Tag : การปลูกผม FUE
10 ชั่วโมงแห่งความใส่ใจ จากแพทย์ สู่คุณคนใหม่
นี่คือเวลา 10 ชั่วโมง 
...ที่บางคนต้องใช้เวลาศึกษาและตัดสินใจอยู่หลายปี
...ที่บางคนบอกว่าเป็นการลงทุนครั้งสำคัญโอกาสเดียวของชีวิต
...และหลาย ๆ คน เฝ้ารอที่จะได้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ หลังจาก 10 ชั่วโมงนี้

นั่นทำให้แพทย์หญิงนิล นามทองต้น หรือคุณหมอนิล แห่งคลินิกนามนิน เลือกที่จะทุ่มเทและใส่ใจไปกับ 10 ชั่วโมงในการปลูกผมใหม่ให้กับคนไข้ ซึ่งหากถามว่าทำไมจึงต้องกินเวลายาวนานถึง 10 ชั่วโมงต่อเนื่องกัน คำตอบก็คือ เพราะการปลูกผมเป็นหัตถการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ต้องอาศัยศาสตร์การแพทย์ในการรักษา และมุมมองเชิงศิลป์ในการสร้างสรรค์ความงาม ผสานเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นการทำงานกับ เส้นผม ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ และหากไม่ระวังก็อาจพลั้งทำร้ายเส้นผมได้โดยง่าย 

การปลูกผมจึงไม่ใช่ภารกิจที่ใครก็ทำได้ ที่นามนิน ผู้ชำนาญตัวจริงเท่านั้นที่จะได้ทำหน้าที่สำคัญนี้ และนี่ก็คือ 10 ชั่วโมงการทำงานของทีมแพทย์ เพื่อลงมือปลูกผมใหม่ และเปลี่ยนเจ้าของเส้นผมเป็น คนใหม่ อย่างที่ใจต้องการ

วางแนวทางการรักษาร่วมกัน
30 – 40 นาที
คุณหมอนิลจะเริ่มต้นด้วยการชวนคนไข้นั่งลงพูดคุยกันถึงปัญหา ความกังวลใจ และความต้องการของคนไข้ เพื่อทำความเข้าใจเจ้าของเส้นผมให้มากที่สุด ก่อนจะวิเคราะห์ปัญหาผม และออกแบบแนวทางการรักษาแบบเฉพาะบุคคล โดยยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง เพราะคนไข้แต่ละคนมาด้วยปัญหาและปัจจัยแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางคนเพิ่งเริ่มมีอาการผมบางในระยะเริ่มต้น บางคนมาเมื่อผมบางจนใกล้เข้าสู่ภาวะผมล้านแล้ว บางคนมีกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ด้านหลังท้ายทอยจำนวนมาก แต่บางคนมีไม่เพียงพอ 


ซึ่งตรงนี้ คุณหมอนิลจะช่วยประเมินพื้นที่ปลูกผมว่ากินบริเวณกว้างแค่ไหน คำนวณกราฟต์ผมต้นทุนที่ต้องใช้ว่ามีเพียงพอหรือไม่ หากไม่พอจะแก้ปัญหาอย่างไร เช่น เฉลี่ยกราฟต์ผมให้ปลูกได้ครอบคลุมโดยไม่ต้องหนาแน่นมาก หรือเลือกปลูกผมเฉพาะจุดที่จำเป็นจริง ๆ รวมไปถึงการทำ Treatment บำรุงอื่น ๆ เสริมควบคู่กัน 

ไม่เพียงเท่านั้น คุณหมอนิลยังวาดแนว Hairline หรือกรอบหน้าบริเวณหน้าผากให้ใหม่ เพื่อช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่สมดุลตามหลัก Golden Ratio โดยไม่ลืมที่จะสอบถามความต้องการของคนไข้เช่นเคย จึงแน่ใจได้ว่า เส้นทางการรักษาที่วางไว้นั้น เกิดจากการร่วมกันคิดของทั้งสองฝ่าย คือแพทย์และคนไข้ อย่างแท้จริง


เตรียมพื้นที่ศีรษะด้านหลังท้ายทอย
20 – 30 นาที
เนื่องจากจะต้องมีการเจาะย้ายกราฟต์ผมจากบริเวณ Safe Zone ด้านหลังท้ายทอยไปปลูกใหม่ ซึ่งกราฟต์ผมบริเวณนี้ เป็นกราฟต์ผมที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อการหลุดร่วงมากที่สุด คุณหมอนิลจึงได้เวลานำคนไข้เข้าสู่ห้องหัตถการ และเริ่มด้วยการเตรียมพื้นที่ศีรษะด้านหลังท้ายทอยให้พร้อม โดยใช้ทักษะเฉพาะตัวของคุณหมอนิลเอง ลงมือตัดผมให้กับคนไข้ พร้อมกับใช้เทคนิคซ่อนแผลแบบขั้นบันได เพื่อที่ว่าเมื่อปลูกผมเสร็จเรียบร้อย คนไข้จะได้ไม่ต้องคอยกังวลปกปิดรอยแผลด้านหลัง จนไปจำกัดอิสระในการจัดแต่งหรือทำทรงผมต่าง ๆ ซึ่งเทคนิคที่ว่านี้ คุณหมอนิลก็เป็นผู้พัฒนาขึ้น เพื่อให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุดนั่นเอง



เจาะย้ายกราฟต์ผมออก
3 – 6 ชั่วโมง
สำหรับขั้นตอนการเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย คุณหมอนิลเป็นผู้วางแผนการใช้เครื่องมือต่าง ๆ โดยอุปกรณ์เจาะย้ายกราฟต์ผมนั้น จะมีขนาดเล็กพิเศษ เพื่อให้หลงเหลือรอยแผลน้อยที่สุด ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนขนาดของหัวเจาะ ให้เหมาะสมกับกราฟต์ผมที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้ 

ในขั้นตอนนี้ ผู้ที่ลงมือเจาะย้ายกราฟต์ผมจะเป็นทีมสหวิชาชีพของนามนิน ที่ผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากคุณหมอนิล อีกทั้งคุณหมอนิลยังเป็นผู้ควบคุมการทำหัตถการในขั้นตอนนี้ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาด้วย


ไม่เพียงเท่านั้น กราฟต์ผมที่เจาะย้ายออกมาแล้ว จะต้องนำไปแช่ในน้ำยารักษาสภาพผมทันที ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนของการคัดเลือกกราฟต์ และตัดแต่งกราฟต์ เนื่องจากพื้นที่ปลูกผมใหม่แต่ละจุดอาจจำเป็นต้องใช้กราฟต์ผมที่มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกัน จึงจะดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ เช่นบริเวณ แนวไรผม นั้น ต้องใช้กราฟต์ผมเส้นเล็ก บาง และมีจำนวนเส้นผมต่อกราฟต์เพียงเส้นเดียว ส่วนบริเวณ กลางศีรษะ อาจต้องใช้กราฟต์ผมเส้นหนาใหญ่ และมีจำนวนเส้นผมต่อกราฟต์ 3 - 4 เส้น การคัดเลือกและตัดแต่งกราฟต์ จึงเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนของการปลูกผม ที่คุณหมอนิลให้ความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนไหน ๆ ได้เป็นอย่างดี

หลังจากนี้จะเป็นการพักรับประทานอาหารหรือของว่างเพื่อเติมพลัง และพักให้ร่างกายได้ผ่อนคลายประมาณ 30 – 45 นาที โดยมีขั้นตอนที่เป็นหัวใจหลักของการปลูกผมรออยู่ในช่วงต่อไป

ปลูกผมใหม่ด้วยแพทย์แบบเส้นต่อเส้น
3 – 6 ชั่วโมง
ในที่สุดก็มาถึงขั้นตอนของการปักกราฟต์ผมที่เตรียมเอาไว้อย่างดี ลงบนพื้นที่หนังศีรษะที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง และแน่นอนว่า อาจจะมีกราฟต์ผมที่รอการปักมากเป็นจำนวนนับหลายพันเส้น แต่ทั้งหมดนั้น จะมีคุณหมอนิลเพียงคนเดียว ที่ทำหน้าที่ปักกราฟต์ผมทีละกราฟต์ ด้วยความละเอียด ประณีต พิถีพิถัน โดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อความอยู่รอดของกราฟต์ผมใหม่ให้มากที่สุด ดังนี้

  • ทิศทางในการเรียงตัวของกราฟต์ผมใหม่ รวมถึงองศาความลาดเอียงในการปัก เพื่อให้ผมใหม่ดูกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม แลดูใกล้เคียงผมธรรมชาติ ที่สำคัญ ไม่ชี้ย้อนผิดทิศผิดทาง ซึ่งโดยปกติแล้ว กว่าจะรู้ว่าผมใหม่เรียงตัวตามทิศทางเดิมหรือไม่ ก็ต้องรอให้ผมยาวขึ้นเมื่อผ่านไปแล้วหลายเดือน ทั้งยังไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ หรืออาจแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว เรื่องของทิศทางและองศาจึงเป็นที่ต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ

  • ระยะความลึกในการปักกราฟต์ หากปักกราฟต์ผมตื้นเกินไป อาจจะหลุดร่วงง่าย และส่งผลให้เส้นเลือดต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ในการลำเลียงอาหารมาเลี้ยงเส้นผม ไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เส้นผมอ่อนแอ ไม่แข็งแรง

  • ความหนาแน่นในการปักกราฟต์ แพทย์ผู้ชำนาญจะปักกราฟต์ผมให้ได้ความหนาแน่นกำลังดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพราะหากน้อยเกินไป ผมของคนไข้อาจจะยังดูบางจนแทบไม่ช่วยแก้ปัญหา หรือถ้าหากแน่นเกินไป ก็เสี่ยงที่กราฟต์ผมจะเบียดกันจนหลุดร่วงได้ง่ายกว่าที่ควร


ที่สำคัญ คุณหมอนินยังเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย นำเข้าจากต่างประเทศ นั่นคือ Implanter Pen หรือปากกาปลูกผม ที่มีขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร นับเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การปลูกผมสามารถทำได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาด ทั้งยังช่วยให้แผลมีขนาดเล็ก เลือดออกน้อย ลดอาการบวมช้ำที่เป็นภาพจำน่ากลัวฝังใจใครหลาย ๆ คน และนั่นก็ทำให้คนไข้ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถลุกขึ้นมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้นด้วย



ทั้งนี้ เวลาที่ใช้ในการปลูกผมจริง ๆ อาจมากหรือน้อยกว่านี้ก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหา และจำนวนกราฟต์ผมที่ใช้ในการปลูกแต่ละเคส โดยตลอดกระบวนการทั้งหมดนี้ คุณหมอนิลจะเป็นผู้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และคอยอธิบายให้คนไข้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องหัตถการ เพื่อคลายความกังวลของคนไข้ 

และเมื่อผ่านพ้น 10 ชั่วโมงแห่งความทุ่มเทใส่ใจนี้ไป ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณหมอกับคนไข้มาถึงเส้นชัยแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังต้องจับมือกันประคับประคองดูแลเส้นผมที่เพิ่งปลูกไปนั้น ให้อยู่รอด เติบโต แข็งแรง โดยมีคุณหมอนิลเป็นผู้คอยติดตามผลทุกระยะ และให้คำปรึกษาด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแนะนำ Treatment และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนกว่าคนไข้จะได้พิสูจน์ผลลัพธ์ผมใหม่ว่าคุ้มค่ากับที่รอคอยมานาน พร้อม ๆ กับการได้เปลี่ยนตัวเองเป็น คนใหม่ ที่มั่นใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม




เปิดเทรนด์ปลูกผม 2024
“การปลูกผมถาวร” นับเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งทางการแพทย์ ที่คนเกือบทั่วโลกให้ความเชื่อถือ และตัดสินใจเลือกเป็นทางออกในการแก้ปัญหาผมร่วงผมบางมานานหลายสิบปี ซึ่งในช่วงหลังมานี้ เราจะเห็นความก้าวหน้าของเทรนด์การปลูกผมถาวรอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่จำนวนผู้เข้ารับบริการปลูกผมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคนิควิธีการปลูกผม ที่ได้รับการพัฒนาให้ทันสมัยและสะดวกสบายต่อคนไข้มากขึ้นด้วย 

ในปี 2024 นี้ นามนินจึงขอชวนมาส่องเทรนด์การปลูกผมถาวรที่อัปเดตมาเพื่อคนรักผมโดยเฉพาะ ...แล้วคุณจะทึ่งว่า วงการปลูกผมไทย ไปไกลขนาดนี้แล้วนะ...

เมื่อ Hairline มีความหมายมากกว่าแค่ “แนวผม”
การปลูกผมเพื่อเติมเต็ม Hairline หรือแนวผมบริเวณหน้าผาก ไม่ได้ช่วยแก้แค่ปัญหาผมร่วง ผมบาง อีกต่อไป แต่แพทย์ผู้ชำนาญยังสามารถออกแบบแนวผมใหม่ที่รับกับสัดส่วนความงามของใบหน้าตามหลัก Golden Ratio เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น น่ามองขึ้น จึงช่วยเสริมบุคลิกและสะท้อนตัวตนในแบบที่คนไข้ต้องการได้อีกด้วย



รอยแผลกวนใจ...ซ่อนได้เนียนกริ๊บ
หมดยุคของการเจาะย้ายกราฟต์ผมด้านหลังออกด้วยการผ่าตัด การโกนผม หรือวิธีการเก่า ๆ ที่ทิ้งรอยแผลให้คนไข้ต้องคอยกังวลปกปิดจนเสียบุคลิก เพราะเดี๋ยวนี้มีเทคนิคใหม่ ๆ ที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องโกนผม ทั้งยังช่วยซ่อนแผลแนบเนียนไปกับทรงผมเดิมได้อย่างกลมกลืน 



ปลูกผมใหม่ วางใจแพทย์ผู้ชำนาญเท่านั้น
ปลูกผม ไม่ใช่ว่าใครก็ปลูกกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าจะปลูกให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แพทย์ที่ชำนาญด้านการปลูกผม จะใช้ทั้งความรู้ ทักษะ และความละเอียดประณีตในการปักกราฟต์ผมที่ละกราฟต์ด้วยตัวเอง โดยคำนึงถึงขนาดของเส้นผม รวมถึงทิศทางและองศาให้ดูกลมกลืนไปกับผมเดิม เพื่อให้ได้ผมใหม่ที่ใกล้เคียงความเป็นธรรมชาติมากที่สุด



“ปากกาปลูกผม” ตัวช่วยสำคัญของแพทย์
นอกจากทักษะ ประสบการณ์ และความใส่ใจของแพทย์แล้ว ปี 2024 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ นั่นคือ Implanter Pen หรือปากกาปลูกผม ที่ทุกวันนี้มีขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตร และสามารถเลือกขนาดหัวปากกาให้เข้ากับลักษณะกราฟต์ผมที่แตกต่างกันของคนไข้ได้ จึงช่วยให้แพทย์ปลูกผมได้แม่นยำ ละเอียด แผลเล็ก หายเร็ว ไม่น่ากลัวเหมือนที่เคยได้ยินกันมาอีกต่อไป



ปลูกผมยุคใหม่ แทบไม่ต้องพักฟื้น
และด้วยปัจจัยที่เล่ามา ไม่ว่าจะเป็นความชำนาญของแพทย์ อุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมไปถึงเทคนิคต่าง ๆ ที่พัฒนาเพื่อให้คนไข้สะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ทำให้การปลูกผมใน พ.ศ. นี้ แทบไม่ต้องเก็บตัวพักฟื้นนาน ๆ เหมือนในอดีต เพราะแผลขนาดเล็ก หายไว จึงสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้นกว่าที่เคย คืนเวลาชีวิตให้คุณใช้ได้อย่างเต็มที่


แพทย์ติดตามผล 1 ปีเต็ม
เพราะผมปลูกใหม่ต้องการระยะเวลาในการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามวงจรธรรมชาติ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่แพทย์ผู้ชำนาญจะคอยดูแลติดตามผลอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องตลอด 1 ปีเต็ม ซึ่งระหว่างนั้น คนไข้สามารถสอบถามหรือขอคำแนะนำได้ตลอดเวลา เรียกว่าจับมือไปด้วยกันจนสุดทางจนกว่าผมใหม่จะเติบโตอย่างสมบูรณ์เต็มที่ ไม่มีทิ้งไว้กลางทางแน่นอน



“2024” ปีแห่งอิสระและความมั่นใจจากเส้นผม
หากจะตัดสินใจปลูกผมให้คุ้มค่าทั้งที นอกจากผลลัพธ์เส้นผมที่กลับมาหนาแน่น ไม่หลุดร่วงง่ายแล้ว นี่ยังเป็นโอกาสที่คุณจะได้ปลดล็อกตัวเองสู่อิสระในการจัดแต่งทรงผมได้ทุกสไตล์ หรือเลือกทรงที่สะท้อนบุคลิกในแบบที่คุณต้องการมากที่สุด โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องผมบางอีกต่อไป คืนความมั่นใจให้คุณก้าวออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ วัน

และหากคุณกำลังมองหาเทคนิคการปลูกผมรับเทรนด์เด่นแห่งปี 2024 นามนินขอนำเสนอเทคนิค NEAT ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญของนามนินพัฒนาต่อยอดจนสามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาผมตามหลักการแพทย์ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนไข้ได้มากกว่าที่เคย ...เลือกเทคนิค NEAT ไม่มีตกเทรนด์แน่นอน...

