพันชนิด บ้างเป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งที่ทำให้เกิดโรคร้ายตามมาได้หลายประเภท 

กระบวนการเผาไหม้ของบุหรี่ ยังทำให้ผู้สูบได้รับอันตรายจากสารบางตัว เช่น ทาร์ หรือคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า เป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและโรคมะเร็งอีกด้วย


ขณะที่บุหรี่ไฟฟ้า จะมีหลักการใช้งานแตกต่างออกไป เนื่องจากเป็นอุปกรณ์สำหรับสูบบุหรี่ที่ไม่ได้ใช้การเผาไหม้ แต่อาศัยกลไกไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำ ประกอบด้วยแบตเตอรี่ Atomizer ที่ทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำ รวมถึงน้ำยา ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่ก่อให้เกิดควัน ทำให้สามารถลดความเสี่ยงจากการเผาไหม้ของทาร์ หรือคาร์บอนมอนอกไซด์ได้  อย่างไรก็ตาม เมื่อน้ำยาระเหยเป็นไอและได้รับการสูบเข้าไป  สารประกอบที่เป็นอันตรายบางชนิดก็จะเข้าสู่ร่างกายโดยตรงได้เช่นกัน


มีสารอะไรอยู่ในบุหรี่ ?

สำหรับบุหรี่ทั่วไป หากเกิดการเผาไหม้แล้ว จะทำให้เกิดสารเคมีมากกว่า 4,000 ชนิดเลยทีเดียว ในบรรดาสารเหล่านั้น มีหลายร้อยชนิดที่อาจส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และมี 42 ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง นอกจากนั้น ยังมีสารพิษอื่น ๆ ที่ประกอบอยู่ในบุหรี่มวนเล็ก ๆ 1 มวน ตัวอย่างเช่น

  • นิโคติน (Nicotine) ซึ่งเป็นสารหลักที่เราจะพูดถึงกันในหัวข้อถัดไป
  • ทาร์ (Tar) หรือน้ำมันดิน จะไปจับอยู่ที่เนื้อปอด ทำให้เยื่อบุหลอดลมทำงานได้ไม่เต็มที่
  • คาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) เป็นก๊าซแบบเดียวกับที่ปล่อยจากท่อไอเสียรถยนต์ จะไปขัดขวางการลำเลียงออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง ทำให้เหนื่อยง่าย หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น
  • ไฮโดรเจนไดออกไซด์ (Hydrogen dioxide) ทำให้เกิดอาการไอ มีเสมหะ และหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • ไนโตรเจนไดออกไซด์ (Nitrogen dioxide) ทำลายเยื่อบุหลอดลมจุดสำคัญ ทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองได้
  • แอมโมเนีย (Ammonia) ออกฤทธิ์ระคายเคือง ทำให้เกิดหลอดลมอักเสบ

และในบุหรี่ไฟฟ้า ยังคงมีนิโคตินเป็นสารประกอบหลักเช่นเดิม รวมไปถึงสารอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น

  • โพรโพลีนไกลคอล ทำให้เกิดอาการไอ
  • กลีเซอรีน รวมถึงสารแต่งกลิ่นและรส แม้จะเป็นสารเคมีที่สามารถใช้กับอาหารได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อเปลี่ยนรูปเป็นไอและได้รับการสูบเข้าไปแล้ว ยังไม่มีการยืนยันว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย เช่น เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ดวงตา และปอด โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง โรคหอบหืด และโรคถุงลมโป่งพอง

นอกจากนั้น ยังพบสารประกอบในไอของบุหรี่ไฟฟ้าอีกหลายชนิด ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น โลหะหนัก สารหนู ฟอร์มาลีน และเบนซีน เป็นต้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่นโรคหัวใจ และโรคมะเร็ง



ทำความรู้จัก “นิโคติน”

เราได้ยินกันจนคุ้นหูว่า นิโคติน คือสารพิษตัวร้ายในบุหรี่ วันนี้ เราจะมาทำความรู้จักนิโคตินกันมากขึ้น นิโคตินถือเป็นสารที่ทำให้เกิดการเสพติด ทำให้ผู้สูบบุหรี่อยากกลับมาสูบซ้ำ ๆ โดยสมองจะเกิดการเสพติดหลังได้รับนิโคตินอย่างเร็วที่สุดภายใน 7 วินาทีเท่านั้น (นั่นจึงเป็นที่ถกเถียงกันว่า การสูบบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมีสารเสพติดอย่างนิโคตินเป็นสารประกอบหลัก จะช่วยให้เลิกบุหรี่ได้จริงหรือไม่)

นิโคตินนั้นเรียกได้ว่ามีฤทธิ์แรงมากที่สุดในบรรดาสารต่าง ๆ ในควันบุหรี่ เป็นสารคล้ายน้ำมัน ไม่มีสี หากเข้าสู่ร่างกายแล้ว ร้อยละ 95 ของนิโคตินจะไปจับตัวรวมกันอยู่ปอด ส่วนที่เหลืออาจจะไปเกาะที่ริมฝีปาก และบางส่วนจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทั้งกระตุ้น กด และกล่อมระบบประสาทส่วนกลาง เพิ่มการหลั่งสารเอพิเนฟรีน และสารอะดรีนาลีน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น เพิ่มความเสี่ยงของโรคร้าย ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง มะเร็งปอด ช่องปาก หลอดอาหาร และตับอ่อน รวมไปถึงโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ทั้งยังกระตุ้นการหลั่งคอร์ติซอล ที่ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น นำไปสู่โรคเบาหวานอีกด้วย 



“นิโคติน” อันตรายแฝงต่อเส้นผม

นิโคติน ซึ่งเป็นสารตัวหลักทั้งในบุหรี่ทั่วไปและในบุหรี่ไฟฟ้า จะออกฤทธิ์ทำให้เกิดการหดตัวของเส้นเลือดทั่วร่างกาย หรือที่เรียกว่า Vasoconstriction ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดหัวใจ เส้นเลือดสมอง รวมถึงเส้นเลือดที่ทำหน้าที่ลำเลียงอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์รากผม เมื่อรากผมได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ ผลที่ตามมาก็คือ รากผมจะอ่อนแอลง ไม่คงทนแข็งแรงเหมือนปกติ ทำให้เส้นผมเปราะขาด หลุดร่วงง่าย

การสูบบุหรี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีส่วนทำให้เกิดอาการผมร่วง ผมบาง และผมล้าน ซึ่งงานวิจัยจากหลาย ๆ แหล่งก็ให้ข้อสรุปตรงกันว่า ผู้ที่สูบบุหรี่ มีโอกาสเกิดภาวะผมร่วง ผมบาง ได้มากกว่า และเร็วกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่





“นิโคติน” ศัตรูของผมปลูกใหม่

เมื่อนิโคตินเป็นอันตรายต่อเส้นผมของคนทั่วไป จึงไม่น่าแปลกใจที่คุณหมอจะขอให้ผู้เข้ารับการปลูกผมระมัดระวังเรื่องการสูบบุหรี่เป็นพิเศษ เพราะเส้นผมปลูกใหม่นั้นบอบบาง เสี่ยงต่อการหลุดร่วงมากกว่าเส้นผมทั่วไปหลายเท่า แม้ว่าจะปัจจุบันจะยังไม่มีงานวิจัยที่ชี้ชัดถึงผลกระทบของนิโคตินต่อการงอกของผมปลูกใหม่ แต่เป็นที่แน่ชัดว่า การสูบบุหรี่จะทำให้โอกาสรอดของกราฟต์ผมปลูกใหม่ลดลง หรือทำให้ผมปลูกใหม่ขึ้นช้า เกิดเป็นเส้นผมที่อ่อนแอ ไม่คงทนแข็งแรง และมีขนาดเส้นเล็กบางกว่าที่ควร

นอกจากนั้น การที่นิโคตินไปทำให้เส้นเลือดหดตัว หนังศีรษะที่อาจมีแผลหลงเหลืออยู่หลังการทำหัตถการปลูกผม ก็จะได้รับสารอาหารและออกซิเจนน้อยลง ส่งผลให้แผลยิ่งหายช้า และอาจมีส่วนทำให้กราฟต์ผมหลุดร่วงไปก่อนเวลาอันควร



คำแนะนำจากคุณหมอ

คุณหมอจะแนะนำข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ ให้งดการสูบบุหรี่ ทั้งบุหรี่ทั่วไป และบุหรี่ไฟฟ้า ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการปลูกผม เพื่อเตรียมสภาพของหนังศีรษะและเซลล์รากผมให้พร้อมสำหรับการปลูกผมใหม่อย่างเต็มที่ และควรงดการสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์หลังปลูกผมไปแล้วด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มอัตราการอยู่รอดของเส้นผมปลูกใหม่ให้มากขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น หากใครสามารถเลิกบุหรี่ในระยะยาวได้ ก็จะช่วยคืนความแข็งแรงให้กับเส้นผมเดิม และเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างคงทนถาวรให้กับเส้นผมปลูกใหม่ จนสามารถอยู่คู่กับหนังศีรษะของเราตามวงจรธรรมชาติได้นานขึ้นด้วย

ชุบชีวิต คืนเส้นผม ด้วย Premium Hair Booster
นวัตกรรมบำรุงผมขั้นสุด Premium Hair Booster ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนรักเส้นผมทุกคนที่ต้องการฟื้นฟูดูแลผมให้กลับมาสุขภาพดีจากภายใน และยังเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาผมร่วงและผมบางในระยะเริ่มต้น ไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ ภาวะทางสุขภาพ ความเครียด การขาดสารอาหาร หรือการใช้สารเคมีในการแต่งผม ซึ่งยังไม่จำเป็นต้องเข้ารับการปลูกผมใหม่ ก็สามารถรับบริการ Premium Hair Booster เพื่อคืนความหนาแน่น ดกดำ ให้กับเส้นผมที่คุณรักได้ รวมถึงผู้ที่เข้ารับการปลูกผมมาแล้ว แต่ต้องการเสริมความแข็งแรงและความหนาแน่นของเส้นผมขึ้นไปอีกระดับ ก็สามารถพิสูจน์พลังบำรุงของ Premium Hair Booster ได้เช่นกัน

Premium Hair Booster นวัตกรรมฟื้นฟูปัญหาผมบาง
ในระยะเริ่มต้นบำรุงสู่หนังศีรษะเพื่อให้ตรงเข้าลึกถึงเซลล์รากผม
:: ลดการหลุดร่วง กระตุ้นการงอกของผมใหม่
:: บำรุงเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม สุขภาพดี
:: เห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา
:: รับบริการพร้อมกับ Treatment อื่นๆได้
:: ฟื้นฟูให้ผมหนาและแข็งแรงขึ้น สะดวกสบาย ไม่ต้องพักฟื้น













“เส้นผม” ชีวิตจะเสียศูนย์ถ้าปล่อยให้สูญเสีย
ปัญหาผมร่วงผมบางเหมือนระเบิดเวลา ยิ่งรอยิ่งรุนแรง แก้ไขได้ยาก หรือในที่สุดอาจต้องปล่อยให้ปัญหาระเบิดโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย สำหรับผู้ที่ยังไม่มีปัญหาอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ แต่เมื่อใดที่สังเกตได้ว่าเริ่มมีความผิดปกติเกี่ยวกับเส้นผม เสียงนับถอยหลังของระเบิดเวลาจะดังขึ้นทันที เริ่มด้วยความสงสัย กังวล ตามมาด้วยความพยายามปกปิด หวาดระแวง สูญเสียความมั่นใจ บุคลิกภาพเปลี่ยนไป หากยื้อเวลาไปเรื่อยๆ ก็จะตกอยู่ในสภาพนั้นตลอดไป   



ก่อนหน้านี้การปลูกผมยังเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยาก ทั้งวิธีการที่ซับซ้อน และน่ากลัว การดูแลหลังการปลูกผมก็มีขั้นตอนมาก ยุ่งยาก ต้องพักฟื้นนาน กระทบชีวิตประจำวันแทบไม่ต่างกับการผ่าตัดใหญ่ การปลูกผมจึงค่อนข้างเป็นเรื่องที่ไกลตัว ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมจริงๆ ถึงขั้น “อุทิศตน” จึงจะเข้าถึงการปลูกผมได้

แต่ในปัจจุบัน การปลูกผมพัฒนาขึ้นมาก โดยเฉพาะด้านเทคนิคและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการปลูกผม ดังที่ พญ.ดิลกณิกนันต์ นามทองต้น หรือคุณหมอนิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม ผู้ที่เข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของเส้นผมว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงบุคลิกภาพและตัวตนได้อย่างชัดเจน จึงได้มุ่งมั่นคิดค้นและพัฒนาเทคนิคการปลูกผม NEAT และต่อยอดไปถึงการดูแลสุขภาพเส้นผมแบบองค์รวมที่จะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเส้นผมในภาวะต่างๆ ได้กลับมามั่นใจและสัมผัสกับความสุขกับการใช้ชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง



การปลูกผมเทคนิค NEAT เป็นการผสานกันอย่างลงตัวระหว่างศาสตร์และศิลป์ เพื่อให้การปลูกผมมอบทั้งความสวยงามและความสะดวกสบายให้ผู้เข้ารับบริการ เข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ที่ทุกอย่างต้องไม่กระทบกับกิจวัตรประจำวัน ผลลัพธ์จากการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่สัมผัสได้คือ

  • กรอบหน้าใหม่ที่ออกแบบโดยแพทย์ตามหลัก Golden Ratio เสริมให้รูปหน้ามีสัดส่วนที่สวยงามขึ้น
  • การปลูกผมด้วยมือแพทย์ทุกเส้น จึงมั่นใจได้ทั้งความหนาแน่นและทิศทางของผมที่เป็นธรรมชาติ
  • เทคนิคการเจาะนำผมออกจากด้านหลังทีละเส้นแบบขั้นบันได ไม่ต้องโกนผม ไม่ทิ้งรอยแผล 
  • อุปกรณ์ที่ใช้ปลูกผมมีขนาดเล็กมาก ปลูกผมได้ละเอียด แม่นยำ แผลเล็ก เจ็บน้อย ไม่ช้ำบวม ไม่ต้องพักฟื้นหลังการปลูกผม ใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
  • ดูแลหลังการปลูกผมต่อเนื่อง ติดตามผลเป็นระยะ ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะได้ผลลัพธ์เป็นเส้นผมใหม่ที่สมบูรณ์





เมื่อการปลูกผมไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป ก็ไม่ควรปล่อยให้ปัญหาผมร่วงผมบางมาทำลายความมั่นใจและตัวตนของคุณได้อีก เปิดใจให้ NEAT ได้เติมเต็ม “เส้นผมใหม่” ที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นคนใหม่ที่ดูดียิ่งขึ้น พร้อมเปิดโอกาสรับสิ่งดีๆที่จะเข้ามาในชีวิต ซึ่งไม่ได้เป็นคำกล่าวที่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะทุกคนที่เลือกปลูกผมเทคนิค NEAT  ต่างได้สัมผัสกับความรู้สึกดีเป็นพิเศษแบบนี้มาแล้วทั้งสิ้น

หยุดวงจรระเบิดเวลาของปัญหาเส้นผมได้ทันที อยู่ที่การตัดสินใจของตัวคุณเอง         
   

5 Facts ควรรู้ก่อนปลูกผม
การปลูกผม น่าจะเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตของใครหลาย ๆ คน เพราะถือเป็นการลงทุนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่เรื่องของตัวเงิน แต่ยังมีใบหน้าและเส้นผมของเราเองเป็นเดิมพัน!! เราจึงมักได้ยินบ่อย ๆ ว่า ก่อนปลูกผม ควรศึกษาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ซึ่งก็เป็นคำแนะนำที่นามนินอยากฝากถึงคนรักผม คนที่กำลังตัดสินใจเรื่องการปลูกผม หรือคนที่กำลังเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผมด้วยเช่นกัน 

และนี่คือ 5 Facts สำคัญ ที่เป็นเหตุผลว่า ทำไมเราจึงควรศึกษาทำความเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ ให้ดีก่อนเข้ารับการปลูกผม ซึ่งอาจเป็นเพียงครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิต


Fact No.1
การปลูกผม โอกาสเพียงครั้งเดียวที่ไม่ควรปล่อยให้พลาด

การปลูกผมไม่เหมือนการทำหัตถการเสริมความงามอื่น ๆ ที่มีโอกาสแก้ไขซ้ำได้เป็นครั้งที่  3 4 5 หรือบ่อยครั้งเท่าไหร่ก็ได้ไม่มีสิ้นสุด เพราะการปลูกผม จะต้องใช้ผมของเจ้าตัวเองเท่านั้น และไม่ใช่ผมตรงไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นผมจาก Safe Zone บริเวณด้านหลังท้ายทอย ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดนั่นเอง

มาทำความเข้าใจหลักการปลูกผมง่าย ๆ กันก่อน เคยลองสังเกตมั้ยว่า ในคนส่วนใหญ่ที่มีภาวะผมล้าน ส่วนของผมที่มักจะเหลืออยู่กับหนังศีรษะของเราได้นานที่สุด ก็คือผมบริเวณด้านหลังท้ายทอย หรือที่เรียกว่าผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone นั่นเป็นเพราะผมตรงนั้นมีคุณสมบัติในการต้านทานฮอร์โมน DHT ตัวการสำคัญที่ทำให้ผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่าย แพทย์จึงต้องเลือกใช้ผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ย้ายออกมาปลูกใหม่ในพื้นที่ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เพื่อเสริมเติมความหนาแน่น ที่พิเศษก็คือ แม้จะย้ายมาปลูกใหม่แล้ว แต่คุณสมบัติความทนทานไม่หลุดร่วงง่าย ก็จะยังคงอยู่กับผมส่วนนี้ไปตลอด 


ถึงตรงนี้ คุณผู้ชายคงโล่งใจกันไปเป็นแถว ๆ ว่าเรามีตัวช่วยชั้นดีอยู่บนศีรษะของเรานี่เอง แต่ยัง!! ยังไม่จบแค่นั้น ธรรมชาติยังให้โจทย์ใหญ่ท้าทายพวกเรา ด้วยการจำกัดพื้นที่ของ Safe Zone ด้านหลังท้ายทอยไว้เพียงไม่มาก นั่นหมายความว่า ผมต้นทุนที่เราพอจะพึ่งพาได้ในยามปลูกผม มีอยู่ในปริมาณจำกัด ทำให้เรามีโอกาสปลูกผมใหม่กันได้เพียง 1-2 ครั้งในชีวิตเท่านั้น เพราะผมต้นทุนมีน้อย และแพทย์ก็ไม่สามารถย้ายออกมาใช้ได้ทั้งหมด จะต้องคงเหลือไว้เพื่อไม่ให้ผมบริเวณด้านหลังท้ายทอยดูบางจนผิดธรรมชาติด้วย ยิ่งใครที่อายุมากขึ้น ผมต้นทุนก็ยิ่งน้อยลงไปตามกาลเวลา ทำให้การจัดการปัญหาผมบางยิ่งยากขึ้นไปอีก บางคนปลูกได้เพียงครั้งเดียว ผมต้นทุนก็หมดแล้ว บางคนตัดสินใจมาพบแพทย์ช้าเกินไปจนผมต้นทุนเหลือไม่พอปลูกในครั้งแรกด้วยซ้ำ 

ดังนั้น การศึกษาข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยให้คุณเลือกตัดสินใจ ปลูกผมให้ดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรก เพื่อไม่พลาดโอกาสสำคัญของชีวิต


Fact No.2
กราฟต์ผม ศัพท์เทคนิคที่มือใหม่ต้องรู้

ในข้อแรก เราพูดถึงการย้ายผมต้นทุนออกจาก Safe Zone เพื่อมาปลูกใหม่ ขอขยายความอีกนิดว่า ในการปลูกผม เราไม่ได้ย้ายผมออกทีละเส้นเดี่ยว ๆ แต่ย้ายออกทีละ 1 กราฟต์ผม คำว่ากราฟต์ผมนั้นก็หมายถึงกอผมที่มีเส้นผมอยู่รวมกันตั้งแต่ 1-4 เส้น และใน 1 รูขุมขนบนหนังศีรษะก็จะมีกราฟต์ผม 1 กราฟต์ 

ทำไมเราต้องรู้จักกราฟต์ผม นั่นก็เพราะคุณหมอจะวิเคราะห์ปัญหาผมของเรา และสภาพผมต้นทุน ร่วมกับปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เพื่อคำนวณปริมาณกราฟต์ที่เหมาะสม ว่าควรย้ายกราฟต์ผมออกมาเท่าไหร่ และจะปลูกอย่างไรให้หนาแน่นเหมาะสมกับพื้นที่ โดยมีหลักอยู่ว่า คุณหมอจะปลูกผมใหม่ประมาณ 55-60 กราฟต์ต่อตารางเซนติเมตร ซึ่งเป็นความหนาแน่นที่กำลังดี ใกล้เคียงกับผมจริง แลดูเป็นธรรมชาติ ไม่น้อยเกินไปจนผมยังดูเหมือนบางอยู่ และไม่มากเกินไปจนผมใหม่เบียดแย่งสารอาหารกัน จนอาจนำไปสู่การหลุดร่วงได้ง่าย 


ที่สำคัญ เราจะได้ทำความเข้าใจ และลองประเมินกราฟต์ผมที่ควรใช้ในการปลูกเบื้องต้นด้วยตนเอง จะช่วยให้เราสามารถวางแผนร่วมกับคุณหมอได้อย่างราบรื่น และมั่นใจได้ว่าราคาที่ต้องจ่ายเพื่อการย้ายกราฟต์ผมในปริมาณนั้น ๆ จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า คุ้มราคาอย่างแท้จริง


Fact No.3
กระบวนการปลูกผม การเดินทางร่วมกันระหว่างหมอกับคนไข้

การปลูกผมเต็มไปด้วยรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนมากมาย หากลองทำความเข้าใจก็จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับเส้นผมและหนังศีรษะ ขณะเดียวกันก็เข้าใจปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการออกแบบการรักษาของคุณหมอ รวมไปถึงรับรู้ถึงบทบาทของทั้งคุณหมอและคนไข้ ที่จะต้องให้ความร่วมมือกันตลอดกระบวนการปลูกผม


ก่อนปลูกผม คุณหมอจะรับฟังปัญหาเส้นผมของคนไข้ เพื่อวิเคราะห์และออกแบบแนวทางการรักษาให้ตอบโจทย์มากที่สุด โดยยึดความต้องการของคนไข้เป็นศูนย์กลาง จากนั้นจึงประเมินและคำนวณปริมาณกราฟต์ผมต้นทุนที่ต้องใช้ในการปลูกผมใหม่ ตามมาด้วยการออกแบบกรอบหน้า หรือ Hairline โดยใช้สัดส่วนความงาม Golden Ratio เพื่อเติมเต็มแนวไรผมบริเวณหน้าผาก และเสริมให้ใบหน้าดูหวานละมุน อ่อนเยาว์ หรือคมเข้มสมาร์ทขึ้น

ในวันทำหัตถการปลูกผม ขั้นตอนจะเริ่มจากการเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอยออก โดยไม่ต้องตัดผมหรือโกนผม และใช้เทคนิคขั้นบันได หมายถึงการเจาะย้ายกราฟต์ออกเป็นแถบบาง ๆ สลับกัน เพื่อซ่อนรอยแผลได้อย่างแนบเนียน ก่อนจะนำกราฟต์ผมแช่ในน้ำยารักษาสภาพผมทันที และตัดแต่งกราฟต์ผมให้เหมาะกับบริเวณที่จะปลูก จากนั้นคุณหมอจะลงมือปักกราฟต์ผมให้ด้วยตัวเอง ทีละกราฟต์ ๆ จนได้ความหนาแน่นของเส้นผมที่เต็มแน่นกำลังดี 


และจากนั้นอีก 1 ปีเต็ม คือขั้นตอนการดูแลติดตามผลหลังปลูก ซึ่งคุณหมอจะคอยตรวจการเจริญเติบโตของเส้นผมทุกระยะ พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลตนเอง เพื่อให้เส้นผมปลูกใหม่มีอัตราการรอดได้มากที่สุด เนื่องจากผมปลูกใหม่จะใช้เวลา 1 ปีตามวงจรธรรมชาติ จึงจะแข็งแรงสมบูรณ์เต็มที่ ตรงนี้เองที่คนไข้จะต้องให้ความร่วมมือในการทะนุถนอมและบำรุงเส้นผมอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่เช่นนั้น เส้นผมก็มีโอกาสหลุดร่วง จนกลับไปมีอาการผมบางซ้ำอีกก็เป็นได้


Fact No.4
สำคัญแค่ไหน ทำไมต้องปลูกผมด้วยแพทย์

สำคัญแน่นอน เพราะการปลูกผมต้องประยุกต์ใช้ทั้งศาสตร์การแพทย์ และมุมมองเชิงศิลป์ ในการออกแบบการรักษาและออกแบบความงามไปพร้อม ๆ กัน งานนี้จึงต้องอาศัยแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผมตัวจริงเท่านั้น จึงจะมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นผมเพียงพอ 

และในขณะที่ทำหัตถการปลูกผมนั้น มีปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องระมัดระวังและใส่ใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปักกราฟต์ผมให้ได้ความหนาแน่นตามจำนวนกราฟต์ที่คำนวณไว้ ซึ่งจะหนาแน่นกำลังดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป การคัดเลือกเส้นผมที่มีขนาด ความหนาบาง และความโค้ง ให้เหมาะกับบริเวณที่จะปลูก เพราะผมบริเวณต่าง ๆ อย่างเช่นตรงกลางศีรษะ หรือแนวไรผมบริเวณหน้าผาก ย่อมมีลักษณะที่ต่างกัน ซึ่งแพทย์จะต้องมีความละเอียดอ่อนตรงจุดนี้


นอกจากนั้น แพทย์จะต้องปักกราฟต์ผมโดยเรียงให้ได้ทิศทางและองศาที่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม เพื่อความเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งข้อนี้สำคัญมาก ๆ เพราะทิศทางผมเป็นสิ่งที่ยังไม่สามารถสังเกตผลลัพธ์ได้ในช่วงแรก ต้องรอให้ผมยาวขึ้นเสียก่อนจึงจะเห็น และถ้าชี้ผิดทิศทาง ย้อนแย้งกับเส้นผมเดิม ก็จะไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีก 

และสิ่งที่แพทย์ต้องควบคุมยังรวมไปถึงระยะความลึกในการปักกราฟต์ผมด้วย เพื่อให้แน่ใจว่ารากผมจะเชื่อมต่อกับชั้นหนังศีรษะอย่างดี สามารถรับสารอาหารที่มาหล่อเลี้ยงได้อย่างเต็มที่ และเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งหมดนี้ ก็คือเหตุผลว่า ทำไมแพทย์จึงควรลงมือปลูกผมให้คนไข้ด้วยตัวเองทุกกราฟต์ แบบที่ใครก็ทำแทนไม่ได้นั่นเอง


Fact No.5
อุปกรณ์ปลูกผมที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐาน 

อย่างไรก็ตาม แพทย์ผู้ชำนาญก็ยังต้องการผู้ช่วยมือหนึ่งเหมือนกัน นั่นก็คืออุปกรณ์ในการปลูกผมต่าง ๆ อย่างเช่นอุปกรณ์ช่วยเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย เพื่อคงสภาพของกราฟต์ผมไว้ได้มากที่สุด และอุปกรณ์เด่นที่ขาดไม่ได้ ก็คือปากกาปลูกผม หรือ Implanter Pen สำหรับปักกราฟต์ผมเพื่อปลูกใหม่ลงในพื้นที่ที่ต้องการ 


โดย Implanter Pen จะช่วยถนอมรากผมไม่ให้บอบช้ำ ต่างจากการใช้ Forceps หรือคีมคีบ ซึ่งเป็นวิธีปลูกผมที่ใช้กันในสมัยก่อน ทำให้อัตราการอยู่รอดของเส้นผมสูงขึ้น แพทย์เองก็สามารถปลูกผมได้อย่างละเอียด แม่นยำ รวดเร็ว และควบคุมทิศทาง องศา ตลอดจนระยะความลึกในการปลูกได้ง่ายขึ้น ทั้งยังลดอาการเจ็บหรือบวมซึ่งเป็นผลข้างเคียงในคนไข้บางรายได้อีกด้วย

อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหล่านี้ จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การปลูกผมประสบความสำเร็จได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

และนี่ก็คือ 5 Facts ควรรู้ก่อนปลูกผม ที่จะช่วยให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่า หากจะตัดสินใจปลูกผมครั้งหนึ่งในชีวิต นอกเหนือจากเรื่องของราคาแล้ว ควรพิจารณาปัจจัยอะไรร่วมด้วยอีกบ้าง อย่าลืมว่าผลลัพธ์ของการปลูกผมจะอยู่กับเราไปจนตลอดชีวิต โดยเรามีโอกาสปลูกผมเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อดูแลเส้นผมให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

ปลูกผมใหม่ ในวัย 50+
ไม่ใช่แค่วัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาว แต่คนทุกวัย ก็อยากจะมีรูปลักษณ์ที่ชวนมองหรือบุคลิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อเติมเต็มความรู้สึกรักตนเองและมั่นใจในตนเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า “เส้นผม” เป็นปัจจัยความงามข้อหนึ่ง ที่เปรียบเหมือนเครื่องประดับตามธรรมชาติของร่างกาย ช่วยเสริมความมั่นใจในทุก ๆ วันของการใช้ชีวิต แต่เมื่อเส้นผมแข็งแรงสุขภาพดีไม่ได้คงทนยาวนานพอที่จะอยู่กับเราไปตลอด หลายคนจึงพบปัญหาผมบาง ผมร่วง ไปจนถึงผมล้านเมื่ออายุมากขึ้น 


หากคุณหรือคนในครอบครัว ที่อยู่ในวัย 50+ และกำลังกลุ้มใจกับปัญหาผมล้านหรือผมบางกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง จนกังวลว่า ปัญหาหนักขนาดนี้ จะยังปลูกผมใหม่ได้อยู่ไหม สิ่งแรกที่คุณควรทำอย่างไม่ต้องลังเลใจ ก็คือการเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอผู้ชำนาญด้านเส้นผม


เพราะคุณหมอคือคนเดียวที่ช่วยวิเคราะห์สภาพปัญหาผม สำรวจปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะประเมินความเป็นไปได้ และออกแบบแนวทางการรักษา เพื่อคืนความหนาแน่นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะได้มากที่สุด และนี่ก็คือแนวทางการแก้ปัญหาผมสำหรับคนวัย 50+ ที่แม้ว่าจะมีต้นทุนผมสุขภาพดีไม่มากเท่ากับคนในวัยหนุ่มสาว แต่ก็ยังมีทางออกหลายรูปแบบที่คุณหมอแนะนำเช่นกัน


1 ปลูกผมถาวร

สำหรับแนวทางนี้ คนไข้ในวัย 50+ ส่วนใหญ่จะมีความกังวลใจ เนื่องจากปัญหาผมบางในวัยนี้มักจะขยายเป็นวงกว้าง นั่นหมายความว่าคนไข้ต้องการกราฟต์ผมสำหรับการปลูกใหม่ค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณด้านหลังท้ายทอย ที่มีคุณสมบัติต้านทานฮอร์โมนที่ส่งผลให้ผมหลุดร่วงง่าย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการย้ายมาปลูกใหม่ ก็อาจเหลือจำนวนน้อยลง หรือมีความอ่อนแอลงเนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นของเจ้าของเส้นผมเอง


อย่างไรก็ตาม คุณหมอจะช่วยประเมินการใช้กราฟต์ผมที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เพื่อช่วยแก้ปัญหาผมบางให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนั้นก็จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้กราฟต์ผมที่นอกเหนือไปจากบริเวณด้านหลังท้ายทอย มาช่วยเสริมด้วยอีกส่วนหนึ่ง 

ที่สำคัญ คุณหมอจะช่วยออกแบบการปลูกผมให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของรูปลักษณ์ หรือบุคลิกภาพ ภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่ เพื่อให้เส้นผมใหม่ช่วยคืนความมั่นใจให้กับคนไข้ได้ในที่สุด


2 Premium Hair Booster

อีกทางเลือกหนึ่งที่คุณหมอมักแนะนำให้กับคนไข้ไม่ว่าอยู่ในวัยไหนก็ตาม ก็คือการเข้ารับบริการ Treatment บำรุงล้ำลึก ที่คัดสรรโดยนามนิน เพื่อคนรักเส้นผมโดยเฉพาะ โดย Premium Hair Booster เป็นนวัตกรรมที่จะช่วยลดอาการผมร่วง และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม พร้อมกับฟื้นบำรุงให้เส้นผมที่อ่อนแอ ลีบบาง มีขนาดใหญ่ขึ้น หนาขึ้น และแข็งแรงยิ่งขึ้นจากภายใน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ภาวะทางสุขภาพ ความเครียด การขาดสารอาหาร ตลอดจนมลภาวะหรือสารเคมี

Premium Hair Booster พัฒนาขึ้นโดยแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผมของนามนิน อาศัยพลังบำรุงขั้นสุดจากอนุภาคไซส์จิ๋วที่เล็กระดับนาโน หรือเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1/1000 เท่า ซึ่งแยกออกมาจากสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิด ภายในประกอบด้วยสารชีวโมเลกุลต่าง ๆ นับพันชนิด และโปรตีนอีกหลายประเภท มากกว่าสารชีวโมเลกุลและโปรตีนที่พบใน PRP หรือเกล็ดเลือดเข้มข้นเป็นพันเท่า 

ไม่เพียงเท่านั้น นามนินยังเพิ่มพลังบูสต์เต็มขั้น ด้วยวิตามินสูตรเฉพาะ เพื่อทำงานร่วมกับอนุภาคบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นนวัตกรรมที่สะดวกสบาย เพียงฉีดสารบำรุงเข้าสู่หนังศีรษะบริเวณที่ยังมีรูขุมขนอยู่ สารสำคัญต่าง ๆ จะตรงเข้าซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และฟื้นฟูการสร้างเซลล์ใหม่ โดยไม่ทิ้งรอยแผลหรืออาการเจ็บ ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลเป็นพิเศษ หลังรับบริการสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

Premium Hair Booster ยังให้ผลลัพธ์ที่พิสูจน์เห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรก ในการคืนความหนาแน่น ดกดำ แข็งแรงให้กับเส้นผม จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีความปลอดภัยสูงสำหรับคนทุกวัย แม้ในวัย 50+ ก็ตาม


3 ปลูกผมเทคนิค NEAT + Premium Hair Booster

สำหรับบางกรณีที่มีปัญหาเส้นผมในระดับค่อนข้างรุนแรง คุณหมออาจแนะนำให้เข้ารับการปลูกผมร่วมกับ Treatment ด้วย เพื่อเสริมบำรุงเส้นผมเดิมและเส้นผมใหม่ไปพร้อม ๆ กัน เนื่องจากความแข็งแรงของเส้นผมเดิมก็จะส่งผลดีต่อเส้นผมใหม่ด้วยนั่นเอง 

หากคนไข้ให้ความสนใจเลือกวิธีนี้ หรือคุณหมอมองว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทั้งคุณหมอและคนไข้จะร่วมกันออกแบบการรักษา ว่าควรจะฉีดบำรุงด้วย Premium Booster ก่อน เพื่อเสริมให้ผมแข็งแรง แล้วจึงค่อยเข้ารับการปลูกผม หรือในอีกกรณีหนึ่ง สามารถที่จะเข้ารับการปลูกผมใหม่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงฉีดบำรุงตามระยะที่คุณหมอกำหนด ซึ่งมีคนไข้ของนามนินที่เคยเข้ารับบริการด้วยสูตรผสมนี้ และกลับบ้านไปด้วยผลลัพธ์ที่น่าพอใจ


ทั้งนี้ การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผม รวมถึงความต้องการของผู้เข้ารับบริการเอง ซึ่งคุณหมอจะเปิดใจคุยกับคนไข้อย่างตรงไปตรงมา ถึงความเป็นไปได้จริงในการรักษา ดังนั้น ก้าวแรกที่สำคัญที่สุด จึงเป็นการเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอ เพื่อทำความเข้าใจปัญหา และร่วมกันหาทางฟื้นฟูดูแลเส้นผม 

...เพราะไม่มีคำว่าสูงวัยเกินไป สำหรับการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ด้วยการกลับมาดูแลตัวเองให้ดูดีอีกครั้ง...

คุณแม่มือใหม่ ทำไมผมร่วงหลังคลอด?
โลกของคุณแม่มือใหม่ ไม่ได้สวยงามชวนฝันเหมือนในละครโทรทัศน์ ไหนจะต้องรับบทบาทคุณแม่ดูแลเจ้าตัวเล็ก 24 ชั่วโมง อดหลับอดนอน รับมือกับความเครียดสารพัดเรื่อง คุณแม่หลายคนยังต้องกังวลกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจ ต้องพยายามดูแลตัวเองทั้งที่ในแต่ละวันก็แทบไม่มีเวลา ทั้งยังต้องมาเจอกับปัญหาอย่างเช่น “ภาวะผมร่วงหลังคลอด” ที่ทำเอาคุณแม่หลายคนเสียขวัญเพราะผมร่วงในแต่ละวันเป็นร้อย ๆ เส้น!! จนเกิดคำถามมากมายว่าร่างกายมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า ผมจะร่วงแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน  มีวิธีช่วยหยุดอาการผมร่วงได้หรือไม่ 

...คำตอบอยู่ในอีกไม่กี่บรรทัดข้างล่างนี้แล้ว มาทำความเข้าใจภาวะผมร่วงหลังคลอดของเหล่าคุณแม่มือใหม่ไปพร้อม ๆ กันเลย...


ผมร่วงหลังคลอด ...ผิดปกติหรือไม่...

ภาวะผมร่วงหลังคลอด ไม่ใช่อาการผิดปกติ หรืออาจเป็นอันตรายแต่อย่างใด ตามสถิติแล้ว จะมีคุณแม่ถึงประมาณร้อยละ 50 ที่ต้องเผชิญกับอาการผมร่วงหลังคลอด และผมที่ร่วงเป็นหลักร้อยเส้นนั้น ก็เรียกได้ว่าเป็นแค่ปริมาณส่วนน้อยเพียงร้อยละ 5-15 ของเส้นผมทั้งหมดบนหนังศีรษะเท่านั้นเอง และโดยปกติผมของคนเราก็อาจร่วงได้ถึง 100 เส้นต่อวันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลใจมากจนเกินไป


คุณแม่มือใหม่ ...ทำไมจึงผมร่วง...

นอกจากปัจจัยอย่างเช่นความเครียด ความกังวลในเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุลแล้ว สาเหตุหลักของภาวะผมร่วงหลังคลอด ก็คือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนภายในร่างกายของคุณแม่นั่นเอง ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น มาทำความรู้จักกับวงจรชีวิตของเส้นผมกันก่อน ประกอบไปด้วย 3 ระยะ ได้แก่

  • ระยะงอกของเส้นผม (Anagenic Phase)
  • ระยะพักของเส้นผม (Catagen Phase)
  • ระยะเตรียมหลุดร่วง (Telogen Phase)

เมื่อคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนในระดับสูงขึ้น และสร้างออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งเจ้าฮอร์โมนเอสโตรเจนนี้เอง จะไปกระตุ้นให้เส้นผมเกือบทั้งศีรษะเข้าสู่ระยะเจริญเติบโตพร้อม ๆ กัน มีเพียงส่วนน้อยมาก ๆ ที่อยู่ในระยะพัก (Catagen Phase) และเตรียมหลุดร่วง ผลที่ตามมาก็คือ จากเดิมก่อนตั้งครรภ์ที่คุณแม่เคยผมร่วงตามธรรมชาติวันละ 70-100 เส้น กลายเป็นว่าพอตั้งครรภ์แล้ว ผมจะหลุดร่วงน้อยลง แลดูหนาดกดำขึ้นตลอด 9 เดือน 

แต่พอคลอดแล้ว ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายจะลดระดับลงอย่างรวดเร็ว เส้นผมจำนวนมากที่เคยอยู่ในระยะเจริญเติบโตเพราะฮอร์โมนเลี้ยงระดับไว้ จึงหยุดการเจริญเติบโตอย่างกะทันหัน พากันเข้าสู่ระยะพัก (Catagen Phase) ตามมาด้วยระยะเตรียมหลุดร่วง (Telogen Phase) ทำให้ผมร่วงพร้อม ๆ กันมากกว่าปกติ นับเป็นร้อย ๆ เส้นอย่างที่เราเห็น บางครั้งอาจร่วงมากถึง 400-500 เส้นต่อวันทีเดียว ซึ่งภาวะผมร่วงหลังคลอดนี้ มีอีกชื่อหนึ่งว่า ภาวะ Telogen Effluvium แบบเฉียบพลันนั่นเอง


นานแค่ไหน ...กว่าผมจะหยุดร่วง...

โดยเฉลี่ยแล้ว คุณแม่มือใหม่มักจะมีอาการผมร่วงหนักประมาณ 3 เดือน ซึ่งภาวะผมร่วงหลังคลอดนี้จะเริ่มปรากฏชัดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนแรกหลังคลอด และในช่วงเดือนที่ 6-12 ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะค่อย ๆ ปรับเข้าสู่ระดับปกติ ภาวะ Telogen Effluvium จะค่อย ๆ หายไป จนกระทั่งผมเริ่มหยุดร่วงมากผิดปกติในที่สุด ดังนั้น หลังคลอดไปแล้ว 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง เส้นผมของคุณแม่ก็จะกลับมาหนาแน่นเหมือนเดิม


ชวนคุณแม่ ...ดูแลเส้นผมหลังคลอด...

แม้ว่าอาการผมร่วงหลังคลอดจะอยู่กับคุณแม่เพียงแค่ชั่วคราว แต่ระหว่างที่ผมร่วงเยอะ ๆ นั้นก็คงจะทำให้คุณแม่จิตตกและเครียดกังวลอยู่ไม่น้อย แม้ว่าเราจะหยุดอาการผมร่วงไม่ได้ แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ วิธีที่จะช่วยฟื้นฟูดูแลสุขภาพผม รวมถึงมีข้อแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สุขภาพผมของคุณแม่อ่อนแอลงไปกว่าเดิม 

  • เริ่มจากขั้นตอนการสระเพื่อทำความสะอาดเส้นผม แนะนำให้เลือกใช้แชมพูที่มีความอ่อนโยน ไม่ระคายเคือง และสามารถนวดหนังศีรษะเบา ๆ ระหว่างสระผม เพื่อกระตุ้นให้เลือดมาเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น

  • เสริมด้วยการใช้ครีมนวดบำรุงเส้นผมตั้งแต่ช่วงกลางผมถึงปลายผม เพื่อให้เส้นผมเงางาม มีน้ำหนัก แต่ระวังอย่าชโลมครีมนวดบริเวณหนังศีรษะโดยตรง เพราะจะยิ่งเพิ่มความมันให้กับหนังศีรษะ จนเกิดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุอีกข้อหนึ่งทำให้เกิดอาการผมร่วงได้

  • เรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัวอย่างเช่นการหวีผม ก็สามารถส่งผลต่อความทนทานแข็งแรงของเส้นผมได้เช่นกัน ขอแนะนำให้หวีผมอย่างเบามือ เพราะยิ่งหวีแรง ยิ่งเพิ่มโอกาสที่ผมจะขาดหลุดร่วง และการหวีผมบ่อย ๆ  ยังเป็นการกระตุ้นให้ต่อมไขมันในชั้นหนังศีรษะ ผลิตน้ำมันออกมาเกินความจำเป็น ส่งผลให้ผมยิ่งร่วงมากขึ้นได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราไม่ควรหวีผม สัมผัสเส้นผม หรือรบกวนหนังศีรษะระหว่างวันบ่อยจนเกินไปนั่นเอง

เราอาจจะเห็นคุณแม่มือใหม่หลายคนเตรียมตัวด้วยการตัดผมสั้น เพราะดูแลง่าย โอกาสหลุดร่วงน้อย และช่วยให้ไม่ต้องมัดผมบ่อย ๆ เพราะการมัดผมเท่ากับเป็นการดึงผมให้ตึงขึ้น ทั้งที่โคนผมมีความอ่อนแออยู่แล้ว จึงอาจหลุดร่วงได้ง่ายกว่าเดิมอีก

  • หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการไดร์เพื่อเป่าผมให้แห้ง การหนีบผม หรือการดัดผม เพราะจะยิ่งทำให้เส้นผมบางลง ทางที่ดีควรเว้นการจัดแต่งทรงผมที่ต้องใช้ความร้อนสูงไปสักระยะ 

  • อาหารก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการบำรุงผมเช่นเดียวกัน โดยหลักการง่าย ๆ คือการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสี ธาตุเหล็ก ไอโอดีน ไบโอติน หรือโอเมก้า 3 เป็นต้น

  • พักผ่อนให้เพียงพอ และหาเวลาในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ



Premium Hair Booster ...นวัตกรรมลดผมร่วงจากนามนิน

และถ้าคุณแม่ท่านไหนกำลังมองหา Treatment บำรุงผมชั้นลึก เพื่อผมสุขภาพดีจากภายใน นามนินขอแนะนำ นวัตกรรม Premium Hair Booster ที่พัฒนาขึ้นโดยคุณหมอนิน - แพทย์หญิงดิลกณิกนันต์ นามทองต้น แพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผม เพื่อคืนความหนาแน่น ดกดำ แข็งแรงให้กับเส้นผม ด้วยพลังบำรุงจาก Exosome อนุภาคไซส์จิ๋วระดับนาโนซึ่งเป็นสารชีวโมเลกุลที่แยกออกมาจากสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิด โดยมีขนาดของอนุภาคเพียง 30 – 100 นาโนเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1/1000 เท่า ซึ่งภายในประกอบด้วยสารชีวโมเลกุลต่าง ๆ นับพันชนิด และโปรตีนอีกหลายประเภท มากกว่าสารชีวโมเลกุลและโปรตีนที่พบใน PRP หรือเกล็ดเลือดเข้มข้นเป็นพันเท่า ทั้งยังเสริมด้วยวิตามินสูตรเฉพาะของนามนิน ในการทำงานร่วมกับ Exosome เพื่อการออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ที่สำคัญ นวัตกรรมนี้ยังมีความปลอดภัยสูง เพียงใช้วิธีการฉีดเข้าสู่หนังศีรษะ สารสำคัญต่าง ๆ จะตรงเข้าซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และฟื้นฟูการสร้างเซลล์ใหม่ ได้ลึกถึงระดับการแสดงออกของยีน (Epigenetic) โดยไม่มีอาการเจ็บ ไม่ทิ้งรอยแผล ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลเป็นพิเศษ 

Premium Hair Booster ยังให้ผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก ในการลดอาการผมร่วง กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม และช่วยให้เส้นผมที่เคยลีบบางมีขนาดใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์การฟื้นฟูภาวะผมร่วงจากสาเหตุอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ภาวะทางสุขภาพ ความเครียด การขาดสารอาหาร หรือการโดนทำร้ายจากสารเคมีอีกด้วย 



อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณแม่สังเกตว่า แม้เมื่อผ่านไปแล้ว 1 ปี ผมยังคงหลุดร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน กรณีนี้ขอแนะนำให้คุณแม่ปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผม เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุอื่น ๆ นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน และวางแผนการดูแลฟื้นฟูสุขภาพผมแบบเฉพาะบุคคลร่วมกัน

หยุด “ผมมัน” ด้วยการดูแลอย่างอ่อนโยน
        “ผมมัน” เกิดจากต่อมไขมันบนหนังศีรษะผลิตไขมันตามธรรมชาติที่เรียกว่า “ซีบัม” ออกมามากเกินไป ซึ่งโดยปกติ ซีบัม จะเป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะ แต่หากเมื่อใดที่มีมากเกินความจำเป็น ก็จะกลายเป็นสาเหตุของผมมันนั่นเองค่ะ

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตซีบัมออกมามากเกินไป อาทิ ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่น ผู้หญิงช่วงมีประจำเดือน หรือแม้กระทั่งช่วงตั้งครรภ์ และบางส่วนเกิดจากพฤติกรรมของตัวเอง เช่น การสระผมบ่อยเกินไป หรือสระผมน้อยเกินไป สระผมไม่ถูกวิธี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับเส้นผม หรือขาดการบำรุงดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ

ปัญหาผมมันไม่ได้ส่งผลต่อเฉพาะบุคลิกภาพเท่านั้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาหนังศีรษะอื่นๆตามมา ทั้งรูขุมขนอุดตัน สิวหรือเซบเดิร์ม และเป็นสาเหตุของผมร่วงได้
นามนินมีทริคง่ายๆที่รับรองว่าใครๆก็ทำตามได้ เพื่อแก้ปัญหาผมมันกวนใจค่ะ

การสระผมอย่างถูกวิธี โดยเลือกใช้แชมพูสำหรับผมมันโดยเฉพาะ เน้นการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึกโดยไม่เพิ่มความชุ่มชื้นมากเกินไป ใช้แชมพูในปริมาณที่เหมาะสมทำความสะอาดบริเวณรากผมและหนังศีรษะ นวดอย่างเบามือจากโคนจรดปลายผม และล้างออกให้สะอาด ไม่ควรเกาหนังศีรษะอย่างรุนแรง การใช้ครีมนวดผม ควรชะโลมครีมนวดเฉพาะเส้นผม ไม่ให้สัมผัสหนังศีรษะโดยตรง เพราะการใช้ครีมนวดผมที่ไม่เหมาะสมหรือล้างออกไม่หมดจะทำให้ผมมันเร็วขึ้น
เว้นระยะเวลาการสระผมอย่างเหมาะสม ไม่บ่อยเกินไปหรือทิ้งระยะนานเกินไป หากเคยสระผมทุกวันแล้วรู้สึกว่าผมมัน ก็ลองปรับเป็นสระผมวันเว้นวัน รวมถึงลองเปลี่ยนแชมพูและครีมนวดที่ช่วยลดความมันของเส้นผมและหนังศีรษะร่วมด้วย



การรักษาความสะอาดของเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น หวี ผ้าขนหนู หมวกคลุมผม โดยเฉพาะหวีที่ใช้มาเป็นเวลานานอาจเป็นแหล่งสะสมของน้ำมันหรือสิ่งตกค้างจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เป็นสาเหตุของผมมันและสกปรกได้
การบำรุงและดูแลเส้นผมอย่างอ่อนโยน มีทั้งที่ทำได้ง่ายๆด้วยตัวเอง ในขั้นตอนของการสระผม หวีผม จัดแต่งทรงผม และการดูแลเส้นผมในระหว่างวัน เพียงลดความรุนแรงลง และไม่เกา ดึง ลูบผม เสยผมมากเกินไป เพราะอาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองจนต่อมไขมันผลิตซีบัมออกมามากเกินไปได้ แต่หากต้องการการดูแลที่ล้ำลึก อ่อนโยนจากผู้เชี่ยวชาญ นามนินขอแนะนำ Namnin Perfect Hair Treatment ที่ผสานการศาสตร์การนวดหนังศีรษะและการทรีทเม้นท์ผมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมอย่างอ่อนโยนและล้ำลึก



     Namnin Perfect Hair Treatment คือโปรแกรม Treatment กึ่งสปาแบบครบวงจร ผสานศาสตร์การนวดบำรุงหนังศีรษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ร่วมกับการคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ช่วยปรับสมดุลหนังศีรษะ ทำความสะอาดผมได้อย่างล้ำลึกโดยไม่เพิ่มความมันให้แก่เส้นผม หลังเข้ารับบริการให้ความรู้สึกสะอาด เส้นผมแข็งแรง เงางาม มีน้ำหนักตั้งแต่โคนจรดปลายผม



ในขั้นตอนแรก ผู้เชี่ยวชาญจะนวดศีรษะด้วย Organic Oil  ช่วยชะล้างสิ่งตกค้าง คราบไขมันและฝุ่นละอองบนหนังศีรษะ สะอาด อ่อนโยน ผ่อนคลาย จากนั้นสระผมด้วย Mojelim Elixir Shampoo นำเข้าจากโรงพยาบาลปลูกผมชั้นนำของเกาหลี ช่วยปรับสมดุลหนังศีรษะ ช่วยให้เส้นผมเงางาม และนวดผมด้วย Mojelim Elixir Treatment ที่อุดมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ บำรุงให้เส้นผมแข็งแรง ลดอาการแห้งเสีย เส้นผมมีน้ำหนัก เงางาม



ขั้นตอนสุดท้าย ซับผมให้แห้งหมาดและนวดบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะด้วยเซรั่ม NEAT HAIRNUE Elixir Hair Serum ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติ 100% ช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะ ปรับสมดุล ลดการหลุดร่วง กระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม พิถีพิถันแม้กระทั่งการเป่าผมให้แห้งด้วยลมเย็นบริเวณหนังศีรษะและใช้ลมอุ่นๆบริเวณปลายผม และปิดท้ายด้วยการลงเซรั่มบำรุงปลายผม

หากลองเข้ารับบริการแล้วประทับใจ ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมไปใช้ดูแลตนเองต่อที่บ้านได้ เพื่อเส้นผมและหนังศีรษะจะได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ ค่ะ

ปรึกษาแพทย์ ในกรณีที่ผมมันมาก มีรังแค รูขุมขนอุดตัน หรือเป็นเซบเดิร์มร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนและวางแผนการรักษาอย่างตรงจุดโดยเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาผมร่วง ผมบางที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้ค่ะ 

“นามนิน” เข้าใจเส้นผม เข้าถึงตัวตน
เส้นผม เส้นเล็กละเอียด บางๆเบาๆ ที่มีอิทธิพลต่อจิตใจไม่เบาเลยค่ะ หากอยู่ในวัยที่ยังสามารถเลือกทรงผมได้อย่างใจต้องการ ทรงผมแต่ละทรง สีผมแต่ละสี ล้วนเป็นเครื่องสะท้อนบุคลิกของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี จะผมสั้น ผมยาว สีดำ สีน้ำตาลหรือสีสดใสจนแสบตา ก็ล้วนเลือกสรรมาเพื่อบ่งบอกความคิดและอิสระในการใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นได้ชัดเจน

หากอยู่ในวัยทำงานไปจนถึงวัยกลางคน ทรงผมก็เปลี่ยนสถานะไปเป็นตัวช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดี เหมาะสมกับหน้าที่การงาน น่าประทับใจต่อผู้ที่พบเห็น และหากจะมองให้ลึกไปกว่านั้น “สุขภาพเส้นผม” ยังเป็นเสมือนกระจกที่สะท้อนถึงการดูแลตนเองได้เป็นอย่างดีอีกด้วย  ในทางตำราโหราศาสตร์ของจีน หรือโหงวเฮ้ง ถือว่าเส้นผมเป็นทิศเหนือ ซึ่งมีผลต่ออาชีพการงาน ชื่อเสียงเกียรติยศ ผู้อุปถัมภ์ค้ำจุนและความมั่งคั่งร่ำรวย หลายคนจึงเชื่อว่า การดูแลรักษาสุขภาพของเส้นผมให้นุ่มสลวย เป็นเงางาม มีสุขภาพดีและแข็งแรงอยู่เสมอ ก็จะส่งผลให้โชคชะตาดีขึ้นด้วย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ดี เพราะอย่างน้อยการมีสุขภาพผมดีก็ย่อมส่งผลดีต่อบุคลิกของตัวคุณเองอยู่แล้วค่ะ

พญ.ดิลกณิกนันต์ นามทองต้น หรืออาจารย์หมอนิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผม เข้าใจถึงความหมายและความสำคัญของเส้นผมว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงบุคลิกภาพและตัวตนได้อย่างชัดเจนเพียงใด จึงได้คิดค้นและพัฒนาเทคนิคการปลูกผมและการดูแลสุขภาพเส้นผมแบบองค์รวมที่จะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเส้นผมในภาวะต่างๆ ได้กลับมามั่นใจและสัมผัสกับความสุขกับการใช้ชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง

“นามนิน คลินิก” ให้การรักษา ดูแล ฟื้นฟูและบำรุงเส้นผม โดยออกแบบการรักษาเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการที่สุด ถ้าจะถามว่ามีใครที่จะเข้าใจเส้นผมไปมากกว่าตัวเราเอง ก็ต้องตอบว่า ทีมแพทย์ของนามนินนี่แหละค่ะ ที่ “รักและเข้าใจ” เส้นผมได้อย่างลึกซึ้งถึงระดับเซลล์มากกว่าเจ้าของเส้นผมเสียอีก

มามอบอิสระให้กับเส้นผมเพื่อเผยความเป็นตัวของตัวเองในแบบที่คุณต้องการ “นามนิน” พร้อมและรอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการดูแลเส้นผมอย่างล้ำลึก ที่ให้ผลลัพธ์ได้มากกว่าแค่ “ผมสวย” เพราะเราจะมอบความสุข ความมั่นใจ ตัวตนใหม่ เพื่อให้คุณพร้อมเปิดรับโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตที่จะตามมาอีกมากมายจาก “เส้นผม” ของตัวคุณเองค่ะ

เช็คสัญญาณเตือน “ผมบาง ผมล้าน”
โดยทั่วไปแล้ว อาการผมร่วง ผมบาง จนไปสู่ภาวะล้าน เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เมื่อเรายังอายุน้อย ๆ นั่นหมายความว่า เราสามารถสังเกตพบอาการดังกล่าวได้ตั้งแต่ระยะที่อาการยังไม่รุนแรง และหากสังเกตพบเร็ว บวกกับพาตนเองเข้าไปปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผมได้เร็ว แน่นอนว่า โอกาสในการรักษา หรือการเข้ารับบริการปลูกผมใหม่ เพื่อให้เส้นผมกลับมาหนาแน่นได้เหมือนเดิม ก็จะยิ่งสูงขึ้น ทั้งยังมีโอกาสวางแผนป้องกันอาการผมร่วง ผมบาง และผมล้าน ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเมื่อเราอายุมากขึ้นด้วย

...มารู้จักกับสัญญาณเตือนเล็ก ๆ ที่จะช่วยให้คุณเช็คสถานะเส้นผมของตนเอง ว่าเข้าสู่ภาวะผมร่วงและผมบางแล้วหรือยัง...

1
ผมร่วง ถือเป็นภาวะปกติของร่างกาย โดยในทุก ๆ วัน เส้นผมที่มาถึงระยะสิ้นสุดของวงจรชีวิตผมแล้ว จะหลุดร่วงไปตามธรรมชาติ ประมาณ 70 – 100 เส้นต่อวัน ซึ่งหากเทียบกับปริมาณผมทั้งศีรษะที่มีอยู่ 90,000 – 140,000 เส้น ก็นับว่าเป็นปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าลองสังเกตที่หวี หมอน หรือพื้นห้องน้ำ แล้วรู้สึกว่าผมร่วงในจำนวนที่มากกว่านั้นเมื่อไหร่ ก็เริ่มสงสัยได้เลยว่าเราอาจจะเริ่มมีอาการผมร่วงที่ผิดปกติแล้ว

2
ทุกเช้าที่เราส่องกระจก ลองสังเกตแนวผมบริเวณหน้าผากเสียหน่อย ว่าเริ่มถอยร่นลึกเข้าไป จนเห็นพื้นที่หน้าผากมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือยัง เราอาจจะลองวัดระยะจากกลางหว่างคิ้ว ตรงขึ้นไปจนถึงจุดกึ่งกลางของแนวไรผม ซึ่งไม่ควรจะกว้างเกินกว่า 6.5 เซนติเมตร

ที่สำคัญ ในผู้ชายส่วนใหญ่จะเกิดแนวผมรูป M Shape เนื่องจากอาการผมบางจะเกิดบริเวณขมับสองข้างก่อนเพื่อน ถ้าเราลองวัดระยะเฉียงจากหัวคิ้วออกไปถึงแนวผมบริเวณขมับที่อยู่ข้างเดียวกัน โดยวัดถึงจุดที่เว้าลึกเป็นรูปตัว M เข้าไปมากที่สุด หากมีระยะห่างเกิน 8 เซนติเมตร ก็เรียกได้ว่าอาการเริ่มน่าเป็นห่วงแล้วเหมือนกัน

3
ผมเริ่มบางลงบริเวณกลางศีรษะ โดยมากแล้วมักจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะขยายกลายเป็นอาการผมล้าน ซึ่งงานวิจัยบางชิ้นก็บอกว่า ผู้ชายชาวเอเชียจะพบอาการผมบางกลางศีรษะมากกว่าแนวผมด้านหน้า 

4
ผมค่อย ๆ บางลงพร้อม ๆ กันทั่วทั้งศีรษะ กรณีนี้ก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะรูปแบบของอาการผมร่วงและผมบางนั้นเรียกได้ว่าเกิดขึ้นกับทุกคนได้แบบฟรีสไตล์ ไม่จำเป็นต้องเฉพาะเจาะจงในบริเวณใดบริเวณหนึ่ง ซึ่งรูปแบบนี้มักพบได้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 

5
ขณะที่หวีผม หรือจัดแต่งทรงผม อย่าลืมให้ความสำคัญกับรอยแสกผมกลางศีรษะ ที่อาจจะเริ่มขยายกว้าง จนเห็นหนังศีรษะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เป็นวิธีที่ดีในการสังเกตอาการผมร่วงและผมบางในผู้หญิง ซึ่งถ้ารอยแสกนั้นมีระยะห่างเกิน 1 เซนติเมตร ถือว่าเริ่มมีอาการผมบางแล้วล่ะ 

6
ผมยาวช้าลง เมื่อเทียบกับในอดีต โดยปกติแล้ว ผมของคนเราจะยาวขึ้นปีละ 6 นิ้ว แต่ถ้าใครสังเกตได้ว่า เข้าร้านตัดผมครั้งนี้ ดูเหมือนใช้เวลานานขึ้นกว่าผมจะยาวเท่าเดิม ก็เป็นไปได้ว่าประสิทธิภาพการทำงานของต่อมรากผมอาจจะเริ่มลดลง ซึ่งส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอ หลุดร่วงง่ายขึ้นไปตามวัย


และสุดท้าย สัญญาณเตือนผมร่วง ผมบาง อาจมาในรูปแบบเสียงทักถามด้วยความห่วงใยจากคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ๆ หรือคนในครอบครัว ซึ่งอาจสังเกตเห็นความปกติของเส้นผมได้ง่ายกว่าตัวเราเอง อย่าลืมลองเช็คซ้ำอีกครั้งด้วยวิธีต่าง ๆ ที่แนะนำไว้ เพื่อจะได้เริ่มต้นดูแลปัญหาเส้นผมตั้งแต่เนิ่น ๆ และไม่พลาดโอกาสคืนความหนาแน่นและแข็งแรงของเส้นผมให้กลับมาอีกครั้ง ก่อนจะสายเกินไปนั่นเอง

บำรุงผมขั้นสุด ด้วย Booster นวัตกรรมขั้นสูง
นอกจากบริการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิคขั้นสูง โดยคุณหมอนิน – แพทย์หญิงดิลกณิกนันต์ นามทองต้น (คุณหมอนิน) แพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางด้านเส้นผมแล้ว นามนิน คลินิก ยังมีบริการบำรุงผมชั้นลึกด้วยนวัตกรรมใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Premium Hair Booster ซึ่งที่มาของความ Premium นั้นก็คือการที่คุณหมอนินเป็นผู้พัฒนาสูตรนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อเป็นตัวช่วยระดับท็อปในการ Boost ผมให้กลับมาแข็งแรงสุขภาพดีได้อีกครั้ง

Premium Hair Booster เหมาะสำหรับใคร
นวัตกรรมบำรุงผมขั้นสุด Premium Hair Booster ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนรักเส้นผมทุกคนที่ต้องการฟื้นฟูดูแลผม ผมร่วง ผมบาง ผมบางผู้หญิงให้กลับมาสุขภาพดีจากภายใน และยังเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาผมร่วงและผมบางในระยะเริ่มต้น ไม่ว่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ ภาวะทางสุขภาพ ความเครียด การขาดสารอาหาร หรือการใช้สารเคมีในการแต่งผม 

ซึ่งยังไม่จำเป็นต้องเข้ารับการปลูกผมใหม่ ก็สามารถรับบริการ Premium Hair Booster เพื่อคืนความหนาแน่น ดกดำ ให้กับเส้นผมที่คุณรักได้ รวมถึงผู้ที่เข้ารับการปลูกผมมาแล้ว แต่ต้องการเสริมความแข็งแรงและความหนาแน่นของเส้นผมขึ้นไปอีกระดับ ก็สามารถพิสูจน์พลังบำรุงของ Premium Hair Booster ได้เช่นกัน


นวัตกรรมขั้นสูง
Premium Hair Booster การบำรุงผมอย่างล้ำลึก  ที่ผนึกกำลัง สารชีวโมเลกุล สารบำรุงโปรตีน และวิตามินต่าง ๆ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของนามนิน พุ่งตรงเข้ากระตุ้นการทำงานของรากผมอย่างตรงจุด  ลดการหลุดร่วงของเส้นผม เสริมสร้างผมใหม่ให้แข็งแรง สัมผัสประสบการณ์การฟื้นฟูบำรุงเส้นผมที่แตกต่างจนคุณรู้สึกได้ และหาไม่ได้จากที่ไหนอย่างแน่นอน...

ปลอดภัย ใช้ชีวิตได้ปกติ
Premium Hair Booster มีความปลอดภัยและให้ความสะดวกสบายสูงสุดระดับ Premium ด้วยเช่นกัน เพียงใช้วิธีการฉีดเข้าสู่บริเวณหนังศีรษะ เพื่อตรงเข้าซ่อมแซมรากผมที่เสื่อมสภาพ และฟื้นฟูการสร้างรากผมใหม่ โดยไม่มีอาการเจ็บ ไม่ทิ้งรอยแผล ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลเป็นพิเศษ หลังรับบริการใช้ชีวิตได้ปกติ 

รู้สึกดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก
Premium Hair Booster จะทำงานโดยการส่งอนุภาคขนาดเล็กเข้าไปช่วยเสริมสร้างและยับยั้งกลไกการอักเสบต่าง ๆ  รวมถึงชะลอความเสื่อม ดูแลรากผมให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ดังนี้

  • อาการผมร่วง เริ่มลดลง
  • รากผมเริ่มกลับมางอกใหม่ ทำให้เส้นผมอ่อนเริ่มขึ้นมา
  • เส้นผมจะมีขนาดใหญ่ขึ้น และเพิ่มความหนาแน่นขึ้น
  • เส้นผมที่ดูอ่อนแอ ขาดการบำรุง เริ่มแข็งแรง ดกดำ เงางาม สุขภาพดี 

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น แนะนำควรรับบริการ อย่างน้อย 3 ครั้ง 

 Premium Hair Booster นำเทคโนโลยีการบำรุงดูแลเส้นผมใหม่ล่าสุดด้วยสูตรเฉพาะของนามนิน และพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นนวัตกรรมฟื้นฟูผมสุขภาพดีจากภายใน ด้วยความใส่ใจของคุณหมอนิน ... คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การฟื้นบำรุงเส้นผมที่แตกต่างจนคุณรู้สึกได้ และหาไม่ได้จากที่ไหนอย่างแน่นอน...











“นามนิน” เติมเต็มเส้นผม เติมเต็มหัวใจ
“เส้นผม” เส้นเล็กๆเบาๆ แต่กลับมีอิทธิพลต่อทั้งร่างกายและจิตใจของเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม เช่น ผมร่วง ผมบาง หน้าผากกว้าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพจิตอย่างมาก เริ่มด้วยความวิตกกังวลในบุคลิกภาพของตนเอง กลัวจะดูแก่กว่าวัย ดูสุขภาพไม่แข็งแรง สะท้อนถึงความละเลยในการดูแลตนเอง จนกลายเป็นสูญเสียความมั่นใจ และอาจทำให้พลาดโอกาสดีๆในชีวิตไป




       การแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง มีอยู่หลายวิธี แต่การปลูกผมเป็นทางออกที่ถาวรที่สุด และก็เป็นทางออกที่ต้องพิจารณาเลือกให้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะการตัดสินใจปลูกผมครั้งแรกนั้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต อาจจะมีคำถามว่าทำไมถึงดูเป็นเรื่องซีเรียสขนาดนั้น เราจึงรวบรวมหลักการและข้อจำกัดของการปลูกผมมาให้ลองพิจารณากันในบทความนี้ แล้วจะได้คำตอบค่ะ ว่าต้องซีเรียสเพราะอะไร

การปลูกผมถาวรมีหลักการสำคัญคือ ต้องใช้ผมของตนเองมาปลูกและต้องเป็นผมจากบริเวณท้ายทอยด้านหลังหรือที่เรียกกันว่า Safe Zone เท่านั้น เพราะผมบริเวณนี้เป็นจุดเดียวที่แข็งแรง มีความทนทานต่อฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วง โดยเฉพาะในเพศชายที่มักพบปัญหาผมร่วงผมบางจากกรรมพันธุ์ ซึ่งมีข้อจำกัดคือ หากเจาะนำกราฟต์ผมออกมาแล้ว ผมจุดนั้นจะไม่ขึ้นมาใหม่อีก อธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือ “ใช้แล้วหมดไป” ผมต้นทุนทุกเส้นจึงเป็นทรัพยากรทรงคุณค่าที่แพทย์ต้องบริหารให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ




       ดังนั้น หากเกิดความผิดพลาดขึ้นในการปลูกผมครั้งแรก เช่น ปลูกผมผิดทิศทางจากผมเดิม ซึ่งเป็นปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด เพราะแก้ไขไม่ได้ คุณต้องอยู่กับเส้นผมที่ไร้ทิศทางนั้นไปตลอดชีวิตค่ะ แต่หากไม่โชคร้ายขนาดนั้น ก็อาจจะผิดพลาดตรงเส้นผมใหม่ที่ปลูกไม่หนาแน่น ปลูกผมไม่ขึ้น หรือมีรอยแผลเป็นที่ต้องคอยปกปิดจากการย้ายผมด้านหลังอย่างไม่ระมัดระวัง หากโชคดีขึ้นมาอีกนิดอาจพบความผิดพลาดสถานเบาที่สุดคือ ปลูกผมออกมาแล้วผลลัพธ์ไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ แต่เชื่อเถอะค่ะ ไม่มีใครอยากเจอปัญหาไม่ว่าจะหนักหรือเบาแบบนี้แน่นอน เพราะการปลูกผมเพื่อแก้ไขนั้นยากที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่ต้องการ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องต้นทุนผมที่เหลือน้อยลงนั่นเองค่ะ

การแก้ปัญหาผมร่วงผมบางที่ดีที่สุดคือ เริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพราะปัญหาเส้นผมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะการปลูกผมที่เป็นศาสตร์ขั้นสูงเกินกว่าที่คนเราทั่วไปจะเข้าใจและแก้ปัญหาเองแบบง่ายๆได้


เมื่อเริ่มต้นได้ถูกทางแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นเหตุผลสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจ แต่หากการตัดสินใจนั้นมาจากการพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว สิ่งที่ได้อาจจะไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะคำว่า “ราคาคุ้มค่า” ไม่ได้หมายความว่า “ราคาถูก” เสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ราคาที่คุ้มค่าของการปลูกผมนั้นหมายถึงคุณภาพในการให้บริการ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ การดูแลที่จะมอบความมั่นใจ สบายใจ และความอุ่นใจให้กับผู้รับบริการ และสำคัญที่สุดคือ เส้นผมใหม่ที่จะอยู่กับคุณและเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปตลอด ดังนั้น หากใช้เกณฑ์เรื่องราคาในการตัดสินใจ ขอให้ตัดสินใจบนพื้นฐานของคำว่า “ราคาสมเหตุสมผล” จะเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นค่ะ




การปลูกผมเป็นการลงทุนครั้งสำคัญ มีเดิมพันด้วย “เส้นผมใหม่” ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณไปตลอดกาล ทีมแพทย์ของ “นามนิน” พร้อมให้คุณได้ก้าวเข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ของการปลูกผม ด้วยมาตรฐานและเทคนิคขั้นสูงที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน เราจะนำความมั่นใจที่คุณเคยสูญเสียไปกลับมาให้มากยิ่งกว่าเดิม คุณจะสัมผัสกับความสุขได้มากกว่าที่เคย และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้ชีวิตได้เปล่งประกายด้วยตัวของคุณเอง

           ปลูกผมที่นามนิน นอกจากได้เส้นผมใหม่แล้ว ยังได้กำไรเป็นความสุขในการชีวิต ที่รับรองว่าคุ้มค่าการลงทุนแน่นอนค่ะ          

Namnin Anti Thinning Hair Program
นามนิน เปิดนวัตกรรมการดูแลเส้นผมในระดับ Premium สำหรับคนรักเส้นผมตัวจริง ด้วย Namnin Anti Thinning Hair Program โปรแกรมฟื้นฟูเส้นผม พิชิตผมร่วง ผมบาง ซึ่งอาจารย์หมอนิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมและการดูแลเส้นผมของนามนิน คัดสรรทั้งบริการและผลิตภัณฑ์ที่ได้พิสูจน์แล้วว่าจะผสานพลังเข้าบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึกในระดับเซลล์ กระตุ้นการทำงานของเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม และมีสุขภาพดีกว่าที่เคย

Namnin Anti Thinning Hair Program ประกอบไปด้วย
Premium Hair Booster การบำรุงผมอย่างล้ำลึก  ที่ผสานกับวิตามินสูตรเฉพาะของนามนิน ซึ่งจะผนึกกำลังกันพุ่งตรงเข้ากระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมอย่างตรงจุด ลดการหลุดร่วงของเส้นผม เสริมสร้างเซลล์ผมใหม่ เสริมให้เส้นผมแข็งแรง มอบผลลัพธ์ผมสุขภาพดีขึ้นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่การทำครั้งแรก



ทรีทเม้นท์ฉายแสง LLLT กระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดบริเวณรากผม โดยการฉายแสงเลเซอร์คลื่นความถี่ต่ำ Low Level Laser Therapy ลงบนหนังศีรษะ ช่วยให้เส้นผมงอกใหม่ได้รวดเร็วขึ้น เส้นผมหนาแน่นขึ้น และแสงเลเซอร์ยังช่วยบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง ลดอาการอักเสบต่างๆได้


ทรีทเม้นท์ผลักวิตามินลดการหลุดร่วงของเส้นผม ที่ผลักคุณประโยชน์ที่จำเป็นต่อเส้นผมให้ลงลึกถึงเซลล์รากผม เสริมให้ผมแข็งแรง ฟื้นวงจรชีวิตของเส้นผมให้สมบูรณ์ สัมผัสได้ถึงพลังการบำรุงที่ล้ำลึกและเปี่ยมประสิทธิภาพได้หลังการทำทรีทเม้นท์เพียงไม่กี่ครั้ง



เซรั่มบำรุงรากผม Elixir Hair Serum เซรั่มที่มีส่วนผสมหลักเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% อุดมไปด้วยคุณค่าในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก อาทิ Baicapil สารสกัดจากพืชธรรมชาติ 3 ชนิด ร่วมกับต้นอ่อนของถั่วเหลืองและข้าวสาลี, BIORAN Scalp N สารสกัดจากเมล็ดข้าวสาลี ธูปฤาษี เมล็ดข้าวบาร์เลย์และเมล็ดข้าวฟ่าง, Horsetail Extract สารสกัดจากหญ้าหางม้า, Kaffir Lime Extract สารสกัดจากมะกรูด และ Blue Pea Extract สารสกัดจากดอกอัญชัน ด้วยส่วนผสมเหล่านี้ Elixir Hair Serum จึงช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม ลดการหลุดร่วง บำรุงให้เส้นผมแข็งแรงและดกดำขึ้น ชะลอผมหงอกก่อนวัย ลดรังแคและอาการคันศีรษะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง ผมสุขภาพดีในระยะยาว


VITA H วิตามินสำหรับการบำรุงเส้นผมโดยเฉพาะ สกัดจากรำข้าว สารสกัดจากกระบองเพชร D-Biotin, Zinc Gluconate, Iron Amino Acid Chelate, Vitamin B Premix เสริมความแข็งแรงให้เส้นผม ผมหนาแน่น ดกดำและเงางามขึ้น


Namnin Anti Thinning Hair Program คือศาสตร์ของการบำรุงแบบ Premium ที่ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งการฉีดลงหนังศีรษะเพื่อตรงเข้าบำรุงเซลล์รากผม ทรีทเม้นท์เสริมความแข็งแรงให้เส้นผมตลอดทั้งเส้น พร้อมมอบการดูแลอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์และวิตามินที่นำกลับไปดูแลตัวเองได้ต่อแบบง่ายๆที่บ้าน ผู้ที่รักเส้นผมตัวจริงจึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

เปิดโลกใบใหม่ของการดูแลผมทุกเส้นอย่างล้ำลึก เพื่อผมสวย สุขภาพดีในระยะยาวได้ที่ “นามนิน คลินิก” นามนิน ยินดีให้คำปรึกษาเพื่อแก้ปัญหาให้เหมาะสมเป็นรายบุคคล และพร้อมให้บริการค่ะ

ปลูกผมให้ได้ผล เริ่มต้นที่นี่
ปลูกผมให้ได้ผล เริ่มต้นที่นี่

...จะตัดสินใจ “ปลูกผม” ดีมั้ย...
...อยาก “ปลูกผม” จะเริ่มต้นอย่างไรดี...

สำหรับใครที่กำลังหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านี้ เราขอชวนมา “เริ่มต้น” เส้นทางสู่ผลลัพธ์ผมสวย หนาแน่น สุขภาพดีไปด้วยกัน คือเริ่มจากการทำความรู้จักกับการปลูกผมให้มากขึ้นอีกนิด เพื่อให้พอเห็นภาพของขั้นตอนต่าง ๆ ชัดเจนยิ่งขึ้น และเข้าใจถึงข้อจำกัด รวมถึงปัจจัยที่จะทำให้การปลูกผมประสบความสำเร็จ ที่สำคัญ จะได้เห็นแนวทางว่า ทั้งเจ้าของเส้นผมและคุณหมอ จะทำงานร่วมกันในภารกิจการปลูกผมเพื่อเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ครั้งนี้อย่างไร 

แน่นอนว่าข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเข้ารับการปลูกผมใหม่ หรือเลือกแนวทางการปลูกได้อย่างมั่นใจและตอบโจทย์มากขึ้น


1
“ปลูกผม” ปลูกอย่างไร?

อย่าเพิ่งถามคำถามข้อต่อไป ถ้าคุณยังไม่เข้าใจหลักการเบื้องต้นง่าย ๆ ของการปลูกผม เป็นต้นว่า การปลูกผมนั้นจะใช้ผมของเราเองจากบริเวณด้านหลังท้ายทอย ย้ายมาปลูกในบริเวณที่มีปัญหา ...มาลองสำรวจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้กันอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจโจทย์ความท้าทายของการปลูกผมในคนไข้แต่ละเคสมากขึ้น และเข้าใจด้วยว่า ทำไมคุณจึงต้องการแพทย์ผู้ชำนาญคอยให้คำปรึกษาตั้งแต่ก้าวแรก


  • ต้องเป็นผมจากด้านหลังท้ายทอยเท่านั้น
เพราะผมด้านหลังท้ายทอย เป็นผมต้นทุนที่เรียกได้ว่าแข็งแรงและทนทานต่อการหลุดร่วงมากที่สุด เนื่องจากมีคุณสมบัติในการต้านฮอร์โมน DHT ที่ทำให้รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่าย ซึ่งแม้จะย้ายผมเหล่านี้ไปปลูกในพื้นที่ใหม่ แต่คุณสมบัติความแข็งแรงนี้จะยังอยู่กับเส้นผมไปจนตลอดชีวิต

  • ผมต้นทุนมีอยู่ในปริมาณที่จำกัด 
นี่เป็นโจทย์ข้อใหญ่ทีเดียว เพราะผมต้นทุนไม่ได้มีโปรโมชั่น unlimited ที่จะดึงออกมาใช้เท่าไหร่ก็ได้ไม่มีวันหมด และยิ่งอายุมากขึ้น ผมต้นทุนที่มีคุณภาพดีเพียงพอก็อาจมีจำนวนน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งแต่ละเคสก็มาด้วยระดับความรุนแรงของปัญหาที่ต่างกัน บางคนเพิ่งเริ่มมีอาการผมบาง บางคนเริ่มเข้าสู่ภาวะผมล้านและต้องการผมต้นทุนมาปลูกใหม่ในปริมาณที่มากกว่า ขณะที่ในบางเคส คุณหมออาจต้องช่วยวางแผนระยะยาวเผื่อในกรณีต้องนำผมต้นทุนมาปลูกซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ด้วย

ดังนั้น การวิเคราะห์ผมต้นทุนจึงต้องผ่านการคำนวณเพื่อนำมาใช้ในปริมาณที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุดนั่นเอง

  • 3 ขั้นตอนการปลูกผมแบบเข้าใจง่าย
ในห้องหัตถการนั้น ขั้นแรก หลังจากวิเคราะห์สภาพปัญหาและคำนวณปริมาณผมต้นทุนที่ต้องใช้แล้ว จะเป็นการเจาะนำกราฟต์ผมต้นทุนออกจากด้านหลังท้ายทอย โดยกราฟต์ผม หมายถึงกอผมที่มีผมอยู่รวมกันตั้งแต่ 1 – 4 เส้น 


และเมื่อได้กราฟต์ผมมาแล้ว จะต้องผ่านการตรวจสอบ คัดแยก ตัดแต่ง เพื่อให้ได้กราฟต์ผมที่เหมาะสำหรับพื้นที่ปลูก เพราะบริเวณแนวไรผมต้องการผมเส้นเล็กและบางกว่า ส่วนบริเวณกลางศีรษะก็ต้องการผมเส้นใหญ่และหนากว่า จึงจะดูเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนสุดท้าย คือการนำกราฟต์ผมที่แช่น้ำยาคงสภาพไว้ มาปักลงบนพื้นที่ที่เป็นปัญหา ทีละเส้น ๆ โดยคุณหมอจะพิถีพิถันในการจัดเรียงกราฟต์ผมให้เนียนสวย เพื่อให้แนวผมใหม่กับผมเก่ากลมกลืนดูเป็นธรรมชาติ ไม่ชี้ผิดทิศผิดทาง สามารถจัดแต่งทรงผมทุกสไตล์ได้อย่างมั่นใจเต็มที่


2
เพราะ “เทคนิค” ที่แตกต่าง เท่ากับผลลัพธ์ที่แตกต่าง

ที่นามนิน คุณหมอพัฒนาเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนินขึ้น ภายใต้ชื่อ N /E /A /T หรือ Namnin’s Exclusive Advanced Hair Transplant Technique ซึ่งแต่ละตัวอักษร มีความหมายที่บ่งบอกถึงความชำนาญของคุณหมอและความโดดเด่นไม่เหมือนใครของแนวทางการปลูกผมที่นี่ 


หมายถึง ประสบการณ์และความชำนาญด้านการปลูกผมโดยเฉพาะของแพทย์ ซึ่งคุณหมอนินไม่เคยหยุดเติมเต็มความรู้ด้านการปลูกผมเพื่อพัฒนาตนเองให้ก้าวทันวิทยาการต่าง ๆ มากขึ้น ที่สำคัญ คุณหมอนินจะเป็นผู้ลงมือปลูกผมใหม่ให้คนไข้ด้วยตัวเองแบบเส้นต่อเส้น และดูแลติดตามผลอย่างใกล้ชิดตลอด 1 ปีเต็ม

หมายถึง การออกแบบแนวทางการรักษาแบบ Exclusive เฉพาะบุคคล เคสใหม่ คิดใหม่ ไม่มีซ้ำ ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริงว่า คนไข้แต่ละคนมีปัญหา ข้อจำกัด และความต้องการที่ต่างกัน การปลูกผมจึงไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ต้อง Tailor-made ให้ตอบโจทย์แต่ละคนได้ตรงจุดที่สุด

หมายถึง คุณภาพการปลูกผมมาตรฐานระดับสากล ที่คุณมั่นใจได้ในความปลอดภัย และความพิถีพิถันในการรักษา ซึ่งคุณหมอและคนไข้จะทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

​T 
หมายถึง เทคนิคการปลูกผมที่คุณหมอเลือกนำมาใช้ และพัฒนาต่อยอดให้ตอบโจทย์ความงามและความสะดวกสบายของคนไข้ยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็น
เทคนิคการออกแบบกรอบหน้าใหม่ตามหลัก Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำของใบหน้า 
เทคนิคการเจาะนำผมด้านหลังท้ายทอยออกแบบขั้นบันไดโดยไม่ต้องโกนผม ทั้งยังซ่อนแผลได้เนียนกริบจนแทบไม่ต้องปกปิด 
เทคนิคการปลูกผมแทรก ซึ่งคุณหมอจะลงมือปักกราฟต์ผมใหม่ให้เองทุกเส้น โดยคำนึงถึงขนาด ความหนาบาง ความโค้งของเส้นผม รวมถึงองศาและทิศทางการเรียงตัว เพื่อให้ผมใหม่กลมกลืนไปกับผมเดิมอย่างเป็นธรรมชาติ

ทั้งยังรวมถึงการเลือกนำเข้าอุปกรณ์ปลูกผมชั้นนำจากต่างประเทศ ที่มีขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มความแม่นยำ และทิ้งไว้เพียงรอยแผลเล็ก ๆ จนคุณไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถลุกขึ้นทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติหลังปลูกทันที


3
ปลูกผมใหม่ ทำไมต้อง “ดูแล 1 ปีเต็ม”


การปลูกผมใหม่ อาจเป็นเหมือนทางลัดในการนำวิทยาการทางการแพทย์มาช่วยเติมเต็มผมให้หนาแน่นขึ้นได้จริง แต่อย่างไรก็ตาม เส้นผมยังคงต้องเติบโตตามธรรมชาติอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งนั่นหมายถึงระยะเวลา 18 เดือน ผมจึงจะขึ้นและงอกยาวอย่างสมบูรณ์

นามนินจึงออกแบบการดูแลติดตามผลต่อเนื่องตลอด 1 ปีเต็ม โดยคุณหมอจะให้คำแนะนำ และคอยตอบคำถามเพื่อให้คนไข้คลายความกังวลใจ พร้อมทั้งนัดเข้ามาตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ ในระยะสำคัญต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  • ช่วงเข้าสัปดาห์ที่ 2 หลังการปลูกผม ซึ่งจะสังเกตเห็นตอผมสั้น ๆ ประมาณ 2 – 4 มิลลิเมตร
  • หลังปลูกผม 2 สัปดาห์หรือ 1 เดือน เส้นผมที่งอกใหม่จะหลุดร่วงไปตามวงจรเส้นผมปกติ 
  • เดือนที่ 4 – 6 เส้นผมจะเริ่มงอกใหม่อีกครั้ง และเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
  • เดือนที่ 9 เส้นผมเพิ่มจำนวนและเติบโตแข็งแรงจนแลดูเป็นธรรมชาติ
  • เมื่อครบ 1 ปี เส้นผมหนาแน่นและเติบโตเต็มที่

ที่สำคัญ คุณหมอจะคัดเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมหลังปลูกให้เป็นพิเศษ เพื่อให้คนไข้สามารถกลับไปดูแลตัวเองที่บ้านได้ง่าย ๆ และแนะนำการรับประทานยาสำหรับผู้ที่มีภาวะผมบางจากพันธุกรรม รวมถึงจัดเตรียมโปรแกรม Treatment เพื่อบำรุงผมอย่างล้ำลึกในช่วงระยะการเติบโตของเส้นผมที่เหมาะสม ได้แก่ Low Level Laser Therapy ซึ่งเป็นนวัตกรรมฟื้นฟูเซลล์รากผมด้วยการฉายแสงกระตุ้น และ Hair Growth Treatment ที่ช่วยบำรุงผมจากภายในด้วย Growth Factor และวิตามินเข้มข้นสูตรของนามนินโดยเฉพาะ

4
“ความคุ้มค่า” ที่คุณคู่ควร

สุดท้ายแล้ว ตัวเลขราคาก็เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจปลูกผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกจากราคาแล้ว เราขอชวนให้คุณคำนึงถึง “ความคุ้มค่า” ด้วย เป็นต้นว่า บริการปลูกผมนี้ ดูแลโดยแพทย์และทีมสหวิชาชีพอย่างใกล้ชิดหรือไม่ แพทย์เป็นผู้ลงมือปลูกผมให้ทุกกราฟต์หรือเปล่า ที่สำคัญ ปัญหาผมของเราเองอยู่ในระดับที่รุนแรงมากน้อยแค่ไหน และแนวทางการแก้ปัญหาจากคุณหมอ มีความน่าเชื่อถือและตอบโจทย์ความต้องการของเราบนมาตรฐานการแพทย์ได้อย่างไร

 
ทั้งหมดนี้ คือรายละเอียดที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับการไตร่ตรองเพื่อตัดสินใจปลูกผมครั้งหนึ่งในชีวิต เนื่องจากคนเราสามารถปลูกผมได้ไม่เกิน 1 – 3 ครั้งเท่านั้น ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับระดับความรุนแรงของปัญหาผม และจำนวนกราฟต์ผมต้นทุนที่มีจำกัดอย่างที่ได้อธิบายไปช่วงต้น ไม่เพียงเท่านั้น จุดละเอียดอ่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ เช่นการปักกราฟต์ผมแน่นชิดกันเกินไป อาจเป็นสาเหตุให้กราฟต์ผมหลุดได้ง่ายขึ้น หรือหากไม่มีความประณีตมากพอในการปักกราฟต์ผมตามทิศทางผมเดิม กว่าจะรู้ตัวว่าผมชี้ผิดทิศทางไม่เป็นธรรมชาติ ก็เมื่อผมยาวขึ้นประมาณหนึ่งแล้ว และจะไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป

ดังนั้น ถ้าลองทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็ควรเป็นการเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอ เพื่อให้เห็นทิศทางการรักษาที่ชัดเจนขึ้น และถือเป็นด่านสุดท้ายที่สำคัญจริง ๆ ก่อนการตัดสินใจเข้ารับการปลูกผม เพื่อให้เส้นผมใหม่ช่วยปรับบุคลิกภาพ เสริมความมั่นใจ และเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้อย่างที่ต้องการ

.

“ผมบาง” รักษาจบ ครบทุกมิติ
ภาวะผมร่วง ผมบาง เป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำให้หมดความมั่นใจในรูปลักษณ์ บุคลิกภาพ รวมถึงความอ่อนเยาว์ชวนมอง สาเหตุของปัญหาผมเหล่านี้ มีที่มาค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความเครียด พฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน สิ่งแวดล้อมหรือมลภาวะ การขาดสารอาหาร การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผลข้างเคียงจากยาหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง และตัวการสำคัญอย่าง “พันธุกรรม” ที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว ที่พบได้มากถึงร้อยละ 90 จากบรรดาสาเหตุทั้งหมดที่กล่าวมา

ที่นามนิน คนไข้สามารถเข้ามาพบและพูดคุยปรึกษากับแพทย์ก่อนในเบื้องต้น เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของภาวะผมร่วงและผมบางที่กำลังเผชิญอยู่ และสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง ครบทุกมิติการดูแลรักษาบนมาตรฐานการแพทย์ เป็นต้นว่า หากพบว่าโรคใดโรคหนึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผม แพทย์จะแนะนำให้รักษาโรคก่อน เพื่อเป็นการชะลอหรือหยุดการหลุดร่วงของเส้นผมเพิ่มเติม จากนั้นจึงเริ่มแก้ไขปัญหาผมเพื่อเติมเต็มผมในจุดที่ผมบาง ให้กลับมาหนาแน่น แข็งแรง สุขภาพดีกว่าที่เคย

ทั้งนี้ นามนินขอนำเสนอโปรแกรมการรักษาที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของเส้นผมได้อย่างตรงจุด 


ปลูกผมด้วยเทคนิค NEAT
NEAT คือชื่อของเทคนิคที่แพทย์ผู้ชำนาญของนามนินพัฒนาขึ้น จนกลายเป็นเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน หรือ Namnin’s Exclusive Advanced Hair Transplant Technique โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความชำนาญด้านการปลูกผมของแพทย์ ซึ่งจะเป็นผู้ลงมือปลูกผมใหม่คนไข้เองทุกกราฟต์ ด้วยความใส่ใจและละเอียดประณีตระดับเส้นต่อเส้น ไม่เพียงเท่านั้น แพทย์ยังออกแบบแนวทางการรักษาแบบ Tailor-made เฉพาะบุคคล ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหา ข้อจำกัด และความต้องการที่ต่างกันไปของคนไข้ เรียกได้ว่า เคสใหม่ คิดใหม่ ไม่มีซ้ำ โดยทั้งหมดอยู่บนมาตรฐานคุณภาพระดับสากล ภายใต้การดูแลอย่างพิถีพิถันของแพทย์

ความโดดเด่นอีกข้อหนึ่ง ยังเป็นเรื่องของเทคนิคที่นามนินต่อยอดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายและเป้าหมายความงามของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการออกแบบกรอบหน้าใหม่ตามสัดส่วนทองคำหรือ Golden Ratio เทคนิคการเจาะนำผมด้านหลังท้ายทอยออกแบบขั้นบันได ที่สามารถซ่อนแผลได้เนียนกริบ และเทคนิคการปลูกผมแทรก ที่แพทย์จะคำนึงถึงขนาดและความหนาบางของเส้นผม ความโค้งของเส้นผม ในการเลือกกราฟต์ผมมาปักใหม่ และยังปักกราฟต์ผมให้ได้องศาและทิศทางที่เรียงตัวกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม จนได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด 


Premium Hair Booster Treatment
เป็นนวัตกรรมบำรุงผมชั้นลึก ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาภาวะผมบางอยู่ในระยะเริ่มต้น อาศัยพลังการฟื้นฟูดูแลจาก Exosome สารชีวโมเลกุลจากสเต็มเซลล์ที่มีขนาดเล็กระดับนาโน จึงตรงเข้าบูสต์เซลล์ผมให้เกิดการซ่อมแซมและสร้างเซลล์ผมใหม่ได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังเสริมด้วยวิตามินสูตรเฉพาะของนามนิน ผสานพลังกันกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม เพื่อช่วยลดอาการผมร่วง และเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมจากภายใน คนไข้ยังสามารถพิสูจน์ผลลัพธ์ผมสวยและหนาแน่นขึ้นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่การทำครั้งแรก 

Hair Growth Treatment
อีกหนึ่งนวัตกรรมฟื้นคืนวงจรชีวิตเส้นผมถึงระดับเซลล์ พร้อมการันตีความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากเป็นการใช้ Growth Factor จากเกล็ดเลือดที่เก็บจากตัวผู้เข้ารับบริการเอง โดยนำเลือดที่เก็บจากข้อพับแขน มาแยกชั้นด้วยเครื่องเหวี่ยงสาร ตลอดขั้นตอนการให้บริการจะไม่มีการเติมสารเคมีใด ๆ และไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด เพราะแพทย์จะฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น ที่เสริมด้วยวิตามินมากคุณประโยชน์ เข้าที่หนังศีรษะบริเวณที่มีปัญหาผมร่วงและผมบาง แล้วปล่อยให้ Growth Factor และวิตามิน จับมือกันทำงานในการตรงเข้าบำรุงหนังศีรษะ ซ่อมแซมและฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง พร้อมกระตุ้นเซลล์รากผมให้สร้างเส้นผมใหม่ที่จะไม่หลุดร่วงง่าย ๆ อีกต่อไป


ทั้ง Premium Hair Booster Treatment และ Hair Growth Treatment นับเป็นส่วนหนึ่งของ Namnin Anti Thinning Hair Program หรือโปรแกรมเพื่อการดูแลรักษาปัญหาผมร่วงและผมบาง ที่นามนินออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ร่วมกับบริการในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการเข้ารับการปลูกผม ก็สามารถรับมือกับปัญหาผมร่วงและผมบางด้วย Treatment เหล่านี้อย่างได้ผลเช่นกัน

