วิธีการปลูกผมในอดีต อาจจะทิ้งภาพจำที่ชวนให้ไม่สบายใจเท่าไรนัก จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยเฉพาะในวัย 50 ปีขึ้นไป เกิดความรู้สึก กลัว ที่จะเปิดใจทำความรู้จักกับการปลูกผม หรือยัง ลังเล ว่าจะปลูกผมดีหรือไม่ ทั้งที่เทคนิคการปลูกผมในปัจจุบันนี้ พัฒนาไปไกลจนสะดวกสบายกับคนไข้แบบสุด ๆ
วันนี้ มาฟังประสบการณ์ปลดล็อกตนเองเพื่อก้าวข้ามความกังวลเรื่องการปลูกผม ของคุณธีรพันธ์ เหมวัฒนชัย อดีตนักการตลาดที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจในวัย 63 ปี ซึ่งเข้ารับการปลูกผมกับนามนินเมื่อปี 2565 และกลายเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนคุณธีรพันธ์เป็นคนใหม่ อย่างที่เจ้าตัวบอกกับเราว่า “ถ้ารู้เร็วกว่านี้ ทำไปนานแล้ว”
ก่อนหน้านี้ คุณธีรพันธ์เริ่มมีอาการผมร่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ และในวัย 50 ปลาย ๆ ปัญหาผมก็ขยายพื้นที่กว้างขึ้น ตั้งแต่ขวัญด้านหลัง กลางศีรษะ มาจนถึงแนวผมบริเวณหน้าผากที่เว้าลึกเข้ามาเป็นรูปตัว M ต่อเนื่องกันทั้ง 3 พื้นที่
“ของผม 3 พื้นที่จะเป็นสนามบินไปแล้ว โล่ง บาง เพื่อนรุ่นเดียวกันไม่ได้บางเท่าเรา สภาพผมเราไปเร็วกว่าเพื่อน เราเป็นผู้นำมากเลยในแง่ความชรา เลยรู้สึกแก่เร็ว ถ้าเป็นเรื่องผม เราด้อยกว่าเขา ก็เริ่มรู้สึกเสียเซลฟ์ไปเรื่อย ๆ”
แต่หากพูดถึงทางเลือกการปลูกผมในตอนนั้น คุณธีรพันธ์ขอ say no เพราะยังเข้าใจว่าต้องใช้วิธีการผ่าตัดเป็นหลัก
“ถ้าผ่า ไม่ทำ ไม่ใช่แนวเรา ซึ่งเพื่อนหลายคนก็คิดแบบนี้ อาจเป็นด้วยความคิด generation เรา ให้ไปศัลย์ ไม่มีใครเอา บางคนก็จะรู้ว่าวิธีเก่า ๆ ต้องผ่าตัด ต้องกรีด เราก็ no no no ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ไม่ทำ”
เพิ่งไม่นานมานี้เอง ที่คุณธีรพันธ์ได้ปลดล็อกความกังวลขั้นแรก เมื่อลองค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และพบว่าเทคโนโลยีการปลูกผมสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไป
“เริ่มศึกษา ดู YouTube เรื่องการปลูกผม เจอว่าเทคโนโลยีปัจจุบันมันพัฒนาไปไกลแล้ว ย้ายผมของเราเองจากข้างหลังมาข้างหน้า ไม่ได้ไปเอาผมสังเคราะห์ที่ไหนมา ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ได้ผ่าตัด เอามีดกรีด ก็เลยสนใจมาก”
แต่ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเพิ่มความมั่นใจให้คุณธีรพันธ์กล้าตัดสินใจปลูกผม อีกทั้งเพื่อนรอบข้างก็ยังไม่เคยมีใครผ่านประสบการณ์ปลูกผมและสามารถให้คำแนะนำได้ คุณธีรพันธ์จึงลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่นามนิน และนั่นเป็นจุดสำคัญที่ช่วยปลดล็อกความกังวลในขั้นที่สองได้เป็นอย่างดี
“เวลาเราไม่มีข้อมูลมากพอ ไม่เข้าใจมากพอ เราจึงกลัวนั่น กังวลนี่ แต่พอได้ข้อมูลชัดเจนขึ้น ก็ go ahead เลย ทำเลย”
การได้คุยกับคุณหมอนิน จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณธีรพันธ์ตัดสินใจปลูกผมได้อย่างไม่ลังเล
“คุณหมอนินพูดชัดเจน พูดเข้าใจง่าย ซึ่งเราดู YouTube บางคนพูดแล้วเราฟังไม่ค่อยเข้าใจ พูดเป็นวิชาการ เป็นภาษาหมอ แต่เราชาวบ้านไม่ได้จบหมอ ก็เอ๋อเลยเพราะไม่รู้เรื่อง ก็อาจจะตัดสินใจยาก ทำให้ไม่อยากลอง ไม่อยากทำ
