SPOTLIGHT
ประสบการณ์จริงจากผู้ปลูกผม
Tag : นามนินคลินิก
สุเมธ องอาจ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ด้วยการปลูกผม
Sumeth Singer, transformed himself into a new person. with hair transplant
ดิว เดอะสตาร์ 4 ปลูกผม และปลูกหนวดเครา
ดิว เดอะสตาร์ 4 แชร์ประสบการณ์ในการปลูกผมครั้งแรก(จากคลินิกอื่น) และตัดสินใจปลูกผม และหนวดเครา ครั้งที่ 2 ที่นามนิน คลินิก 
ศิต วงโมทีฟ หลังปลูกผมรู้สึกเป็นวัยรุ่น
ลาล่า ปลื้มหลังปลูกผมเทคนิค NEAT กรอบหน้าชัด

หลังปลูกผม ปลูกคิ้ว 1 ปี
Hair and eyebrows transplant to enhance personality
เติมฝันให้เจ้าสาว หมอริน สุมาลี จำรัส
ครั้งหนึ่งในชีวิต
ปลูกผมเติมเต็มฝันเจ้าสาวคนสวย


วันแต่งงาน เรียกได้ว่าเป็น “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ที่ผู้หญิงแทบทุกคนต่างวาดภาพตนเองสวยที่สุดในชุดเจ้าสาว เช่นเดียวกับคุณหมอริน - สุมาลี จำรัส แพทย์เฉพาะทางด้านความงาม แต่เมื่อวันสำคัญของชีวิตใกล้เข้ามาถึง กลับยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้คุณหมอรินต้องกังวลใจ ก็คือจะทำอย่างไรกับ “ปัญหาเส้นผม”

“จริง ๆ ไม่ได้ชอบไว้หน้าม้านะคะ อยากรวบผมตึงแบบคนอื่นบ้าง แต่ปกติเป็นคนรวบผมไม่ได้เลย มันค่อนข้างขึ้นไปเยอะมาก ไปด้านข้างด้วย แนวผมไม่สวย ดูเหมือนผู้ชาย เวลาออกงานทีไรก็ค่อนข้างลำบาก”

คุณหมอรินจึงตัดสินใจบอกลาปัญหาผมบางจากกรรมพันธุ์บริเวณหน้าผากที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก

“คิดว่าพร้อมที่จะทำแล้ว เพราะวางแผนว่าจะมีงานแต่ง ก็เลยเลือกที่จะปลูกผม เพื่อช่วยให้กรอบหน้าดีขึ้น”

ดังนั้น หลังจากเข้ามาพบกับคุณหมอนินเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจปัญหาที่มีอยู่แล้ว สิ่งแรกที่คุณหมอนินทำจึงเป็นการชวนคุณหมอรินออกแบบกรอบหน้ากันใหม่

“คุณหมอนินจะถามความต้องการของเราก่อน แล้วลองวาดกรอบหน้าออกมา บอกข้อจำกัดว่าถ้าลงมามากอาจจะโดนบริเวณกล้ามเนื้อ ทำให้ปลูกไม่ติด และช่วยเสริมกันระหว่างความต้องการของเรากับความเป็นไปได้ที่กราฟต์ผมจะติด”



คุณหมอรินยังเล่าถึงบรรยากาศในวันที่เข้ามารับการปลูกผม ซึ่งใช้เวลาอย่างเต็มที่ถึง 10 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขั้นตอนที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันแบบสุด ๆ ก็คือการปักกราฟต์ผม

“ก่อนทำกลัวเจ็บนิดนึง แต่พอทำจริงเรียกได้ว่าไม่เจ็บเมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรมอย่างอื่น บรรยากาศก็สบาย ๆ เปิดเพลงฟัง คุณหมอนินเป็นคนลงมือปักกราฟต์ผมให้ โดยดูแนวผมว่าไปทางไหน ควรปักอย่างไร เพื่อเวลาผมยาวจะได้ชี้ไปตามแนวเดิม ไม่ดูหลอก ถ้าปักสวนกับแนวเดิม ก็จะชี้ไปชี้มา ไม่สวย”



และเมื่อปลูกผมเสร็จ คุณหมอรินก็สามารถไปทำงานในวันรุ่งขึ้นได้ทันที เนื่องจากไม่มีแผลและไม่มีเลือดออก ซึ่งจากนั้นคุณหมอนินก็คอยดูแลให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงสำคัญอย่างช่วง 2 สัปดาห์แรก และในช่วงที่ผมปลูกใหม่จะร่วงตามธรรมชาติ

“ช่วงสองอาทิตย์แรก หมอจะบอกให้เราดูแลผมเป็นพิเศษนิดนึง เพราะถ้ากราฟต์ผมติดก็จะติดเลย แต่ถ้าหลุดไปเยอะ ก็มีโอกาสติดน้อย ดังนั้นเลยพยายามดูแลตัวเอง พอสองเดือนผ่านไป ผมเริ่มร่วง ก็ลุ้นนิดนึงว่ามันจะขึ้นมั้ย แต่หมอนินจะทักมาถามเพื่อติดตามอาการตลอด และแนะนำว่าไม่ต้องกลัว เดี๋ยวมันก็ขึ้นมาใหม่”


เมื่อเวลาผ่านไป คุณหมอรินก็ได้พิสูจน์ผลลัพธ์ผมหนาแน่นเป็นธรรมชาติ กรอบหน้าสวยขึ้น แบบที่ใครเห็นก็ต้องทัก

“ชอบมากเลยค่ะ เพราะว่ามันเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ตอนนี้ผมขึ้นเยอะเลย ยาวแล้วด้วย ทิศทางเส้นผมก็ดูสวย หลังจากไปปลูกมา ลงรูปทางโซเชียลมีเดีย มีคนทักถามมาเยอะ เราก็แนะนำที่นี่ทุกคนเลย จะบอกว่าไม่เจ็บ ไม่ต้องกลัว ผมขึ้นจริง ไปคุยได้ว่าเราอยากได้แนวไหน เพราะหมอจะช่วยตัดสินใจร่วมกัน”

และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณหมอรินวางใจที่จะเข้ารับการปลูกผมที่นี่ ก็คือเรื่องของเทคนิคที่โดดเด่นและแตกต่าง

“เราถามคุณหมอนินถึงเรื่องวิธีการปลูกผม เทคนิคเฉพาะที่เขาไปเรียนมา มันแตกต่างจากที่อื่นยังไง ก็คิดถูกแล้วที่ทำที่นี่ เพราะความแตกต่างก็คือเครื่องมือเล็กที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว ทำให้รูขนาดเล็กมากและช่วยให้กราฟต์ผมติดดีขึ้น ลดโอกาสการเกิดแผลเป็นจากการปลูกผมให้น้อยลง”


คุณหมอรินเสริมว่า นอกจากความใจดีของคุณหมอนิน และความใส่ใจที่จะให้คำปรึกษาอยู่เสมอแล้ว คุณหมอนินยังใจเย็นเป็นที่หนึ่ง

“ประทับใจหมอนิน รับฟังความคิดเห็นของคนไข้ดี ให้คำตอบที่ชัดเจน ใจเย็น เพราะการปลูกผมต้องใช้เวลาเป็นปี ถ้าหมอกระวนกระวายไปพร้อมกับคนไข้ เช่นในช่วงที่ผมร่วง ก็จะยิ่งทำให้คนไข้กังวลไปใหญ่ แต่หมอมีความใจเย็น ทำให้คนไข้สบายใจตามไปด้วย”

แล้วผลลัพธ์ผมสวย ก็คืนความมั่นใจให้กับว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณหมอรินได้อีกครั้ง

“ตอนถ่ายพรีเวดดิ้ง ต้องรวบเอาผมหน้าม้าขึ้น ก็โอเคเลยค่ะ จริง ๆ เส้นผมมีความสำคัญ มันคืออวัยวะของเราเลยนะ พอเรามีความสวยงาม ก็มีความมั่นใจมากขึ้น แล้วภาพลักษณ์เราก็ดีขึ้น ถ้าเรามีความมั่นใจ เราก็ทำอะไรได้ดีขึ้นทุกอย่างค่ะ”

สุเมธ องอาจ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่
ขอยืนหนึ่งในวงการ ยืดอายุงานด้วยการปลูกผม

ทุกคนคงรู้จักคุณเมธ - สุเมธ องอาจ ในฐานะศิลปินและนักแสดงมากฝีมือ ภายใต้ลุคสบาย ๆ อบอุ่น และเป็นกันเอง ซึ่งก่อนหน้าที่คุณสุเมธจะตัดสินใจเข้ารับการปลูกผมกับคลินิกนามนินนั้น เจ้าตัวแทบไม่เคยใส่ใจในปัญหาเส้นผมของตัวเองเลย!!

“จริง ๆ ผมก็ไม่ค่อยสังเกตตัวเอง รู้ว่าคันหัวและผมร่วงเรื่อย ๆ แต่ผมเป็นคนไม่สนใจตัวเองเลย ด้วยความที่รู้สึกว่าผมก็ 50 แล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยก็เกษียณ และจะผันตัวไปทำเบื้องหลัง ก็เลยไม่สนใจดูแลอะไร”


และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณเมธเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเส้นผม และเลือกลุกขึ้นมาจัดการจบปัญหาผมในวัย 51 ปี

“ช่วงโควิด มีน้องมาถ่ายไลฟ์สด ซึ่งไม่มีการแต่งหน้าทำผมอะไรทั้งสิ้น ช่วงนั้นผมยาวขึ้นด้วย ก็เลยเห็นว่าตรงไหนมันหายไปเยอะ จะมีหน้าผากเข้าไปซ้ายขวา ลึกเข้าไปเป็นนิ้วเหมือนกัน และด้านหลังศีรษะที่เป็นขวัญ มันกว้างขึ้น น้องก็เลยทักว่า พี่เมธ ไม่ได้แล้ว เริ่มเข้าไปลึกแล้ว...”

คุณเมธเริ่มได้รับคำแนะนำจากคนรอบข้างหลาย ๆ คน จนเห็นว่า ยังมีหนทางยืดอายุการทำงานออกไปได้อีก ทุกวันนี้ ด้วยความสามารถในการสื่อสารอารมณ์การแสดง เราจึงเห็นคุณเมธในบทคุณพ่ออยู่บ่อย ๆ เรียกได้ว่าคิวงานชุกแทบจะทุกช่อง คุณเมธมองว่าหากจบปัญหาผมได้ ก็น่าจะยืนหนึ่งในวงการไปอีกนาน

“ในเมื่อทุกคนบอกว่า เฮ้ยพี่ พี่ยังได้อีกหลายปี เจอผู้หลักผู้ใหญ่ รุ่นพี่ เขาก็บอกถ้ายื้อได้ก็ยื้อไว้เถอะ ถ้าสามารถป้องกันหรือทำให้ดีกว่าเดิมได้ ก็ควรทำ ถ้าเส้นผมมันยังไปได้เรื่อย ๆ อายุงานก็จะยาวขึ้น น่าจะอยู่ได้อีกหลายสิบปี เลยรู้สึกว่า ถ้ามันมีผลดีกับงานก็น่าทำเพราะถ้าเถิกกว่านี้อาจต้องกลายเป็นบทตาบทปู่ในอนาคต ซึ่งโอกาสงานก็จะน้อยลง”