ที่สำคัญ แผนการรักษาเหล่านี้ จะเป็นการวางแผนร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ชำนาญกับคนไข้เจ้าของเส้นผม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบสนองความต้องการของคนไข้ได้อย่างตรงจุดตรงใจ และตอบโจทย์การรักษาตามมาตรฐานการแพทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ



เตรียมเส้นผม รับหน้าร้อน
“เรากำลังเข้าสู่ฤดูร้อน(ที่สุด)” เตรียมตัวรับมือกับแสงแดดที่เจิดจ้ากันหรือยังคะ ถึงเราจะพยายามหลบเลี่ยงขนาดไหน เจ้ารังสี UV ที่เข้มข้นกว่าปกติในหน้าร้อนก็ยังส่งผลกระทบกับเส้นผมของเราได้อยู่ดีค่ะ 

รังสี UVA จะทำลายเม็ดสีเมลานิน หากตากแดดนานๆ เป็นประจำ สีผมจะจางลง ส่วนรังสี UVB จะทำลายโปรตีนในเส้นผมและทำลายลึกถึงรากผม ทำให้เส้นผมอ่อนแอ หยาบกระด้าง เปราะ หักและหลุดร่วงง่ายขึ้น ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ทางที่ดีที่สุด ก็มาเตรียมเส้นผมให้แข็งแรงพร้อมรับหน้าร้อนกันเถอะค่ะ


เริ่มจาก เช็คผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ใช้อยู่ว่าสามารถปกป้องเส้นผมจากรังสี UV ได้หรือไม่ เพราะเส้นผมต้องแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อต่อสู้กับแสงแดด ควรเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมที่ปลอดภัยและมีคุณสมบัติช่วยให้รากผมแข็งแรงขึ้น ซึ่ง “MOJELIM ELIXIR SHAMPOO” จากนามนิน มีคุณสมบัติช่วยรักษาสมดุลระหว่างความมันและความชุ่มชื้นให้หนังศีรษะ สามารถใช้ได้ทั้งผู้ที่มีผมแห้งและผมมัน บำรุงเส้นผมให้แข็งแรง นุ่มสลวยขึ้น ลดการหลุดร่วง และยังให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่นเป็นพิเศษหลังการสระผมอีกด้วย จะร้อน เหนอะหนะแค่ไหน ก็เอาอยู่ค่ะ และผ่านการทดสอบทางการแพทย์ที่เป็นมาตรฐานแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทางผิวหนัง หรือ Hypoallergenic agent มั่นใจ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้แน่นอน


อีกหนึ่ง Item สำหรับหน้าร้อนที่แนะนำคือ Elixir Hair Serum เซรั่มบำรุงเส้นผมที่คิดค้นและพัฒนาโดยอาจารย์หมอนิน ส่วนผสมหลักเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น สารสกัดจากดอกอัญชัน หญ้าหางม้า เมล็ดข้าวสาลี มะกรูด ฯลฯ จึงช่วยเสริมความแข็งแรงได้ถึงรากผม ช่วยลดการหลุดร่วง บำรุงให้เส้นผมที่บางลงกลับมาแข็งแรงและดกดำขึ้น ลดการผลิตไขมันหรือน้ำมันในหนังศีรษะ จึงช่วยลดรังแคและอาการคันศีรษะที่มักจะมาพร้อมเหงื่อที่มากขึ้นได้ด้วยค่ะ


เสริมความแข็งแรงให้เส้นผมอีกระดับด้วยทรีทเม้นท์ที่ตรงเข้าบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก อาทิ Hair Growth Treatment ที่เน้นกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมด้วยการฉีด Growth Factor ที่สกัดมาจากเซลล์ของตัวคุณเอง ผสานกับวิตามินเข้มข้นลงบนหนังศีรษะ เพื่อให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น หรือจะเป็น Premium Hair Booster การฉีดสารสกัดที่มีสารชีวโมเลกุลโปรตีนกว่าร้อยชนิดลงบนหนังศีรษะ เพื่อบำรุงลึกถึงระดับเซลล์ในรากผม ลดการหลุดร่วง ช่วยให้เส้นผมดกดำและเงางามขึ้น


แต่หากใครเป็นสายสปาหรืออโรมาแบบเบาๆ แนะนำตัวนี้ค่ะ Namnin Hair Spa ที่เป็นลูกผสมระหว่าง “ทรีทเม้นท์” กับ “สปา” ที่นามนินได้นำศาสตร์การนวดมากระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ และบำรุงเส้นผมโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะเพื่อการดูแลเส้นผมให้แข็งแรง เงางาม มีน้ำหนักตั้งแต่โคนจรดปลายผม ในช่วงเวลา 60 นาทีของการทำทรีทเม้นท์นั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลายและได้ดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นไปพร้อมๆกันด้วยค่ะ

ไม่ว่าแสงแดดหน้าร้อนนี้จะรุนแรงขนาดไหนก็ไม่ต้องกลัวแล้วค่ะ ถ้าผมแข็งแรงตั้งแต่รากจรดปลาย อะไรก็ทำอันตรายเส้นผมคุณไม่ได้ และสำหรับผู้ที่มีปัญหาเส้นผม ผมร่วง ผมบาง ผมแห้งกระด้าง หรือผมไม่นุ่มสลวยเงางาม นามนิน คลินิก ก็ยินดีให้คำปรึกษาและออกแบบการดูแลที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคลค่ะ
รีบทักนามนิน เพื่อผมสุดสตรองในหน้าร้อนนี้นะคะ 

ฟื้นฟูเซลล์ผมระดับนาโน ด้วย Premium Hair Booster
Premium Hair Booster คือนวัตกรรมบำรุงผมชั้นลึก ด้วยอนุภาคเล็กระดับนาโนผสานพลังกับวิตามินสูตรเฉพาะของนามนิน ช่วยบูสต์กระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมจากภายใน



นี่คือนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบางในระยะเริ่มต้น Premium Hair Booster อาศัยพลังการฟื้นฟูดูแลแบบเต็มขั้นจาก Exosome สารชีวโมเลกุลนับพันชนิดและโปรตีนอีกหลายประเภทซึ่งมีขนาดเล็กระดับนาโน กระตุ้นให้เซลล์รากผมเกิดการซ่อมแซมตัวเอง และสามารถสร้างเซลล์ผมใหม่ได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมกับวิตามินสูตรเฉพาะของนามนิน ที่จะช่วยกันเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม และลดอาการผมหลุดร่วง โดยสามารถพิสูจน์ผลลัพธ์อย่างชัดเจนได้ตั้งแต่การทำครั้งแรก


Booster สูตรเฉพาะที่พัฒนาโดยนามนิน

นามนินพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ Exosome ใน Premium Hair Booster สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีความปลอดภัยสูง และสะดวกสบายสำหรับผู้เข้ารับบริการ เพียงใช้วิธีการฉีดเข้าสู่บริเวณหนังศีรษะในจุดที่มีปัญหาผมร่วงและผมบาง โดยไม่ทิ้งรอยแผลและปราศจากผลข้างเคียงใด ๆ ทั้งยังสามารถรับบริการพร้อมกับ Treatment อื่น ๆ ได้ในคราวเดียว



บอกลาผมร่วง ด้วยผลลัพธ์ระดับ Premium 

Exosome จะตรงเข้าฟื้นฟูเซลล์ลึกถึงระดับยีน ส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอขาดการบำรุงกลับมาแข็งแรง กระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ จนอาการผมร่วงลดลงภายใน 3 – 7 วัน และสามารถสังเกตเห็นเส้นผมอ่อนเริ่มงอกขึ้นใหม่ภายใน 1 – 3 เดือน อีกทั้งช่วยให้เส้นผมมีขนาดใหญ่ขึ้น แลดูหนาแน่นขึ้นภายใน 2 – 4 เดือน และยังบำรุงผมให้ดูดกดำ เงางาม สุขภาพดีกว่าที่เคย



Premium Hair Booster เหมาะกับใคร

สำหรับผู้ที่มีภาวะผมร่วงและผมบาง ไม่ว่าจะเกิดจากการใช้สารเคมีตกแต่งผม จากกรรมพันธุ์ จากภาวะทางสุขภาพ จากการขาดสารอาหาร จากความเครียด หรือเป็นผู้ที่ปลูกผมแล้วแต่ต้องการเสริมความแข็งแรงของรากผมและความหนาแน่นของเส้นผม สามารถลองพิสูจน์ความมหัศจรรย์และสังเกตผลลัพธ์เหล่านี้ได้

  • อาการผมร่วงลดลงภายใน 3-7 วัน
  • เส้นผมอ่อนเริ่มขึ้นใหม่ภายใน 1-3 เดือน
  • เส้นผมมีขนาดใหญ่และหนาแน่นขึ้นภายใน 2-4 เดือน




ที่สำคัญ การใช้ Exosome ในการรักษาดูแลผู้ที่มีภาวะผมร่วงและผมบาง ถือเป็นเทคโนโลยีที่ให้ประสิทธิภาพสูง สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ 1-3 ครั้งแรกที่ใช้ หรือตั้งแต่ 1-3 เดือนหลังฉีดครั้งแรก และเห็นผลชัดเจนที่สุดช่วง 6-9 เดือนหลังฉีด อีกทั้งการใช้วิธีฉีดเข้าบริเวณหนังศีรษะ ยังเป็นวิธีที่สะดวกสบาย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ทิ้งรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลเป็นพิเศษ และไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง


Premium Hair Booster นับเป็นนวัตกรรมการรักษาที่สามารถรับบริการพร้อมกับ  Treatment อื่น ๆ ได้ด้วย ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ที่ออกแบบโปรแกรมการรักษาให้เหมาะกับปัญหาเส้นผมของแต่ละบุคคล สามรถเข้ามาปรึกษาและให้แพทย์นามนินวินิจฉัยและออกแบบแนวทางการรักษาได้เพื่อให้ตอบโจทย์คนรักเส้นผมเช่นคุณได้มากที่สุด 

สอบถาม ปรึกษา Line @namninclinic
สาขาพหลโยธิน 34 Tel. 093-093-5639
สาขามหาสารคาม   Tel. 095-610-9954
1 ปี เส้นทางสู่ผมสวยกับนามนิน
เพราะการปลูกผม ไม่ใช่การนำกราฟต์ผมใหม่มาเสียบเติมผมให้ดูหนาแน่น แล้วก็จบ...

แต่เมื่อใช้คำว่า “ปลูก” นั่นหมายถึงการค่อย ๆ ย้ายกราฟต์ผมคุณภาพดีจากท้ายทอยด้านหลังศีรษะ มาปักลงใหม่อย่างบรรจงและพิถีพิถัน แล้วเฝ้าทะนุถนอมจนเส้นผมเติบโต แข็งแรง หยั่งรากฝังแน่นกับหนังศีรษะ ไม่หลุดร่วงง่าย ๆ อีกต่อไป 

และเพื่อให้มั่นใจว่าวงจรเส้นผมใหม่จะคงอยู่กับเราอย่างถาวรตลอดชีวิต นั่นก็ต้องใช้เวลาในการดูแลหลังปลูกผมถึง 1 ปีเต็ม ๆ เลยทีเดียว

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมนามนินจึงต้องใช้เวลานานถึง 1 ปีในการดูแลหลังปลูกผม ในระหว่างนั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับเส้นผมใหม่ของเราบ้าง แล้วเราจะต้องดูแลตัวเองยากง่ายแค่ไหน ที่สำคัญ คุณหมอจะยังอยู่กับเราเพื่อช่วยดูแลเส้นผมใหม่อย่างไร 

...มาสำรวจ เส้นทางสู่ผมสวย ตลอด 1 ปี ที่มี “คุณคนใหม่” เป็นเส้นชัยปลายทางไปพร้อม ๆ กัน...


NEAT 
จุดสตาร์ทแห่งความประณีต

...เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง... ก้าวลงสนามความงามครั้งนี้ นามนินพร้อมให้คุณออกสตาร์ทสู่ปลายทางผมสวย ด้วยเทคนิค NEAT จากคุณหมอนิน ซึ่งหมายถึง Namnin’s Exclusive Advanced Hair Transplant Technique หรือเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนินนั่นเอง

ความโดดเด่นของเทคนิค NEAT เริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่คนไข้เข้ามาปรึกษากับคุณหมอนิน โดยคุณหมอจะพูดคุยซักถาม พร้อมรับฟังคนไข้อย่างตั้งใจ ซึ่งแต่ละคนมาด้วยลักษณะปัญหา เงื่อนไข ข้อจำกัด และความต้องการที่ไม่เหมือนกันเลย ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้สูตรสำเร็จตายตัวในการรักษาได้ แต่คุณหมอจำเป็นต้องนำข้อมูลของคนไข้มาประเมิน วิเคราะห์ และออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคลแบบ Tailor-made เคสใหม่ คิดใหม่ ไม่มีซ้ำ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาของคนไข้ได้ตรงจุดมากที่สุด

ระหว่างขั้นตอนนี้ คุณหมอจะเช็คกราฟต์ผมด้านหลังท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่ผมของคนเรามีความแข็งแรงทนทาน ไม่หลุดร่วงง่าย และจะกลายเป็นผมต้นทุนคุณภาพดีให้คุณหมอย้ายมาปลูกใหม่ในพื้นที่ที่เป็นปัญหา เพื่อคำนวณปริมาณกราฟต์ผมต้นทุนที่ต้องใช้ให้คุ้มค่าและเหมาะสม 

ขณะเดียวกัน คุณหมอจะช่วยออกแบบและวาด Hairline หรือกรอบหน้าให้ใหม่ โดยอาศัยหลักสัดส่วนความงาม Golden Ratio ที่จะช่วยให้ใบหน้าของคุณผู้หญิงดูหวานละมุนขึ้น และปรับลุคของคุณผู้ชายให้ดูสมาร์ทคมเข้มขึ้น ที่สำคัญ กรอบหน้าใหม่ยังช่วยลดวัย คืนความอ่อนเยาว์ให้กับเจ้าของใบหน้าได้อีกด้วย

จากจุดตั้งต้นนี้เอง คุณหมอจะลงมือปลูกผมใหม่ให้คนไข้ด้วยตัวเองแบบเส้นต่อเส้น เพื่อการันตีความประณีตสมชื่อ NEAT เริ่มตั้งแต่การคัดแยกและตัดแต่งกราฟต์ผมให้พร้อมสำหรับนำไปปลูกใหม่ การใช้ Implanter ขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตรที่ช่วยให้สามารถปักกราฟต์ผมได้อย่างแม่นยำและนุ่มนวล 

โดยคุณหมอจะคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเอื้อต่อความอยู่รอดของเส้นผม และความสวยงามของผมปลูกใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเส้นผมที่มีขนาดเล็กใหญ่ ความหนาบาง หรือแม้กระทั่งองศาความโค้ง ที่เหมาะสมกับผมในบริเวณนั้น ๆ การวางตัวของเส้นผมตามทิศทางที่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิมเพื่อความเป็นธรรมชาติ การปักกราฟต์ผมให้ได้ระยะความลึกที่พอดีแก่การรับสารอาหารที่ลำเลียงมาสู่เส้นผม และการกระจายเส้นผมให้หนาแน่นกำลังดี ไม่เบียดชิดกันเกินไปจนหลุดร่วงง่าย หรือไม่ห่างกันเกินไปจนดูเหมือนผมบาง ซึ่งทั้งหมดนี้ นอกจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ยังต้องอาศัยความละเอียดพิถีพิถันอย่างที่สุด


Check Up ทุกระยะตลอดเส้นทาง
โดยคุณหมอตัวจริง

หลังจากสิ้นสุดวันทำหัตถการปลูกผม เส้นทางการดูแลผมที่ยาวนานถึง 1 ปีก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ นั่นเป็นเพราะเส้นผมใหม่ต้องการเวลาที่จะค่อย ๆ เติบโตตามวงจรอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่ได้เดินบนเส้นทางตลอด 1 ปีนั้นเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะคุณหมอจะคอยนัดมาติดตามผลเป็นระยะ ๆ เพื่อดูผลลัพธ์การปลูกผมใหม่ด้วยตนเอง และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันไม่ให้ผมหลุดร่วงไปก่อนเวลาอันควร พร้อมทั้งมอบชุดดูแลตัวเองอย่างง่าย ๆ เพื่อช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง 

และนี่คือ Timeline การเติบโตตามธรรมชาติของเส้นผม ที่คุณหมอจะคอยปักหมุดตรวจเช็คผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
ช่วงเข้าสัปดาห์ที่ 2 หลังการปลูกผม จะสังเกตเห็นตอผมสั้น ๆ 2 – 4 มิลลิเมตรงอกขึ้นมาจากหนังศีรษะได้ 
หลังปลูกผม 2 สัปดาห์หรือ 1 เดือน เส้นผมที่งอกใหม่จะหลุดร่วงออกตามวงจรเส้นผมตามปกติ
เดือนที่ 4 – 6 เส้นผมจะเริ่มงอกใหม่อีกครั้ง และเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เดือนที่ 9 เส้นผมเพิ่มจำนวนและเติบโตแข็งแรงจนแลดูเป็นธรรมชาติ
เมื่อครบ 1 ปี เส้นผมหนาแน่นและเติบโตสมบูรณ์เต็มที่


แวะเติมพลังให้เส้นผม
ด้วย Treatment คุณภาพ

นามนินยังดูแลคุณด้วยบริการ Treatment หลังปลูกผม เริ่มจาก LLLT หรือ Low Level Laser Therapy ซึ่งหมายถึงการบำบัดรักษาด้วยเลเซอร์คลื่นความถี่ต่ำ ที่มีความยาวคลื่นเหมาะสมอยู่ในช่วง 650 – 680 นาโนเมตร โดยเลเซอร์แสงสีแดงนี้ จะถูกฉายลงบนหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ให้สามารถนำสารอาหารและออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงบริเวณรากผมได้มากขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้นและฟื้นฟูการทำงานของเซลล์รากผม ให้พร้อมสร้างเส้นผมใหม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เล็กลีบหรือหลุดร่วงง่าย ดังนั้น ผมที่เคยบางก็จะกลับหนาแน่นขึ้น ทั้งยังช่วยสมานแผลบนหนังศีรษะและลดการอักเสบสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ารับการปลูกผมมาใหม่ ๆ อีกด้วย 

LLLT ยังเป็นนวัตกรรมการรักษาที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน เพราะเป็นการใช้คลื่นความถี่ต่ำฉายบนผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น ไม่ก่อให้เกิดอาการเจ็บหรือระคายเคือง คุณจึงไม่ต้องกังวลกับผลข้างเคียงใด ๆ

และอีกบริการหนึ่งที่จะช่วยฟื้นความแข็งแรงให้ผมในระดับเซลล์ ก็คือ Hair Growth Treatment ซึ่งจะช่วยบำรุงผมโดยการกระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังซ่อมแซมและเสริมสร้างเส้นผมให้กลับสู่วงจรอันสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ไม่หลุดร่วงง่าย ๆ อีกต่อไป 

สำหรับ Hair Growth Treatment จะเป็นการนำ Growth Factor ซึ่งทำการแยกออกจากเลือดที่เก็บจากตัวเจ้าของเส้นผมเอง มาผสานพลังกับวิตามินบำรุงเข้มข้น และฉีดเข้าสู่หนังศีรษะ วิธีการนี้ยังเหมาะกับผู้ที่เพิ่งปลูกผมมาใหม่ ๆ เช่นกัน เนื่องจากจะช่วยให้เส้นผมที่สร้างขึ้นใหม่มีความหนา แข็งแรง และช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูง ปราศจากสารเคมี ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น จึงเป็นบริการที่สะดวกสบายสำหรับผู้เข้ารับการดูแลหลังปลูกผมทุกคน


“คุณคนใหม่”
เข้าเส้นชัยแบบสวย ๆ 

แม้ว่า 1 ปีจะฟังดูยาวนาน แต่ก็คุ้มค่าแก่การอดทนรอคอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีคุณหมออยู่เคียงข้างให้คำแนะนำและคำปรึกษาเสมอ คุณจึงสามารถวางใจได้ตลอดเส้นทาง และผลลัพธ์ปลายทางที่รออยู่ ก็คือผมสวย หนาแน่น แข็งแรง สุขภาพดี แลดูเป็นธรรมชาติ จัดแต่งทรงได้ทุกสไตล์ตามใจต้องการ 


ไม่เพียงเท่านั้น หลายเสียงยังบอกตรงกันถึงมิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างคุณหมอกับผู้เข้ารับการปลูกผม ที่ไม่ใช่เพียงในฐานะแพทย์กับคนไข้ แต่ยังเป็นเพื่อนที่ปรึกษา ที่แม้ว่าจะสิ้นสุดเส้นทาง 1 ปีไปเรียบร้อยแล้ว ก็ยังสามารถสอบถามขอคำแนะนำด้วยความอุ่นใจได้อยู่เสมอ

และรางวัลที่รออยู่หลังเส้นชัย ก็คือ “คุณคนใหม่” ที่อ่อนเยาว์ขึ้น ดูดีขึ้น รักและชื่นชมตัวเองได้มากขึ้น พร้อมที่จะก้าวออกไปใช้ชีวิต และเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมั่นใจ 


NEAT ความคุ้มค่าของการปลูกผม
การปลูกผมแตกต่างจากการศัลยกรรมประเภทอื่นๆ ที่สามารถแก้ไขกี่ครั้งก็ได้เท่าที่ต้องการ เพราะการปลูกผมมีหลักการสำคัญคือ ต้องใช้เส้นผมที่แข็งแรงของตัวคุณเองมาปลูกเท่านั้น และจุดที่มีเส้นผมที่แข็งแรงที่สุดคือ บริเวณท้ายทอย หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Safe Zone เป็นผมที่อยู่ตั้งแต่เหนือหูด้านซ้ายไปถึงเหนือหูด้านขวา ยาวประมาณ 10 – 12 นิ้ว และสูงประมาณ 3 นิ้ว ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของหนังศีรษะ มีผมประมาณ 12,500 กราฟท์เท่านั้น จากผมทั้งศีรษะกว่า 50,000 กราฟท์ 

ทำไมต้องเป็นผมจากท้ายทอย? นั่นเพราะผมบริเวณนี้จะมีความแข็งแรงและทนทานต่อการหลุดร่วงมากที่สุด เนื่องจากรากผมบริเวณนี้ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือ DHT ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะมีขนาดเล็กลง รากผมอ่อนแอ เส้นผมบางและสั้นลงเรื่อยๆ จนนำไปสู่อาการผมร่วง ผมบางและศีรษะล้านในที่สุด และมักถ่ายทอดทางพันธุกรรมในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เมื่อนำผมจากท้ายทอยมาปลูกเพื่อเติมเต็มส่วนที่ผมบาง เส้นผมก็จะทนต่อการหลุดร่วงได้ดีขึ้นตามคุณสมบัติเดิมที่ติดมากับรากผม



ในขั้นตอนการปลูกผม แพทย์จะประเมินปัญหาก่อนว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด แล้วจึงจะคำนวณปริมาณกราฟท์ผมที่ต้องใช้ให้เหมาะสมที่สุดก่อนจะทำการย้ายเส้นผมไปปลูกใหม่ โดยมีหลักที่ต้องคำนึงถึงคือ ต้องย้ายเส้นผมออกโดยเว้นระยะห่างอย่างสม่ำเสมอ เลือกนำผมออกมาใช้เป็นบางส่วน ไม่เหลือเส้นผมอยู่น้อยเกินไปเพื่อคงความเป็นธรรมชาติ และหากเกิดความผิดพลาดใดๆขึ้น อาจจะต้องใช้ผมบริเวณ Safe Zone เพื่อปลูกผมใหม่เพื่อแก้ไขอีกในอนาคต 


จากเหตุผลที่กราฟท์ผมจาก Safe Zone มีอยู่จำกัด หากบริเวณที่ต้องการปลูกมีมากกว่าผมที่ใช้ได้ เช่น ในกรณีที่มีปัญหาผมบางหลายจุด ทั้งแนวผมด้านหน้าและกลางศีรษะ อาจจำเป็นต้องใช้ผมจากบริเวณอื่นนอกจาก safe zone มาปลูกด้วย แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะพบปัญหาผมร่วง โดยเฉพาะคนผมที่ร่วงจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เพราะเส้นผมจากบริเวณอื่นจะมีปฏิกิริยากับฮอร์โมน DHT มากกว่าผมบริเวณท้ายทอย


ด้วยสาเหตุที่ต้นทุนของผมที่แข็งแรงนั้นมีปริมาณจำกัดดังที่กล่าวมา เราจึงสามารถปลูกผมได้เพียง 1-2 ครั้งในชีวิตเท่านั้น จึงต้องทำความเข้าใจถึงวิธีการปลูกผมและเทคนิคต่างๆให้ชัดเจนก่อนการตัดสินใจเลือกการปลูกผมครั้งแรกที่ผลลัพธ์ “คุ้มค่า” กับคุณที่สุด
N / E / A / T (Namnin Exclusive Advanced Hair Transplant Technique) คือ เทคนิคการปลูกผมขั้นสูงของนามนิน ผ่านการคิดค้นและพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ทุกความกังวลและความคาดหวังของคนไข้อย่างลงตัวที่สุด แต่ละตัวอักษรบ่งบอกถึงความเชี่ยวชาญและโดดเด่นทั้งศาสตร์และศิลป์ของการปลูกผม 


N-Namnin ดูแลและปลูกผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากจะประเมินปัญหาและให้คำปรึกษาแล้ว แพทย์ของนามนินจะเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้คนไข้ทุกเส้นด้วยตัวเอง ดูแลและติดตามผลตลอดระยะเวลา 1 ปีของการปลูกผม จนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์


E-Exclusive การปลูกผมที่ออกแบบเฉพาะเป็นรายบุคคล เพราะปัญหาและข้อจำกัดของแต่ละคนแตกต่างกัน การแก้ปัญหาให้ตรงจุดจึงต้องวางแผนใหม่ทุกครั้ง ไม่มีสูตรสำเร็จ ลอกเลียนแบบกันไม่ได้   


A-Advanced คุณภาพการปลูกผมที่ได้มาตรฐานระดับสากล ปลอดภัยและสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทั้งด้านการรักษาและความสวยงาม เพิ่มความมั่นใจด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการรักษาด้วยตัวคุณหมอนินเอง ทุกความกังวลใจและความต้องการของคนไข้สำคัญเสมอสำหรับการวางแนวทางการรักษา ซึ่งคุณหมอและคนไข้จะทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


T-Technique คือ เทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเฉพาะของนามนินในทุกขั้นตอน เช่น การออกแบบแนวผมใหม่ที่ยึดหลัก Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำ ที่แนวผมจะรับกับทุกรูปหน้าทั้งชายและหญิง เทคนิคการเจาะนำผมออกด้านหลังแบบขั้นบันไดโดยไม่ต้องโกนผม ไม่เห็นรอยแผล ผมไม่เว้าแหว่ง ยังคงความเป็นธรรมชาติตามเดิม โดยเฉพาะการปลูกผมที่เป็นเทคนิคเฉพาะตัวของคุณหมอนิน เลือกและปลูกเองทีละเส้น เน้นความเหมาะสมทั้งด้านความหนาบางของเส้นผม ระยะห่างของผมแต่ละกราฟท์ ทิศทางของผมแต่ละเส้นที่ต้องจัดวางให้ใกล้เคียงกับผมเดิม ปลูกแซมเลยแนวไรผมเข้าไปเพื่อความกลมกลืน 


ด้วยเทคนิคต่างๆเหล่านี้ ทำให้การปลูกผมที่นามนินนั้นตอบโจทย์ทั้งความงามและความสะดวกสบายอย่างที่สัมผัสได้จริงๆ เพราะคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังการปลูกผมทันที และยังมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องตลอด 1 ปี ของการปลูกผม เพราะหลังจากการปลูกผม คนไข้จะต้องพบเจอกับภาวะที่หลากหลายจึงควรได้รับคำแนะนำและการดูแลที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่สมบูรณ์


ก่อนการตัดสินใจปลูกผม คุณควรใช้สิทธิ์ “เลือก” ในสิ่งที่คุ้มค่าและเป็นประโยชน์กับตัวคุณมากที่สุด การศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านและการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้การเลือกของคุณนั้น “ถูกต้อง” ตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อเริ่มต้นดี ผลลัพธ์ดีแน่นอนค่ะ

ปลูกผมเสริมรูปหน้าสวย ด้วยเทคนิค NEAT
ปัญหาผมบางไม่ได้มีแต่เฉพาะในผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็พบเจอกับปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน ความรุนแรงอาจจะน้อยกว่าแต่ก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจและรบกวนจิตใจได้ไม่น้อยทีเดียว ผู้หญิงหลายคนจึงเลือกแก้ปัญหาระยะยาวด้วยการปลูกผมถาวร ซึ่งการปลูกผมของผู้ชายและผู้หญิงก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกัน มาดูกันค่ะว่าการปลูกผมให้สวยดูเป็นธรรมชาติในผู้หญิงมีเทคนิคอะไรบ้าง


เริ่มด้วยปัญหาผมบางที่พบบ่อยในผู้หญิงกันก่อน หากผมบริเวณรอยแสกกลางศีรษะบางกว่าส่วนอื่น เรียกว่า “ผมบางแบบต้นคริสมาสต์” ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ หรือบางคนอาจจะเจอปัญหา “ผมบางทั่วศีรษะ” ที่ทำให้เสียความมั่นใจได้ไม่น้อย เพราะผมดูบางทั่วทั้งศีรษะ จะทำผมทรงไหนก็ยาก อีกปัญหาหนึ่งที่พบได้คือ ผมบริเวณด้านหน้าร่นขึ้นไปแบบตัว M ซึ่งทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิม ปัญหาเหล่านี้ล้วนทำให้สูญเสียความมั่นใจในบุคลิกภาพของตนเอง   
การปลูกผมให้สวยและดูเป็นธรรมชาติเริ่มด้วยการสำรวจรูปหน้าและแนวผมเดิมก่อน ผู้หญิงมีรูปหน้าที่แตกต่างกับผู้ชาย ส่วนใหญ่จะมีใบหน้ารูปไข่ รูปหัวใจและรูปทรงกลม แนวผมโค้งมนหรือเป็นทรงหัวใจ ขั้นตอนแรก แพทย์จะออกแบบกรอบหน้าใหม่ให้รับกับรูปหน้า โดยเน้นความชอบของคนไข้เป็นหลัก เพียงแต่ปรับให้สวยงามขึ้นตามหลัก Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำ แนวผมของผู้หญิงจะโค้งเพื่อให้รับกับรูปหน้าหรือเป็นทรงหัวใจ มีรอยหยักตรงกลาง อาจจะมีริ้วไรผมบางๆ เพื่อเพิ่มความละมุนของใบหน้าและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น


เทคนิคที่แพทย์ใช้ในการปลูกผมของผู้หญิงคือ การปลูกไล่ระดับความหนาบางและจำนวนของเส้นผมในแต่ละกราฟท์ ปลูกผมแต่ละเส้นลงในตำแหน่งที่เหมาะสม กราฟท์ผมเดี่ยวจะอยู่ด้านล่างเพื่อเป็นไรผมบางๆ และปลูกไล่ระดับความหนาขึ้นไปเรื่อยๆ และปลูกแทรกเลยแนวผมเดิมเข้าไปเล็กน้อยเพื่อความเป็นธรรมชาติ การจัดวางทิศทางของเส้นผมเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะหลังจากปลูกผมไปแล้ว ทิศทางของเส้นผมจะแก้ไขไม่ได้ แพทย์จึงต้องลงมือปลูกผมแต่ละเส้นด้วยตัวเอง เพื่อกำหนดทิศทางและความหนาแน่นให้สวยงามและเหมาะสมที่สุด


ความพิเศษของการปลูกผมเทคนิค NEAT คือ การใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเพียง 0.6 มม.เจาะเพื่อนำกราฟท์ผมทางด้านหลังออกเป็นแนวขั้นบันไดซ่อนแผลให้แนบเนียนกับผมเดิม ไม่ต้องโกนผมหรือตัดผมสั้น ไม่เห็นรอยแผล ตอบโจทย์ของผู้หญิงมากๆ และใช้ Implanter ขนาดเล็กในการปลูกผม ไม่เจ็บ มีเลือดออกน้อย แผลที่เกิดขึ้นหลังการปลูกผมมีขนาดเล็ก ไม่เกิดอาการบวมช้ำ แทบไม่มีสะเก็ดแผล ไม่ต้องพักฟื้นหรือหยุดงาน สามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้นทันที

หลังจากการปลูกผม แพทย์จะดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะคุณจะต้องผ่านช่วงเวลาที่หลากหลาย บางคนอาจจะพบกับภาวะ Shock Loss ภายหลังการปลูกผม 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะหลุดร่วงของเส้นผม อาจเกิดขึ้นได้ 3 ลักษณะ คือ ผมร่วงทั้งหมดก่อนจะเข้าสู่ระยะพักเพื่อเตรียมงอกขึ้นมาใหม่ บางคนโชคดีที่ผมไม่ร่วงเลยและยาวต่อไปเรื่อยๆ หรือบางคนอาจจะมีผมใหม่ขึ้นเป็นตอสั้นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวงจรปกติของเส้นผมหลังการปลูกผม ภายในเวลา 4 เดือน เส้นผมใหม่ก็จะเริ่มเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แพทย์จะอธิบายถึงภาวะที่คนไข้อาจต้องพบเจอทั้งหมดหลังการปลูกผมให้เข้าใจ จึงไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ

แพทย์จะนัดหมายให้เข้ามา follow up ผลการรักษาเป็นระยะ และพร้อมให้คำปรึกษาในทุกช่วงเวลาหลังการปลูกผม ทั้งการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและการเข้ารับทรีทเมนท์ เช่น Hair Growth Treatment หรือ LLLT เพื่อกระตุ้นการทำงานของรากผมให้ดียิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้สัมผัสกับเส้นผมใหม่ที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในอีก 18 เดือน

ไม่ว่าคุณจะปลูกผมเพื่อแก้ปัญหาผมบาง หรือปรับรูปหน้าเพื่อเสริมความมั่นใจ สิ่งที่สำคัญคือควรหาข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้านก่อนการตัดสินใจ ผู้ที่ให้ข้อมูลได้ชัดเจนที่สุดคือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะปัญหา ความต้องการและข้อจำกัดของแต่ละคนแตกต่างกัน  การปลูกผมจึงต้องออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาให้เป็นรายบุคคล ไม่มีใครเหมือนใคร การปรึกษาแพทย์จึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ “ตรงจุด” และได้ผลลัพธ์ “ตรงใจ” ที่สุด  

เคลียร์ 4 ข้อสงสัย “ปลูกผมครั้งที่ 2”
คำว่า “การปลูกผมครั้งที่ 2” น่าจะชวนให้หลาย ๆ คนเกิดความสงสัยในใจอยู่ไม่น้อย ว่าการปลูกผมแค่ครั้งเดียวไม่เพียงพอหรืออย่างไร ทำไมจึงต้องปลูกเพิ่มอีกครั้งด้วย การปลูกผมครั้งที่ 2 จะแตกต่างจากครั้งแรกอย่างไร แล้วตัวเราเองจำเป็นจะต้องปลูกผมถึง 2 ครั้งหรือไม่ 

...มาเคลียร์ 4 คำถามคาใจเกี่ยวกับการปลูกผมครั้งที่ 2 ไปพร้อม ๆ กันได้เลย...

1. ทำไมต้องปลูกผมครั้งที่ 2 ??

การปลูกผม เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของชีวิตก็ว่าได้ ไม่ว่าใครก็คงอยากที่จะปลูกผมให้จบในครั้งแรกครั้งเดียว แต่บางครั้งก็มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้หลายคนจำเป็นต้องเข้ารับการปลูกผมอีกเป็นครั้งที่ 2 อย่างเช่น

ปลูกผมครั้งแรกผ่านไปแล้ว แต่ยังดูผมบางอยู่เลย



ความผิดพลาดจากการปลูกผมครั้งแรกที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือคำนวณและวางแผนการปลูกอย่างไม่รอบคอบนัก อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ปลูกผมแล้วยังรู้สึกว่าผมบาง หรือที่เรามักได้ยินกันว่าปลูกผมไม่ติดนั่นเอง

และในบางกรณีอาจเป็นตัวคนไข้เองที่ดูแลสุขภาพเส้นผมหลังปลูกด้วยความใส่ใจน้อยเกินไป ไม่ได้รับประทานยาหลังปลูกผมครบถ้วนตามที่แพทย์สั่ง เผลอทำพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุให้ผมใหม่หลุดร่วงก่อนเวลาอันควรในปริมาณมาก เช่น ปล่อยให้บริเวณผมปลูกใหม่ถูกกระทบกระเทือน ออกกำลังกายหนักเกินไป หรือใช้ความร้อนกับเส้นผม โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังปลูก ซึ่งรากผมยังไม่ฝังตัวมั่นคงในชั้นหนังศีรษะ 

เมื่อเป็นเช่นนี้ แทนที่ผมจะแลดูหนาแน่นสุขภาพดีขึ้น กลับยังดูบาง จนไม่สามารถเรียกคืนความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีให้กับเจ้าของเส้นผมได้ ดังนั้น การปลูกผมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้ได้ดีทีเดียว

ปลูกผมครั้งแรกไปแล้วนะ แต่ก็ยังเกิดภาวะผมล้านต่อ!!

ในบางครั้ง การปลูกผมใหม่อาจไม่สามารถแก้ปัญหาผมร่วงผมบางทั่วทั้งศีรษะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องมาจากปัจจัยทางชีวภาพของร่างกายเราเอง ทำให้แม้ว่าจะปลูกผมใหม่ไปแล้ว รวมทั้งดูแลสุขภาพผมอย่างดีแล้ว ก็ยังเกิดภาวะผมร่วง ผมบาง และผมล้านตามมาหลังจากนั้นได้

ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สาเหตุหนึ่งของอาการผมร่วง ผมบาง เกิดจากลักษณะทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดสู่กันในครอบครัว ร่วมกับปัจจัยจากฮอร์โมนเพศ โดยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) จะถูกเจ้าเอนไซม์ที่มีชื่อว่า 5-alpha reductase บริเวณหนังศีรษะ เปลี่ยนให้เป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือ DHT ทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ผมที่เกิดขึ้นใหม่ มีรากผมอ่อนแอ มีลักษณะของเส้นผมที่บางและสั้น จนหลุดร่วงได้เร็วกว่าที่ควร 




อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดี ๆ จะพบว่า อาการผมร่วงและผมบางมักเกิดกับเส้นผมบริเวณหน้าผากหรือกลางศีรษะ ในขณะที่ผมบริเวณท้ายทอยมักจะหลงเหลืออยู่เป็นบริเวณสุดท้าย นั่นเป็นเพราะรากผมบริเวณท้ายทอยมีความแข็งแรง ทนทานต่อฮอร์โมน DHT มากเป็นพิเศษ ดังนั้น ในการปลูกผมใหม่ แพทย์จึงต้องเลือกนำผมจากบริเวณท้ายทอยนี่เอง ย้ายมาปลูกทดแทนใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา โดยคุณสมบัติด้านฮอร์โมน DHT จะยังคงติดมากับรากผมเหล่านี้ด้วย ทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายเหมือนเส้นผมเก่า 

ถึงแม้เราจะมั่นใจได้ว่า ผมปลูกใหม่จะมีความแข็งแรงและสามารถอยู่กับเราได้ไปตลอดชีวิต แต่อย่าลืมว่าเราทำการปลูกผมใหม่เฉพาะในบางจุดของศีรษะเท่านั้น ดังนั้น ในส่วนที่เป็นผมเดิม ก็จะยังคงได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT ทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่ายอยู่ นี่เองที่เป็นสาเหตุของภาวะผมล้านต่อแม้จะทำการปลูกผมใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

จริงอยู่ที่ว่า การดูแลบำรุงเส้นผมอย่างดี และการปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการทำร้ายเส้นผม ก็สามารถช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมลงได้ แต่สำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่า มีภาวะผมร่วงและผมบางจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์ แพทย์อาจให้คำแนะนำในการปลูกผมเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเติมผมให้ดูหนาแน่นเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ไม่พอใจทรงผมเดิมจากการปลูกครั้งแรก

ความชอบและความพึงพอใจ เป็นรสนิยมส่วนตัวของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะรู้สึกยังไม่มั่นใจเต็มร้อยกับทรงผมที่เกิดจากการปลูกผมใหม่ในครั้งแรก หรือต้องการเปลี่ยนบุคลิกเพื่อเป้าหมายในการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ ในกรณีนี้ การปลูกผมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ก็เป็นทางออกที่สามารถช่วยได้เช่นกัน


2. การปลูกผมครั้งที่ 2 มีข้อจำกัดอย่างไร ??

จำนวนกราฟต์ผมที่พร้อมสำหรับการปลูกใหม่ อาจไม่เพียงพอ


อย่างที่ทราบแล้วว่า แพทย์จะย้ายกราฟต์ผมต้นทุนจากบริเวณท้ายทอยด้านหลัง ซึ่งมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย เพื่อนำมาปลูกทดแทนในบริเวณที่ผมบาง อย่างไรก็ตาม กราฟต์ผมคุณภาพดีแบบนี้มีอยู่เพียงจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนไข้ผ่านการปลูกผมครั้งแรกและใช้กราฟต์ผมบางส่วนไปเรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องประเมินอีกครั้งว่า กราฟต์ผมคุณภาพดีที่ยังเหลืออยู่ จะมีจำนวนเพียงพอที่จะแก้ปัญหาผมในครั้งที่ 2 ได้อย่างครอบคลุมหรือไม่

พื้นที่ที่ต้องการปลูกผมใหม่ อาจกินบริเวณกว้าง

ยิ่งถ้าปัญหาผมบางกินพื้นที่ค่อนขว้างกว้าง หรือมีหลายจุด ก็มีโอกาสที่กราฟต์ผมต้นทุนจากด้านหลังท้ายทอย ซึ่งเหลืออยู่จากการปลูกผมครั้งแรก จะมีจำนวนไม่เพียงพอ จนทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาผมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ ทักษะและประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในการวางแผนการปลูกผมใหม่ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยบริหารจำนวนกราฟต์ผมต้นทุน ให้เหมาะสมกับลักษณะหรือระดับความรุนแรงของปัญหาผม รวมถึงพื้นที่ที่ต้องการปลูกผมใหม่ ส่งผลให้การปลูกผมครั้งที่ 2 บนข้อจำกัดต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถที่จะประสบความสำเร็จอีกครั้งก็เป็นได้

รอยแผลจากการปลูกครั้งแรก 

หนังศีรษะที่หลงเหลือรอยแผลจากการปลูกผมครั้งแรก ก็เป็นข้อจำกัดอีกข้อหนึ่งที่อาจทำให้ผมใหม่ปลูกติดยากขึ้น หลุดร่วงง่ายขึ้น ดังนั้น การเลือกแนวทางการรักษาที่ทิ้งรอยแผลไว้น้อยที่สุดตั้งการปลูกผมครั้งแรก ก็มีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสให้การปลูกผมครั้งที่ 2 มีแนวโน้มประสบความสำเร็จได้มากขึ้นเช่นกัน


3. สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการปลูกผมครั้งที่ 2 ??

หลายคนคิดว่า การปลูกผมครั้งที่ 2 จะช่วยจัดการกับปัญหาผมบาง และเติมผมให้แลดูหนาแน่นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การปลูกผมซ้ำหลังจากที่เคยปลูกมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็มีข้อจำกัดอย่างที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถการันตีได้ว่าการปลูกผมจะประสบความสำเร็จเต็มร้อยอย่างที่คิดภาพไว้ 

ขณะเดียวกัน คนไข้บางคนก็มีปัญหากับทิศทางเส้นผมหลังจากทำการปลูกใหม่ในครั้งแรก ซึ่งผมใหม่อาจจะเรียงตัวแบบย้อนแย้งหรือชี้ผิดทิศผิดทางไปจากเส้นผมเดิม ทำให้ดูไม่กลมกลืน ไม่เป็นธรรมชาติ อยากจะจัดแต่งทรงผมก็ทำได้แค่เฉพาะบางทรงเท่านั้น คนไข้ที่ประสบปัญหาเช่นนี้ ก็คาดหวังว่าการปลูกผมครั้งที่ 2 จะช่วยแก้ไขเรื่องทิศทางเส้นผมได้ ซึ่งนี่ก็เป็นความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งเช่นกัน เพราะทิศทางของเส้นผม เมื่อปลูกลงไปแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ 

ดังนั้น ทิศทางของเส้นผมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และควรให้ความสำคัญตั้งแต่การปลูกครั้งแรก ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า เส้นผมแต่ละเส้นมีองศาความโค้งต่างกัน พื้นที่ปลูกผมแต่ละบริเวณก็มีทิศทางการเรียงตัวของเส้นผมต่างกัน แพทย์จึงต้องคัดเลือกเส้นผมให้มีองศาความโค้งเหมาะสมกับบริเวณที่จะปลูก และค่อย ๆ ปลูกโดยปักกราฟต์ผมให้ได้ทิศทางที่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม แลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด จนสามารถจัดแต่งทรงผมได้อิสระทุกสไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมยาวขึ้นแล้วและยิ่งเห็นทิศทางของเส้นผมชัดเจน ซึ่งคนไข้จะต้องอยู่กับเส้นผมในทิศทางเช่นนั้นไปจนตลอดชีวิต


4. ทำอย่างไรหากไม่อยากเสี่ยงปลูกผมซ้ำครั้งที่ 2 ??

เพราะการปลูกผมครั้งที่ 2 มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผลลัพธ์ไม่ได้ออกมาเต็มร้อยอย่างที่คาดหวังไว้ และคนเราก็คงไม่สามารถปลูกผมได้บ่อย ๆ หลายคนปลูกได้ไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้นเอง เนื่องจากจำนวนกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอยมีจำกัด ดังนั้น คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็คือ ปลูกผมให้ดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรก ให้ความสำคัญกับการเลือกแนวทางรักษาที่น่าเชื่อถือและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด รวมไปถึงความใส่ใจในการดูแลเส้นผมหลังปลูก รับประทานยา และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์จากการปลูกผมครั้งแรกออกมาอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

และสำหรับบางคนที่มีปัญหาภาวะผมร่วง ผมบาง อยู่ในระดับรุนแรง ก็สามารถเข้ามาพูดคุยปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์จะช่วยคำนวณกราฟต์ผมต้นทุน และประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพื่อคืนผมสวย หนาแน่น สุขภาพดี พร้อมบุคลิกภาพและความมั่นใจในการใช้ชีวิตให้กับเจ้าของเส้นผมได้อีกครั้ง


เจาะลึก 1 วันของการปลูกผม
“จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันปลูกผม?” 
คำถามนี้ น่าจะเป็นคำถามที่อยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน ที่กำลังศึกษาข้อมูล หรือเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผม บางคนอาจกำลังกังวลว่า ขั้นตอนต่าง ๆ จะต้องเริ่มจากอะไร ยุ่งยากหรือไม่ ปลูกผมเจ็บมั้ย ใช้เวลานานแค่ไหน ทำไมนานจัง คุณหมอเป็นผู้ปลูกให้เองหรือเปล่า แล้วเราสามารถบอกทรงผมที่ต้องการกับคุณหมอได้หรือไม่ 

วันนี้ เราจึงชวนมาเจาะลึก 4 ขั้นตอนหลัก ๆ ใน “1 วันของการปลูกผม” เพื่อเคลียร์ทุกข้อสงสัยที่อาจอยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำถาม และช่วยให้คุณเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผมเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่อย่างสบายหัวใจมากขึ้น 


Step 1 ออกแบบทรงผมและกรอบหน้าใหม่
ระยะเวลา 30 – 45 นาที
เตรียมบอกลาคุณคนเดิมได้เลย เพราะในขั้นตอนนี้ คุณหมอจะเริ่มต้นจากการพูดคุยกับคนไข้เพื่อทำความเข้าใจปัญหาเส้นผม รวมถึงความต้องการของคนไข้เอง ว่าอยากได้รูปหน้าหรือทรงผมใหม่แบบไหน มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขอะไร เพื่อวางแผนแนวทางการรักษาที่ตอบโจทย์ที่สุดร่วมกัน โดยคุณหมอจะคำนวณปริมาณกราฟต์ผมที่จะต้องย้ายออกจากด้านหลังท้ายทอยของคนไข้เอง เพื่อนำมาปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหาอย่างเหมาะสมที่สุด


เมื่อพร้อมแล้ว คุณหมอจะเริ่มวาดเส้น Hairline หรือกรอบหน้าใหม่ ตามสัดส่วนทองหรือ golden ratio โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับแต่งโครงหน้าให้คุณผู้ชายดูสมาร์ทและคมเข้มขึ้น และให้คุณผู้หญิงมีใบหน้าที่ดูอ่อนหวานละมุนละไมยิ่งขึ้น รวมถึงแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย เมื่อได้รูปหน้าใหม่ที่ตรงใจคนไข้แล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปกันเลย


Step 2 เตรียมพื้นที่ด้านหลังท้ายทอย
ระยะเวลา 15 – 30 นาที
สำหรับขั้นตอนนี้ คุณหมอจะใช้เวลาเพียงไม่นานในการค่อย ๆ ตัดแต่งผมด้านหลังท้ายทอยออกด้วยตัวเอง เพื่อเตรียมพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการย้ายกราฟต์ผมออก ถึงตรงนี้หลายคนอาจกังวลว่า ผมด้านหลังจะแหว่งหายไปแค่ไหน คนอื่นจะสังเกตเห็นได้ง่ายหรือเปล่า แล้วจะต้องคอยทำทรงผมเพื่อปิดบังรอยแผลด้านหลังหรือไม่ 

คำตอบก็คือไม่ต้องห่วงเลย เพราะคุณหมอได้ออกแบบเทคนิคเพื่อซ่อนแผลด้านหลัง ด้วยการตัดเล็มผมและย้ายกราฟต์ผมออกเป็นลักษณะแถบบาง ๆ สลับกัน “แบบขั้นบันได” ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถทำผมทรงอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอโชว์รอยแผลจากการปลูกผม


Step 3 ย้ายกราฟต์ผมออก
ระยะเวลา 2 – 3 ชั่วโมง
มาถึงขั้นตอนของการย้ายกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานเนื่องจากเป็นการค่อย ๆ เจาะนำกราฟต์ผมออกทีละกราฟต์โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่จะใช้เครื่องมือนำเข้าจากต่างประเทศที่มีหัวเจาะขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตร ดังนั้นจึงเหลือไว้เพียงรอยขนาดเล็ก ๆ ด้านหลัง ในขั้นตอนนี้ คนไข้จะอยู่ในท่านอนเพื่อให้รับบริการได้อย่างสะดวกสบายที่สุด

หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการย้ายกราฟต์ผมออก ก็ถึงเวลาที่คนไข้จะหยุดพักเพื่อรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนกราฟต์ผมที่ได้นั้น คุณหมอจะนำไปคัดเลือก แยกขนาด และตัดแต่งเพื่อความเรียบร้อย จนได้กราฟต์ผมที่มีขนาดและคุณภาพเหมาะสมสำหรับนำไปปลูกใหม่


Step 4 ปลูกผมใหม่ แบบ “เส้น-ต่อ-เส้น”
ระยะเวลา 3 – 5 ชั่วโมง
และในขั้นตอนสำคัญนี้เอง คุณหมอจะเป็นผู้ลงมือนำผมใหม่มาปลูกในบริเวณที่เป็นปัญหาด้วยตัวเอง ทีละเส้น ทีละเส้น นี่จึงเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนอย่างมาก เนื่องจากคุณหมอต้องคอยควบคุมการปักเส้นผมนับพันเส้น โดยคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทิศทาง องศา ความลึก ขนาดเส้นผม หรือความหนาแน่น เพื่อให้เส้นผมใหม่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม แลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด 

แน่นอนว่าขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลานานสักหน่อย เพราะต้องอาศัยความประณีตและตั้งใจในการทำงานกับเส้นผมเป็นพิเศษ แต่จะนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ผมและความซับซ้อนของปัญหาของคนไข้แต่ละคนด้วยนั่นเอง

เมื่อเสร็จสิ้น 1 วันของการปลูกผม คุณหมอจะแนะนำวิธีการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงข้อควรหลีกเลี่ยงต่างๆเพื่อให้กราฟต์ผมใหม่ฝังรากมั่นคงในชั้นหนังศีรษะโดยไม่หลุดร่วงไปง่าย ๆ และสามารถเติบโตแข็งแรงตามวงจรเส้นผมต่อไป เพื่อเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้อย่างที่คุณต้องการ


ปลูกผมฝีมือ “หมอ” เส้น-ต่อ-เส้น
ปลูกผม “เส้น-ต่อ-เส้น” ด้วยมือของคุณหมอเอง ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงสักนิดเลยสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและการปลูกผมตัวจริง เพราะเสียงจากคนไข้มากมายช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ผมใหม่ของพวกเขาผ่านมือ “คุณหมอ” มาแล้วทุกเส้น!! โดยคุณหมอเป็นผู้ลงมือคัดเลือก ตัดแต่ง และปักกราฟต์ผมใหม่นับพันกราฟต์อย่างตั้งใจด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพียงเพื่อเติมเต็มบริเวณที่ผมบางให้กลับมาหนาแน่นดูเป็นธรรมชาติเท่านั้น แต่เพื่อเติมเต็มตัวตนให้เจ้าของเส้นผมได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้เต็มที่อีกครั้งด้วย

และความใส่ใจระดับ “เส้น-ต่อ-เส้น” ของคุณหมอ ก็ไม่ได้มอบให้คนไข้แค่เพียง 1 วันในห้องหัตถการปลูกผมเท่านั้น แต่เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ๆ ตลอดเส้นทางการรักษาอันยาวนาน ในทุก ๆ กระบวนการตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย 

ใส่ใจใน “ศาสตร์” ผม
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็คือผู้ที่รอบรู้และแม่นยำใน “ศาสตร์การปลูกผม” มากกว่าใคร ยิ่งเมื่อบวกกับทักษะและประสบการณ์ที่แพทย์สั่งสมจากการทำงานและการศึกษาต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากจะมั่นใจได้ว่า การแก้ไขปัญหาเส้นผมนั้นเป็นไปตามหลักวิชาการแพทย์ที่เชื่อถือได้แล้ว แนวทางการรักษายังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ “เฉพาะบุคคล” อีกด้วย


เพราะการปลูกผมไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แพทย์จึงต้องนำศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับรูปแบบปัญหาเส้นผมของคนไข้ ซึ่งไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละคน นับเป็นความท้าทายที่แพทย์ต้องแก้โจทย์ต่างจากเดิมทุกครั้งที่ลงนั่งรับฟังและพูดคุยกับคนไข้ เรียกได้ว่า คิดใหม่แบบ “เคสต่อเคส”

ทำความเข้าใจเงื่อนไข ข้อจำกัด และความต้องการของคนไข้
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะปัญหาที่แตกต่างกันไปตามเพศและวัย ทั้งลักษณะของผมที่ถอยร่นสูงขึ้นบริเวณหน้าผาก ผมบางเป็นวงจากกลางศีรษะ หรือผมบางจากบริเวณรอยแสก ซึ่งแต่ละคนก็มีระดับความรุนแรงของอาการผมร่วงและผมบางไม่เท่ากัน ทั้งนี้ แพทย์จะวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากสุขภาพผมและหนังศีรษะที่ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่แรก ทำให้ผมเส้นบาง ลีบเล็กกว่าที่ควร หรืออาจเกิดจากกรรมพันธุ์ที่ได้รับมาจากคนในครอบครัว ฮอร์โมนเพศ โรคหรือความเจ็บป่วย พฤติกรรมเสี่ยงบางอย่างที่อาจทำร้ายเส้นผม การพักผ่อนไม่เพียงพอ การขาดสารอาหารบางชนิด การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ ตลอดจนภาวะเครียด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการผมร่วงและผมบางได้ และส่งผลให้แนวทางการรักษาแตกต่างกันตามไปด้วย ที่สำคัญ แพทย์ที่ใส่ใจอย่างแท้จริงจะไม่ลืมคำนึงถึงความต้องการของคนไข้ เพราะเส้นผมบนศีรษะส่งผลถึงการสะท้อนตัวตนและความมั่นใจในการใช้ชีวิตของคนไข้ด้วย แพทย์จึงควรทำความเข้าใจถึงความจำเป็นส่วนตัว รวมถึงทรงผมใหม่ที่จะดึงความมั่นใจของคนไข้ออกมาได้มากที่สุด ตามนิยามความงามของคนไข้เอง


วางแผนและคำนวณการใช้กราฟต์ผม
กราฟต์ผมต้นทุน หมายถึงผมที่มีคุณภาพและแข็งแรงเพียงพอที่แพทย์จะสามารถย้ายไปปลูกยังบริเวณที่เป็นปัญหาได้ เนื่องจากมีความทนทานต่อฮอร์โมนที่ส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงก่อนเวลาที่ควร กราฟต์ผมต้นทุนดังกล่าวจะอยู่ในบริเวณท้ายทอยด้านหลังไปจนถึงหลังกกหู ซึ่งกราฟต์ผมต้นทุนของแต่ละคนนั้นจะมีปริมาณและคุณภาพไม่เท่ากัน และในบางกรณี หากคนไข้มาปรึกษาแพทย์เมื่ออาการค่อนข้างรุนแรงแล้ว จำนวนกราฟต์ผมต้นทุนที่เหลืออยู่ก็อาจไม่สัมพันธ์กับบริเวณที่ต้องการปลูกผมซึ่งกินพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ดังนั้น แพทย์จึงต้องนำปัจจัยนี้มาคำนวณร่วมด้วยในการวางแผนใช้กราฟต์ต้นทุนเพื่อปลูกผมใหม่แบบเฉพาะบุคคลนั่นเอง

เลือกเทคนิคการปลูกผมที่เหมาะสม
แพทย์ยังต้องเลือกเทคนิคต่าง ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ปัญหาหลาย ๆ รูปแบบ เช่น เทคนิคการซ่อนแผลด้านหลังท้ายทอยแบบขั้นบันได หรือเทคนิคการปลูกผมแทรก ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาผมบาง และต้องการเติมความหนาแน่นให้กับผมบริเวณนั้น เป็นต้น


วางแผนการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ควบคู่กับการปลูกผม
นอกจากการปลูกผมใหม่แล้ว การแก้ปัญหาเส้นผมในภาพรวมอาจต้องอาศัยกระบวนการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม การดูแลเอาใจใส่และบำรุงเส้นผมให้มากขึ้น การรับประทานยา ตลอดจนการเข้ารับบริการเสริมต่าง ๆ เช่น การฉีด Growth hormone หรือการฉายแสงเลเซอร์ LLLT เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและลดการหลุดร่วงของเส้นผมร่วมด้วย

ใส่ใจในความงามเชิง “ศิลป์”
เพราะการปลูกผมคือศาสตร์และศิลป์ ความสำเร็จของการรักษาอาการผมร่วงและผมบาง ต้องมาพร้อมกับความพึงพอใจในด้าน “ความงาม” ด้วย แพทย์จึงไม่เพียงเชี่ยวชาญเฉพาะศาสตร์เส้นผม แต่ยังต้องมีมุมมองเชิงศิลป์ ที่พร้อมจะตอบโจทย์ความงามของคนไข้เจ้าของเส้นผมได้


ดังนั้น แพทย์จึงให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบเส้น Hairline หรือกรอบหน้าใหม่ โดยอาศัยพื้นฐานของสัดส่วนความงาม golden ratio เพื่อปรับโครงหน้าคืนความอ่อนวัยให้กับคนไข้ โดยปรับให้ใบหน้าของคุณผู้ชายมีความคมเข้ม กรอบหน้าชัด แลดูสมาร์ทยิ่งขึ้น และสำหรับคุณผู้หญิงก็ปรับให้มีความหวานละมุนชวนมอง และอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ในระหว่างที่ทำการปลูกผม แพทย์จะต้องอาศัยศิลปะในการไล่ลำดับความหนาแน่นของเส้นผมให้เข้ากับบริเวณนั้น ๆ เช่น บริเวณไรผมด้านหน้า ต้องการเส้นผมที่มีขนาดเล็กและบางกว่า ส่วนบริเวณที่ลึกเข้าไป จะต้องการเส้นผมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และเรียงตัวหนาแน่นขึ้น ซึ่งแพทย์จะต้องนำกราฟต์ผมที่ได้จากท้ายทอยด้านหลังมาคัดแยกคุณภาพและขนาด และเลือกปลูกใหม่ให้เหมาะสมกลมกลืนกับเส้นผมเดิมในบริเวณนั้น ๆ

นอกจากขนาดของเส้นผมและความหนาแน่นแล้ว แพทย์ยังใส่ใจเรื่องทิศทางและองศาในการปักกราฟต์ผม ซึ่งจะต้องควบคุมให้เส้นผมเรียงตัวในทิศทางเดียวกับเส้นผมเดิม และวางตัวอยู่ในองศาที่เหมาะสม เพื่อความกลมกลืน แลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด จะเห็นได้ว่า การแก้ปัญหาเส้นผมให้คนไข้ แทบไม่ต่างจากการสร้างงานฝีมือของช่างศิลป์ หรือการสร้างผลงานศิลปะของแพทย์เอง


ใส่ใจในทุก “เส้นผม”
หลังจากคัดแยก แบ่ง และตัดแต่งกราฟต์ผมทีละกราฟต์ ให้มีความเรียบร้อยและพร้อมที่จะนำไปปลูกใหม่แล้ว แพทย์จะลงมือปลูกผมแบบ “เส้น-ต่อ-เส้น” โดยอาศัยความละเอียด ประณีต ในการปักผมให้ได้ความหนาแน่นที่เหมาะสม ไม่บางเกินไป และไม่หนาแน่นเกินไปจนดูผิดธรรมชาติ ควบคุมทิศทางและองศาให้กลมกลืนกับเส้นผมเดิม รวมถึงปักเส้นผมให้ได้ความลึกที่พอดี เพื่อให้สามารถรับสารอาหารที่ลำเลียงมาเลี้ยงเส้นผมได้อย่างเต็มที่ โดยทั้งหมดนี้ ต้องค่อย ๆ ปลูกทีละเส้น ทีละเส้น และอาศัยทักษะจากประสบการณ์การปลูกผมที่ผ่านมา จนเกิดความเชี่ยวชาญ แม่นยำ ที่ผสมผสานทั้งศาสตร์ ศิลป์ และความใส่ใจ ไว้ในขั้นตอนเดียว

ใส่ใจตลอด “เส้นทางสู่คุณคนใหม่”
และความใส่ใจยังไม่จบลงแค่ในวันปลูกผม เพราะจากนี้คือการปล่อยให้เส้นผมที่ปลูกใหม่ ค่อย ๆ เติบโตตามวงจรธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 1 ปีเต็ม โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อดูแลและบำรุงเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ต้องระมัดระวังเส้นผมและหนังศีรษะเป็นพิเศษ หรือช่วง shock loss ที่เส้นผมใหม่จะหลุดร่วงออกตามธรรมชาติ ก่อนจะค่อย ๆ งอกขึ้นใหม่ตามเดิม รวมทั้งคอยติดตามผลและการเปลี่ยนแปลงใด ๆ อย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการรักษา ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผมสวยสุขภาพดี คุ้มค่ากับเวลาที่อดทนรอคอย บนเส้นทางที่จะเปลี่ยนคุณไปสู่คนใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความใส่ใจระดับ “เส้น-ต่อ-เส้น” ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมตัวจริง

ผมแข็งแรง ด้วยแสง LLLT
ปัจจุบัน นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้รับการคิดค้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อการบำรุงดูแลเส้นผมให้แข็งแรงและมีสุขภาพสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นคือนวัตกรรม แสงเลเซอร์ LLLT ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะยังไม่แน่ใจว่าแสงเลเซอร์นั้นสามารถช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้นได้จริงหรือ และทำได้อย่างไร 
...มาคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับแสงเลเซอร์ LLLT ไปพร้อม ๆ กัน...

ชื่อเต็ม ๆ ของ LLLT ก็คือ  Low Level Laser Therapy หมายถึงการรักษาด้วยเลเซอร์คลื่นความถี่ต่ำ โดยเลเซอร์ที่ว่านี้มีความยาวคลื่นที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 650 – 680 นาโนเมตร ซึ่งเราสามารถมองเห็นแสงเลเซอร์เป็นสีแดงได้ด้วยตาเปล่า 

เมื่อแสงเลเซอร์ถูกฉายลงบนหนังศีรษะของเรา บรรดาเซลล์ทั้งหลายจะพากันดูดซับพลังงานจากคลื่นความถี่ต่ำ และพลังงานนี้เองจะไปกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ให้สามารถนำสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงบริเวณรากผมมากขึ้น ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ

เซลล์รากผม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสุขภาพเส้นผมเลยก็ว่าได้ ทำให้สามารถดูดซับสารอาหารต่าง ๆ ได้มากขึ้น และพร้อมที่จะสร้างเส้นผมใหม่ที่มีคุณภาพได้อย่างเต็มที่ เส้นผมที่เคยเล็ก ลีบบาง จะกลับหนาและแข็งแรงจากภายในอย่างแท้จริง

แน่นอนว่า ผลลัพธ์ที่ตามมา คือเส้นผมใหม่ที่งอกได้เร็วขึ้น ผมขาดหลุดร่วงน้อยลง ผมที่เคยแลดูบางก็กลับหนาแน่นขึ้นด้วย แสงเลเซอร์ LLLT จึงสามารถรักษาอาการผมร่วงและผมบางจากพันธุกรรม จากความผิดปกติของหนังศีรษะ หรือจากการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีรษะและสุขภาพเส้นผมแต่เดิมของแต่ละคน ตลอดจนสีของหนังศีรษะและเส้นผม รวมถึงความดกหนาของเส้นผมด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดการตอบสนองต่อแสงเลเซอร์และดูดซับพลังงานได้มากน้อยต่างกัน 

ไม่เพียงเท่านั้น พลังแสงเลเซอร์ยังช่วยบำรุงสุขภาพหนังศีรษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเพิ่งเข้ารับการปลูกผมมาใหม่ ๆ แสงเลเซอร์นี้จะช่วยกระตุ้นการสมานแผลบนหนังศีรษะ และลดอาการอักเสบต่าง ๆ ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผมปลูกใหม่เสี่ยงต่อการหลุดร่วงน้อยลง และเห็นผลลัพธ์ผมใหม่ที่หนาแน่นแข็งแรงได้เร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ แพทย์แนะนำให้ผู้เข้ารับบริการสระผมมาก่อน และใช้เวลาในการฉายแสงเลเซอร์ตามคำแนะนำซึ่งจะอยู่ในช่วงระยะเวลาครั้งละ 15 – 30 นาที ความถี่ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยทำติดต่อกันอย่างน้อย 4 – 6 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งยังไม่ควรรับการฉายแสงบ่อยจนเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการศีรษะแห้งได้ และหลังจากการฉายแสง ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการรักษาด้วย LLLT จะกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมโดยตรง โดยไม่สามารถสร้างเซลล์รากผมใหม่ให้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้ ดังนั้น จึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการผมล้านอย่างรุนแรงหรือไม่มีรากผมหลงเหลืออยู่แล้ว (ในกรณีนี้ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อร่วมกันหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไป) 

การฉายแสงเลเซอร์ LLLT ยังเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน ไม่มีผลข้างเคียงให้ต้องกังวลใจ เนื่องจากเป็นการใช้คลื่นความถี่ต่ำกระตุ้นหนังศีรษะจากภายนอกหรือบริเวณผิวหนังชั้นบนเท่านั้น ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหรือเจ็บระหว่างการฉายแสงด้วย

แสงเลเซอร์ LLLT จึงเป็นนวัตกรรมที่ “นามนิน” เลือกให้เป็นหนึ่งในบริการ Treatment สำหรับผู้ที่มีอาการผมร่วง ผมบาง และผู้ที่เพิ่งเข้ารับการปลูกผม หรืออยู่ในระหว่างช่วง Shock loss หลังปลูกผม ซึ่งผมปลูกใหม่จะหลุดร่วงไปตามวงจรธรรมชาติก่อนงอกกลับขึ้นใหม่อีกครั้ง เพื่อฟื้นฟูเซลล์รากผมให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคืนความหนาแน่นแข็งแรงให้กับเส้นผมได้อีกครั้ง 

ปลูกผม“ครั้งแรก”เลือกให้ดีที่สุด
“ปลูกผมครั้งแรก” น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่พอควรสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะเมื่อคุณตอบคำถามแรกของตัวเองได้แล้วว่า จะลองปลูกผมดีหรือไม่ คำถามต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ จะเลือกปลูกผมครั้งแรกอย่างไรให้ “ดีที่สุด”

นี่เป็นคำถามที่ไม่ง่ายเลยสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการการปลูกผมแบบถาวร ซึ่งคุณอาจจะต้องใช้เวลาไปกับการศึกษาข้อมูลเพื่อการตัดสินใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นั่นถูกต้องแล้ว!! การเลือกปลูกผมครั้งแรกที่ไหนและอย่างไร เป็นคำถามที่ไม่ง่าย และไม่ควรง่ายด้วย!! เพราะการปลูกผมครั้งแรกนั้นสำคัญที่สุด เส้นผมบนศีรษะของคุณจะเป็นอย่างไรทั้งในวันนี้และในวันข้างหน้า ก็ขึ้นอยู่กับการปลูกผมครั้งแรกนี่เอง 

ทำไมเราจึงย้ำหลายครั้งถึง “ความสำคัญ” ของการ “ปลูกผมครั้งแรก” ต้องเข้าใจก่อนว่า การปลูกผม ไม่ใช่การนำเส้นผมจากใครที่ไหนก็ได้มาปลูกใหม่บนหนังศีรษะของเรา แต่จะต้องเป็นผมจากร่างกายของเราเองเท่านั้น และไม่ใช่ผมทั่วทั้งศีรษะที่จะนำมาปลูกใหม่ได้ แต่จะต้องเป็นผมจากบริเวณ Safe Zone ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของหนังศีรษะเท่านั้น อย่าลืมลองจินตนาการเพิ่มเติมอีกสักนิดว่า แต่ละคนมีปัญหาสุขภาพผม รวมถึงอาการผมร่วงและผมบางรุนแรงไม่เท่ากัน “ทรัพยากรผมต้นทุน” ที่จะสามารถนำไปปลูกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับแต่ละคน จึงมากน้อยต่างกันตามไปด้วย 



เมื่อทรัพยากรผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ของคนเรามีอยู่อย่างจำกัด การบริหารจัดการผมต้นทุนเพื่อนำมาปลูกใหม่อย่างรอบคอบและเหมาะสมตั้งแต่การปลูกครั้งแรก จึงเป็นหัวใจของการรักษา ที่จะส่งผลต่อเส้นผมของเราทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการปลูกผมครั้งแรกจึงสำคัญที่สุด และต้อง “เลือก” แนวทางการรักษาที่ใช่ ด้วยความใส่ใจอย่างแท้จริง

มาทำความเข้าใจธรรมชาติของผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone กันอีกสักนิด Safe Zone อาจเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเส้นผม ซึ่งผมมีความแข็งแรง ไม่ลีบแบน เรียงตัวค่อนข้างหนาแน่น และทนทานต่อการหลุดร่วงมากที่สุด โดย Safe Zone คือพื้นที่ผมบริเวณท้ายทอย ตั้งแต่เหนือหูด้านซ้ายไปถึงเหนือหูด้านขวา ยาวประมาณ 10 – 12 นิ้ว และสูงประมาณ 3 นิ้ว สังเกตง่าย ๆ ว่า คุณผู้ชายที่มีปัญหาผมร่วงและผมล้าน มักจะหลงเหลือผมตรงท้ายทอยด้านหลังอยู่เป็นบริเวณสุดท้ายนั่นเอง 

เหตุผลที่เส้นผมบริเวณ Safe Zone หรือด้านหลังท้ายทอย มีความแข็งแรงและทนทานต่อการหลุดร่วงมากกว่าผมในบริเวณอื่น ๆ นั้น ก็เพราะรากผมบริเวณนี้ ไม่ ตอบสนองต่อฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือ DHT เจ้าฮอร์โมนตัวนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะของเรามีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ผมเกิดใหม่มีรากผมอ่อนแอ จนนำไปสู่อาการผมร่วง ผมบาง และผมล้าน แบบที่เราพบได้ทั่ว ๆ ไป 

โชคดีที่ DHT ไม่สามารถทำลายรากผมบริเวณ Safe Zone ได้ หรืออย่างน้อยก็เข้าไปทำลายได้ช้ากว่าบริเวณอื่น เราจึงยังเหลือเส้นผมคุณภาพดีที่สามารถนำไปปลูกแบบถาวรในบริเวณที่เป็นปัญหาได้ ทั้งยังคงคุณสมบัติเรื่องความทนทานต่อการถูกทำลายจากฮอร์โมน DHT ไม่ว่าจะย้ายไปปลูกใหม่ยังส่วนไหนก็ตามอีกด้วย ทำให้เส้นผมที่ปลูกใหม่เติบโต หลุดร่วง และงอกใหม่ได้ตามวงจรธรรมชาติของเส้นผมไปได้ตลอดชีวิตของเราเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หากเราลองคำนวณจำนวนกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ก็น่าจะอยู่ที่ราว ๆ 12,500 กราฟต์ จากกราฟต์ผมทั้งศีรษะกว่า 50,000 กราฟต์โดยประมาณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องประเมินพื้นที่ที่ต้องการปลูกผม และคำนวณจำนวนกราฟต์ผมที่เหมาะสมที่สุด ก่อนจะทำการย้ายเส้นผมไปปลูกใหม่ ซึ่งจะต้องคำนึงด้วยว่า เมื่อย้ายเส้นผมออกจากบริเวณ Safe Zone แล้ว บริเวณนั้นจะต้องไม่เหลือเส้นผมอยู่น้อยเสียจนดูบางเกินไป ที่สำคัญ ยังต้องคำนึงถึงอนาคต เพราะมีโอกาสที่เราอาจจะต้องพึ่งพาผมบริเวณ Safe Zone เพื่อปลูกผมใหม่อีกครั้งหรือหลายครั้งก็เป็นได้ อีกทั้งถ้าหากเกิดความผิดพลาดใด ๆ ในการปลูกผมครั้งแรก การแก้ไขอาจเป็นเรื่องยาก และแน่นอนว่าคงไม่ได้ผลดีเท่าเดิม 

ดังนั้นแล้ว นอกจากการทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการปลูกผมครั้งแรก เนื่องจากทรัพยากรผมต้นทุนที่มีอยู่จำกัด ผู้ที่ตัดสินใจว่าจะเข้ารับการปลูกผมควรศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกคลินิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ หรือแนวทางการรักษาที่ตอบโจทย์ตนเองมากที่สุด รวมถึงหาโอกาสพูดคุยปรึกษากับแพทย์ก่อนทำการตัดสินใจ เพราะหลายคนเข้าใจผิดว่า ปลูกผมที่ไหนก็เหมือน ๆ กัน แพทย์ก็คงใช้หลักการและเทคนิคไม่ต่างกัน ทำให้หลายคนใช้ปัจจัยด้านตัวเลขค่ารักษาเป็นตัวตัดสิน แต่ที่จริงแล้ว การปลูกผมครั้งแรกให้ดีที่สุดนั้น มีปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามมากมาย ซึ่งเราได้รวบรวมประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ควรพิจารณาเพื่อเลือกแนวทางการปลูกผมมาไว้ให้ตรงนี้แล้ว


1. ความเชี่ยวชาญของแพทย์

ถ้าใครคิดว่าปลูกผมที่ไหนก็เหมือนกัน เราขอชวนให้ลองคิดใหม่ เพราะแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพผมแต่ละคนย่อมมีประสบการณ์  ความเชี่ยวชาญ และแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน จะดีแค่ไหนหากเราได้แก้ปัญหาผมกับแพทย์ที่รู้ลึก รู้จริง แพทย์ที่เข้าใจว่าปัญหาของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์ที่มองเห็นความแตกต่างของปัญหาเหล่านั้น และสามารถวิเคราะห์หรือออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ เคสใหม่ คิดใหม่ แบบไม่มีซ้ำกัน

ไม่เพียงเท่านั้น การปลูกผมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แพทย์ควรยกให้คนไข้เป็นศูนย์กลางในการรักษา โดยเริ่มต้นจากการรับฟังปัญหา ความกังวลใจ และความต้องการที่แท้จริงของคนไข้ เพื่อร่วมกันออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด และในการปลูกผมยังเป็นผู้ที่ลงมือปลูกเส้นต่อเส้นด้วยตนเอง   ยังสามารถตอบโจทย์ตัวตนของคนไข้และเรียกคืนความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันกลับมาได้ด้วย


2. เครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผม

นอกจากฝีมือหรือความชำนาญของแพทย์แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่แพทย์เลือกใช้ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปลูกผมเช่นกัน เราจึงควรมองหาเครื่องมือที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทุกวันนี้ เครื่องมือที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีขนาดเล็กพิเศษจนสามารถช่วยให้แพทย์ลงมือปลูกผมได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางทิศทางและองศาผม การประมาณความลึกในการปัก การกระจายกราฟต์ผมให้หนาแน่นเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บหรือผลข้างเคียงจากการรักษาได้เป็นอย่างดี


3. วิธีการและเทคนิคในการปลูกผม

การปลูกผมถาวร แบบ FUT หรือ FUE นั้น อาจจะมีหลักการทั่วไปที่ไม่แตกต่างกันนักในแพทย์แต่ละคน อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจคิดค้นและพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ที่ช่วยเสริมให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากท้ายทอย อาจทำให้คนไข้ต้องคอยกังวลกับการปกปิดรอยแผลด้านหลัง ซึ่งเทคนิคการซ่อนแผลของแพทย์สามารถตอบโจทย์ปัญหานี้ได้ ขณะเดียวกัน การปลูกผมใหม่ในบริเวณที่ผมบาง อาจทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างเส้นผมใหม่และเก่าค่อนข้างชัดเจน ซึ่งแพทย์ก็จะมีเทคนิคเฉพาะตัวในการปลูกผมให้กลมกลืนจนแทบแยกไม่ออกได้เช่นกัน 


4. ความใส่ใจในการรักษา

นี่อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างเส้นทางการรักษา ลองมองหาสถานบริการหรือแพทย์ที่ “ใส่ใจ” ดูแลเส้นผมของเราอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการพูดคุยก่อนออกแบบวิธีการรักษา หรือการดูแลติดตามผลหลังการปลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระหว่างขั้นตอนการปลูกนั้น แพทย์ที่ใส่ใจจะเป็นผู้ลงมือปลูกผมใหม่ให้คนไข้เองอย่างประณีตทุก ๆ เส้น เพื่อควบคุมคุณภาพการปลูกผมให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น ยังเตรียมพร้อมให้คนไข้สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันดังเดิมได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจที่สุดด้วย


5. การดูแลหลังการปลูกผม

นอกเหนือจากการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันแรกที่คนไข้ก้าวเข้ามารับการปลูกผม รวมถึงให้ข้อมูลที่ชัดเจนตลอดการรักษาเพื่อคลายทุกข้อสงสัยและความกังวลใจของคนไข้แล้ว เราควรพิจารณาถึงบริการดูแลหลังการปลูกผมด้วย เพราะการปลูกผมเป็นหัตถการทางการแพทย์ระยะยาว ที่ต้องอาศัยเวลาถึง 1 ปีเต็มเพื่อให้เส้นผมเติบโตอย่างสมบูรณ์ ในระหว่าง 1 ปีนั้น คนไข้ควรได้รับคำแนะนำ การเอาใจใส่ และการติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเตรียมบริการ Treatment กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ตลอดจนผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัยและช่วยเสริมให้เกิดผลลัพธ์ผมสวย หนาแน่น แข็งแรงสมบูรณ์อย่างเป็นธรรมชาติ

และนี่ก็คือ Checklists สำคัญ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการปลูกผม เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ปลูกผมที่ดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพดี และอยู่คู่กับหนังศีรษะของคุณไปได้อีกยาวนาน 

ปลูกผมไร้สูตรสำเร็จ Tailor-made เฉพาะคุณ
ปลูกผมไร้สูตรสำเร็จ คิดเฉพาะเคส Tailor-made เฉพาะคุณ

หลายคนอาจเข้าใจว่า การปลูกผมนั้นมีสูตรสำเร็จตายตัวในการแก้ปัญหา ซึ่งแพทย์เพียงทำหน้าที่เลือกว่าจะใช้สูตรหรือแนวทางไหนในการรักษา  แต่สำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงแล้ว การปลูกผม นับเป็นความท้าทายใหม่ในทุก ๆ วัน และไม่มีทางจะมีสูตรสำเร็จได้เลย เพราะคนไข้แต่ละเคสที่ก้าวเข้ามาปรึกษาปัญหาเส้นผมนั้น ไม่เหมือนกันเลยแม้แต่คนเดียว!!!

ที่นามนิน คนไข้จะได้สัมผัสประสบการณ์การรักษาแบบ Exclusive เมื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจปัญหาเส้นผมและความต้องการของคนไข้อย่างลึกซึ้ง ก่อนจะวิเคราะห์และออกแบบแนวทางการรักษาที่คิดขึ้นมาเพื่อคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ เคสใหม่ คิดใหม่ ไม่มีซ้ำ เปรียบได้กับการวัดตัวตัดเสื้อผ้าแบบ Tailor-made ที่จะให้ผลลัพธ์ออกมาเฉพาะเพื่อคุณเดียวเท่านั้น

ก้าวแรกของการรักษา คือการนั่งลงรับฟังปัญหาและความต้องการของคนไข้ ก่อนที่แพทย์และคนไข้จะร่วมกันตัดสินใจออกแบบเส้นทางสู่การเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ โดยคำนึงถึงปัจจัยเล็กใหญ่ต่าง ๆ ที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละคน ดังนี้

  • รูปแบบของปัญหาผม ไม่ว่าจะเป็นลักษะของผมที่ถอยร่นสูงขึ้นบริเวณหน้าผาก แบบตัว M ทำให้หน้าผากกว้างและดูมีอายุเกินวัย ลักษณะของผมบางกลางศีรษะ แบบตัว O ซึ่งจะค่อย ๆ ขยายวงกว้างขึ้น หรือลักษณะของผมบางบริเวณรอยแสก ที่ชวนให้เจ้าของเส้นผมกังวลใจทุกทีที่เห็น

  • ความรุนแรงของปัญหาผม คนไข้บางคนอาจจะเพิ่งเริ่มมีอาการผมร่วงมากเกินปกติ ทำให้ผมบางลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางคนเริ่มมีผมบางเป็นบริเวณกว้าง และในบางเคสเริ่มเข้าสู่ระดับอาการผมล้าน ซึ่งทำให้ความยากง่ายในการรักษาแตกต่างกัน 

  • เพศและวัย แน่นอนว่าผู้หญิงกับผู้ชายมีลักษณะของอาการผมร่วงและผมบางต่างกัน อย่างเช่นอาการผมล้านตรงกลางศีรษะเป็นรูปตัว O นั้น มักจะเกิดในผู้ชายมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ส่วนอาการของผู้หญิงมักจะเริ่มจากรอยแสกผมที่ค่อย ๆ ขยายตัวกว้างมากขึ้น 

ขณะเดียวกัน อายุก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่ออาการผมร่วงและผมบาง แม้หลายคนจะมีภาพจำว่า ยิ่งอายุมากขึ้น ผมยิ่งมีโอกาสหลุดร่วงมากขึ้น แต่คนวัยหนุ่มสาวก็อาจพบอาการดังกล่าวในระยะเริ่มต้นได้เช่นกัน ซึ่งแพทย์ก็จะนำข้อมูลเกี่ยวกับเพศและวัย มาประมวลร่วมด้วย เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมในระยะยาว

  • สาเหตุของอาการผมร่วงและผมบาง ในระหว่างการพูดคุยกัน แพทย์จะช่วยค้นลึกลงไปถึงสาเหตุของปัญหาผม ซึ่งนอกจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันในครอบครัว ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของอาการผมร่วงแล้ว ปัญหาเส้นผมของเรายังอาจเกิดจากฮอร์โมนเพศ โรคหรือความเจ็บป่วย พฤติกรรมเสี่ยงต่อการทำร้ายเส้นผม เช่นการใช้สารเคมีหรือความร้อนกับผมมากเกินไป นอกจากนั้น ยังรวมถึงการพักผ่อนไม่ เพียงพอ การที่ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิด การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ ตลอดจนภาวะเครียดหรืออาการเศร้าอย่างรุนแรง 

  • คุณภาพความแข็งแรงของเส้นผม แต่ละคนเกิดมาพร้อมกับเส้นผมที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่เท่ากัน บางคนมีผมเส้นใหญ่หนา ขณะที่บางคนมีผมเส้นบาง ลีบเล็ก เรื่องของสุขภาพผมนั้น ยังต้องพิจารณาโดยรวมทั้งรากผม เนื้อผม และเกล็ดผม เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินแผนการรักษาได้ถูกต้อง

  • ปริมาณกราฟต์ผมต้นทุน คำว่าผมต้นทุน หมายถึงผมสุขภาพดีที่แพทย์จะสามารถย้ายไปปลูกเสริมหรือทดแทนในบริเวณที่ผมบางหรือผมล้านได้ ในที่นี้หมายถึงผมต้นทุนบริเวณท้ายทอยไปจนถึงหลังกกหู ซึ่งทนทานต่อฮอร์โมนตัวสำคัญที่ทำให้ผมหลุดร่วง การคำนวณปริมาณกราฟต์ผมต้นทุนว่าเพียงพอต่อการนำไปปลูกใหม่หรือไม่ และควรจะต้องปลูกอย่างไร นับเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญเลยทีเดียว

  • ความต้องการของคนไข้ หลายคนอาจมองข้ามข้อนี้ไป แต่สำหรับการออกแบบแนวทางการรักษาที่นามนินนั้น แพทย์ไม่ลืมที่จะยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง เพราะเส้นผมบนศีรษะนั้นมีความหมายมากกว่าเรื่องสุขภาพ แต่หมายถึงความสวยงามหรือความมั่นใจของคนไข้เองด้วย ซึ่งคนไข้แต่ละคนก็มีภาพเป้าหมายที่อยากเปลี่ยนเป็นคนใหม่แตกต่างกัน หรือบางครั้ง แพทย์ก็อาจต้องเข้าใจความจำเป็นส่วนตัว เช่น บางอาชีพอาจต้องทำทรงผมเฉพาะ หรือต้องพึ่งพาเส้นผมมากเป็นพิเศษ เป็นต้น

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจะนำปัจจัยทั้งหมดนี้มาประมวลร่วมกัน เพื่อวิเคราะห์และออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล ที่ตอบโจทย์ทั้งเป้าหมายการรักษา และตอบโจทย์ตัวตนของคนไข้ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อผลลัพธ์การปลูกผมใหม่ที่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุดนั่นเอง


Hair Growth Treatment เพื่อผมแข็งแรงในระดับเซลล์
Hair Growth Treatment เป็นนวัตกรรมการรักษาและบำรุงผมที่เน้นการกระตุ้นให้เซลล์รากผมทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงซ่อมแซมและฟื้นคืนวงจรชีวิตของเส้นผมให้กลับมาสมบูรณ์ ไม่หลุดร่วงง่าย วิธีการคือ การนำ Growth factor ของผู้เข้ารับการรักษาเองมาใช้ โดยการเก็บเลือดจากบริเวณข้อพับแขนเพียงเล็กน้อย และนำเลือดที่ได้มาเติมสารต้านการแข็งตัวของเลือด แล้วจึงปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงสาร เพื่อให้เลือดแยกชั้นออกเป็นชั้นเซลล์เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และเซลล์เม็ดเลือดแดง จากนั้นนำ Growth factor มาผสานกับวิตามินเข้มข้นสูตรเฉพาะของนามนินแล้วจึงฉีดเข้าสู่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมให้กลับมาสร้างเส้นผมใหม่ที่หนาและแข็งแรง รวมถึงบำรุงหนังศีรษะให้มีสุขภาพดีขึ้นได้



สำหรับผู้ที่ทำการปลูกผม แพทย์จะให้ทำ Hair Growth Treatment หลังการปลูกผม เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผมใหม่แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย ฟื้นคืนวงจรชีวิตของเส้นผมให้กลับสมบูรณ์ และช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผมบางไม่มากและรูขุมขนบนศีรษะยังเปิดอยู่ แพทย์อาจจะประเมินว่ายังไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยการปลูกผมถาวร การฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะด้วยการทำ Hair Growth Treatment ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนดจะช่วยให้ผมหนาขึ้นได้ 




เทคนิค Hair Growth Treatment เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่ต้องใช้สารเคมี ไม่ต้องทำการผ่าตัด จึงไม่ทำให้เกิดบาดแผลใด ๆ และไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังเข้ารับบริการ อีกทั้งยังดูแลง่าย เพียงห้ามหนังศีรษะโดนน้ำภายใน 24 ชั่วโมงแรก จากนั้นผู้เข้ารับการรักษาสามารถสระผมหรือเช็ดผมอย่างเบามือได้ตามปกติ โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมที่อ่อนโยนในช่วงสัปดาห์แรก หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงระมัดระวังในการออกกำลังกาย เท่านี้ก็จะทำให้ผู้เข้ารับการรักษารู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเปี่ยมประสิทธิภาพได้ภายหลังการทำทรีทเม้นท์เพียงไม่กี่ครั้ง

“ผมบาง” เพราะชอบ “ดึง” ?? อาจเป็นอาการหนึ่งของโรคทางจิตเวช
ในบางครั้ง ภาวะผมร่วงและผมบาง ก็ไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์ แต่อาจเกิดจากปัญหาพฤติกรรมหรือความเจ็บป่วยทางร่างกายหรือจิตใจก็เป็นได้ หลาย ๆ คนอาจสังเกตว่าตนเองหรือคนรอบข้างมีพฤติกรรมชอบ “ดึงผม” หรือ “ถอนผม” ตัวเองบ่อย ๆ บางคนมักจะดึงผมเวลาที่ต้องใช้ความคิดหรือรู้สึกเครียด ขณะที่บางคนก็ชอบดึงผมขณะกำลังเพลิดเพลินกับการทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจก็มี มารู้ตัวอีกที ผมบริเวณนั้นก็อาจจะบางลงไปเยอะแล้ว ...ทราบหรือไม่ว่า นิสัยชอบดึงผมเช่นนี้ เป็นอาการหนึ่งของโรคทางจิตเวช ที่มีชื่อว่า Trichotillomania หรือ Hair-pulling disorder นั่นเอง...

“โรคดึงผมตนเอง” คือภาวะที่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมดึงหรือถอนผมตนเองซ้ำ ๆ ทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ จัดอยู่ในกลุ่มความผิดปกติทางจิตเวชแบบย้ำคิดย้ำทำ หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น โรคซึมเศร้า ความเครียด ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง โรคที่เกี่ยวกับหนังศีรษะ หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดจากสมาชิกในครอบครัว 

นอกจากเส้นผมแล้ว ผู้ป่วยโรคนี้อาจจะมีพฤติกรรมดึงขนบริเวณอื่น ๆ อย่างเช่น ขนคิ้ว ขนตา หรือหนวดเคราก็ได้ด้วย แม้ว่าอาการของโรคอาจส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและสภาวะจิตใจ แต่โรคนี้ในประเทศไทยยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ทำให้มีผู้ป่วยมาพบแพทย์เพื่อรักษาเพียงไม่มาก 


หากต้องการสังเกตอาการของ “โรคดึงผมตนเอง” ให้ละเอียดขึ้น ลักษณะของอาการสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ ได้แก่

การดึงผมแบบรู้ตัว 
นั่นคือผู้ป่วยจะตั้งใจและจดจ่ออยู่กับการดึงผมตัวเอง บางคนก็อาจจะมีความเครียดหรือกังวลสะสมอยู่ ขณะที่บางคนรู้สึกคันและไม่สบายหนังศีรษะ หรือแค่เห็นว่าเส้นผมไม่เรียบ เมื่อดึงผมออกแล้วจะรู้สึกดีขึ้น ผ่อนคลาย และสบายใจมากขึ้น

การดึงผมแบบไม่รู้ตัว 
มักเกิดระหว่างทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ หรือทำงาน แล้วเผลอเอามือไปดึงผมโดยไม่ได้ตั้งใจ

อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ป่วยมักจะมีพฤติกรรมการดึงผมทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัวผสมกัน ผู้ป่วยอาจไม่ได้ทำพฤติกรรมนี้ติดต่อกันนาน ๆ แต่จะเป็นการดึงซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เรื่อย ๆ ซึ่งในผู้ป่วยบางคนอาจไม่ยอมรับว่าตนเองมีอาการดังกล่าวก็เป็นได้

สำหรับผลกระทบที่ตามมาจากพฤติกรรมการดึงผมเช่นนี้ แน่นอนว่าการยกมือขึ้นมาดึงผมอยู่ตลอดเวลาย่อมทำให้เสียบุคลิกภาพ ตามมาด้วยความเครียดหรือโรคซึมเศร้า ผู้ป่วยบางรายอาจรับประทานเส้นผมเข้าไปด้วยจนส่งผลเสียต่อระบบลำไส้ ที่สำคัญ เมื่อผู้ป่วยมีพฤติกรรมการดึงผมนาน ๆ อาจทำให้เส้นผมบริเวณนั้นมีรูปทรงผิดปกติ ไม่แข็งแรง เนื่องจากอาการอักเสบของหนังศีรษะที่ถูกทำร้ายบ่อย ๆ รวมไปถึงการเกิดภาวะผมบาง หรือศีรษะล้านเป็นหย่อม ๆ ได้

ผู้ป่วยด้วย “โรคดึงผมตนเอง” สามารถลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเข้ารับการรักษาไปตามลำดับความรุนแรงของอาการ ดังนี้
  • ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ หรือมีพฤติกรรมดึงผมโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ตั้งใจ จำเป็นต้องทำให้ผู้ป่วยทราบและยอมรับเสียก่อนว่าเป็นโรค จึงจะสามารถเริ่มต้นควบคุมพฤติกรรมของตัวเองได้

  • ตัวผู้ป่วยและคนรอบข้าง ช่วยกันสังเกตว่าพฤติกรรมการดึงผมมักเกิดขึ้นเวลาไหน เช่น เวลาเบื่อ เศร้า หรือเครียด และเกิดขึ้นในสถานการณ์ใด หรือระหว่างที่ทำกิจกรรมอะไร เพื่อให้สามารถควบคุมพฤติกรรมได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

  • หลีกเลี่ยงการใช้วิธีต่อว่าหรือตำหนิผู้ป่วยแรง ๆ เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยยิ่งมีพฤติกรรมการดึงผมถี่ขึ้น ทางที่ดีควรเลือกใช้วิธีการเตือนอย่างเหมาะสม

การพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่นที่กล่าวมา สามารถทำให้ผู้ป่วยหลาย ๆ คนหายจากโรคได้ แต่สำหรับผู้ป่วยบางคนอาจต้องการการพบแพทย์เพื่อประเมินอาการหรือค้นหาความผิดปกติทางจิตใจ ซึ่งแพทย์อาจใช้วิธีรักษาโดยการให้ยาร่วมด้วย ทั้งนี้ “โรคดึงผมตนเอง” ควรได้รับการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ เนื่องจากอาการในวัยเด็กหรือวัยรุ่น สามารถรักษาให้หายได้ง่ายกว่าในวัยผู้ใหญ่ และที่สำคัญ วิธีการหนึ่งที่จะช่วยคืนความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีให้กับผู้ป่วยโรคนี้ได้ ก็คือ “การปลูกผม” โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเติมเต็มเส้นผมบริเวณที่ถูกดึงหายไป ให้กลับมาหนาแน่น แข็งแรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ป่วยพร้อมที่จะทำการรักษาด้วยวิธีการอื่น ๆ ควบคู่ไปพร้อมกันนั่นเอง