ปลูกผมให้ดี เริ่มที่ “กราฟต์ผม”
กว่าจะถึงปลายทางของการปลูกผม ที่ให้ผลลัพธ์เป็นผมใหม่หนาแน่น เรียงตัวสวย เนียนเป็นธรรมชาติ ทราบหรือไม่ว่า จุดสตาร์ทของเส้นทางสู่ผมใหม่นั้น จะต้องตั้งต้นอยู่บนพื้นฐาน “กราฟต์ผมต้นทุน” ที่ดี ซึ่งแต่ละคนจะมีลักษณะและคุณภาพของกราฟต์ผมไม่เหมือนกัน และนั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้การปลูกผมประสบความสำเร็จมากน้อยแตกต่างกันตามไปด้วย 

กราฟต์ผม หรือกอผม คือกลุ่มของรากผมและเส้นผมที่อยู่รวมกันประมาณ 1-4 เส้นในรูขุมขนเดียว และคำว่ากราฟต์ผมต้นทุน ก็หมายถึงกราฟต์ผมเฉพาะบริเวณด้านหลังท้ายทอย หรือ Safe Zone ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับนำมาปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหาได้ โดยในขั้นตอนการปลูกผม จะต้องย้ายกราฟต์ผมจากบริเวณดังกล่าวออกมาเตรียมปลูกใหม่ทีละกราฟต์ โดยเลือกกราฟต์ผมที่มีความสมบูรณ์แข็งแรงมากที่สุด

ในความเป็นจริงแล้ว กราฟต์ผมต้นทุนของเรามีคุณภาพไม่เท่ากัน เนื่องมาจากสาเหตุหลายข้อ ดังนี้

  • กรรมพันธุ์ 
เป็นตัวกำหนดให้บางคนมีผมเส้นหนา หรือเส้นบาง หรือมีความหนาแน่นของผมแตกต่างกัน เช่นบางคนมีผม 1-2 เส้นใน 1 กราฟต์ ขณะที่บางคนมีผม 3-4 เส้นใน 1 กราฟต์ ซึ่งจะทำให้ผมดูหนาแน่นกว่า

  • วัย 
เมื่ออายุมากขึ้น แน่นอนว่าสุขภาพเส้นผมจะค่อย ๆ เริ่มเสื่อมถอยลง และมีโอกาสหลุดร่วงมากขึ้น นี่เองเป็นเหตุผลหนึ่งที่คุณหมอบอกว่า ไม่ควรรอจนสูงวัยแล้วจึงค่อยตัดสินใจมาปลูกผม เพราะทั้งคุณภาพและปริมาณของกราฟต์ผมต้นทุนอาจจะน้อยลง ไม่เหมือนเมื่อยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวนั่นเอง

  • การดูแลสุขภาพ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารให้ครบตามโภชนาการ พฤติกรรมการสูบบุหรี่ การใช้สารเคมีและความร้อนกับเส้นผมมากเกินไป ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้สุขภาพผมแย่ลง ไม่คงทนแข็งแรง เสี่ยงต่อการหลุดร่วง

  • แสงแดด ฝุ่น ควัน และมลภาวะ
เป็นตัวการทำร้ายเส้นผมให้อ่อนแอ แห้ง แตกปลาย เปราะหักหรือหลุดร่วงง่ายกว่าที่ควร

  • โรคและความเจ็บป่วยต่าง ๆ
โรคบางประเภท รวมถึงการต้องกินยาจำเป็นบางชนิด ก็มีส่วนในการส่งผลข้างเคียงต่อเส้นผมเช่นกัน อาจทำให้เกิดอาการผมร่วงมากขึ้นกว่าปกติ

ทั้งหมดนี้ ทำให้ลักษณะกราฟต์ผมของแต่ละคน มีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ผมตรง ผมหยิก ผมเส้นเล็กบาง ผมเส้นหนาใหญ่ กราฟต์ผมเส้นเดี่ยว หรือกราฟต์ผม 4 เส้น ซึ่งแพทย์จะต้องวิเคราะห์สภาพกราฟต์ผมต้นทุนเหล่านี้ เพื่อนำมาวางแผนการปลูกผมใหม่ และคำนวณว่าควรจะใช้กราฟต์ผมปริมาณเท่าไร เพื่อเติมเต็มส่วนที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ให้กลับมาหนาแน่นอีกครั้ง






ทำไมแพทย์จึงต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับการวางแผนและคำนวณกราฟต์ผม นั่นก็เป็นเพราะ กราฟต์ผมต้นทุนบนศีรษะของเรามีอยู่อย่างจำกัด หากจะปลูกผมใหม่ ควรใช้กราฟต์ผมต้นทุนจากบริเวณด้านหลังท้ายทอย หรือที่เรียกว่า Safe Zone เท่านั้น เนื่องจากผมบริเวณนี้มีคุณสมบัติในการต้านฤทธิ์ของฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมหลุดร่วง เมื่อย้ายผมจากบริเวณนี้ไปปลูกใหม่ คุณสมบัติความคงทนแข็งแรงนี้ก็จะติดตามไปด้วย 


ดังนั้น การปลูกผมจึงไม่ใช่หัตถการที่ทำได้บ่อย ๆ ในชีวิตของคนคนหนึ่งอาจปลูกผมใหม่ได้เพียง 1-2 ครั้งเท่านั้นเอง แพทย์จึงต้องวิเคราะห์ และคำนวณเป็นอย่างดี เพื่อใช้กราฟต์ผมต้นทุนที่มีอยู่ให้คุ้มค่า และวางแผนไว้เผื่อในวันข้างหน้าหากจะต้องมีการปลูกผมซ้ำด้วย เนื่องจากผมในบริเวณอื่น ๆ ที่อยู่ข้างเคียงอาจเกิดภาวะผมร่วงและผมล้านต่อจากจุดเดิมที่เคยปลูกไว้ก็เป็นได้

แต่ไม่ว่ากราฟต์ผมต้นทุนของเราจะมีคุณภาพเป็นอย่างไร ก็สามารถลองเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผม เพื่อร่วมกันออกแบบแนวทางการปลูกผมที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดที่สุด โดยใช้กราฟต์ผมต้นทุนอย่างเหมาะสม รวมถึงเสนอแนะทางออกอื่น ๆ เช่น หากกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ไม่เพียงพอ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้กราฟต์ผมนอก Safe Zone (ซึ่งไม่ได้มีคุณสมบัติต้านฮอร์โมน DHT) ร่วมด้วยได้ เพียงแต่ต้องดูแลเป็นพิเศษ รับประทานยา และรับบริการ Treatment อย่างสม่ำเสมอ และหลังจากเข้ารับการปลูกผมเรียบร้อยแล้ว ก็ควรใส่ใจดูแลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทั้งผมใหม่ และผมเดิม มีความแข็งแรง คงทน อยู่กับเจ้าของเส้นผมต่อไปแบบถาวร


ปลูกผมใหม่ ในวัย 50+
ไม่ใช่แค่วัยรุ่นหรือคนหนุ่มสาว แต่คนทุกวัย ก็อยากจะมีรูปลักษณ์ที่ชวนมองหรือบุคลิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อเติมเต็มความรู้สึกรักตนเองและมั่นใจในตนเองได้อย่างเต็มที่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า “เส้นผม” เป็นปัจจัยความงามข้อหนึ่ง ที่เปรียบเหมือนเครื่องประดับตามธรรมชาติของร่างกาย ช่วยเสริมความมั่นใจในทุก ๆ วันของการใช้ชีวิต แต่เมื่อเส้นผมแข็งแรงสุขภาพดีไม่ได้คงทนยาวนานพอที่จะอยู่กับเราไปตลอด หลายคนจึงพบปัญหาผมบาง ผมร่วง ไปจนถึงผมล้านเมื่ออายุมากขึ้น 


หากคุณหรือคนในครอบครัว ที่อยู่ในวัย 50+ และกำลังกลุ้มใจกับปัญหาผมล้านหรือผมบางกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง จนกังวลว่า ปัญหาหนักขนาดนี้ จะยังปลูกผมใหม่ได้อยู่ไหม สิ่งแรกที่คุณควรทำอย่างไม่ต้องลังเลใจ ก็คือการเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอผู้ชำนาญด้านเส้นผม


เพราะคุณหมอคือคนเดียวที่ช่วยวิเคราะห์สภาพปัญหาผม สำรวจปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะประเมินความเป็นไปได้ และออกแบบแนวทางการรักษา เพื่อคืนความหนาแน่นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะได้มากที่สุด และนี่ก็คือแนวทางการแก้ปัญหาผมสำหรับคนวัย 50+ ที่แม้ว่าจะมีต้นทุนผมสุขภาพดีไม่มากเท่ากับคนในวัยหนุ่มสาว แต่ก็ยังมีทางออกหลายรูปแบบที่คุณหมอแนะนำเช่นกัน


1 ปลูกผมถาวร

สำหรับแนวทางนี้ คนไข้ในวัย 50+ ส่วนใหญ่จะมีความกังวลใจ เนื่องจากปัญหาผมบางในวัยนี้มักจะขยายเป็นวงกว้าง นั่นหมายความว่าคนไข้ต้องการกราฟต์ผมสำหรับการปลูกใหม่ค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณด้านหลังท้ายทอย ที่มีคุณสมบัติต้านทานฮอร์โมนที่ส่งผลให้ผมหลุดร่วงง่าย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการย้ายมาปลูกใหม่ ก็อาจเหลือจำนวนน้อยลง หรือมีความอ่อนแอลงเนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นของเจ้าของเส้นผมเอง


อย่างไรก็ตาม คุณหมอจะช่วยประเมินการใช้กราฟต์ผมที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เพื่อช่วยแก้ปัญหาผมบางให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนั้นก็จะพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้กราฟต์ผมที่นอกเหนือไปจากบริเวณด้านหลังท้ายทอย มาช่วยเสริมด้วยอีกส่วนหนึ่ง 

ที่สำคัญ คุณหมอจะช่วยออกแบบการปลูกผมให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของรูปลักษณ์ หรือบุคลิกภาพ ภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่ เพื่อให้เส้นผมใหม่ช่วยคืนความมั่นใจให้กับคนไข้ได้ในที่สุด


2 Premium Hair Booster

อีกทางเลือกหนึ่งที่คุณหมอมักแนะนำให้กับคนไข้ไม่ว่าอยู่ในวัยไหนก็ตาม ก็คือการเข้ารับบริการ Treatment บำรุงล้ำลึก ที่คัดสรรโดยนามนิน เพื่อคนรักเส้นผมโดยเฉพาะ โดย Premium Hair Booster เป็นนวัตกรรมที่จะช่วยลดอาการผมร่วง และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม พร้อมกับฟื้นบำรุงให้เส้นผมที่อ่อนแอ ลีบบาง มีขนาดใหญ่ขึ้น หนาขึ้น และแข็งแรงยิ่งขึ้นจากภายใน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ภาวะทางสุขภาพ ความเครียด การขาดสารอาหาร ตลอดจนมลภาวะหรือสารเคมี

Premium Hair Booster พัฒนาขึ้นโดยแพทย์ผู้ชำนาญด้านเส้นผมของนามนิน อาศัยพลังบำรุงขั้นสุดจากอนุภาคไซส์จิ๋วที่เล็กระดับนาโน หรือเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1/1000 เท่า ซึ่งแยกออกมาจากสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิด ภายในประกอบด้วยสารชีวโมเลกุลต่าง ๆ นับพันชนิด และโปรตีนอีกหลายประเภท มากกว่าสารชีวโมเลกุลและโปรตีนที่พบใน PRP หรือเกล็ดเลือดเข้มข้นเป็นพันเท่า 

ไม่เพียงเท่านั้น นามนินยังเพิ่มพลังบูสต์เต็มขั้น ด้วยวิตามินสูตรเฉพาะ เพื่อทำงานร่วมกับอนุภาคบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นนวัตกรรมที่สะดวกสบาย เพียงฉีดสารบำรุงเข้าสู่หนังศีรษะบริเวณที่ยังมีรูขุมขนอยู่ สารสำคัญต่าง ๆ จะตรงเข้าซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และฟื้นฟูการสร้างเซลล์ใหม่ โดยไม่ทิ้งรอยแผลหรืออาการเจ็บ ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องพักฟื้นหรือดูแลเป็นพิเศษ หลังรับบริการสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

Premium Hair Booster ยังให้ผลลัพธ์ที่พิสูจน์เห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรก ในการคืนความหนาแน่น ดกดำ แข็งแรงให้กับเส้นผม จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีความปลอดภัยสูงสำหรับคนทุกวัย แม้ในวัย 50+ ก็ตาม


3 ปลูกผมเทคนิค NEAT + Premium Hair Booster

สำหรับบางกรณีที่มีปัญหาเส้นผมในระดับค่อนข้างรุนแรง คุณหมออาจแนะนำให้เข้ารับการปลูกผมร่วมกับ Treatment ด้วย เพื่อเสริมบำรุงเส้นผมเดิมและเส้นผมใหม่ไปพร้อม ๆ กัน เนื่องจากความแข็งแรงของเส้นผมเดิมก็จะส่งผลดีต่อเส้นผมใหม่ด้วยนั่นเอง 

หากคนไข้ให้ความสนใจเลือกวิธีนี้ หรือคุณหมอมองว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทั้งคุณหมอและคนไข้จะร่วมกันออกแบบการรักษา ว่าควรจะฉีดบำรุงด้วย Premium Booster ก่อน เพื่อเสริมให้ผมแข็งแรง แล้วจึงค่อยเข้ารับการปลูกผม หรือในอีกกรณีหนึ่ง สามารถที่จะเข้ารับการปลูกผมใหม่ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงฉีดบำรุงตามระยะที่คุณหมอกำหนด ซึ่งมีคนไข้ของนามนินที่เคยเข้ารับบริการด้วยสูตรผสมนี้ และกลับบ้านไปด้วยผลลัพธ์ที่น่าพอใจ


ทั้งนี้ การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผม รวมถึงความต้องการของผู้เข้ารับบริการเอง ซึ่งคุณหมอจะเปิดใจคุยกับคนไข้อย่างตรงไปตรงมา ถึงความเป็นไปได้จริงในการรักษา ดังนั้น ก้าวแรกที่สำคัญที่สุด จึงเป็นการเข้ามาปรึกษาพูดคุยกับคุณหมอ เพื่อทำความเข้าใจปัญหา และร่วมกันหาทางฟื้นฟูดูแลเส้นผม 

...เพราะไม่มีคำว่าสูงวัยเกินไป สำหรับการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ด้วยการกลับมาดูแลตัวเองให้ดูดีอีกครั้ง...

ปลูกผมใหม่ ทำไมต้องแคร์ “ผมต้นทุน”
ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นทำความรู้จักกับเทคนิคการปลูกผมแบบถาวร ก็คงจะได้ยินคำว่า “ผมต้นทุน” บ่อย ๆ แน่ ๆ ...แล้วทำไมต้องแคร์ผมต้นทุนขนาดนั้น... มาเจาะลึกความสำคัญของผมต้นทุนกันให้มากขึ้น เพื่อให้เราวางแผนการรักษาภาวะผมร่วงและผมบางร่วมกับแพทย์ผู้ชำนาญได้ ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง

เส้นผม ...เรื่องใหญ่ ใกล้ตัว...
เส้นผมของคนเรามีลักษณะแตกต่างกัน โดยปัจจัยทางพันธุกรรมอาจทำให้บางคนมีเส้นผมเล็กไม่ค่อยมีน้ำหนัก ขณะที่บางคนมีเส้นผมหนา หยิกฟู จัดทรงยาก ขณะเดียวกัน การที่ต่อมน้ำมันบนหนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมาน้อยหรือมาก ก็ทำให้เกิดผมแห้งหรือผมมัน อีกทั้งหากใช้สารเคมีหรือความร้อนกับผมบ่อย ๆ ก็อาจทำให้เกิดผมแตกปลายได้ด้วย

ลักษณะอีกอย่างหนึ่ง ก็คือความหนาแน่นของเส้นผม บางคนมีผมดกหนา บางคนมีผมบาง ซึ่งปัจจัยหนึ่งก็มาจาก “กราฟต์ผม” ด้วย กราฟต์ผมหรือกอผม คือกลุ่มของเส้นผมที่อยู่รวมกันใน 1 รูขุมขนบนหนังศีรษะ อาจมีเส้นผมได้ตั้งแต่ 1-4 เส้นในกราฟต์ผมเดียว ซึ่งตรงนี้เองมีส่วนที่ทำให้คนเรามีผมต้นทุนที่สามารถนำไปปลูกใหม่ได้มากหรือน้อยไม่เท่ากัน



ผมต้นทุน คืออะไร
ผมต้นทุน ก็คือผมบริเวณ Safe Zone ที่อยู่ด้านหลังท้ายทอย คุณสมบัติพิเศษของผมที่ขึ้นบริเวณนี้ ก็คือความสามารถในการต้านทานฮอร์โมน DHT หรือ Dihydrotestosterone ซึ่งโดยปกติแล้วจะออกฤทธิ์ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้เส้นผมที่งอกขึ้นมามีลักษณะเส้นสั้นและบาง อ่อนแอ หลุดร่วงง่าย จนเป็นสาเหตุให้หลาย ๆ คนเกิดภาวะผมบาง ไปจนถึงผมล้านได้

ดังนั้น ผมบริเวณด้านหลังท้ายทอยจึงมีความแข็งแรง ยากที่จะหลุดร่วงก่อนเวลา และเป็นผมในส่วนที่แพทย์ผู้ชำนาญเลือกนำมาใช้ในการปลูกผมใหม่ เพราะแม้จะย้ายมาปลูกบนพื้นที่ใหม่ในบริเวณใดก็ตาม คุณสมบัติความแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่ายนี้ จะยังอยู่ไปตลอดวงจรชีวิตของเส้นผมเลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม ผมต้นทุนบริเวณด้านหลังท้ายทอยนี้ มีปริมาณจำกัด หมดแล้วหมดเลย อีกทั้งแต่ละคนก็มีปริมาณไม่เท่ากัน เพราะอย่างที่กล่าวถึงไปแล้วว่า ในกราฟต์ผมหนึ่งอาจมีผมได้ตั้งแต่ 1-4 เส้น บางคนที่มีเส้นผมเพียง 1 หรือ 2 เส้นต่อ 1 กราฟต์ นั่นแปลว่ามีผมต้นทุนที่นำไปปลูกใหม่ได้ค่อนข้างน้อย ทำให้การปลูกผมใหม่ของแต่ละคน มีข้อจำกัด ไม่อาจปลูกได้ตามใจหรือปลูกกี่ครั้งก็ได้แบบที่หลายคนเคยเข้าใจ