และคลินิกนามนินก็เป็นตัวเลือกที่คุณเมธเดินเข้ามาปรึกษา เนื่องจากเห็นตัวอย่างของรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการที่เข้ามารับการปลูกผมแล้ว ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ดูหนุ่มขึ้น (ทำเอาคุณสุเมธแอบกังวล เดี๋ยวจะโดนลดจากบทพ่อกลายเป็นบทพระเอก!!) ทั้งยังประทับใจในการรักษาของคุณหมอนินเป็นพิเศษ


"คุยกระบวนการรักษากับคุณหมอนินก็โอเค คุยถูกคอ คุณหมออธิบายการรักษาได้เข้าใจง่ายดี ผมก็ดูทั้งหมดว่ากระบวนการมันไม่ได้มีอะไรน่ากลัว ไม่มีอะไรตกค้าง หรือมีผลข้างเคียงอะไร”


คุณเมธย้อนเล่าประสบการณ์ในวันที่มาปลูกผมกับคุณหมอนินว่า เป็นการนอนรักษาในบรรยากาศสบาย ๆ หลังจากฉีดยาชาแล้วก็ไม่เจ็บเลย คุณหมอนินเป็นผู้ดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงที่ใช้เครื่องมือขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตรในการปลูกผมใหม่ทีละกราฟต์ลงในบริเวณที่เป็นปัญหา ซึ่งในวันนั้น คุณหมอให้เวลากับคุณเมธอย่างเต็มที่ ร่วม 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ที่สำคัญ ไม่ต้องพักฟื้นนานอย่างที่คิด


“ผมก็ทำงานต่อเลยนะ เว้นไปวันหนึ่ง ซึ่งต้องทำโน่นทำนี่ในบ้าน ไม่ได้นอนพักฟื้นเป็นผู้ป่วย เพียงแต่ต้องระวังหัวไม่ให้เสียดสีมาก จากนั้นอีกวันก็ไปทำงานเลย เพราะถ่ายละคร 2 เรื่องพร้อมกันพอดี”


สำหรับผลการรักษา คุณเมธเล่าว่าในบริเวณที่ปลูกใหม่ไม่ได้มีแผล ส่วนด้านหลังที่ดึงกราฟต์ผมออกไปเป็นแถบเล็ก ๆ สลับเว้นวรรคกัน ก็สามารถไว้ผมยาวปิดได้พอดี และวันนี้เส้นผมก็ขึ้นใหม่เกือบครบสมบูรณ์


“ตอนนี้ผมก็ขึ้นเต็มแล้วนะ มีแค่บางจุดที่หลุดไปนิดเดียว คิดว่าโอเคเลย คุณหมอก็บอกว่าผมที่ปลูกใหม่น่ะแข็งแรงแน่ เพราะเป็นผมที่มาจากท้ายทอยซึ่งแข็งแรงที่สุด แต่ผมเดิมก็ต้องคอยดูแลดี ๆ ด้วย”


เห็นอย่างนี้แล้ว ใครที่เป็นแฟนคลับหรือชื่นชอบผลงานของคุณเมธ ก็สบายใจได้เลยว่า จะได้เห็นคุณเมธอวดเส้นผมหนาแน่นสุขภาพดี และโชว์ฝีไม้ลายมือทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอยู่ในวงการนี้ต่อไปอีกนานแสนนานอย่างแน่นอน

“สำหรับผม เส้นผมจะช่วยให้อายุการทำงานนานขึ้น เรียกว่ามีงานทำไปได้โดยไม่ต้องมีวันเกษียณ ซึ่งเป็นงานที่เลี้ยงดูผมและครอบครัว ผมสามารถทำไปได้ถึงอายุ 70 80 ตัวผมแข็งแรงอยู่แล้ว แต่เส้นผมตัวเดียวเท่านั้นที่จะกำหนดให้เราแก่หรือหนุ่ม ดังนั้น ผมจริงมีไว้ดีที่สุดครับ”