แต่คุณหมอนินอธิบายดี ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ซึ่งผมว่ามีผลนะ พอครั้งแรกที่ปรึกษา เราแฮปปี้ เรียกว่าสื่อสารกับลูกค้าได้ดี เล่าด้วยเหตุและผล เลยทำให้เราเปิดใจ พอเข้าใจตรงกันหมด เราพอใจ เราตัดสินใจได้ง่าย ก็นัดวันทำ”
เส้นทางการดูแลแก้ปัญหาผมร่วมกันระหว่างคุณหมอกับคนไข้ จึงเริ่มต้นขึ้น ด้วยการประเมินความเป็นไปได้ในการใช้กราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอย มาปลูกใหม่ในพื้นที่ที่เป็นปัญหา
“คุณหมอนินจะวิเคราะห์ว่า (กราฟต์ผมด้านหลัง) จะพอมั้ยสำหรับ 3 พื้นที่ที่เราต้องการปลูก และบอกว่า ของจริงอาจจะได้มากกว่าหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับกราฟต์ผมที่เอาออกมาแล้ว ว่าจะมีผม 1, 2, 3 เส้น หรือเท่าไหร่ ก็ถือว่าชัดเจน เขาไม่ได้ให้เราฝันลม ๆ แล้ง ๆ คุณหมอก็พูดจริงใจ ว่าต้องรอดูคุณภาพกราฟต์ผมในวันปลูกจริง”
สำหรับเคสของคุณธีรพันธ์ คุณหมอนินช่วยออกแบบกรอบหน้าใหม่ตามบุคลิกและสัดส่วนรูปหน้า รวมถึงใช้เทคนิคปลูกผมแทรก ซึ่งต้องอาศัยความใส่ใจของคุณหมอในการปักกราฟต์ผมใหม่ด้วยตัวเองทุกกราฟต์ เพื่อให้เส้นผมเรียงตัวในทิศทางที่กลมกลืนแนบเนียนไปกับเส้นผมเดิม
“คุณหมออธิบายว่า ปลูกผมให้ดูธรรมชาติที่สุด ไม่ใช่สักแต่ว่าปักเข้าไป ซึ่งเราก็ชอบความละเอียดของคุณหมอ ถ้าถามว่าเจ็บมั้ย ผมว่าคล้าย ๆ เวลาเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว แต่จิ๊บจ๊อยกว่าด้วยซ้ำ ตรงนี้เราก็แฮปปี้ ตลอดหลายชั่วโมงที่ทำวันนั้น”
และผลลัพธ์หลังจากผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งปีครึ่ง ก็เป็นไปตามที่คุณธีรพันธ์คาดหวังไว้ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการออกไปพบปะกับผู้คนได้อย่างไร้กังวล
“คุ้มครับ ทุกคนก็ทึ่ง ชมว่าดูดี อย่างที่บอกเวลาเราเจอใครหรือเราส่องกระจก จุดแรกที่จะมองเห็นคือด้านหน้า ซึ่งหัวไม่เถิกแล้ว ไม่เว้าตัว M แล้ว อันนี้ดีมาก แฮปปี้มาก ส่วนข้างบน อาจจะไม่ได้ดกแบบหนุ่ม ๆ ขนาดนั้น แต่ดีขึ้นแน่นอน ดูธรรมชาติ ไม่ได้ดูโล่งเตียนแบบก่อนหน้า ยิ่งรูปหน้าเปลี่ยน เราก็ดูอายุน้อยลง ดูดีขึ้น
พอไปประชันกับก๊วนเดิม กลายเป็นเราดูหนุ่มกว่า เวลาเพื่อนนัดมา รีบรับนัดเลย ไม่ลังเลเลยว่าจะมีเวลาฉีดสเปรย์ดำ จะหวียังไง จะมูส จะเจล ตอนนี้ไม่กังวล แค่ว่าจะเอาหล่อแค่ไหนตอนออกไปเจอเพื่อน ๆ แค่นั้น (หัวเราะ)”
คุณธีรพันธ์ยังคงดูแลบำรุงผมอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของคุณหมอนิน และยังเข้ามารับบริการ Treatment จากนามนินเป็นประจำ ขณะเดียวกันก็นำประสบการณ์และความประทับใจไปบอกต่อกับเพื่อน ๆ
“เพื่อน ๆ ก็สนใจกันใหญ่ เราก็จะบอกว่ารีบไปคุย รีบตัดสินใจ จะได้ไม่ต้องสามพื้นที่แบบผม ใครที่สนใจแต่ไม่กล้า เข้าไปคุยเถอะ เขาไม่คิดเงิน ไม่เสียอะไร ไปปรึกษา ได้ความรู้ ได้ข้อมูลมากขึ้น ...แล้วคุณก็อาจจะกล้าเหมือนตัวผม..”
...มาปลดล็อกความกลัว แล้วลองทำความรู้จักการปลูกผมเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทั้งสะดวกสบายและปลอดภัย
เพื่อให้คุณเติมเต็มความมั่นใจ และเปิดตัวเองไปสู่อิสระในการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง...