SPOTLIGHT
ประสบการณ์จริงจากผู้ปลูกผม
Tag : ปลูกผม
ปลูกผม ปรับกรอบหน้า เติมเต็มความมั่นใจ
ปัญหาเรื่องผมเป็นเรื่องหนักใจของคุณหมิว พริธนิญา สริณศิญาพร มาตลอดตั้งแต่เด็ก ๆ คือ หน้าผากกว้าง เลยแก้ปัญหาโดยการไว้ผมหน้าม้าเพื่อปกปิด ทั้งที่จริงๆแล้วคุณหมิวอยากทำผมเปิดหน้า แต่มักจะโดนเพื่อน ๆ บูลลี่จนเสียความมั่นใจอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเมื่อเริ่มเข้าสู่งวงการความงาม ปัญหานี้ก็กลายเป็นข้อจำกัดในการทำงาน ต้องใช้เวลานานมากในการจัดแต่งทรงผม ช่างแต่งหน้าเองก็ต้องหาเทคนิคมาช่วยปกปิด จึงเป็นอุปสรรคในการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ



“การทำผมของเราแต่ละครั้ง เวลาเราจะรวบผมหรืออาจจะทำฟาร่า ทางช่างจะบ่นว่าหน้าผากลึกมาก เลยต้องใช้สีดำที่เป็นตัวปิดผม ปิดหัวเถิกมาปิด คนอื่นอาจจะทำผมชั่วโมงนึง แต่เราทำผมชั่วโมงครึ่งค่ะ ด้วยความที่ต้องไปประกวดบนเวทีใหญ่มิสแกรนด์ไทยแลนด์ เราก็อยากที่จะเตรียมความพร้อมในเรื่องใบหน้า ที่มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะต้องไปสู้กับเพื่อนๆ และปิดข้อบกพร่องค่ะ”

โดยพื้นฐานคุณหมิวเป็นผู้หญิงที่ทัศนคติดีและเชื่อมั่นในตนเองจึงหาข้อมูลเรื่องการปลูกผมและตัดสินใจว่าปัญหาที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ควรต้องปรึกษาแพทย์ที่มีความชำนาญมีประสบการณ์ ซึ่ง “นามนิน คลินิก” เป็นคำตอบที่คุณหมิวเลือกเนื่องมาจากที่นี่คุณหมอลงมือปลูกให้เองทุกกราฟต์ ครั้งแรกที่ได้พบคุณหมอนิน คุณหมอวิเคราะห์ปัญหา ออกแบบแนวทางการรักษา อธิบายรายละเอียดชัดเจนในทุกขั้นตอนยิ่งทำให้คุณหมิวตัดสินใจได้ในวันนั้นเลยว่า “ต้องปลูกผมกับคุณหมอนินเท่านั้น” และยังรู้สึกประทับใจในความใส่ใจและลงลึกทุกรายละเอียดของคุณหมอนินจริงๆ อีกด้วย




“ก่อนที่จะมาปรึกษารู้สึกอาจจะมีแอบกลัวนิดนึง แต่พอได้พูดคุยกับคุณหมอแล้วรู้สึกว่าอุ่นใจ รู้สึกว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด” ความประณีต ใส่ใจ และเข้าใจถึงความกังวลของผู้ที่มีปัญหาผมของคุณหมอนินเป็นสิ่งที่ทำให้คุณหมิวประทับใจในเบื้องต้น และเมื่อถึงวันที่เข้ารับการปลูกผมเทคนิค NEAT คุณหมิวก็ยิ่งได้สัมผัสกับความรู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีก คุณหมอนินออกแบบแนวผมใหม่ให้โดยคำนึงถึงความต้องการของคุณหมิวเป็นหลัก ผสานกับยึดหลักสัดส่วนทองคำ จึงได้เป็นแนวผมโค้งมนที่ช่วยเสริมให้รูปหน้าดูหวานละมุนยิ่งขึ้น ส่วนในขั้นตอนการปลูกผมที่คุณหมิวเคยเป็นกังวลก็แทนที่ด้วยความผ่อนคลาย สบายใจ บรรยากาศเป็นกันเอง ด้วยเทคนิคการนำผมด้านหลังออกแบบซ่อนแผลของคุณหมอนิน และปลูกผมด้วย Implanter ขนาดเล็กเพียง 0.60 มม. หลังการปลูกผมคุณหมิวบอกว่าไม่รู้สึกเจ็บ หรือมีอาการไม่บวมช้ำแต่อย่างใด

  “เทคนิค NEAT ค่ะ เทคนิคนี้มันจะพิเศษกว่าเทคนิคอื่นๆ เพราะว่าหลังปลูกเราสามารถใช้ชีวิตได้ปกติเลย คือวันนั้นน่ะค่ะ ที่หมิวได้รับการปลูกไป ทำงานได้ปกติ ไม่มีอาการบวมหรือช้ำให้เราเห็นเลย นี่มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากเลยนะคะ ความประทับใจในครั้งนี้ในการปลูกนะคะ คือคุณหมอลงมือปลูกผมด้วยตนเอง เราต้องใช้ความเชี่ยวชาญของคุณหมอปักตามทิศทางของผม เพื่อให้สวยธรรมชาติตามไรผมของเรา เพราะว่าแต่ละคนไรผมของเราจะไม่เหมือนกัน”



หลังปลูกยังสามารถไปไหนมาไหนได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องใส่หมวกคลุมที่คลินิกให้ไว้  และการดูแลหลังปลูกผมก็ใช้ผลิตภัณฑ์ของคลินิกที่สะดวกสบายมาก คุณหมิวบอกอีกว่าแค่เห็นแนวผมที่ปลูกใหม่ก็รู้เลยว่านี่คือกรอบหน้าที่เราต้องการ หลังปลูกผมคุณหมิวเข้าพบคุณหมอตามระยะที่กำหนด รับบริการฉายแสงและทรีทเม้นท์บำรุงเส้นผม



จากวันที่ปลูกผมจนถึงวันนี้ รวมระยะเวลามากกว่า  1 ปี ความประทับใจของคุณหมิวที่มีต่อ “นามนิน คลินิก” ไม่เคยลดลงเลยสักวัน จากความประทับใจเปลี่ยนเป็นความภูมิใจ ขยายขนาดขึ้นเป็นความสุข และความสุขก็สะท้อนออกมาเป็นความมั่นใจ คุณหมิวได้รับโอกาสใหม่ๆในการทำงาน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความมั่นใจที่ตัวเองไม่มีข้อจำกัดเรื่องหน้าผากกว้างที่ต้องกังวลอีกแล้ว จึงแสดงความสามารถแบบจัดเต็มในทุกโอกาสที่ได้รับ

“รู้สึกว่าสวยมาก เป็นธรรมชาติมาก ไม่ว่าจะทำผมทรงไหนนะคะ เส้นผมไม่ชี้กระจัดกระจายกันเลย เป็นเหมือนผมธรรมชาติตามไรผมของเราเลยค่ะ ก็ทักทุกคนเลยว่าหน้าหวานขึ้น กรอบหน้าชัดขึ้น สวยมากยิ่งขึ้น เราก็รู้สึกว่าประทับใจมากว่าสิ่งที่เราไปทำมามันสัมฤทธิ์ผลแล้ว” 




คุณหมิวฝากบอกทุกคนที่กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกันว่า “ใครที่พบเจอปัญหาแบบหมิว มาปลูกผมเถอะค่ะ ปัญหาง่ายๆที่เราสามารถแก้ปัญหาได้นะคะ” อย่ารอจนสายเกินไป การปลูกผมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่กลับมอบประสบการณ์และความรู้สึกดีๆให้อย่างที่ไม่คิดว่าจะได้รับมาก่อน โดยเฉพาะการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่คุณหมอนินใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์ในการทำงานทั้งหมด ออกแบบ NEAT เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้รับทั้งความสวยงามและความสะดวกสบาย “หลังปลูกผมกับนามนิน ชีวิตง่ายขึ้นมาก เป็นวันที่รอคอยจริงๆ” คุณหมิวคอนเฟิร์มด้วยตัวเองค่ะ    
เนย เนโกะจั๊มพ์ รับการปลูกผมเทคนิค NEAT

หญิง ฐิติกานต์ หลังปลูกผม กรอบหน้าชัด ได้สัดส่วน

ตัดสินใจพลาดครั้งแรก เกือบไม่มีผมมาปลูกแก้รอบ 2

ปลดล็อกวัย Midlife คืนความมั่นใจ แค่ “ปลูกผม”
เมื่อภาวะผมบาง กลายเป็นภัยความมั่น (ใจ) ในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัย Midlife หรือวัยกลางคน ซึ่งเป็นวัยที่ต้องการความน่าเชื่อถือในหน้าที่การงาน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นวัยที่สุขภาพผมเริ่มอ่อนแอลงจากเมื่อตอนหนุ่มสาว จนอาการผมร่วง ผมบาง อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ และกระทบไปถึงความมั่นใจของเจ้าของเส้นผม

“เวลาเราทำงาน เช่นการไปพูดต่อหน้าคนมาก ๆ ถ้าเราไม่มีความมั่นใจ ก็ทำให้เราทำงานออกมาไม่ดี เราจะเป็นกังวล สมาธิไม่ได้อยู่กับงาน แต่จะไปโฟกัสเรื่องผมแทน บางคนก็ทักว่าช่วงนี้ป่วยหรือเปล่า ทำไมผมดูบางลง มันก็เสียเซลฟ์อยู่นะ หรือบางทีรู้สึกว่าผมบางทำให้ดูแก่เร็ว เราก็เลยเสียความมั่นใจ”

คุณนิรุส มหิพันธุ์ วัย 43 ปี ย้อนเล่าให้ฟังถึงความกังวลที่เป็นผลจากภาวะผมบางโดยกรรมพันธุ์ ซึ่งเริ่มเห็นชัดขึ้นตั้งแต่ช่วงอายุ 30 ปลาย ๆ ทั้งด้านหน้า ตรงกลางศีรษะ ต่อเนื่องไปถึงบริเวณขวัญ และด้วยบทบาทเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข ซึ่งคุณนิรุสต้องทำงานพบปะกับผู้คนมากมายเป็นประจำ ก็เริ่มทำให้เจ้าตัวมองหาทางออกในการรักษาที่ดีกว่าการรับประทานยาอย่างที่เคยลองมาหลายปี

“เมื่อก่อนเวลาส่องกระจกแอบเครียด ภรรยาเห็นก็สงสาร ไม่อยากให้ต้องมาคอยคิดเล็กคิดน้อย ทำให้เครียด สุขภาพร่างกายอื่น ๆ ก็แย่ตามไปด้วย อีกอย่างหนึ่ง เวลาเรานั่งอยู่กับพ่อซึ่งผมล้าน เราก็ดูแล้วคิดว่า เฮ้ย อนาคตเราจะเป็นแบบนี้เหรอ ก็เลยเริ่มหาข้อมูลการปลูกผม”


ด้วยความที่มีพื้นความรู้เรื่องสุขภาพและการแพทย์ คุณนิรุสจึงศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดีเพื่อตัดสินใจเลือกคลินิกปลูกผมที่ตอบโจทย์และเชื่อถือได้ ก่อนจะลองเข้ามาปรึกษากับ นามนิน เพราะประทับใจในเทคนิคการปลูกผมของคุณหมอนินซึ่งเป็นเทคนิคที่พัฒนาต่อยอดเอง เมื่อปลูกเสร็จสามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้โดยไม่ต้องพักฟื้นนาน ทั้งยังให้ผลลัพธ์การขึ้นใหม่ของผมที่น่าพอใจ

“ครั้งแรกที่คุย คุณหมอบอกว่าในการรักษา คุณหมอจะไม่ได้เป็นฝ่ายรักษาอย่างเดียว คนไข้ต้องให้ความร่วมมือด้วย ผลลัพธ์ถึงจะออกมาดี ซึ่งผลลัพธ์ก็จะขึ้นกับแต่ละบุคคล เพราะแต่ละคนมีผมต้นทุนที่ไม่เหมือนกัน... 

...คุณหมอก็ดูว่าเรามีผมต้นทุนด้านหลังค่อนข้างโอเค แต่พื้นที่ที่ผมบางมันเยอะพอสมควร ต้องปลูก 3,000 กราฟต์ขึ้นไปนะ ถึงจะดูแน่น แล้วบางคนที่ผมเห็นเขาเคยปลูกก่อนหน้านี้ จะมีปัญหาเรื่องทิศทางผมที่ชี้โด่ชี้เด่ แต่คุณหมอจะพิถีพิถันในเรื่องนี้มาก ก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ”

ในวันปลูกผม คุณหมอนินเริ่มต้นด้วยการวาดแนว Hairline เพื่อปรับกรอบหน้า พร้อมกับอธิบายขั้นตอนการปลูกให้คุณนิรุสเห็นภาพชัดขึ้น จากนั้นจึงลงมือปลูกผมให้ด้วยตัวเอง ซึ่งต้องอาศัยความละเอียดประณีตแบบสุด ๆ

“เวลาคนอื่นมาถามเรา ก็จะบอกว่ามันไม่เจ็บเลยจริง ๆ วันนั้นทุกอย่างโอเคหมด ทีมงานดูแลดี คุณหมออยู่ด้วยและปลูกให้เองทุกกราฟต์ ทำให้ยิ่งมั่นใจมากขึ้น เราจะได้ยินคุณหมอบอกว่าตรงนี้ใช้กราฟต์แบบไหน 1 เส้น 2 เส้น หรือ 3 เส้น แนวผมข้างหน้าก็จะใช้กราฟต์เดี่ยว 1 เส้น เราก็นึกภาพตาม ปลูกไปชวนพูดคุยไป เราเลยผ่อนคลายไม่ได้เป็นกังวล”


หลังปลูกผม คุณหมอนินได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ไม่ว่าจะเป็นตอนใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ไปจนถึงตอนนอนหลับพักผ่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนกราฟต์ผมที่เพิ่งปลูกใหม่โดยเฉพาะในช่วง 7 วันแรก ที่สำคัญ คุณนิรุสยังได้ลองสัมผัสประสบการณ์ ปลูกผมไม่ต้องพักฟื้นนาน ซึ่งคุณหมอนินตั้งใจออกแบบการรักษาและการให้บริการเพื่อความสะดวกสบายของคนไข้

“วันรุ่งขึ้นไปหาคุณหมอ สระผมเสร็จปุ๊บ บ่ายผมก็ขับรถ (จากคลินิกนามนินที่มหาสารคาม) กลับมาขอนแก่น แล้วก็แวะซื้อของต่อ แค่ใส่ผ้าคลุมผมแค่นั้น กลับบ้านไปก็ใช้ชีวิตปกติ วันต่อมาผมมาทำงานต่อได้เลย ไม่ต้องพักฟื้นเลย”

คุณนิรุสเข้ารับการปลูกผมกับนามนินตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ซึ่งคุณหมอนินก็ดูแลติดตามผลหลังปลูกอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้คำปรึกษาตลอดเวลาทั้งที่คลินิกและแบบออนไลน์ สำหรับผลลัพธ์ผมใหม่ที่ได้ ก็ช่วยเสริมบุคลิกและภาพลักษณ์ ทำใหคุณนิรุสดูหนุ่มขึ้นและสมาร์ทขึ้น โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลงบริเวณผมด้านหน้าที่คุณนิรุสขอให้คุณหมอช่วยเน้นให้ดูหนาแน่นเป็นพิเศษ

“คุณหมอถามแต่แรกแล้วว่าเป็นกังวลส่วนไหน ซึ่งเรา request คุณหมอว่าขอเน้นด้านหน้า คุณหมอก็ให้ความสำคัญกับการปลูกผมให้ตอบโจทย์คนไข้มากที่สุด และคอยแนะนำเพิ่มเพื่อเติมเต็มตรงส่วนอื่น ดังนั้น คุณหมอจะเน้นปลูกผมตรงด้านหน้าและกลางศีรษะให้ ส่วนบริเวณขวัญอาจจะไม่หนาแน่นเท่า แต่เสริมพอให้ดูแล้วโอเค ไม่บาง และใช้วิธีรับประทานยาช่วยให้ผมหนาขึ้น ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ครับ ผมดูหนาขึ้น ดูแน่นขึ้น เป็นที่น่าพอใจครับ”



การตัดสินใจปลูกผมในวันนั้น จึงช่วยเปลี่ยนคุณนิรุสเป็นคนใหม่ จบปัญหาผมกวนใจ ปลดล็อกชีวิตให้ง่ายและสบายขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ผมใหม่ ยังมาพร้อมกับความมั่นใจที่กลับคืนมาเต็มร้อย ตามมาด้วยความสุขที่คนรอบข้างยังสัมผัสได้

“ตอนนี้มั่นใจขึ้นมากครับ แต่ก่อนเราแทบไม่อยากโดนฝนโดนน้ำ เพราะเราเซ็ตผมปกปิดไว้ แต่สงกรานต์ที่ผ่านมา เล่นน้ำได้เต็มที่เลย ความมั่นใจมันกลับมามาก เวลาทำงานก็ตัดความกังวลเรื่องผมออกไปได้เลย แล้วกลับมาโฟกัสกับงานที่เราทำอยู่ ทำให้งานออกมาดี ภรรยากับลูกเขาเห็นเราแฮปปี้ เขาก็แฮปปี้ด้วย...

..เมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป ผมถือว่าเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบรับดีอย่างที่ตั้งใจไว้ ถือว่าคุ้มค่าครับ”



สำหรับใครที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน คุณนิรุสยังฝากไว้ว่า การปลูกผมเป็นเรื่องที่ควรรีบตัดสินใจ เพราะหากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไป จนผมต้นทุนด้านหลังเหลือน้อยลง หรือสุขภาพผมแย่ลงตามวัย อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ผมหนาแน่นอย่างที่ต้องการก็เป็นได้

“ยิ่งเวลาผ่านไปนาน ๆ เซลล์ต่าง ๆ อาจจะเสื่อมได้ แต่ถ้ารีบทำตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งคุณภาพผมต้นทุนที่จะนำมาปลูกยังดี อายุของเซลล์ยังไม่มาก โอกาสที่กราฟต์ผมจะติด และประสบความสำเร็จในการปลูกผมก็มีสูง ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้เราเติมเต็มผมให้แน่นขึ้นได้”

และขอทิ้งท้ายด้วยความประทับใจที่คุณนิรุสได้รับจากการปลูกผมกับนามนิน ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยไหน หรือเพศใด ก็เข้ามาลองสัมผัสประสบการณ์ปลูกผมแบบนี้ได้เช่นกัน

“คุณหมอนินมีครบทุกอย่าง ทั้งเทคนิค ความเชี่ยวชาญ เครื่องไม้เครื่องมือทันสมัย เชื่อถือได้ คุณหมอยังมีความเป็นกันเอง อธิบายได้ละเอียดเข้าใจง่าย นอกจากนั้น การให้บริการ การวางแผนการรักษา หรือการดูแลหลังการปลูก ก็เป็นไปด้วยดี ถ้ามีปัญหาจุดไหนก็ถามได้ตรง ๆ ถามได้ตลอด รวมถึงน้อง ๆ เจ้าหน้าที่ทุกคนก็โอเค โดยรวมก็ประทับใจ นี่ก็เป็นเหตุผลที่น่าจะเพียงพอแล้วให้ตัดสินใจเลือกปลูกผมกับอาจารย์หมอนินครับ”

ปลูกผม + ฉีดบำรุง สองพลังฟื้นผมวัย 60+
แม้จะเกษียณตัวเองจากงานประจำอันแสนวุ่นวายไปแล้ว แต่คุณธนาวุฒิ กองทรัพย์สกุล วัย 62 ปี ซึ่งผันตัวมาประกอบธุรกิจส่วนตัว กลับไม่ได้มองว่า ...ไม่ได้ทำงานแล้ว จะปลูกผมใหม่ไปทำไม... อย่างเช่นที่หลาย ๆ คนคิด ตรงกันข้าม คุณธนาวุฒิไม่ทิ้งความตั้งใจแต่เดิมว่า ...ถ้ามีโอกาส อยากจะลองปลูกผมให้ได้... และนั่นก็เป็นที่มาของการปลูกผมใหม่ เพื่อเปลี่ยนคนใหม่ และคืนความมั่นใจให้ตัวเองได้อีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ คุณธนาวุฒิแทบไม่สังเกตเลยว่า ผมค่อย ๆ ร่วงและบางลง ๆ จนกระทั่งอยู่ในวัยใกล้เกษียณ 

“เมื่อก่อนเราเคยผมเยอะ ตอนเรียนก็ไว้ผมยาว พออายุเยอะเลยเริ่มบาง แต่ตอนทำงาน ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเท่าไหร่ ต้องตื่นเช้ากลับมืด พอรู้ตัวว่าใกล้เกษียณ มาดูอีกที ผมมันก็ร่วงไปเยอะ แล้วเราไม่ได้ไปดูแลรักษา ไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจัง”

และปัญหาผมที่คุณธนาวุฒิเป็นกังวล ก็ไม่ได้มีเพียงจุดเดียว แต่เป็นสองจุดพร้อม ๆ กัน คือทั้งด้านหน้าบริเวณแนวผมเหนือหน้าผาก และบริเวณกลางศีรษะ 


“ปัญหาจริง ๆ คือตรงกลางศีรษะมันบาง และด้านหน้ามันจะร่นสูงขึ้นไป ไม่ได้เป็นตัว M แต่เป็นแนวตรง ๆ เมื่อก่อนเป็นคนหน้าผากกว้างอยู่แล้ว พอผมเริ่มบาง เลยเหมือนขึ้นไปเยอะ
ที่ผมสนใจคือด้านหน้า เพราะถ่ายรูปแล้วดูไม่สวย ดูไม่เหมือนเดิม บางทีผมไปต่างประเทศ เวลาถ่ายรูปกลับมา ก็ต้องหาหมวกมาใส่ มันก็ลำบาก ความมั่นใจมันลดลง”

นั่นทำให้คุณธนาวุฒิเริ่มศึกษาและหาข้อมูลเรื่องการปลูกผม และตัดสินใจเลือกจบปัญหาผมที่ “นามนิน” ในที่สุด

“ผมคิดมาตั้งแต่ก่อนจะเกษียณ เป็นความตั้งใจอยู่แล้ว ติดตามคุณหมอนินมาตั้งแต่ยังอยู่ที่เก่า ประทับใจที่นี่จากที่เห็นในสื่อว่าเป็นการปลูกผมที่แผลเล็ก ทำงานได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น ที่สำคัญ คุณหมอนินเป็นอาจารย์หมอ เปิดคอร์สสอนหมอปลูกผมด้วย ก็เลยเลือกที่นี่ เพราะผมว่ามันคุ้มกว่า แทนที่จะไปเสี่ยงกับที่อื่น”

ในวันแรกที่เข้ามาปรึกษากับคุณหมอนิน คุณหมอได้ลองวิเคราะห์ปัญหา ประเมินกราฟต์ผมต้นทุน รวมถึงแนะนำแนวทางการรักษา และแนะนำการปลูกผมเทคนิค NEAT พร้อมเปิดโอกาสให้คุณธนาวุฒิได้สะท้อนความต้องการของตัวเองอย่างเต็มที่



“ผมบอกคุณหมอว่าอยากเน้นผมด้านหน้า ก็วาดรูปให้คุณหมอดู อยากได้แบบนี้ ซึ่งคุณหมอก็แนะนำว่าถ้า Hairline หรือแนวผมใหม่ลงมาต่ำมากเกินไป จะไปติดกับกล้ามเนื้อ เวลาเลิกคิ้วหรือขยับใบหน้าจะไม่เป็นธรรมชาติ ผมก็เลยเอาตามที่คุณหมอเห็นว่าดีที่สุด ก็ตัดสินใจจะทำตั้งแต่วันนั้นเลย”

คุณหมอนินจึงออกแบบแนวทางการรักษาร่วมกันกับคนไข้ ด้วยการปลูกผมใหม่บริเวณแนวผมด้านหน้า และเสริมด้วยทรีทเม้นท์ Hair Growth Treatment พร้อมกับการใช้เซรั่มบำรุงเส้นผม ELIXIR HAIR SERUM BY NEAT HAIRNUE ควบคู่กับการทานวิตามิน VITA H และยารักษาภาวะผมบางจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย เพื่อแก้ปัญหาผมบางบริเวณกลางศีรษะ ๆ เรียกได้ว่าเป็นการรวมพลังเพื่อตอบโจทย์การดูแลผมได้อย่างตรงจุด

“วันปลูกผม ผมไม่กลัวเลย เพราะผมศึกษามาค่อนข้างเยอะ ก็นอนให้ทำแบบชิล ๆ เลย ตอนถอนตอนปลูกไม่เจ็บอะไรเลย คุณหมอนินปลูกให้เองทุกกราฟต์ ก็ดีครับ ทำด้วยมือคุณหมอดีกว่า น่าจะชัวร์กว่า มั่นใจกว่า ซึ่งพอทำเสร็จ ด้วยอุปกรณ์ implanter ขนาดเล็ก แผลมันก็จะเล็กมากจริง ๆ”

เมื่อปลูกผมเสร็จ คุณธนาวุฒิยังสามารถขับรถกลับบ้านพร้อมครอบครัวได้ทันที ไม่มีอาการมึนหัวหรือช้ำบวม เพียงใส่หมวกคลุมผม ใช้หมอนรองคอเพื่อนอนหัวสูง และคอยระวังไม่ให้กราฟต์ผมหลุดตามที่คุณหมอแนะนำเท่านั้น 





หลังจากคุณธนาวุฒิเข้ารับการปลูกผมเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ทางนามนินก็ดูแลติดตามผลอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด พร้อมบริการ Treatment และชุดผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลตัวเองอย่างง่าย ๆ ที่บ้าน รวมถึงวิตามิน VITA H และยาบำรุงต่าง ๆ ด้วย ซึ่งผลลัพธ์ของการปลูกผม + ฉีด Hair Growth Treatment  เพื่อคืนผมหนาแน่นแบบคูณสอง ก็ประสบความสำเร็จอย่างที่คาด 

“ผมพอใจเลย จากที่ไปหาคุณหมอล่าสุดเมื่อตอนครบแปดเดือน คุณหมอบอกว่ามันยังขึ้นได้อีกนะ ใช้เวลาหนึ่งปีครึ่ง ที่เราปลูกไว้จึงจะสมบูรณ์จริง ๆ ด้านหน้าก็หนาแน่นขึ้นเยอะเลย ส่วนตรงกลางศีรษะ คุณหมอบอกว่าที่มันบาง ๆ ก็ไม่บางแล้ว ผลลัพธ์ดี ผมใหม่ขึ้นเยอะ นัดตรวจดูทุกครั้งก็ดีขึ้นทุกครั้ง”

และผมใหม่ก็คืนกลับมาพร้อมกับความมั่นใจและการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องคอยกังวลเรื่องปัญหาผมอีกต่อไป

“เรื่องบุคลิกภาพ ช่วยแน่นอนครับ รูปหน้าก็เปลี่ยน ดูหนุ่มขึ้นระดับหนึ่ง เมื่อก่อนตอนผมน้อยต้องส่องกระจกบ่อย ๆ คอยดูว่าผมเป็นยังไง แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว การเซ็ตผมก็ง่าย ไม่ต้องไปทำอะไร ออกจากบ้านได้เลย ถ่ายรูปก็มั่นใจขึ้น”

คุณธนาวุฒิยังอุ่นใจที่คุณหมอนินช่วยตรวจเช็คให้ว่า ผมต้นทุนด้านหลังยังมีเหลืออยู่เยอะพอควร หากวันหน้าผมตรงจุดอื่นบางลง ก็ยังสามารถกลับมาปลูกซ้ำได้อีกครั้ง แต่สำหรับผลลัพธ์ในวันนี้ เรียกได้ว่าพอใจที่สุดแล้ว

“ผมว่าน้อยนะคนที่เกษียณแล้วไปทำ แต่ความตั้งใจก่อนหน้านั้นผมมีอยู่แล้ว 
ผมคิดมาตั้งนานแล้ว ว่าผมอยากจะทำ ลูกสาวก็พูด คุณพ่อดูดีนะ คิดถูกแล้วที่ทำ 

...ผมไม่เคยเสียใจเลยเรื่องปลูกผม ตัดสินใจถูกครับ...”

ปลดล็อกความกังวลใจ ปลูกผมใหม่ ไม่ต้องผ่าตัด
วิธีการปลูกผมในอดีต อาจจะทิ้งภาพจำที่ชวนให้ไม่สบายใจเท่าไรนัก จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้มีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยเฉพาะในวัย 50 ปีขึ้นไป เกิดความรู้สึก กลัว ที่จะเปิดใจทำความรู้จักกับการปลูกผม หรือยัง ลังเล ว่าจะปลูกผมดีหรือไม่ ทั้งที่เทคนิคการปลูกผมในปัจจุบันนี้ พัฒนาไปไกลจนสะดวกสบายกับคนไข้แบบสุด ๆ

วันนี้ มาฟังประสบการณ์ปลดล็อกตนเองเพื่อก้าวข้ามความกังวลเรื่องการปลูกผม ของคุณธีรพันธ์ เหมวัฒนชัย อดีตนักการตลาดที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจในวัย 63 ปี ซึ่งเข้ารับการปลูกผมกับนามนินเมื่อปี 2565 และกลายเป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนคุณธีรพันธ์เป็นคนใหม่ อย่างที่เจ้าตัวบอกกับเราว่า “ถ้ารู้เร็วกว่านี้ ทำไปนานแล้ว”

ก่อนหน้านี้ คุณธีรพันธ์เริ่มมีอาการผมร่วงมากขึ้นเรื่อย ๆ และในวัย 50 ปลาย ๆ ปัญหาผมก็ขยายพื้นที่กว้างขึ้น ตั้งแต่ขวัญด้านหลัง กลางศีรษะ มาจนถึงแนวผมบริเวณหน้าผากที่เว้าลึกเข้ามาเป็นรูปตัว M ต่อเนื่องกันทั้ง 3 พื้นที่

“ของผม 3 พื้นที่จะเป็นสนามบินไปแล้ว โล่ง บาง เพื่อนรุ่นเดียวกันไม่ได้บางเท่าเรา สภาพผมเราไปเร็วกว่าเพื่อน เราเป็นผู้นำมากเลยในแง่ความชรา เลยรู้สึกแก่เร็ว ถ้าเป็นเรื่องผม เราด้อยกว่าเขา ก็เริ่มรู้สึกเสียเซลฟ์ไปเรื่อย ๆ”




แต่หากพูดถึงทางเลือกการปลูกผมในตอนนั้น คุณธีรพันธ์ขอ say no เพราะยังเข้าใจว่าต้องใช้วิธีการผ่าตัดเป็นหลัก

“ถ้าผ่า ไม่ทำ ไม่ใช่แนวเรา ซึ่งเพื่อนหลายคนก็คิดแบบนี้ อาจเป็นด้วยความคิด generation เรา ให้ไปศัลย์ ไม่มีใครเอา บางคนก็จะรู้ว่าวิธีเก่า ๆ ต้องผ่าตัด ต้องกรีด เราก็ no no no ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ไม่ทำ”

เพิ่งไม่นานมานี้เอง ที่คุณธีรพันธ์ได้ปลดล็อกความกังวลขั้นแรก เมื่อลองค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และพบว่าเทคโนโลยีการปลูกผมสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปมาก ไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไป

“เริ่มศึกษา ดู YouTube เรื่องการปลูกผม เจอว่าเทคโนโลยีปัจจุบันมันพัฒนาไปไกลแล้ว ย้ายผมของเราเองจากข้างหลังมาข้างหน้า ไม่ได้ไปเอาผมสังเคราะห์ที่ไหนมา ดูแล้วรู้สึกว่าเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ได้ผ่าตัด เอามีดกรีด ก็เลยสนใจมาก”

แต่ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเพิ่มความมั่นใจให้คุณธีรพันธ์กล้าตัดสินใจปลูกผม อีกทั้งเพื่อนรอบข้างก็ยังไม่เคยมีใครผ่านประสบการณ์ปลูกผมและสามารถให้คำแนะนำได้ คุณธีรพันธ์จึงลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอที่นามนิน และนั่นเป็นจุดสำคัญที่ช่วยปลดล็อกความกังวลในขั้นที่สองได้เป็นอย่างดี

“เวลาเราไม่มีข้อมูลมากพอ ไม่เข้าใจมากพอ เราจึงกลัวนั่น กังวลนี่ แต่พอได้ข้อมูลชัดเจนขึ้น ก็ go ahead เลย ทำเลย”

การได้คุยกับคุณหมอนิน จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณธีรพันธ์ตัดสินใจปลูกผมได้อย่างไม่ลังเล

“คุณหมอนินพูดชัดเจน พูดเข้าใจง่าย ซึ่งเราดู YouTube บางคนพูดแล้วเราฟังไม่ค่อยเข้าใจ พูดเป็นวิชาการ เป็นภาษาหมอ แต่เราชาวบ้านไม่ได้จบหมอ ก็เอ๋อเลยเพราะไม่รู้เรื่อง ก็อาจจะตัดสินใจยาก ทำให้ไม่อยากลอง ไม่อยากทำ 

แต่คุณหมอนินอธิบายดี ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ซึ่งผมว่ามีผลนะ พอครั้งแรกที่ปรึกษา เราแฮปปี้ เรียกว่าสื่อสารกับลูกค้าได้ดี เล่าด้วยเหตุและผล เลยทำให้เราเปิดใจ พอเข้าใจตรงกันหมด เราพอใจ เราตัดสินใจได้ง่าย ก็นัดวันทำ”


เส้นทางการดูแลแก้ปัญหาผมร่วมกันระหว่างคุณหมอกับคนไข้ จึงเริ่มต้นขึ้น ด้วยการประเมินความเป็นไปได้ในการใช้กราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอย มาปลูกใหม่ในพื้นที่ที่เป็นปัญหา

“คุณหมอนินจะวิเคราะห์ว่า (กราฟต์ผมด้านหลัง) จะพอมั้ยสำหรับ 3 พื้นที่ที่เราต้องการปลูก และบอกว่า ของจริงอาจจะได้มากกว่าหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับกราฟต์ผมที่เอาออกมาแล้ว ว่าจะมีผม 1, 2, 3 เส้น หรือเท่าไหร่ ก็ถือว่าชัดเจน เขาไม่ได้ให้เราฝันลม ๆ แล้ง ๆ คุณหมอก็พูดจริงใจ ว่าต้องรอดูคุณภาพกราฟต์ผมในวันปลูกจริง”

สำหรับเคสของคุณธีรพันธ์ คุณหมอนินช่วยออกแบบกรอบหน้าใหม่ตามบุคลิกและสัดส่วนรูปหน้า รวมถึงใช้เทคนิคปลูกผมแทรก ซึ่งต้องอาศัยความใส่ใจของคุณหมอในการปักกราฟต์ผมใหม่ด้วยตัวเองทุกกราฟต์ เพื่อให้เส้นผมเรียงตัวในทิศทางที่กลมกลืนแนบเนียนไปกับเส้นผมเดิม

“คุณหมออธิบายว่า ปลูกผมให้ดูธรรมชาติที่สุด ไม่ใช่สักแต่ว่าปักเข้าไป ซึ่งเราก็ชอบความละเอียดของคุณหมอ ถ้าถามว่าเจ็บมั้ย ผมว่าคล้าย ๆ เวลาเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว แต่จิ๊บจ๊อยกว่าด้วยซ้ำ ตรงนี้เราก็แฮปปี้ ตลอดหลายชั่วโมงที่ทำวันนั้น”

และผลลัพธ์หลังจากผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งปีครึ่ง ก็เป็นไปตามที่คุณธีรพันธ์คาดหวังไว้ ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการออกไปพบปะกับผู้คนได้อย่างไร้กังวล






“คุ้มครับ ทุกคนก็ทึ่ง ชมว่าดูดี อย่างที่บอกเวลาเราเจอใครหรือเราส่องกระจก จุดแรกที่จะมองเห็นคือด้านหน้า ซึ่งหัวไม่เถิกแล้ว ไม่เว้าตัว M แล้ว อันนี้ดีมาก แฮปปี้มาก ส่วนข้างบน อาจจะไม่ได้ดกแบบหนุ่ม ๆ ขนาดนั้น แต่ดีขึ้นแน่นอน ดูธรรมชาติ ไม่ได้ดูโล่งเตียนแบบก่อนหน้า ยิ่งรูปหน้าเปลี่ยน เราก็ดูอายุน้อยลง ดูดีขึ้น

พอไปประชันกับก๊วนเดิม กลายเป็นเราดูหนุ่มกว่า เวลาเพื่อนนัดมา รีบรับนัดเลย ไม่ลังเลเลยว่าจะมีเวลาฉีดสเปรย์ดำ จะหวียังไง จะมูส จะเจล ตอนนี้ไม่กังวล แค่ว่าจะเอาหล่อแค่ไหนตอนออกไปเจอเพื่อน ๆ แค่นั้น (หัวเราะ)”

คุณธีรพันธ์ยังคงดูแลบำรุงผมอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของคุณหมอนิน และยังเข้ามารับบริการ Treatment จากนามนินเป็นประจำ ขณะเดียวกันก็นำประสบการณ์และความประทับใจไปบอกต่อกับเพื่อน ๆ 

“เพื่อน ๆ ก็สนใจกันใหญ่ เราก็จะบอกว่ารีบไปคุย รีบตัดสินใจ จะได้ไม่ต้องสามพื้นที่แบบผม ใครที่สนใจแต่ไม่กล้า เข้าไปคุยเถอะ เขาไม่คิดเงิน ไม่เสียอะไร ไปปรึกษา ได้ความรู้ ได้ข้อมูลมากขึ้น ...แล้วคุณก็อาจจะกล้าเหมือนตัวผม..”


...มาปลดล็อกความกลัว แล้วลองทำความรู้จักการปลูกผมเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทั้งสะดวกสบายและปลอดภัย
เพื่อให้คุณเติมเต็มความมั่นใจ และเปิดตัวเองไปสู่อิสระในการใช้ชีวิตได้อีกครั้ง...

ปลูกผมเทคนิคล้ำ ไม่บวมช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น
เชื่อว่าเหตุผลที่หลาย ๆ คนยังไม่กล้าตัดสินใจปลูกผม ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะภาพจำเดิม ๆ โดยเฉพาะช่วงการพักฟื้นหลังปลูก ที่ต้องใช้เวลาเก็บตัวรักษาแผลและอาการบวมช้ำอยู่นานหลายสัปดาห์ เช่นเดียวกับคุณประเสริฐ บุญลีระวัฒน์ อายุ 56 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบาง มาตั้งแต่ก่อนวัย 30 แต่ก็พยายามลองรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ โดยหลีกเลี่ยงการปลูกผมมาตลอด เพราะประสบการณ์ตรงจากคนใกล้ตัวในครอบครัว

“ผมมีพี่น้องซึ่งปลูกผมกันทุกคน เมื่อก่อนฝังใจเพราะเคยเห็นพี่ชายปลูกผมตั้งแต่ตอนอายุ 30-40 กลับมา หน้าตาบวมเป่งเลย แผลมันใหญ่ พักฟื้นเป็นเดือน ช่วงแรกออกไปไหนไม่ได้เลย แม้แต่น้องชาย ปลูกเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็เก็บตัวอยู่ที่บ้านเป็นอาทิตย์ เพราะน่าจะบวมเยอะ เห็นแล้วกลัว เราเลยไม่กล้าปลูก เราต้องทำงานด้วย หยุดนานขนาดนั้นไม่ได้”






สำหรับปัญหาผมของคุณประเสริฐนั้น จุดหลักจะอยู่ที่บริเวณหน้าผาก ที่เว้าเข้าไปสองข้างเป็นรูปตัว M และภายหลังยังมีอาการผมบางเป็นวงจากตรงกลางศีรษะร่วมด้วย ซึ่งแม้ว่าบทบาทวิศวกรที่เป็นอยู่ จะไม่ต้องพบปะผู้คนมากนัก แต่ก็ทำเอาคุณประเสริฐเสียความมั่นใจไปไม่น้อยเหมือนกัน

“เวลาประชุม executive หรือบางทีมีลูกค้ามาโรงงาน ถ้าเราดูไม่ค่อยดี ความมั่นใจก็น้อยลง เพราะฉะนั้น เราจึงอยากให้ตัวเองดูดีขึ้นอีกหน่อย ตอนหลัง พอมาเจอข้อมูลใน YouTube ว่าเดี๋ยวนี้ปลูกผมแล้วไม่ได้บวมมาก แผลไม่ใหญ่ ดูไม่น่าเกลียด พักฟื้นก็น้อย ไปออกงานเลยก็ยังได้ เลยเริ่มสนใจ”

คุณประเสริฐจึงเริ่มศึกษาทำความรู้จักการปลูกผมเทคนิคใหม่ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุด ก็เลือกให้ “คุณหมอนิน” เป็นผู้จบปัญหาเส้นผมที่พยายามหาทางออกมานานด้วยการปลูกผมเทคนิค NEAT

“เราดูคุณหมอนิน เวลาปลูก แผลเนียนกว่า สามารถออกไปไหน ๆ ได้เลย และทรงผมด้านหลังคือไม่ต้องตัดหรือโกนผม พอมาปรึกษาคุณหมอครั้งแรก คุณหมอก็ออกแบบวิธีการปลูกให้ คุณหมอจะอธิบายตรงจุด ซึ่งผมก็บอกว่าอายุเยอะแล้ว เอาแค่ดูดี ไม่จำเป็นต้องเต็มแน่นเหมือนวัยรุ่น คุณหมอเลยคำนวณให้เป็น 2,100 กราฟต์ เราก็โอเค”

ในวันทำหัตถการปลูกผม หลังจากคุณหมอนินวาด hairline หรือแนวผมใหม่ให้แล้ว ก็เริ่มลงมือเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย นำกราฟต์ผมมาคัดแยก และลงมือปักกราฟต์ผมด้วยตัวคุณหมอเอง

“ตอนปลูกไม่เจ็บ ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากเท่าไหร่ ซึ่งคุณหมอก็ปลูกผมเองทั้งหมดเลย ลงมือเองทุกอย่าง ทำให้เรามั่นใจในทุกขั้นตอน และคลินิกก็ดูค่อนข้างได้มาตรฐานทุกอย่าง ตั้งแต่ทีมแพทย์ ไปจนถึงเครื่องมือที่ดูสะอาด คนไปทำก็มั่นใจ”



คุณหมอนินและคุณประเสริฐเลือกปลูกผมเพื่อเติมเต็มความหนาแน่นบริเวณด้านหน้าเป็นหลัก ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นงานละเอียดที่ต้องอาศัยฝีมือและความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก

“คุณหมอก็อธิบายเหมือนกันว่า ต้องปลูกให้ได้ทิศทางตามแนวผม ถ้าจะให้เนียน ต้องคัดแยกและเลือกผมมาปลูก ไรผมแถวหน้าจะเป็นผมเส้นเล็ก แบบ 1 เส้นต่อกราฟต์ แถวหลังต่อ ๆ มา จะใช้ 2-3 เส้นต่อกราฟต์ ”

แล้วคุณประเสริฐก็ได้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า การปลูกผมด้วยเทคนิคที่ล้ำหน้าขึ้นในปัจจุบัน สามารถลบภาพจำน่ากลัวของการปลูกผมในอดีตได้อย่างสิ้นเชิง

“หลังจากปลูก รู้สึกว่าแผลมันเล็กกว่าที่เราคิดไว้ ที่เราเคยเห็นคือแผลใหญ่ ปูดขึ้นมา แล้วต้องโกนผมหมดเลยด้วย แต่ของเราด้านหน้าจะเป็นตุ่มแดง ๆ นิดเดียว ไม่สังเกตก็ไม่เห็น คือ implanter มันเล็กลงมากถึงขนาดปลูกผมแล้วไม่มีรอยแผลได้ขนาดนี้เลยเหรอ และคุณหมอนินยังใช้เทคนิคซ่อนรอยแผลเป็นให้ด้วย” 

ที่สำคัญ ตอนนี้คุณประเสริฐสามารถนำประสบการณ์ตรงไปบอกกับใคร ๆ ได้แล้วว่า การปลูกผมด้วยเทคนิค NEAT ที่ไม่ต้องพักฟื้น

“ปลูกเสร็จ ผมออกได้เลยแค่ใส่หมวกผ้ากันฝุ่น เช้าอีกวันผมก็ขับรถไปหาคุณหมอ ไปสระผม ไปโน่นนี่ปกติได้ไม่มีปัญหาเลย ตอนแรกเตรียมวันหยุดไว้เผื่อ กลัวว่าคนเห็นแล้วจะรู้สึกแปลกตา แต่ปรากฏว่าแค่ไม่กี่วัน รอยแดง ๆ ก็หายหมดแล้ว”

ไม่เพียงเท่านั้น นามนินยังคอยดูแลติดตามผลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง Shock Loss ซึ่งผมปลูกใหม่จะหลุดร่วงไปตามวงจรธรรมชาติในช่วง 2-3 เดือนแรก และจะกลับงอกขึ้นใหม่หลังจากเดือนที่สี่ 

“เดือนที่ 4-5 ผมด้านหน้าก็เริ่มขึ้นใหม่เรื่อย ๆ ตอนนี้ตัว M มันหายไป ผมก็เส้นใหญ่ขึ้น ข้างหน้าโอเคเลย แน่นดี ส่วนตรงกลางศีรษะ แต่ก่อนเป็นไข่ดาว คุณหมอก็แนะนำให้ฉีดบำรุง ตอนนี้รู้สึกผมเยอะขึ้น จากที่เคยมองเห็นหนังศีรษะ ตอนนี้ภรรยาบอกว่าไม่ค่อยเห็นแล้วนะ”




ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มาพร้อมกับบุคลิกภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น และความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต 

“มีคนทักว่า ดูดีขึ้นเยอะเลย ถ้าคนไม่เจอกันนาน ๆ จะถามว่าไปทำอะไรมา ดูดีจัง เมื่อก่อนอยู่หน้ากระจกต้องพยายามหวีผมมาปิดตัว M เดี๋ยวนี้พยายามเสย (หัวเราะ) เพราะเสยแล้วมันดูดีกว่า และเวลาพรีเซนต์งาน หรือบางทีมี supplier มา ก็ติดต่อกับเขาได้อย่างมั่นใจมากขึ้น”

นอกเหนือจากการปลูกผมที่ด้านหน้าแล้ว ปัญหาผมบางกลางศีรษะของคุณประเสริฐคุณหมอนินยังแนะนำให้ฉีดบำรุงด้วยโปรแกรม Premium Hair Booster เพื่อฟื้นฟู และบำรุงเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง และดูหนาขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่ามุมไหนในการออกไปพบปะผู้คนก็สร้างความมั่นใจได้




คุณประเสริฐยังยืนยันว่า ในวัยนี้ เราก็ยังสามารถเลือกปลูกผมให้ตัวเองดูดีขึ้นได้ ซึ่งหากใครยังไม่มั่นใจ สามารถลองมาพูดคุยปรึกษากับคุณหมอก่อนได้ เพื่อพิจารณาและตัดสินใจเลือกทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหาเส้นผมของตัวเอง

“รู้อย่างนี้ปลูกตั้งนานแล้ว คือตอนแรกเรากลัวอย่างเดียว ว่าปลูกแล้วจะไปทำงานไม่ได้ เลยคิดช้าหน่อย ผมเคยได้ยินคนบอกว่า การปลูกผมเป็นการลงทุน ...ซึ่งมันก็เป็นการลงทุนให้ตัวเองที่คุ้มค่าจริง ๆ...”
ปลูกผมสร้างโหงวเฮ้ง คุณชมพู่ นันทพร บุราคม
ปลูกผมเปลี่ยนชีวิตใหม่
เปิดหน้ามั่นใจทุกองศาความสวย


ในฐานะเจ้าของธุรกิจด้านความสวยความงาม คุณชมพู่ - นันทพร บุราคม ในวัย 36 ปี จึงใส่ใจเรื่องการดูแลตัวเองเป็นพิเศษอยู่เสมอ

“ถ้าภาพลักษณ์เราดูไม่สวยงาม ความเชื่อมั่นที่ลูกค้าจะมีให้เรามันก็ไม่เต็มร้อย แต่ถ้าเรามั่นใจ ลูกค้าก็จะมีความเชื่อมั่นให้เรา เราก็เน้นตรงนี้ เพราะเราทำเรื่องความงาม เราต้องสวย”


แต่เส้นผมเจ้าปัญหา กลับกลายเป็นอุปสรรคความสวย และเป็นสิ่งที่หยุดความมั่นใจของคุณชมพู่ โดยเฉพาะในวันที่อายุเริ่มผ่านพ้นเลข 3

“โอ้โห เส้นผมสำคัญมากค่ะ เพราะมันบอกได้ว่าเราอายุเยอะไม่เยอะก็ด้วยผมนี่แหละ เราเป็นคนหน้าผากกว้างตั้งแต่เกิด ผมเส้นเล็ก พอเริ่มอายุเยอะขึ้น ปัญหาคือ ผมเว้าลึกเข้าไปทั้ง 2 ข้างเลย พอผมหายไป มันทำให้เราไม่มั่นใจ เวลาแต่งตัว ไปงาน หรือถ่ายรูป ก็ไม่สามารถเปิดผม เกล้าผม เพื่อโชว์หน้าผากได้ ต้องคอยหมั่นเอาผมปิดหน้าเพื่ออำพรางตรงนี้ ทั้งที่เป็นคนชอบเปิดหน้า”


เมื่อคุณชมพู่ได้คำแนะนำจากเพื่อน ๆ ในวงการความสวยความงาม ให้ลองปรึกษากับคุณหมอนิน ซึ่งเรียนมาเฉพาะทางด้านนี้เลย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ด้วยการปลูกผม

“คุณหมอก็จัดการความสวยให้เลย ไปคุยแล้วรู้สึกว่าหมอนินไนซ์ เป็นกันเอง สนใจลูกค้า มีการอธิบายก่อนว่าวิธีการที่ใช้ปลูกผมเป็นลักษณะไหน มีกี่แบบ สมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกันยังไง วิธีของคุณหมอรู้สึกว่าเป็นนวัตกรรมที่โอเคเลย ย้ายผมมาแล้วสามารถงอกต่อเลย เทคนิคนี้น่าสนใจ ก็เลยตัดสินใจทำ ”



ขั้นตอนแรก คุณชมพู่ได้ร่วมออกแบบพื้นที่ที่จะปลูกผมร่วมกับคุณหมอ เนื่องจากคุณชมพู่ยังอยากได้ความกว้างของหน้าผากตามลักษณะโหงวเฮ้งที่ดี ซึ่งคุณหมอก็จัดให้อย่างที่ต้องการ หลังจากคำนวณจำนวนกราฟต์ที่จะปลูกเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มลงมือปลูกผมกันเลย

“หมอนินมือเบามากค่ะ ฉีดยาไม่เจ็บเลย หลังฉีดยาชาก็ไม่เจ็บอยู่แล้ว หมอนินทำเองทุกขั้นตอน ทั้งถอนแล้วก็ปลูกใหม่ด้วย อาจจะมีทีมผู้ช่วยด้วย ไม่ได้ทำคนเดียว แต่คุณหมอดูแลทุกขั้นตอน แบบละเอียดมาก”


คุณชมพู่เล่าว่า ด้วยเทคนิคและเครื่องมือที่คุณหมอเลือกใช้ ทำให้แผลหลังจากทำมีขนาดเล็กมาก ๆ แถมยังหายไวมากเช่นกัน ซึ่งคุณหมอดูแลสระผมเพื่อล้างแผลให้ตั้งแต่วันแรก ๆ ไม่เพียงเท่านั้น การดูแลตัวเองหลังปลูกผมก็ไม่ยุ่งยากเลย คุณหมอยังนำเข้ายาจากต่างประเทศมาให้ใช้เพื่อให้แผลและสะเก็ดหายเร็วขึ้นด้วย ส่วนคุณชมพู่ก็พยายามไม่ไป จับหรือรบกวนบริเวณที่ปลูกผมใหม่ในช่วงเดือนแรก ๆ ทำให้ผมยาวต่อเนื่องโดยแทบไม่มีผมร่วง

“ตอนนี้ สภาพกายภาพคือเห็นชัดมากเกือบ 100% ว่ามีความแตกต่าง คนก็จะทักว่าหน้าดูละมุนขึ้น สวยแบบธรรมชาติ เพราะตรงหน้าผาก คุณหมอเรียงเส้นผมให้สวยและค่อนข้างจะถี่ เราก็จะเกล้าผมโชว์หน้าผากตลอด เกล้าให้เห็นเลยว่าผมมันงอกจริง คนเห็นก็จะทักเยอะ ว่าไปปลูกผมมาแล้วผลลัพธ์ดี สวยขึ้น ก็อยากรักษาผมดก ๆ นี้ให้อยู่กับเราไปนานที่สุด...

...ความมั่นใจนี่ก็ 100% เพราะถ้าไม่มั่นใจคงไม่เปิดผมตลอดเวลา เดิมหน้าผากมันลึก ตอนนี้กรอบหน้าเป๊ะ หมดปัญหาไม่กลัวหัวเถิกแล้วค่ะ”





จนถึงวันนี้ คุณหมอนินก็ยังคงคอยถามไถ่และดูแลติดตามผลอยู่เสมอ ทำให้คุณชมพู่ประทับใจและเริ่มแนะนำให้คนรอบข้างมาปลูกผมด้วย หนึ่งในนั้นก็คือคุณพ่อของคุณชมพู่นั่นเอง

“ตอนนี้ก็ให้คุณพ่อที่เคยปลูกผมมาแล้วรู้สึกผมน้อย มาปรึกษากับคุณหมอนิน เพราะเราทำแล้วรู้สึกว่าแฮปปี้ ประทับใจหลายอย่าง จุดเด่นเลยคือความละเอียดและความประณีตของคุณหมอค่ะ คุณหมอดูแลเราดี ห่วงใย ให้คำปรึกษาทุกอย่าง มากกว่านั้นก็คือมิตรภาพเป็นพี่เป็นน้องเป็นเพื่อนกันด้วย เรื่องปลูกผมนี่ต้องยกให้คุณหมอนินเลยค่ะ”

หมอวรุตม์ เชื่อมั่นปลูกผมที่นามนิน
...จากคนไข้ สู่ลูกศิษย์คนแรก...“หมอวรุตม์” การันตี

การปลูกผมให้ดีคืองานศิลปะ

“การจะปลูกผมให้ออกมาสวยหรือไม่สวย ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณหมอเป็นหลักเลย เพราะการปลูกผมก็เหมือนงานศิลปะ ต้องอาศัยฝีมือศิลปินในการทำ”

นี่คือเสียงยืนยันของคุณหมอวรุตม์ หอมพูลทรัพย์ ว่าการปลูกผมต้องอาศัยทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในการรักษา นอกจากคุณหมอวรุตม์ ซึ่งทุกวันนี้เป็นศัลยแพทย์ทั่วไปและมีคลินิกเป็นของตัวเอง จะเป็นหนึ่งในคนไข้ผู้เข้ารับการปลูกผมกับคุณหมอนิน แห่งคลินิกนามนินแล้ว ยังเป็นลูกศิษย์คนแรกที่เข้ารับการฝึกอบรมเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงหรือ NEAT ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของอาจารย์หมอนินด้วย ลองมาฟังประสบการณ์การเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ของคุณหมอวรุตม์กัน



“เดิมเป็นคนหน้าผากกว้างอยู่แล้ว แต่มาเด่นชัดตอนอายุ 24 – 25 พอผมร่นเข้าไปลึกก็ทำให้จัดทรงยาก ลมพัดทีก็หน้าผากเปิด เรียกว่าหน้าตาเราจะเปลี่ยนทุกครั้งที่ลมพัด แถมเวลาถอดหมวกผ่าตัด ผมก็จะลีบแบน ผมเป็นคนชอบอะไรที่คล่องตัว ไม่ต้องจัดทรงเยอะ ใช้ชีวิตได้เลย แต่พอเป็นอย่างนั้นมันลำบาก ไม่สะดวก และเสียความมั่นใจ”

ที่ผ่านมา คุณหมอวรุตม์เคยลองทายาและรับประทานยาอื่น ๆ มาบ้าง แต่ผมที่ขึ้นใหม่เป็นเพียงขนเส้นเล็ก ๆ และไม่ขึ้นบริเวณหน้าผากที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ ด้วยความที่รู้จักกับคุณหมอนินมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงเริ่มปรึกษาเรื่องปัญหาผม และจุดประกายความคิดที่จะลองปลูกผมขึ้นมา


“หมอนินเอารูปคนที่ปลูกก่อนหน้าให้ดู รู้สึกว่าแผลดูเล็ก ผมขึ้นค่อนข้างโอเค ทำแล้วดูดีขึ้น แก้ได้ตรงจุด หมอนินก็ให้คำแนะนำค่อนข้างดี เชิงบอกและสอนด้วย ทั้งทฤษฎีการปลูก ความหนาแน่นเท่าไหร่ดี ผู้ชายควรปลูกยังไง ผู้หญิงควรปลูกยังไง เอารูปเทคนิคการปลูกผมแบบเก่ากับใหม่มาเปรียบเทียบกัน หมอนิน อธิบายหมด ค่อนข้างจริงใจในการให้ข้อมูล ถ้าอันไหนทำแล้วไม่โอเค หมอนินก็จะบอก...

...ผมเห็นว่าปลูกแล้วสำเร็จค่อนข้างเยอะ 80 – 90% ก็คิดว่ามันน่าจะดี น่าจะได้ประโยชน์ไปอีกหลายปี”



คุณหมอนินจะเริ่มต้นจากการออกแบบพื้นที่ที่จะทำการปลูก โดยถามคนไข้ด้วยว่าอยากได้รูปหน้าแบบไหน และช่วยกันตัดสินใจเพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด จากนั้น คุณหมอนินจะเป็นผู้ควบคุมดูแลการปลูกผมเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การฉีดยาชา การถอนกราฟต์ผมออกโดยมีทีมงานผู้ช่วย ซึ่งในเคสของคุณหมอวรุตม์ ใช้กราฟต์ผมประมาณ 2,200 กราฟต์เพื่อความหนาแน่นเต็มที่ จนกระทั่งตอนปักกราฟต์ผมเพื่อปลูกใหม่ ซึ่งขั้นตอนนี้ ต้องอาศัยความละเอียดประณีตของคุณหมอนินเท่านั้น

“ตอนปักกราฟต์ผม คุณหมอนินทำเอง เพราะว่าจะออกมาดีไม่ดี ต้องดูความหนาแน่นให้พอเหมาะ มากไปกราฟต์ก็ตาย น้อยไปก็ผมบาง ทิศทางเส้นผมถ้าปักแล้วเบี้ยวก็ออกมาไม่สวย อันนี้เป็นเรื่องของคุณหมอล้วน ๆ เลย”


ที่สำคัญ หลังปลูกผมยังสามารถทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที


“วันสองวันแรก มีแค่น้ำเหลืองซึม ๆ และสะเก็ดนิดหน่อย แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะวันรุ่งขึ้นหลังจากทำก็มาเรียนปลูกผมต่อได้เลยครับ”

คุณหมอวรุตม์ยอมรับว่ามีความรู้สึกลุ้นนิดหน่อยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในระยะที่ผมใหม่หลุดร่วงออกตามธรรมชาติ แต่ประมาณ 3 – 4 เดือนผ่านไป ผมก็งอกขึ้นมาใหม่เหมือนที่คุณหมอบอกจริง ๆ

“มาหนาแน่นเลยครับ ผมคิดว่ากราฟต์น่าจะติดเกิน 90% ตอนนี้เหมือนผมปกติแล้วนะครับ กลมกลืนกับผมข้างเคียง ความแข็งแรงก็ใกล้กัน เวลาอาบน้ำสระผมจะไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างจากส่วนอื่น”


และในฐานะลูกศิษย์คนแรกของอาจารย์หมอนิน คุณหมอวรุตม์เล่าถึงความประทับใจว่า คุณหมอนินเป็นอาจารย์ที่คุยง่าย มีอะไรสงสัยก็ถามได้ทุกเรื่อง มีเทคนิคที่น่าสนใจ และให้การบ้านไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเยอะมาก ทั้งยังได้เรียนจากเคสคนไข้จริง ๆ ซึ่งในอนาคตคุณหมอวรุตม์ก็เตรียมที่จะนำเทคนิคความรู้ที่ได้ไปช่วยแก้ปัญหาเส้นผมให้คนอื่น ๆ ต่อไปอย่างแน่นอน


“ผมคิดว่าการปลูกผมไม่ใช่ศาสตร์ที่ยาก แต่มีรายละเอียดเยอะ ลองนึกภาพการปักผมใหม่ทีละกราฟต์ รวม 2,000 กราฟต์ทั้งวัน ซึ่งจะสวยไม่สวยก็อยู่ที่การออกแบบและการปัก มันเป็นเรื่องของศิลปะครับ”
ปลูกผมสวยไม่ต้องรอสูงอายุ
แนะสาว ๆ ปลูกผมสวยก่อนสาย ไม่ต้องรอสูงอายุ
คุณตูน - นิฐาณัณฐ์ นิยมสุจริต เล่าให้เราฟังถึงวันที่ตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ในวัย 36 ปี ด้วยการเข้ารับการปลูกผมกับคลินิกนามนิน

“ทำไมตูนถึงปลูกผมตอนอายุ 36 จริง ๆ ควรทำตอนอายุมากกว่านี้ถูกมั้ย แต่ตูนมองว่ามันจะสายเกินไปหรือเปล่า ตูนมองว่าเรายังเป็นวัยที่ออกไปเจอผู้คน ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่แบบมีคุณภาพดีกว่ามั้ย ขอสวย ณ ตอนนี้เลย ไม่ใช่สวยตอนแก่ ถึงตอนนั้นจะทำไปอวดใคร”


คุณตูนก็ไม่ต่างจากสาวหัวเหม่งทั่วไปที่ประสบกับปัญหาผมบริเวณหน้าผากร่นสูงขึ้นไปเป็นลักษณะรูปตัว M ซึ่งเห็นชัดเจนขึ้นเมื่ออายุเริ่มเพิ่มขึ้น เมื่อหน้าผากกว้าง จึงทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วนสวยงามดังใจ

“เส้นผมสำคัญกับชีวิตเรามาก เราต้องพบเจอผู้คนเยอะ หน้าสวยหน้าใสแค่ไหน แต่ถ้าศีรษะโล้นหรือเถิก ก็จะทำให้เสียบุคลิก และทำให้ดูหน้าตาแก่กว่าวัย”

และด้วยความที่เป็นเภสัชกรเจ้าของร้านยา คุณตูนจึงเลือกสรรยาที่จะช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมาหนาแน่นเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ตามที่ใจต้องการ

“เคยซื้อสเปรย์ แชมพู และเซรั่มมาใช้ ผมมันขึ้นนะแต่ขึ้นไม่ถูกใจเรา คือมีผมงอกขึ้นใหม่เฉพาะข้างหลัง แต่ข้างหน้ายังใสเหมือนเดิม ดังนั้น ปัญหาที่เรามีอยู่มันไม่สามารถแก้ได้ด้วยการใช้ตัวยาพวกนี้ เพราะในจุดที่เราต้องการมันไม่ขึ้น”

นั่นคือเรื่องราวของคุณตูนก่อนจะมารู้จักกับคลินิกนามนินจาก facebook เมื่อลองศึกษาข้อมูลก็พบว่าคนไข้ของคลินิกมีทั้งดารานักแสดงที่มีชื่อเสียง ตลอดจนแพทย์หลาย ๆ ท่านก็ยังวางใจมาปลูกผมที่นี่ แต่สิ่งที่ทำให้คุณตูนตัดสินใจเลือกนามนิน ก็คือความประทับใจในตัวคุณหมอนินนั่นเอง


“ประทับใจหมอมาก ชอบที่คุณหมอเป็นคนพูดตรง พูดจริง พี่ตูน จะเป็นอย่างนี้นะ ผมที่ปลูกจะต้องร่วงก่อนนะ จำนวนกราฟต์อัดแน่นเท่านี้ ราคาจะเป็นเท่านี้”

และคุณหมอยังให้คำปรึกษารวมถึงออกแบบการแต่งกรอบหน้าให้ใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น


“หมอถามว่า พี่ตูนจะเอารูปหน้าแบบไหน หมอจะวาดให้ดู เอาโค้ง ๆ แบบนี้นะพี่ตูน หวานดี เราก็อยากให้ดีกรีความเหม่งลดลงอยู่แล้ว หมอก็จัดให้ โดยดูแนวคิ้ว ดูการขยับของกล้ามเนื้อ”

คุณตูนเข้ารับการปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค NEAT จากนามนิน ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีคุณหมอนินเป็นผู้ควบคุมดูแลทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง โดยเฉพาะตอนนำรากผมมาปลูกลงใหม่เพื่อแต่งกรอบบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นจุดเด่นอีกข้อหนึ่งที่ทำให้คุณตูนเลือกทำการรักษากับที่นี่


คุณตูนยังเป็นตัวอย่างของเคสที่เข้าสู่ระยะผมร่วงหลังการปลูกผมใหม่ค่อนข้างเร็ว แต่ผมก็งอกขึ้นใหม่เร็วเช่นกัน


“คุณหมอใช้วิธีการปลูกแทรก โดยดูทิศทางผมใหม่ให้รับกับไรผมเดิมและใบหน้าของเรา ผมใหม่เลยขึ้นมาเนียนปกติ ไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง สามารถใช้ชีวิตประจำวัน มัดผมรวบตึงได้สบาย 4 เดือนผ่านมา ไม่มีใครทักว่าเราไปทำ เหมือนไม่ได้ไปทำ มันเนียนกริบ”


และเมื่อเราถามถึงความพอใจในผลลัพธ์การปลูกผม โดยเฉพาะเรื่องของกรอบหน้า คุณตูนก็ตอบได้ทันทีว่า...

“กรอบหน้าเปลี่ยนสิคะ โอเคเลย ทำมาตั้งขนาดนี้ วันนี้ครบ 4 เดือน ผมใหม่ก็ขึ้นเกือบสมบูรณ์แล้ว ผมร่วงน้อยลง หมอบอกว่าน่าจะขึ้นได้เต็มกว่านี้ เพราะปักไว้ค่อนข้างแน่น ประมาณ 2,600 กราฟต์”


และอย่างที่คุณตูนบอกกับเราว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันสูงวัย คุณก็สามารถเลือกจบปัญหาผมแบบถาวร เปลี่ยนตัวเองจากสาวหัวเหม่ง ไปสู่คุณคนใหม่ เพื่อใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้ในทุก ๆ วัน

“มันดีมาก คือรู้สึกว่าเงินจำนวนนี้แลกกับความสวย และเส้นผมที่จะอยู่กับเราไปได้อีกหลาย ๆ ปี ถามว่าคุ้มมั้ย คุ้มมาก!! ...ตูนโอเคมาก ๆ เลยค่ะ...”