SPOTLIGHT
ประสบการณ์จริงจากผู้ปลูกผม
Tag : ปลูกผมเทคนิคNEAT
สุเมธ องอาจ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ด้วยการปลูกผม
Sumeth Singer, transformed himself into a new person. with hair transplant
ดิว เดอะสตาร์ 4 ปลูกผม และปลูกหนวดเครา
ดิว เดอะสตาร์ 4 แชร์ประสบการณ์ในการปลูกผมครั้งแรก(จากคลินิกอื่น) และตัดสินใจปลูกผม และหนวดเครา ครั้งที่ 2 ที่นามนิน คลินิก 
ศิต วงโมทีฟ หลังปลูกผมรู้สึกเป็นวัยรุ่น
ลาล่า ปลื้มหลังปลูกผมเทคนิค NEAT กรอบหน้าชัด

หลังปลูกผม ปลูกคิ้ว 1 ปี
Hair and eyebrows transplant to enhance personality
เติมฝันให้เจ้าสาว หมอริน สุมาลี จำรัส
ครั้งหนึ่งในชีวิต
ปลูกผมเติมเต็มฝันเจ้าสาวคนสวย


วันแต่งงาน เรียกได้ว่าเป็น “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ที่ผู้หญิงแทบทุกคนต่างวาดภาพตนเองสวยที่สุดในชุดเจ้าสาว เช่นเดียวกับคุณหมอริน - สุมาลี จำรัส แพทย์เฉพาะทางด้านความงาม แต่เมื่อวันสำคัญของชีวิตใกล้เข้ามาถึง กลับยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณหมอรินต้องกังวลใจ ก็คือจะทำอย่างไรกับ “ปัญหาเส้นผม”

“จริง ๆ ไม่ได้ชอบไว้หน้าม้านะคะ อยากรวบผมตึงแบบคนอื่นบ้าง แต่ปกติเป็นคนรวบผมไม่ได้เลย มันค่อนข้างขึ้นไปเยอะมาก ไปด้านข้างด้วย แนวผมไม่สวย ดูเหมือนผู้ชาย เวลาออกงานทีไรก็ค่อนข้างลำบาก”

คุณหมอรินจึงตัดสินใจบอกลาปัญหาผมบางจากกรรมพันธุ์บริเวณหน้าผากที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก

“คิดว่าพร้อมที่จะทำแล้ว เพราะวางแผนว่าจะมีงานแต่ง ก็เลยเลือกที่จะปลูกผม เพื่อช่วยให้กรอบหน้าดีขึ้น”

ดังนั้น หลังจากเข้ามาพบกับคุณหมอนินเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจปัญหาที่มีอยู่แล้ว สิ่งแรกที่คุณหมอนินทำจึงเป็นการชวนคุณหมอรินออกแบบกรอบหน้ากันใหม่

“คุณหมอนินจะถามความต้องการของเราก่อน แล้วลองวาดกรอบหน้าออกมา บอกข้อจำกัดว่าถ้าลงมามากอาจจะโดนบริเวณกล้ามเนื้อ ทำให้ปลูกไม่ติด และช่วยเสริมกันระหว่างความต้องการของเรากับความเป็นไปได้ที่กราฟต์ผมจะติด”



คุณหมอรินยังเล่าถึงบรรยากาศในวันที่เข้ามารับการปลูกผม ซึ่งใช้เวลาอย่างเต็มที่ถึง 10 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันแบบสุด ๆ ก็คือการปักกราฟต์ผม

“ก่อนทำกลัวเจ็บนิดนึง แต่พอทำจริงเรียกได้ว่าไม่เจ็บเมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรมอย่างอื่น บรรยากาศก็สบาย ๆ เปิดเพลงฟัง คุณหมอนินเป็นคนลงมือปักกราฟต์ผมให้ โดยดูแนวผมว่าไปทางไหน ควรปักอย่างไร เพื่อเวลาผมยาวจะได้ชี้ไปตามแนวเดิม ไม่ดูหลอก ถ้าปักสวนกับแนวเดิม ก็จะชี้ไปชี้มา ไม่สวย”



และเมื่อปลูกผมเสร็จ คุณหมอรินก็สามารถไปทำงานในวันรุ่งขึ้นได้ทันที เนื่องจากไม่มีแผลและไม่มีเลือดออก ซึ่งจากนั้นคุณหมอนินก็คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงสำคัญอย่างช่วง 2 สัปดาห์แรก และในช่วงที่ผมปลูกใหม่จะร่วงตามธรรมชาติ

“ช่วงสองอาทิตย์แรก หมอจะบอกให้เราดูแลผมเป็นพิเศษนิดนึง เพราะถ้ากราฟต์ผมติดก็จะติดเลย แต่ถ้าหลุดไปเยอะ ก็มีโอกาสติดน้อย ดังนั้นเลยพยายามดูแลตัวเอง พอสองเดือนผ่านไป ผมเริ่มร่วง ก็ลุ้นนิดนึงว่ามันจะขึ้นมั้ย แต่หมอนินจะทักมาถามเพื่อติดตามอาการตลอด และแนะนำว่าไม่ต้องกลัว เดี๋ยวมันก็ขึ้นมาใหม่”


เมื่อเวลาผ่านไป คุณหมอรินก็ได้พิสูจน์ผลลัพธ์ผมหนาแน่นเป็นธรรมชาติ กรอบหน้าสวยขึ้น แบบที่ใครเห็นก็ต้องทัก

“ชอบมากเลยค่ะ เพราะว่ามันเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ตอนนี้ผมขึ้นเยอะเลย ยาวแล้วด้วย ทิศทางเส้นผมก็ดูสวย หลังจากไปปลูกมา ลงรูปทางโซเชียลมีเดีย มีคนทักถามมาเยอะ เราก็แนะนำที่นี่ทุกคนเลย จะบอกว่าไม่เจ็บ ไม่ต้องกลัว ผมขึ้นจริง ไปคุยได้ว่าเราอยากได้แนวไหน เพราะหมอจะช่วยตัดสินใจร่วมกัน”

และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณหมอรินวางใจที่จะเข้ารับการปลูกผมที่นี่ ก็คือเรื่องของเทคนิคที่โดดเด่นและแตกต่าง

“เราถามคุณหมอนินถึงเรื่องวิธีการปลูกผม เทคนิคเฉพาะที่เขาไปเรียนมา มันแตกต่างจากที่อื่นยังไง ก็คิดถูกแล้วที่ทำที่นี่ เพราะความแตกต่างก็คือเครื่องมือเล็กที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว ทำให้รูขนาดเล็กมากและช่วยให้กราฟต์ผมติดดีขึ้น ลดโอกาสการเกิดแผลเป็นจากการปลูกผมให้น้อยลง”


คุณหมอรินเสริมว่า นอกจากความใจดีของคุณหมอนิน และความใส่ใจที่จะให้คำปรึกษาอยู่เสมอแล้ว คุณหมอนินยังใจเย็นเป็นที่หนึ่ง

“ประทับใจหมอนิน รับฟังความคิดเห็นของคนไข้ดี ให้คำตอบที่ชัดเจน ใจเย็น เพราะการปลูกผมต้องใช้เวลาเป็นปี ถ้าหมอกระวนกระวายไปพร้อมกับคนไข้ เช่นในช่วงที่ผมร่วง ก็จะยิ่งทำให้คนไข้กังวลไปใหญ่ แต่หมอมีความใจเย็น ทำให้คนไข้สบายใจตามไปด้วย”

แล้วผลลัพธ์ผมสวย ก็คืนความมั่นใจให้กับว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณหมอรินได้อีกครั้ง

“ตอนถ่ายพรีเวดดิ้ง ต้องรวบเอาผมหน้าม้าขึ้น ก็โอเคเลยค่ะ จริง ๆ เส้นผมมีความสำคัญ มันคืออวัยวะของเราเลยนะ พอเรามีความสวยงาม ก็มีความมั่นใจมากขึ้น แล้วภาพลักษณ์เราก็ดีขึ้น ถ้าเรามีความมั่นใจ เราก็ทำอะไรได้ดีขึ้นทุกอย่างค่ะ”

ปลูกผมสร้างโหงวเฮ้ง คุณชมพู่ นันทพร บุราคม
ปลูกผมเปลี่ยนชีวิตใหม่
เปิดหน้ามั่นใจทุกองศาความสวย


ในฐานะเจ้าของธุรกิจด้านความสวยความงาม คุณชมพู่ - นันทพร บุราคม ในวัย 36 ปี จึงใส่ใจเรื่องการดูแลตัวเองเป็นพิเศษอยู่เสมอ

“ถ้าภาพลักษณ์เราดูไม่สวยงาม ความเชื่อมั่นที่ลูกค้าจะมีให้เรามันก็ไม่เต็มร้อย แต่ถ้าเรามั่นใจ ลูกค้าก็จะมีความเชื่อมั่นให้เรา เราก็เน้นตรงนี้ เพราะเราทำเรื่องความงาม เราต้องสวย”


แต่เส้นผมเจ้าปัญหา กลับกลายเป็นอุปสรรคความสวย และเป็นสิ่งที่หยุดความมั่นใจของคุณชมพู่ โดยเฉพาะในวันที่อายุเริ่มผ่านพ้นเลข 3

“โอ้โห เส้นผมสำคัญมากค่ะ เพราะมันบอกได้ว่าเราอายุเยอะไม่เยอะก็ด้วยผมนี่แหละ เราเป็นคนหน้าผากกว้างตั้งแต่เกิด ผมเส้นเล็ก พอเริ่มอายุเยอะขึ้น ปัญหาคือ ผมเว้าลึกเข้าไปทั้ง 2 ข้างเลย พอผมหายไป มันทำให้เราไม่มั่นใจ เวลาแต่งตัว ไปงาน หรือถ่ายรูป ก็ไม่สามารถเปิดผม เกล้าผม เพื่อโชว์หน้าผากได้ ต้องคอยหมั่นเอาผมปิดหน้าเพื่ออำพรางตรงนี้ ทั้งที่เป็นคนชอบเปิดหน้า”


เมื่อคุณชมพู่ได้คำแนะนำจากเพื่อน ๆ ในวงการความสวยความงาม ให้ลองปรึกษากับคุณหมอนิน ซึ่งเรียนมาเฉพาะทางด้านนี้เลย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ด้วยการปลูกผม

“คุณหมอก็จัดการความสวยให้เลย ไปคุยแล้วรู้สึกว่าหมอนินไนซ์ เป็นกันเอง สนใจลูกค้า มีการอธิบายก่อนว่าวิธีการที่ใช้ปลูกผมเป็นลักษณะไหน มีกี่แบบ สมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกันยังไง วิธีของคุณหมอรู้สึกว่าเป็นนวัตกรรมที่โอเคเลย ย้ายผมมาแล้วสามารถงอกต่อเลย เทคนิคนี้น่าสนใจ ก็เลยตัดสินใจทำ ”



ขั้นตอนแรก คุณชมพู่ได้ร่วมออกแบบพื้นที่ที่จะปลูกผมร่วมกับคุณหมอ เนื่องจากคุณชมพู่ยังอยากได้ความกว้างของหน้าผากตามลักษณะโหงวเฮ้งที่ดี ซึ่งคุณหมอก็จัดให้อย่างที่ต้องการ หลังจากคำนวณจำนวนกราฟต์ที่จะปลูกเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มลงมือปลูกผมกันเลย

“หมอนินมือเบามากค่ะ ฉีดยาไม่เจ็บเลย หลังฉีดยาชาก็ไม่เจ็บอยู่แล้ว หมอนินทำเองทุกขั้นตอน ทั้งถอนแล้วก็ปลูกใหม่ด้วย อาจจะมีทีมผู้ช่วยด้วย ไม่ได้ทำคนเดียว แต่คุณหมอดูแลทุกขั้นตอน แบบละเอียดมาก”


คุณชมพู่เล่าว่า ด้วยเทคนิคและเครื่องมือที่คุณหมอเลือกใช้ ทำให้แผลหลังจากทำมีขนาดเล็กมาก ๆ แถมยังหายไวมากเช่นกัน ซึ่งคุณหมอดูแลสระผมเพื่อล้างแผลให้ตั้งแต่วันแรก ๆ ไม่เพียงเท่านั้น การดูแลตัวเองหลังปลูกผมก็ไม่ยุ่งยากเลย คุณหมอยังนำเข้ายาจากต่างประเทศมาให้ใช้เพื่อให้แผลและสะเก็ดหายเร็วขึ้นด้วย ส่วนคุณชมพู่ก็พยายามไม่ไป จับหรือรบกวนบริเวณที่ปลูกผมใหม่ในช่วงเดือนแรก ๆ ทำให้ผมยาวต่อเนื่องโดยแทบไม่มีผมร่วง

“ตอนนี้ สภาพกายภาพคือเห็นชัดมากเกือบ 100% ว่ามีความแตกต่าง คนก็จะทักว่าหน้าดูละมุนขึ้น สวยแบบธรรมชาติ เพราะตรงหน้าผาก คุณหมอเรียงเส้นผมให้สวยและค่อนข้างจะถี่ เราก็จะเกล้าผมโชว์หน้าผากตลอด เกล้าให้เห็นเลยว่าผมมันงอกจริง คนเห็นก็จะทักเยอะ ว่าไปปลูกผมมาแล้วผลลัพธ์ดี สวยขึ้น ก็อยากรักษาผมดก ๆ นี้ให้อยู่กับเราไปนานที่สุด...

...ความมั่นใจนี่ก็ 100% เพราะถ้าไม่มั่นใจคงไม่เปิดผมตลอดเวลา เดิมหน้าผากมันลึก ตอนนี้กรอบหน้าเป๊ะ หมดปัญหาไม่กลัวหัวเถิกแล้วค่ะ”





จนถึงวันนี้ คุณหมอนินก็ยังคงคอยถามไถ่และดูแลติดตามผลอยู่เสมอ ทำให้คุณชมพู่ประทับใจและเริ่มแนะนำให้คนรอบข้างมาปลูกผมด้วย หนึ่งในนั้นก็คือคุณพ่อของคุณชมพู่นั่นเอง

“ตอนนี้ก็ให้คุณพ่อที่เคยปลูกผมมาแล้วรู้สึกผมน้อย มาปรึกษากับคุณหมอนิน เพราะเราทำแล้วรู้สึกว่าแฮปปี้ ประทับใจหลายอย่าง จุดเด่นเลยคือความละเอียดและความประณีตของคุณหมอค่ะ คุณหมอดูแลเราดี ห่วงใย ให้คำปรึกษาทุกอย่าง มากกว่านั้นก็คือมิตรภาพเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันด้วย เรื่องปลูกผมนี่ต้องยกให้คุณหมอนินเลยค่ะ”

หมอวรุตม์ เชื่อมั่นปลูกผมที่นามนิน
...จากคนไข้ สู่ลูกศิษย์คนแรก...“หมอวรุตม์” การันตี

การปลูกผมให้ดีคืองานศิลปะ

“การจะปลูกผมให้ออกมาสวยหรือไม่สวย ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณหมอเป็นหลักเลย เพราะการปลูกผมก็เหมือนงานศิลปะ ต้องอาศัยฝีมือศิลปินในการทำ”

นี่คือเสียงยืนยันของคุณหมอวรุตม์ หอมพูลทรัพย์ ว่าการปลูกผมต้องอาศัยทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในการรักษา นอกจากคุณหมอวรุตม์ ซึ่งทุกวันนี้เป็นศัลยแพทย์ทั่วไปและมีคลินิกเป็นของตัวเอง จะเป็นหนึ่งในคนไข้ผู้เข้ารับการปลูกผมกับคุณหมอนิน แห่งคลินิกนามนินแล้ว ยังเป็นลูกศิษย์คนแรกที่เข้ารับการฝึกอบรมเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงหรือ NEAT ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของอาจารย์หมอนินด้วย ลองมาฟังประสบการณ์การเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ของคุณหมอวรุตม์กัน



“เดิมเป็นคนหน้าผากกว้างอยู่แล้ว แต่มาเด่นชัดตอนอายุ 24 – 25 พอผมร่นเข้าไปลึกก็ทำให้จัดทรงยาก ลมพัดทีก็หน้าผากเปิด เรียกว่าหน้าตาเราจะเปลี่ยนทุกครั้งที่ลมพัด แถมเวลาถอดหมวกผ่าตัด ผมก็จะลีบแบน ผมเป็นคนชอบอะไรที่คล่องตัว ไม่ต้องจัดทรงเยอะ ใช้ชีวิตได้เลย แต่พอเป็นอย่างนั้นมันลำบาก ไม่สะดวก และเสียความมั่นใจ”

ที่ผ่านมา คุณหมอวรุตม์เคยลองทายาและรับประทานยาอื่น ๆ มาบ้าง แต่ผมที่ขึ้นใหม่เป็นเพียงขนเส้นเล็ก ๆ และไม่ขึ้นบริเวณหน้าผากที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ ด้วยความที่รู้จักกับคุณหมอนินมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงเริ่มปรึกษาเรื่องปัญหาผม และจุดประกายความคิดที่จะลองปลูกผมขึ้นมา


“หมอนินเอารูปคนที่ปลูกก่อนหน้าให้ดู รู้สึกว่าแผลดูเล็ก ผมขึ้นค่อนข้างโอเค ทำแล้วดูดีขึ้น แก้ได้ตรงจุด หมอนินก็ให้คำแนะนำค่อนข้างดี เชิงบอกและสอนด้วย ทั้งทฤษฎีการปลูก ความหนาแน่นเท่าไหร่ดี ผู้ชายควรปลูกยังไง ผู้หญิงควรปลูกยังไง เอารูปเทคนิคการปลูกผมแบบเก่ากับใหม่มาเปรียบเทียบกัน หมอนิน อธิบายหมด ค่อนข้างจริงใจในการให้ข้อมูล ถ้าอันไหนทำแล้วไม่โอเค หมอนินก็จะบอก...

...ผมเห็นว่าปลูกแล้วสำเร็จค่อนข้างเยอะ 80 – 90% ก็คิดว่ามันน่าจะดี น่าจะได้ประโยชน์ไปอีกหลายปี”



คุณหมอนินจะเริ่มต้นจากการออกแบบพื้นที่ที่จะทำการปลูก โดยถามคนไข้ด้วยว่าอยากได้รูปหน้าแบบไหน และช่วยกันตัดสินใจเพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด จากนั้น คุณหมอนินจะเป็นผู้ควบคุมดูแลการปลูกผมเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การฉีดยาชา การถอนกราฟต์ผมออกโดยมีทีมงานผู้ช่วย ซึ่งในเคสของคุณหมอวรุตม์ ใช้กราฟต์ผมประมาณ 2,200 กราฟต์เพื่อความหนาแน่นเต็มที่ จนกระทั่งตอนปักกราฟต์ผมเพื่อปลูกใหม่ ซึ่งขั้นตอนนี้ ต้องอาศัยความละเอียดประณีตของคุณหมอนินเท่านั้น

“ตอนปักกราฟต์ผม คุณหมอนินทำเอง เพราะว่าจะออกมาดีไม่ดี ต้องดูความหนาแน่นให้พอเหมาะ มากไปกราฟต์ก็ตาย น้อยไปก็ผมบาง ทิศทางเส้นผมถ้าปักแล้วเบี้ยวก็ออกมาไม่สวย อันนี้เป็นเรื่องของคุณหมอล้วน ๆ เลย”


ที่สำคัญ หลังปลูกผมยังสามารถทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที


“วันสองวันแรก มีแค่น้ำเหลืองซึม ๆ และสะเก็ดนิดหน่อย แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะวันรุ่งขึ้นหลังจากทำก็มาเรียนปลูกผมต่อได้เลยครับ”

คุณหมอวรุตม์ยอมรับว่ามีความรู้สึกลุ้นนิดหน่อยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในระยะที่ผมใหม่หลุดร่วงออกตามธรรมชาติ แต่ประมาณ 3 – 4 เดือนผ่านไป ผมก็งอกขึ้นมาใหม่เหมือนที่คุณหมอบอกจริง ๆ

“มาหนาแน่นเลยครับ ผมคิดว่ากราฟต์น่าจะติดเกิน 90% ตอนนี้เหมือนผมปกติแล้วนะครับ กลมกลืนกับผมข้างเคียง ความแข็งแรงก็ใกล้กัน เวลาอาบน้ำสระผมจะไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างจากส่วนอื่น”


และในฐานะลูกศิษย์คนแรกของอาจารย์หมอนิน คุณหมอวรุตม์เล่าถึงความประทับใจว่า คุณหมอนินเป็นอาจารย์ที่คุยง่าย มีอะไรสงสัยก็ถามได้ทุกเรื่อง มีเทคนิคที่น่าสนใจ และให้การบ้านไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเยอะมาก ทั้งยังได้เรียนจากเคสคนไข้จริง ๆ ซึ่งในอนาคตคุณหมอวรุตม์ก็เตรียมที่จะนำเทคนิคความรู้ที่ได้ไปช่วยแก้ปัญหาเส้นผมให้คนอื่น ๆ ต่อไปอย่างแน่นอน


“ผมคิดว่าการปลูกผมไม่ใช่ศาสตร์ที่ยาก แต่มีรายละเอียดเยอะ ลองนึกภาพการปักผมใหม่ทีละกราฟต์ รวม 2,000 กราฟต์ทั้งวัน ซึ่งจะสวยไม่สวยก็อยู่ที่การออกแบบและการปัก มันเป็นเรื่องของศิลปะครับ”
สุเมธ องอาจ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่
ขอยืนหนึ่งในวงการ ยืดอายุงานด้วยการปลูกผม

ทุกคนคงรู้จักคุณเมธ - สุเมธ องอาจ ในฐานะศิลปินและนักแสดงมากฝีมือ ภายใต้ลุคสบาย ๆ อบอุ่น และเป็นกันเอง ซึ่งก่อนหน้าที่คุณสุเมธจะตัดสินใจเข้ารับการปลูกผมกับคลินิกนามนินนั้น เจ้าตัวแทบไม่เคยใส่ใจในปัญหาเส้นผมของตัวเองเลย!!

“จริง ๆ ผมก็ไม่ค่อยสังเกตตัวเอง รู้ว่าคันหัวและผมร่วงเรื่อย ๆ แต่ผมเป็นคนไม่สนใจตัวเองเลย ด้วยความที่รู้สึกว่าผมก็ 50 แล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยก็เกษียณ และจะผันตัวไปทำเบื้องหลัง ก็เลยไม่สนใจดูแลอะไร”


และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณเมธเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเส้นผม และเลือกลุกขึ้นมาจัดการจบปัญหาผมในวัย 51 ปี

“ช่วงโควิด มีน้องมาถ่ายไลฟ์สด ซึ่งไม่มีการแต่งหน้าทำผมอะไรทั้งสิ้น ช่วงนั้นผมยาวขึ้นด้วย ก็เลยเห็นว่าตรงไหนมันหายไปเยอะ จะมีหน้าผากเข้าไปซ้ายขวา ลึกเข้าไปเป็นนิ้วเหมือนกัน และด้านหลังศีรษะที่เป็นขวัญ มันกว้างขึ้น น้องก็เลยทักว่า พี่เมธ ไม่ได้แล้ว เริ่มเข้าไปลึกแล้ว...”

คุณเมธเริ่มได้รับคำแนะนำจากคนรอบข้างหลาย ๆ คน จนเห็นว่า ยังมีหนทางยืดอายุการทำงานออกไปได้อีก ทุกวันนี้ ด้วยความสามารถในการสื่อสารอารมณ์การแสดง เราจึงเห็นคุณเมธในบทคุณพ่ออยู่บ่อย ๆ เรียกได้ว่าคิวงานชุกแทบจะทุกช่อง คุณเมธมองว่าหากจบปัญหาผมได้ ก็น่าจะยืนหนึ่งในวงการไปอีกนาน

“ในเมื่อทุกคนบอกว่า เฮ้ยพี่ พี่ยังได้อีกหลายปี เจอผู้หลักผู้ใหญ่ รุ่นพี่ เขาก็บอกถ้ายื้อได้ก็ยื้อไว้เถอะ ถ้าสามารถป้องกันหรือทำให้ดีกว่าเดิมได้ ก็ควรทำ ถ้าเส้นผมมันยังไปได้เรื่อย ๆ อายุงานก็จะยาวขึ้น น่าจะอยู่ได้อีกหลายสิบปี เลยรู้สึกว่า ถ้ามันมีผลดีกับงานก็น่าทำเพราะถ้าเถิกกว่านี้อาจต้องกลายเป็นบทตาบทปู่ในอนาคต ซึ่งโอกาสงานก็จะน้อยลง”


และคลินิกนามนินก็เป็นตัวเลือกที่คุณเมธเดินเข้ามาปรึกษา เนื่องจากเห็นตัวอย่างของรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการที่เข้ามารับการปลูกผมแล้ว ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ดูหนุ่มขึ้น (ทำเอาคุณสุเมธแอบกังวล เดี๋ยวจะโดนลดจากบทพ่อกลายเป็นบทพระเอก!!) ทั้งยังประทับใจในการรักษาของคุณหมอนินเป็นพิเศษ


"คุยกระบวนการรักษากับคุณหมอนินก็โอเค คุยถูกคอ คุณหมออธิบายการรักษาได้เข้าใจง่ายดี ผมก็ดูทั้งหมดว่ากระบวนการมันไม่ได้มีอะไรน่ากลัว ไม่มีอะไรตกค้าง หรือมีผลข้างเคียงอะไร”


คุณเมธย้อนเล่าประสบการณ์ในวันที่มาปลูกผมกับคุณหมอนินว่า เป็นการนอนรักษาในบรรยากาศสบาย ๆ หลังจากฉีดยาชาแล้วก็ไม่เจ็บเลย คุณหมอนินเป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงที่ใช้เครื่องมือขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตรในการปลูกผมใหม่ทีละกราฟต์ลงในบริเวณที่เป็นปัญหา ซึ่งในวันนั้น คุณหมอให้เวลากับคุณเมธอย่างเต็มที่ ร่วม 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่สำคัญ ไม่ต้องพักฟื้นนานอย่างที่คิด


“ผมก็ทำงานต่อเลยนะ เว้นไปวันหนึ่ง ซึ่งต้องทำโน่นทำนี่ในบ้าน ไม่ได้นอนพักฟื้นเป็นผู้ป่วย เพียงแต่ต้องระวังหัวไม่ให้เสียดสีมาก จากนั้นอีกวันก็ไปทำงานเลย เพราะถ่ายละคร 2 เรื่องพร้อมกันพอดี”


สำหรับผลการรักษา คุณเมธเล่าว่าในบริเวณที่ปลูกใหม่ไม่ได้มีแผล ส่วนด้านหลังที่ดึงกราฟต์ผมออกไปเป็นแถบเล็ก ๆ สลับเว้นวรรคกัน ก็สามารถไว้ผมยาวปิดได้พอดี และวันนี้เส้นผมก็ขึ้นใหม่เกือบครบสมบูรณ์


“ตอนนี้ผมก็ขึ้นเต็มแล้วนะ มีแค่บางจุดที่หลุดไปนิดเดียว คิดว่าโอเคเลย คุณหมอก็บอกว่าผมที่ปลูกใหม่น่ะแข็งแรงแน่ เพราะเป็นผมที่มาจากท้ายทอยซึ่งแข็งแรงที่สุด แต่ผมเดิมก็ต้องคอยดูแลดี ๆ ด้วย”


เห็นอย่างนี้แล้ว ใครที่เป็นแฟนคลับหรือชื่นชอบผลงานของคุณเมธ ก็สบายใจได้เลยว่า จะได้เห็นคุณเมธอวดเส้นผมหนาแน่นสุขภาพดี และโชว์ฝีไม้ลายมือทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอยู่ในวงการนี้ต่อไปอีกนานแสนนานอย่างแน่นอน

“สำหรับผม เส้นผมจะช่วยให้อายุการทำงานนานขึ้น เรียกว่ามีงานทำไปได้โดยไม่ต้องมีวันเกษียณ ซึ่งเป็นงานที่เลี้ยงดูผมและครอบครัว ผมสามารถทำไปได้ถึงอายุ 70 80 ตัวผมแข็งแรงอยู่แล้ว แต่เส้นผมตัวเดียวเท่านั้นที่จะกำหนดให้เราแก่หรือหนุ่ม ดังนั้น ผมจริงมีไว้ดีที่สุดครับ”
ปลูกผมสวยไม่ต้องรอสูงอายุ
แนะสาว ๆ ปลูกผมสวยก่อนสาย ไม่ต้องรอสูงอายุ
คุณตูน - นิฐาณัณฐ์ นิยมสุจริต เล่าให้เราฟังถึงวันที่ตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ในวัย 36 ปี ด้วยการเข้ารับการปลูกผมกับคลินิกนามนิน

“ทำไมตูนถึงปลูกผมตอนอายุ 36 จริง ๆ ควรทำตอนอายุมากกว่านี้ถูกมั้ย แต่ตูนมองว่ามันจะสายเกินไปหรือเปล่า ตูนมองว่าเรายังเป็นวัยที่ออกไปเจอผู้คน ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบมีคุณภาพดีกว่ามั้ย ขอสวย ณ ตอนนี้เลย ไม่ใช่สวยตอนแก่ ถึงตอนนั้นจะทำไปอวดใคร”


คุณตูนก็ไม่ต่างจากสาวหัวเหม่งทั่วไปที่ประสบกับปัญหาผมบริเวณหน้าผากร่นสูงขึ้นไปเป็นลักษณะรูปตัว M ซึ่งเห็นชัดเจนขึ้นเมื่ออายุเริ่มเพิ่มขึ้น เมื่อหน้าผากกว้าง จึงทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วนสวยงามดังใจ

“เส้นผมสำคัญกับชีวิตเรามาก เราต้องพบเจอผู้คนเยอะ หน้าสวยหน้าใสแค่ไหน แต่ถ้าศีรษะโล้นหรือเถิก ก็จะทำให้เสียบุคลิก และทำให้ดูหน้าตาแก่กว่าวัย”

และด้วยความที่เป็นเภสัชกรเจ้าของร้านยา คุณตูนจึงเลือกสรรยาที่จะช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมาหนาแน่นเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ตามที่ใจต้องการ

“เคยซื้อสเปรย์ แชมพู และเซรั่มมาใช้ ผมมันขึ้นนะแต่ขึ้นไม่ถูกใจเรา คือมีผมงอกขึ้นใหม่เฉพาะข้างหลัง แต่ข้างหน้ายังใสเหมือนเดิม ดังนั้น ปัญหาที่เรามีอยู่มันไม่สามารถแก้ได้ด้วยการใช้ตัวยาพวกนี้ เพราะในจุดที่เราต้องการมันไม่ขึ้น”

นั่นคือเรื่องราวของคุณตูนก่อนจะมารู้จักกับคลินิกนามนินจาก facebook เมื่อลองศึกษาข้อมูลก็พบว่าคนไข้ของคลินิกมีทั้งดารานักแสดงที่มีชื่อเสียง ตลอดจนแพทย์หลาย ๆ ท่านก็ยังวางใจมาปลูกผมที่นี่ แต่สิ่งที่ทำให้คุณตูนตัดสินใจเลือกนามนิน ก็คือความประทับใจในตัวคุณหมอนินนั่นเอง


“ประทับใจหมอมาก ชอบที่คุณหมอเป็นคนพูดตรง พูดจริง พี่ตูน จะเป็นอย่างนี้นะ ผมที่ปลูกจะต้องร่วงก่อนนะ จำนวนกราฟต์อัดแน่นเท่านี้ ราคาจะเป็นเท่านี้”

และคุณหมอยังให้คำปรึกษารวมถึงออกแบบการแต่งกรอบหน้าให้ใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น


“หมอถามว่า พี่ตูนจะเอารูปหน้าแบบไหน หมอจะวาดให้ดู เอาโค้ง ๆ แบบนี้นะพี่ตูน หวานดี เราก็อยากให้ดีกรีความเหม่งลดลงอยู่แล้ว หมอก็จัดให้ โดยดูแนวคิ้ว ดูการขยับของกล้ามเนื้อ”

คุณตูนเข้ารับการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค NEAT จากนามนิน ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีคุณหมอนินเป็นผู้ควบคุมดูแลทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง โดยเฉพาะตอนนำรากผมมาปลูกลงใหม่เพื่อแต่งกรอบบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ทำให้คุณตูนเลือกทำการรักษากับที่นี่


คุณตูนยังเป็นตัวอย่างของเคสที่เข้าสู่ระยะผมร่วงหลังการปลูกผมใหม่ค่อนข้างเร็ว แต่ผมก็งอกขึ้นใหม่เร็วเช่นกัน


“คุณหมอใช้วิธีการปลูกแทรก โดยดูทิศทางผมใหม่ให้รับกับไรผมเดิมและใบหน้าของเรา ผมใหม่เลยขึ้นมาเนียนปกติ ไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง สามารถใช้ชีวิตประจำวัน มัดผมรวบตึงได้สบาย 4 เดือนผ่านมา ไม่มีใครทักว่าเราไปทำ เหมือนไม่ได้ไปทำ มันเนียนกริบ”


และเมื่อเราถามถึงความพอใจในผลลัพธ์การปลูกผม โดยเฉพาะเรื่องของกรอบหน้า คุณตูนก็ตอบได้ทันทีว่า...

“กรอบหน้าเปลี่ยนสิคะ โอเคเลย ทำมาตั้งขนาดนี้ วันนี้ครบ 4 เดือน ผมใหม่ก็ขึ้นเกือบสมบูรณ์แล้ว ผมร่วงน้อยลง หมอบอกว่าน่าจะขึ้นได้เต็มกว่านี้ เพราะปักไว้ค่อนข้างแน่น ประมาณ 2,600 กราฟต์”


และอย่างที่คุณตูนบอกกับเราว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันสูงวัย คุณก็สามารถเลือกจบปัญหาผมแบบถาวร เปลี่ยนตัวเองจากสาวหัวเหม่ง ไปสู่คุณคนใหม่ เพื่อใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้ในทุก ๆ วัน

“มันดีมาก คือรู้สึกว่าเงินจำนวนนี้แลกกับความสวย และเส้นผมที่จะอยู่กับเราไปได้อีกหลาย ๆ ปี ถามว่าคุ้มมั้ย คุ้มมาก!! ...ตูนโอเคมาก ๆ เลยค่ะ...”
คุณติ๊ก - กิตติพันธ์ พุ่มสุโข ชวนปลูกผมย้อนวัย
คุณติ๊ก – กิตติพันธ์ ชวนปลูกผมย้อนวัย แบบไม่ต้องแคร์ตัวเลขอายุ
คุณติ๊ก – กิตติพันธ์ พุ่มสุโข คือศิลปินและนักแสดงที่มีผลงานในวงการบันเทิงมายาวนาน จนเราอาจไม่เชื่อว่า วันนี้ คุณติ๊กในวัย 51 ปี จะยังคงสดใสและดูดีเหมือนกับหยุดเวลาเอาไว้ ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้คุณติ๊กยังคงซ่อนตัวเลขอายุไว้ภายใต้ลุคสุดสมาร์ทแบบนี้ได้ ก็คือ “เส้นผม”

"เส้นผมเป็นเรื่องสำคัญมาก ด้วยอาชีพเรายังต้องอาศัยภาพลักษณ์ในการทำงาน ไม่ว่าคุณจะเลือกเสื้อผ้าและแต่งตัวดูดีขนาดไหน จะรักษารูปร่างหรือดูแลผิวหน้าให้ดูเด็กอย่างไร แต่ถ้าผมบางลงเมื่อไหร่ จบกัน คำว่า แก่ มาทันที"


อาการผมหลุดร่วง เริ่มกลายเป็นปัญหากวนใจคุณติ๊กเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงอายุ 40 ปี ทำให้ผมด้านหน้าร่นเข้าไปเป็นรูปตัว M และผมบริเวณขวัญกลางศีรษะก็บางลงจนเห็นได้ชัด หลังจากพบว่าแชมพู ยา หรือเซรั่มต่าง ๆ ที่ทดลองใช้ ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาผมที่เป็นอยู่ได้ คุณติ๊กจึงลองเข้ามาคุยกับคุณหมอนิน ก่อนจะตัดสินใจปลูกผมกับคลินิกนามนินในที่สุด


“จริง ๆ กลัวการศัลยกรรมมาก แต่ที่ตัดสินใจทำเพราะเส้นผมมีส่วนทำให้เราหมดความมั่นใจไปมากกว่า 50% เวลาเดินเข้าห้าง ผ่านช่องแอร์ ผมต้องปลิว ความมั่นใจตัวเองหายไปทันที พยายามลองใช้เทคนิคในการแต่งทรงผมต่าง ๆ ก็ยังช่วยไม่ได้” 


“เจอคุณหมอนินครั้งแรก คุณหมอไม่ได้พยายามกดดันให้เราต้องปลูกผม เพียงแต่พูดคุยถึงปัญหา เหมือนให้กำลังใจ ว่าเรายังมีเส้นผมด้านหลังอยู่ และชี้จุดที่จะแก้ปัญหาเพื่อให้ผมดูหนาขึ้น ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้น”


คุณติ๊กเล่าว่า เคยกลัวการปลูกผมเทคนิคเดิมที่ต้องผ่าตัด แต่เทคนิคของคุณหมอนิน จะเป็นการย้ายรากผมจากท้ายทอยด้านหลังไปปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา โดยใช้เทคนิคซ่อนแผล ซึ่งหลังจากฉีดยาชาแล้วก็ไม่รู้สึกเจ็บอีกเลย

“ช่วงที่ทำบอกเลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่เคยคิดไว้ ตอนแรกคิดว่าคงทรมานมาก ปรากฏว่าไม่ และประทับใจที่คุณหมอมือเบามากกกก”

ผมที่ลีบ เล็ก และบาง บริเวณกลางศีรษะ คือปัญหาใหญ่ของคุณติ๊ก ซึ่งคุณหมอนินอธิบายให้คุณติ๊กฟังว่า เส้นผมของเราอ่อนแอจนเป็นปัญหาสะสมมานาน สิ่งที่ช่วยได้คือการนำรากผมที่แข็งแรง ไปปลูกแทรกแบบกระจายให้ทั่วบริเวณ เพื่อให้รากผมใหม่ช่วยดันโคนเส้นผมเก่าเอาไว้ ทำให้ภาพรวมของผมดูหนาขึ้น

หลังจากปลูกผมเพียงวันเดียว คุณติ๊กก็สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเหมือนเคยโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน เพราะอาการบวมลดลงเร็วมาก ขณะเดียวกันก็แทบไม่มีเลือดออก และเมื่อหลายเดือนผ่านไป กราฟต์ผมมากกว่า 2,000 กราฟต์ที่คุณหมอนินปลูกไว้ ทั้งบริเวณหน้าผากและกลางศีรษะ ก็เติบโตแข็งแรง แลดูหนาแน่นอย่างเป็นธรรมชาติ ...เปลี่ยนคุณติ๊กเป็นคนใหม่ได้จริง ๆ...

“สิ่งที่ประทับใจมากที่สุด การหลุดร่วงของเส้นผมถือว่าน้อย แล้วเส้นผมที่เกิดขึ้นใหม่ มันแข็งแรง เรารู้สึกได้ เดิมเราไม่สามารถเล่นอะไรกับเส้นผมได้ แต่ตอนนี้ เราสามารถทำได้หลาย ๆ ทรงในแบบที่เราชอบ”

และสิ่งที่ทำให้คุณติ๊กเป็นปลื้มมากที่สุด ก็คงจะเป็นเสียงสะท้อนจากคนรอบข้างนี่เอง

“ผลคือแฮปปี้ เราคิดไปเองไม่เท่ากับคนอื่นบอก ทุกคนที่รู้ว่าทำมา จะบอกว่าผมเยอะมาก ดูดีมาก เพราะคุณหมอละเอียดถึงขั้นค่อย ๆ ปักผมใหม่ให้ไปในทิศทางเดียวกับไรผมเดิม ส่วนคนที่ไม่รู้ว่าไปปลูกผมมา ก็จะดูไม่ออกเลย เพราะแทบไม่เห็นแผลด้านหลัง แนะนำเลยว่า การศัลยกรรมเส้นผม ไม่ได้น่ากลัว โดยเฉพาะเทคนิคที่คุณหมอมีอยู่ อันนี้คือสิ่งที่เรามั่นใจ”


คุณติ๊กยังฝากทิ้งท้ายถึงใครก็ตามที่เข้ารับการปลูกผม อย่าลืมมีวินัยปฏิบัติตามที่คุณหมอสั่ง ไม่ว่าจะเป็นการงดกาแฟ บุหรี่ แอลกอฮอล์ในช่วงแรก หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ รวมถึงการติดตามผลการรักษากับคุณหมอด้วย แล้วผลลัพธ์จะออกมาสมบูรณ์ เช่นเดียวกับที่คุณติ๊กทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด และทุกวันนี้ก็สามารถแต่งตัวย้อนวัยเดินควงกับน้องเฌอแตม - ลูกสาวได้สบาย เพื่อน ๆ ลูกจะเรียกคุณพ่อยังไม่กล้า เพราะนึกว่าอปป้ามาเอง!!

“สิ่งที่ทำให้เรามีความสุขคือ ความมั่นใจ คนจะพูดว่าเราอายุดูไม่ถึง 51 ดูดี ดูเด็ก ก็เรียกความมั่นใจกลับมาได้ 100% เต็ม”