ใช้ผมต้นทุนอย่างไร ให้เหมาะสม
ถ้าอย่างนั้นแล้ว แพทย์ผู้ชำนาญจะมีวิธีการวิเคราะห์ และบริหารจัดการผมต้นทุนของผู้เข้ารับบริการปลูกผมอย่างไร ในขั้นตอนแรก ๆ ของการปลูกผม แพทย์จะต้องประเมินพื้นที่ปลูกผมใหม่ ว่ากินบริเวณกว้างแค่ไหน จำเป็นต้องใช้กราฟต์ผมต้นทุนมากน้อยเท่าไร แล้วมาดูปริมาณกราฟต์ผมต้นทุนที่คนไข้มี ก่อนจะคำนวณปริมาณกราฟต์ผมต้นทุนที่จะใช้ในการปลูกผมใหม่ให้ เหมาะสม และ คุ้มค่า มากที่สุด ภายใต้ข้อจำกัดที่ว่า หากถอนย้ายกราฟต์ผมต้นทุนออกจากด้านหลังท้ายทอยแล้ว บริเวณนั้นก็จะไม่มีผมขึ้นใหม่มาทดแทนได้อีก


ดังนั้น แพทย์จึงต้องถอนย้ายกราฟต์ผมต้นทุนออกในปริมาณที่เหมาะสม เพียงพอที่จะเติมเต็มความหนาแน่นและแก้ปัญหาผมบางในพื้นที่ปลูกใหม่ หรือหากยังมีกราฟต์ผมต้นทุนเหลือแม้ปลูกครบแล้ว แพทย์ก็จะทำการปลูกแทรกให้โดยไม่ทิ้งกราฟต์ผมต้นทุนให้เสียเปล่า ขณะเดียวกันก็ไม่ถอนย้ายออกมามากเกินความจำเป็น เพราะจะทำให้ผมด้านหลังบางลงจนจัดทรงผมเพื่อปกปิดได้ยาก ที่สำคัญ แพทย์อาจต้องเหลือผมต้นทุนไว้สำหรับการปลูกในครั้งต่อไป ในกรณีที่คนไข้มีแนวโน้มว่าจะมีภาวะผมร่วงผมบางต่อในบริเวณอื่น ๆ อีกด้วย

ผมต้นทุน จึงเป็นตัวแปรสำคัญในการวางแผนปลูกผมของแพทย์ และต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด ถี่ถ้วน รอบคอบ โดยผู้เข้ารับบริการปลูกผมควรศึกษาข้อมูลให้เข้าใจในขั้นตอนและเทคนิคการปลูกผม รวมถึงพูดคุยปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญ เพื่อช่วยกันใช้ทรัพยากรเส้นผมที่มีอยู่จำกัดนั้น ให้คุ้มค่าและได้ผลมากที่สุดนั่นเอง

3 ตัวช่วย บำรุงผมหลังปลูก
นามนิน ไม่เพียงมอบประสบการณ์การปลูกผมแสนพิเศษที่เต็มไปด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่วันแรกที่คนไข้ก้าวเข้ามาปรึกษาปัญหากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จนถึงวันที่แพทย์ลงมือทำหัตถการปลูกผมให้ด้วยตนเองแบบเส้นต่อเส้น แต่ยังดูแลต่อเนื่องหลังปลูกผมไปอีกตลอด 1 ปีเต็ม ซึ่งนอกจากแพทย์จะเป็นผู้ติดตามผลการรักษาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดแล้ว นามนินยังขอเสนอ บริการดูแลบำรุงเส้นผมหลังปลูก ที่คนรักผมไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

HAIR GROWTH TREATMENT

นวัตกรรมการรักษาจากนามนินที่หลาย ๆ คนพิสูจน์ผลลัพธ์อันน่าประทับใจมาแล้ว เป็นการนำ Growth Factor จากเซลล์ของตัวผู้เข้ารับการรักษาเอง มาช่วยในการทำงานของเซลล์รากผมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังผสานพลังจากวิตามินเข้มข้นมากคุณประโยชน์ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นผมใหม่ที่หนาและแข็งแรง พร้อมบำรุงหนังศีรษะให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเลือกแล้วว่าเหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ารับการปลูกผม ขณะเดียวกันก็ยังตอบโจทย์ผู้ที่กำลังมองหาเทคนิคการรักษาเพื่อช่วยลดปัญหาภาวะผมร่วงและผมบางได้อีกด้วย

สำหรับขั้นตอนที่สำคัญของบริการ Hair Growth Treatment จะเริ่มจากการเก็บเลือดจากบริเวณข้อพับของผู้เข้ารับการรักษา ก่อนจะเติมสารต้านการแข็งตัวของเลือดลงไป แล้วปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงสารเพื่อแยกเลือดออกเป็นชั้นเซลล์เม็ดเลือดขาว เซลล์เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด จากนั้นจึงสกัด Growth Factor ที่สำคัญต่าง ๆ ออกมาด้วยกรรมวิธีที่ทันสมัย และฉีดกลับลงบนหนังศีรษะให้กับผู้เข้ารับการรักษาอีกครั้ง

นี่จึงเป็นนวัตกรรมเพื่อเส้นผมที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นการใช้ Growth Factor ตามธรรมชาติของตัวผู้เข้ารับการรักษาเอง ไม่มีการใช้สารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ทั้งยังไม่ต้องผ่าตัดและไม่ทำให้เกิดบาดแผลใด ๆ จึงไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังเข้ารับบริการ โดยผู้เข้ารับการรักษาสามารถดูแลตัวเองได้ง่าย ๆ เพียงระวังไม่ให้หนังศีรษะโดนน้ำภายใน 24 ชั่วโมงแรก จากนั้นในสัปดาห์ต่อมาสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมที่มีความอ่อนโยน สระผมหรือเช็ดผมอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และระมัดระวังการออกกำลังกายที่หนักเกินไป 

เพียงเท่านี้ ผู้เข้ารับการรักษาก็สัมผัสผลลัพธ์ในการกระตุ้นเซลล์รากผมให้ทำงานอย่างเต็มที่ รวมถึงการซ่อมแซมและฟื้นคืนวงจรชีวิตเส้นผมให้กลับมาสมบูรณ์ ไม่หลุดร่วงง่าย ผมใหม่หลังปลูกจึงแข็งแรง สุขภาพดี สมกับที่รอคอย

NAD+ CELL THERAPY

นี่คือนวัตกรรมใหม่มาแรงที่จะช่วยฟื้นฟูร่างกายและเส้นผมได้ลึกถึงระดับเซลล์ โดย NAD+ หรือ Nicotinamide Adenine Dinucleotide คือโคเอนไซม์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีอยู่ในเซลล์ทุก ๆ เซลล์ของร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการกำหนดอายุขัยของเซลล์ต่าง ๆ กระตุ้นให้เกิดการแปลงอาหารให้เป็นพลังงาน รวมถึงดูแลควบคุมเซลล์ให้มีความแข็งแรง จึงมีความสามารถในการช่วยฟื้นฟูเซลล์ในระดับ DNA ชะลออาการต่าง ๆ ที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เช่น การเกิดโรคต่าง ๆ การทำงานของสมองที่ช้าลง อาการความจำเสื่อม หรือแม้กระทั่งอาการอ่อนล้าของร่างกาย 

อย่างไรก็ตาม แม้ร่างกายจะผลิต NAD+ ได้ตามธรรมชาติอย่างที่กล่าวไปแล้ว แต่เมื่ออายุมากขึ้น ระดับ NAD+ ก็อาจลดลงเรื่อย ๆ ตามวัย มีการประเมินว่าเมื่อเรามีอายุ 50 ปี ระดับของ NAD+ จะลดเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของตอนอายุ 20 ปี และเมื่ออายุ 70 ปี ระดับของ NAD+ อาจเหลือเพียง 20% ส่งผลกระทบต่อโปรตีนตัวสำคัญที่ช่วยปกป้อง DNA และควบคุมการเสื่อมถอยของเซลล์ ทั้งยังส่งผลด้านลบต่อการทำงานของสมอง รวมถึงสมรรถภาพร่างกายที่ถดถอยลง

NAD+ Cell Therapy จึงเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นเพื่อเติม NAD+ กลับเข้าสู่ร่างกาย นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ได้ประสิทธิภาพในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาทและสมอง ลดอาการสมองล้าและช่วยให้ความจำดีขึ้น ลดการอักเสบภายในเซลล์และช่วยให้ร่างกายสามารถซ่อมแซม DNA ได้ดี ทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

สำหรับวิธีการรักษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ควบคุมดูแลขั้นตอนต่าง ๆ โดยเฉพาะการให้ NAD+ ผ่านทางหลอดเลือดดำ เพื่อส่งเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง ซึ่งจะสามารถตรงเข้าซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกายได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านการดูดซึมจากทางเดินอาหาร ถือเป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์จากภายในให้กับร่างกายและเส้นผม โดยเฉพาะเส้นผมหลังปลูกที่ต้องการการบำรุงดูแลเป็นพิเศษนั่นเอง


HPE GROWTH FACTOR

Treatment ใหม่ล่าสุด เพื่อการดูแลแบบสุด Exclusive จากนามนิน ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการปลูกผม รวมถึงผู้รักสุขภาพทุกคน ได้ฟื้นฟูบำรุงรักษาร่างกายและเส้นผมอย่างล้ำลึกจากภายใน 

พระเอกของนวัตกรรมนี้ก็คือ HPE หรือ Human Placenta Extract สารสกัดจากรกของมนุษย์ ที่เต็มไปด้วยสารสำคัญซึ่งมีความจำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเอนไซม์หรือสารเปปไทด์ต่าง ๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ Growth Factor ซึ่งมีในปริมาณสูง ทั้งยังปลอดภัยและเข้ากันได้ดีกับร่างกายของคนเรา ทำให้สามารถดูดซึมได้ง่าย ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง 

ที่สำคัญ HPE มีคุณสมบัติเด่นในการต้านการอักเสบ ช่วยสมานแผล และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม รวมไปถึงการต่อต้านอนุมูลอิสระ การฟื้นฟูและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่า Treatment เดียว ครบ จบทั้งการบำรุงร่างกายและเส้นผม เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษาได้รับความสะดวกสบายสูงสุด

บริการดูแลบำรุงเส้นผมหลังปลูกเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของความใส่ใจในทุก ๆ ขั้นตอนของนามนิน ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้เข้ารับการรักษาในทุก ๆ ก้าวตลอดการเดินทางอันยาวนาน บนเส้นทางสู่ผมใหม่ที่แข็งแรงและสุขภาพดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงระยะหลังจากปลูกผม เพื่อเติมเต็มกระบวนการรักษาให้ครบสมบูรณ์ และเพื่อเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ที่มั่นใจในตัวเองยิ่งขึ้นกว่าเดิม

.

NEAT ความพิเศษที่รอให้คุณพิสูจน์
หลาย ๆ คนที่ก้าวเข้ามารับการรักษาปัญหาภาวะผมบางและผมร่วงกับนามนิน อาจจะต้องสะดุดหูกับชื่อเทคนิค NEAT ว่าเป็นเทคนิคแบบไหน มีความโดดเด่นอย่างไร ทำไมจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อในวงการปลูกผมปัจจุบัน ชื่อเทคนิคที่คุ้นหูคนทั่วไปมากที่สุด ก็คือเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ซึ่งดูจะเป็นเทคนิคที่แพร่หลายรวมทั้งได้รับการยอมรับเป็นอันดับต้น ๆ ทั่วโลก 

FUE หรือ Follicular Hair Extraction คือการปลูกผมถาวรด้วยวิธีย้ายรากผมของคนไข้เอง จากบริเวณท้ายทอยด้านหลัง มาปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดเหมือนวิธีการในอดีตซึ่งจะทิ้งรอยแผลเป็นแนวยาว ที่สำคัญ ผมจากบริเวณท้ายทอยด้านหลังของคนเรานั้นมีคุณสมบัติต้านฮอร์โมน DHT อันเป็นสาเหตุให้ผมหลุดร่วงง่าย และเมื่อย้ายมาปลูกใหม่ ก็จะยังคงจุดเด่นเรื่องความคงทนแข็งแรง สามารถงอกใหม่ได้ตามธรรมชาติของวงจรเส้นผมไปตลอดชีวิตของคนเราเลยทีเดียว

และ NEAT ก็คือเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ในขั้นสูง ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนินเท่านั้น เนื่องจากมีการพัฒนาเพิ่มเติมขึ้นจากเทคนิค FUE โดยคุณหมอนิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม จนทำให้เกิดเทคนิคเฉพาะตัว ที่จะช่วยเอื้อให้เกิดความสะดวกสบายสูงสุดของคนไข้ ตั้งแต่ในช่วงก่อนปลูก ระหว่างปลูก และหลังปลูก นำไปสู่ผลลัพธ์ผมสวยและแข็งแรง ซึ่งจะอยู่คู่กับคนไข้ไปจนวันสุดท้ายของชีวิต

และนี่คือสิ่งที่หลาย ๆ คนพิสูจน์แล้วว่า เป็นความพิเศษเฉพาะตัวของ NEAT ที่ไม่อาจหาได้จากที่ไหน

โดยทั่วไป เครื่องมือเลเซอร์ถือเป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการวัดสัดส่วนใบหน้าเพื่อออกแบบ Hairline หรือแนวผมใหม่ก่อนทำการปลูกผม แต่ที่นามนิน แพทย์จะเป็นผู้ลงมือวาดเส้น Hairline ด้วยตัวเอง อาศัยประสบการณ์ ทักษะ ผสมผสานกับมุมมองเชิงศิลปะ โดยยึดความต้องการของคนไข้เป็นศูนย์กลาง เพื่อแก้ปัญหาผมแบบ Tailor-made เฉพาะบุคคลได้อย่างตรงจุด บนพื้นฐานของ Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำ เพื่อคืนความงดงามอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า และบุคลิกภาพที่ดีขึ้นให้กับเจ้าของเส้นผม

ที่ผ่านมา หลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกับการย้ายผมออกจากบริเวณท้ายทอยด้านหลังด้วยวิธีการโกน แต่แพทย์ของนามนินเข้าใจถึงปัญหาของคนไข้ซึ่งต้องคอยระแวงระวังปกปิดร่องรอยหลังการปลูก จนอาจทำให้คนไข้จัดทรงผมได้เพียงไม่กี่แบบ สำหรับนามนิน แพทย์ได้คิดค้น เทคนิคการนำผมออกแบบขั้นบันได สลับกันเป็นแถบเล็ก ๆ โดยไม่ต้องโกน แต่ใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเจาะย้ายรากผมออกมาแทน ทำให้คนไข้สามารถจัดทรงผมได้ไม่จำกัดสไตล์ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเผยรอยหลังปลูกให้ใครเห็น

แม้ว่านามนินจะใช้อุปกรณ์ Implanter ขนาดเล็ก เช่นเดียวกับการทำหัตถการปลูกผมแบบ FUE ทั่วไป แต่ขนาด Implanter ที่นามนินเลือกนำเข้าจากต่างประเทศมาใช้เจาะย้ายรากผมให้กับคนไข้นั้น เป็น Implanter ขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร ซึ่งเล็กกว่า Implanter ขนาด 0.8 มิลลิเมตรที่ใช้กันอยู่ทั่วไป จึงทิ้งไว้เพียงรอยปลูกขนาดเล็กซึ่งแทบไม่มีเลือดออก และยังลดปัญหาแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นจุดสีขาว ๆ หลังปลูกผม ทำให้คนไข้แทบไม่ต้องพักฟื้นใด ๆ และสามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันที

Implanter ขนาดเล็กพิเศษของนามนิน ยังช่วยให้แพทย์สามารถ ปลูกผมตามทิศทางองศาได้แม่นยำ กว่าการปลูกผมแบบ FUE ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรวมกับความละเอียด ประณีต และความใส่ใจของแพทย์ที่เข้าใจทิศทางเส้นผมและมีทักษะในการปักกราฟต์ผมขั้นสูงแล้ว คนไข้จึงมั่นใจได้ว่า เส้นผมปลูกใหม่จะเรียงตัวกันในทิศทางองศาที่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม แลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ที่สำคัญ นามนินทำหัตถการปลูกผมด้วยแพทย์ทุกเส้น ขณะที่การปลูกผมแบบ FUE ทั่วไปอาจใช้เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพมาช่วย แต่นามนินให้ความสำคัญกับขั้นตอนการปักกราฟต์ผมซึ่งต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ตัวจริงเท่านั้น เพื่อให้สามารถปักกราฟต์ผมได้ถูกต้องแม่นยำ ทั้งทิศทาง องศา ความลึก ความหนาแน่น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผมปลูกใหม่แลดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรง สุขภาพดี ไม่หลุดร่วงง่าย

มาลองพิสูจน์ความพิเศษเหนือระดับของเทคนิค NEAT ได้ เพียงเริ่มก้าวเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของนามนิน เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการรักษา ที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้อย่างที่ต้องการ
ไขข้อข้องใจ ภาวะผมหงอกหลังการปลูกผม
หลังการปลูกผม คนไข้อาจจะพบเจอภาวะที่หลากหลายและแตกต่างกันไป เช่น ผมร่วง ผมหยิก หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ ในบทความนี้ นามนิน คลินิก จะชวนมาทำความเข้าใจกับภาวะ “ผมหงอกหลังการปลูกผม”ว่ามีสาเหตุจากอะไร และจะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่ เพื่อผู้ที่สนใจการปลูกผมถาวรจะได้มีความเข้าใจที่ชัดเจนมากขึ้นและช่วยคลายความกังวล หากผู้ใดพบเจอกับภาวะนี้อยู่ค่ะ

ผมหงอกหลังการปลูกผม เกิดได้จาก 2 สาเหตุหลัก สาเหตุแรก เกิดจากกระบวนการปลูกผม เพราะในขั้นตอนการเจาะหนังศีรษะเพื่อนำกราฟท์ผมจากบริเวณท้ายทอยไปใช้นั้นทำให้เกิดแผลขนาดเล็กๆ หลายจุด ทำให้เซลล์ในชั้นหนังแท้ซึ่งเป็นชั้นที่รากผมฝังตัวอยู่นั้นเกิดความเครียดและหยุดทำงานชั่วคราว ส่งผลให้เซลล์เมลาโนไซท์ (Melanocyte) ที่ผลิตเม็ดสีเมลานินนั้นหยุดทำงานไปด้วย ทำให้เกิดผมหงอกได้ สามารถพบได้ทั้งบริเวณผมที่ย้ายมาปลูกและผมบริเวณใกล้เคียงจุดที่เจาะนำกราฟท์ผมออกไป ทั้งนี้ ผมหงอกในลักษณะนี้เป็นอาการข้างเคียงที่อาจพบได้ในคนไข้บางรายและเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น

สาเหตุที่สอง เกิดได้จากการที่จำเป็นต้องเจาะนำกราฟท์ผมหงอกมาปลูก อาจจะเป็นเพราะคนไข้มีผมดำไม่เพียงพอต่อการปลูกผมหรือด้วยสาเหตุอื่นๆ ผมที่ย้ายมาปลูกก็จะกลายเป็นผมหงอกตามธรรมชาติเดิมของเส้นผม นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่หากผู้ใดเริ่มพบปัญหาผมร่วงผมบาง ไม่อยากให้รอจนสายเกินไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขโดยเร็วค่ะ 
หากมีผมหงอกหลังการปลูกผมนั้นเกิดขึ้นมาจากสาเหตุแรก อาการนี้จะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 2-3 เดือน เมื่อเซลล์ต่างๆ ปรับตัวได้และกลับมาทำงานตามปกติ ผมหงอกจะค่อยๆ หายไป หากแพทย์ไม่ได้ตรวจพบว่าเกิดสิ่งผิดปกติใดๆ ก็สามารถย้อมสีผมเพื่อปกปิดผมหงอกได้ค่ะ แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย มีส่วนผสมของสารเคมีให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อเส้นผมและหนังศีรษะ 

อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงและลักษณะอาการข้างเคียงหลังการปลูกผมของแต่ละคนนั้นจะไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนตายตัว “นามนิน คลีนิก” เข้าใจถึงสภาพจิตใจของผู้เข้ารับการปลูกผมว่าอาจมีความกังวล ความเครียด และความคาดหวังที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล จึงมีการดูแลและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง แพทย์จะให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมตลอดระยะเวลา 1 ปี หลังการปลูกผม และพร้อมให้คำปรึกษาหากคนไข้มีความกังวลกับภาวะใดๆที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังการปลูกผม การได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยคลายความกังวลให้คนไข้และจับมือกันเดินทางไปให้ถึงจุดหมายที่รอคอยได้อย่างอุ่นใจที่สุด

เพราะสำหรับนามนิน คลินิก ตั้งแต่ก้าวแรกที่คุณเปิดใจเดินเข้ามาปรึกษาแพทย์ นั่นหมายถึง คุณกับแพทย์เป็นทีมเดียวกันแล้วค่ะ “ทีมนามนิน”

Tip ดูแลเส้นผมรับลมหนาว
แม้ว่าลมหนาวปลายปีจะมาเยือนเมืองไทยแค่เบา ๆ เหมือนกลัวมนุษย์เมืองร้อนอย่างเราจะหนาวกันจนทนไม่ไหว แต่ถึงอย่างนั้น อุณหภูมิที่ลดลง และความชื้นในอากาศที่ลดลง ก็ทำให้สภาพอากาศแห้งขึ้น และส่งผลต่อเส้นผมของเราได้เหมือนกัน

สังเกตมั้ยว่า หน้าหนาวทีไร เส้นผมของเรามักจะดูแห้งเสีย กระด้าง ชี้ฟู จัดทรงยาก ไม่เงางาม ทั้งยังหลุดร่วงง่ายกว่าในฤดูอื่น ๆ นั่นก็เป็นเพราะหนังศีรษะของเราทั้งแห้งและขาดความชุ่มชื้นไปตามสภาพอากาศ หรือหากบางคนมีน้ำมันเคลือบเส้นผมอยู่มากเกินไป ก็จะทำให้ผมลีบแบน และทิ้งตัวติดศีรษะจนแทบหมดความมั่นใจเลยก็เป็นได้

เราจึงขอชวนคุณมาดูแลเส้นผมรับลมหนาว เพื่ออวดผมสวยสุขภาพดีแม้ในช่วงปลายปีที่อากาศเปลี่ยนแปลง ด้วยวิธีง่าย ๆ เหล่านี้

  • ข้อแรก ง่ายจริง ๆ นะ แค่ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย รวมถึงหนังศีรษะและเส้นผมด้วย

  • เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย โดยเฉพาะสารอาหารพวกโปรตีนหรือไขมันที่มีประโยชน์ ซึ่งจะช่วยบำรุงผมของเราได้อีกทาง

  • ถ้าใครรู้ตัวว่ามีผมแตกปลาย หมั่นคอยเล็มออกบ่อย ๆ จะดีกว่า เพื่อไม่ให้ผมแห้งเสีย และชี้ฟูยิ่งกว่าเดิมในหน้าหนาว

  • ส่วนใครที่มักจะสระผมเป็นประจำทุกวัน ฟังทางนี้ การสระผมบ่อย ๆ จะเป็นชะล้างน้ำมันบนหนังศีรษะออกไป ทำให้ผมยิ่งแห้งและขาดความชุ่มชื้นมากขึ้น หรือถ้าคุณเป็นคนผมมันอยู่แล้ว การสระผมบ่อย ๆ ก็อาจจะกระตุ้นให้หนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นอีก ดังนั้น ลองปรับกิจวัตรการสระผม โดยสระเท่าที่จำเป็นก็พอ

  • การสระผมด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน ก็มีผลเหมือนกันนะ เพราะจะทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะเปิดออก และเสี่ยงต่อการอุดตัน จนอาจทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงเส้นผมได้ไม่เต็มที่ เส้นผมจึงอ่อนแอ หลุดร่วงง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้น ถ้าไม่หนาวจนเกินไป สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติน่าจะดีต่อสุขภาพผมมากกว่า

  • นอกจากน้ำร้อนแล้ว ลมร้อนจากไดร์เป่าผม รวมถึงความร้อนจากการหนีบผมหรือการจัดแต่งทรงผมอื่น ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน ทั้งนี้ เราอาจจะใช้น้ำมันที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากการถูกทำลายด้วยความร้อน ชโลมให้ทั่วก่อน หรือเปลี่ยนมาใช้ไดร์เป่าผมลมอุ่นหรือลมธรรมดาก็ได้เหมือนกัน

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่ได้คุณภาพ เหมาะกับสภาพผม สามารถช่วยบำรุงและกักเก็บความชุ่มชื้น หรือเพิ่มน้ำหนักให้กับเส้นผม ซึ่งนอกจากแชมพูแล้ว ก็ควรใช้ครีมนวดผมเป็นประจำ โดยชโลมเฉพาะบริเวณปลายผม เพื่อป้องกันผมแตกปลาย และหลีกเลี่ยงบริเวณหนังศีรษะ เพื่อไม่ให้ผมมันมากขึ้น 

  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เติมน้ำมันให้ผม เช่น น้ำมันมะกอกสกัดเย็น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งเป็นที่นิยมใช้หมักผมกันโดยทั่วไป หรือการทำ Treatment ผม เพื่อปกป้องผมจากอากาศแห้งและเย็น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจไม่น้อย

หากใครกำลังมองหา Treatment บำรุงผมแบบครบเครื่อง นามนินขอแนะนำบริการใหม่ Namnin Perfect Hair Treatment ที่เราออกแบบให้เป็น Treatment กึ่งสปา เริ่มจากการนวดบำรุงหนังศรีษะด้วยน้ำมันสกัดจากธรรมชาตินำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น อาศัยศาสตร์การนวดช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ตามมาด้วยการทำความสะอาดเส้นผมแบบมืออาชีพด้วยผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวด Mojelim Elixer ที่นำเข้าจากโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้ ก่อนจะบำรุงด้วยเซรั่มทิ้งท้ายอีกขั้น เพื่อให้ผมแข็งแรง เงางาม มีน้ำหนักตั้งแต่โคนจรดปลาย เรียกได้ว่าเป็นวิธีง่าย ๆ ในการดูแลเส้นผมแบบจบครบทุกมิติใน Treatment เดียว เพื่อให้เส้นผมของคุณพร้อมสู้สภาพอากาศได้ทุกฤดูกาล

เปิดเส้นทางความสำเร็จ สู่ปีที่ 4 ของ “นามนิน คลินิก”
“นามนิน คลินิก” ยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการปลูกผมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ด้วยเทคนิคสุดประณีตที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว ซึ่งประยุกต์ทั้งศาสตร์การแพทย์และศิลปะความงามเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งยังมอบบริการที่ตอบโจทย์ความสำเร็จในการรักษาและความพึงพอใจของคนไข้แบบเฉพาะบุคคล เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่ขวบปีที่ 4 อย่างมั่นคง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาด “บริการปลูกผม” ในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และสามารถขยายฐานผู้ใช้บริการไปสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากเทรนด์การปลูกผมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีช่วงอายุน้อยลงเรื่อย ๆ รวมไปถึงกลุ่มผู้หญิง เนื่องมาจากความสำเร็จในการเปลี่ยนภาพจำเก่า ๆ ของการปลูกผม จากที่เคยเป็นปัญหาของผู้ชาย คนสูงวัย หรือคนที่มีปัญหาเส้นผมรุนแรง กลายมาเป็นศาสตร์ความงามที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้ เพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่มั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วยังช่วยลบภาพจำที่ค่อนข้างน่ากลัวของหัตถการการปลูกผม แทนที่ด้วยคำบอกเล่าถึงประสบการณ์สบาย ๆ ที่น่าประทับใจ แทบไม่ต่างจากการเข้าคลินิกเสริมความงามที่มีอยู่ทั่วทุกมุมเมืองในตอนนี้




“นามนิน” ก็คือหนึ่งในชื่อของคลินิกปลูกผมที่กำลังมาแรง และเป็นชื่อที่อยู่ในใจอันดับต้น ๆ ของผู้เข้ารับบริการปลูกผม เนื่องจากความตั้งใจที่ชัดเจนของแพทย์หญิงดิลกณิกนันต์ นามทองต้น หรือคุณหมอนิน ซึ่งเป็นผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าในการลงมือปลูกผมด้วยตัวเอง และอยู่เบื้องหลังในการวางรากฐานและบทบาทของแบรนด์ “นามนิน” ในฐานะผู้ให้บริการปลูกผมด้วย “ความใส่ใจ” พร้อมเติมความละเอียดประณีตลงไปในทุก ๆ ขั้นตอน โดยยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง และออกแบบแนวทางการรักษาแบบ tailor-made เคสต่อเคส เพื่อตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ 


ที่สำคัญ คุณหมอนินยังอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่สั่งสมจากทั้งในและต่างประเทศ มาพัฒนาเทคนิคการปลูกผมที่ทันสมัยและได้ประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างความสะดวกสบายให้คนไข้ได้มากกว่าเดิม ภายใต้ชื่อเทคนิค NEAT หรือ Namnin’s Exclusive Advanced Hair Transplant Technique ซึ่งหมายถึง “เทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน” ความพิเศษของเทคนิค NEAT ไม่ใช่แค่ชื่อช่วยจำ แต่มีความหมายที่แฝงอยู่ในทุกตัวอักษร 


“ N แทนความเชี่ยวชาญของคุณหมอนิน
E แทนแนวทางการรักษาที่ออกแบบสุด Exclusive เฉพาะบุคคล 
A แทนเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงระดับ Advance ที่วางใจได้ในผลลัพธ์การรักษา 
T แทน Technology เครื่องมือทันสมัย ประสานกับ 
Technique เฉพาะตัวของคุณหมอนินที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง”


นอกจากความสำเร็จของเทคนิค NEAT “นามนิน คลินิก” ยังพัฒนาการให้บริการทุก ๆ มิติ โดยเน้นให้บุคลากรผู้ช่วยแพทย์ต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นในการทำหัตถการปลูกผม ขณะที่บุคลากรประจำคลินิกทุกคนต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันในการดูแลและให้คำแนะนำแก่คนไข้ด้วยความใส่ใจ กระทั่งสามารถเปลี่ยนคลินิกแห่งนี้ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความอุ่นใจ ที่คนไข้สามารถบอกเล่าปัญหาและขอคำปรึกษาได้เสมอ อีกทั้งแพทย์ยังเลือกสรรผลิตภัณฑ์บำรุงและทำความสะอาดเส้นผมที่ได้มาตรฐานเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการรักษาในระยะยาว


จุดแข็งของ “นามนิน” โดยเฉพาะการที่แพทย์เป็นผู้ลงมือปลูกผมด้วยตนเองทุกเส้นนั้น ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างมาตรฐานที่สูงขึ้นให้กับวงการปลูกผมในประเทศไทย ซึ่ง “นามนิน” เองพยายามสื่อสารมาตลอดว่า หัวใจสำคัญของกระบวนการปลูกผม คือขั้นตอนการปักกราฟต์ผมใหม่ลงบนพื้นที่ที่เป็นปัญหา โดยคำนึงถึงทิศทางองศา ความลึก ความหนาแน่นที่เหมาะสม เพื่อให้เส้นผมใหม่เรียงตัวกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม เติมเต็มส่วนที่บางให้กลับหนาแน่นอย่างเป็นธรรมชาติ และมั่นใจได้ว่าเส้นผมใหม่จะเติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแรง ไม่หลุดร่วงไปก่อนเวลาอันควร การปลูกผมจึงเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์อย่างไม่มีใครแทนที่ได้


ไม่เพียงเท่านั้น “นามนิน” ยังยึดมั่นในการทำการสื่อการการตลาดด้วย “กลยุทธ์น่านน้ำสีขาว หรือ White Ocean Strategy” ซึ่งเน้นการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของจริยธรรม ความเป็นจริง และความรับผิดชอบต่อสังคม “นามนิน” เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการปลูกผม ที่เน้นการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจในศาสตร์การปลูกผม แบ่งปันสู่กลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางต่าง ๆ เสมอมา ดังจะเห็นได้จากการเลือกใช้สื่อหลากหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น การสื่อสารไปยังกลุ่มวัยกลางคนผ่านสื่อวิทยุ การสื่อสารไปยังกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ ๆ ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายและกำลังรับมือกับปัญหาเส้นผมแบบเดียวกัน ผ่านสื่อออนไลน์และเหล่า Influencers ที่น่าเชื่อถือ รวมไปถึงการสื่อสารผ่านหนังสั้นเพื่อสะท้อนมุมมองและคำสัญญาจากแบรนด์ เพื่อตอกย้ำถึงคุณค่าของบริการปลูกผมจาก “นามนิน


ก้าวต่อไปในปีที่ 4 ของ “นามนิน” ไม่เพียงเริ่มต้นด้วยการต่อยอด “คอร์สสอนปลูกผม” ที่ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ของคุณหมอนิน ในฐานะ “อาจารย์แพทย์” สู่ “แพทย์” ท่านอื่น ๆ โดยตรงเท่านั้น แต่ผู้มาใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังได้สัมผัสประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งขึ้น กับบริการที่ครบวงจรแบบ Hair Medical Center ที่พหลโยธิน 34 รองรับการบริการด้านการดูแลเส้นผมตั้งแต่ก่อนปลูกผม ให้บริการปลูกผม และดูแลฟื้นฟูเส้นผม ด้วยความ “ใส่ใจ” ในทุก ๆ ขั้นตอนตลอดเส้นทางการรักษา เพื่อเปลี่ยนทุกคนที่ก้าวเข้ามาใช้บริการ ให้กลายเป็น “คนใหม่” ที่สามารถปลดล็อกตนเองสู่อิสระและความมั่นใจในการใช้ชีวิต สัมผัสประสบการณ์การดูแลเส้นผม การปลูกผมแบบไม่ต้องลางาน ได้ที่ https://www.facebook.com/namninclinic  หรือ www.namnin.com  สอบถามรายละเอียด Line@Namninclinic หรือโทร.093-093-5639

คู่มือปลูกผมฉบับย่อ จาก “นามนิน”
“นามนิน” ขอนำเสนอ “คู่มือปลูกผมฉบับย่อ” สำหรับใครก็ตามที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผม คนที่กำลังตัดสินใจว่าจะปลูกผมดีหรือไม่ หรือปลูกผมด้วยวิธีไหน รวมไปถึงคนที่กำลังเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผมใหม่ เพื่อจะได้ทำความเข้าใจหลักการและขั้นตอนต่าง ๆ ในการปลูกผม และเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะเริ่มต้นเส้นทางการรักษา ซึ่งจะมีแพทย์เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย


ขั้นตอนก่อนปลูกผม

1
ผู้ที่สนใจเข้ารับการปลูกผม ติดต่อนัดหมายกับทางคลินิก เพื่อเข้ามาปรึกษากับแพทย์โดยตรง


2
เมื่อถึงวันนัดหมาย แพทย์จะให้เวลากับคนไข้อย่างเต็มที่ ทั้งตอบคำถามต่าง ๆ เพื่อคลายข้อสงสัย อธิบายขั้นตอนการรักษาตามลำดับเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้คนไข้มองเห็นภาพรวมของคำว่า “การปลูกผม” ได้ชัดขึ้น ที่สำคัญ แพทย์จะรับฟังปัญหาและความต้องการของคนไข้เป็นหลัก ก่อนจะออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล ให้ตอบโจทย์เป้าหมายของคนไข้มากที่สุด เนื่องจากคนไข้แต่ละคนมีปัญหาผม มีความต้องการ และมีข้อจำกัดในการทำงานหรือการใช้ชีวิตที่ต่างกัน แพทย์จึงต้องใช้เวลาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ และช่วยให้แนวทางการรักษาที่จะเป็นไปหลังจากนี้ เกิดขึ้นจากการวางแผนร่วมกันระหว่างแพทย์กับคนไข้อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์การรักษาออกมาเป็นที่น่าพอใจเมื่อถึงปลายทาง


‘การรักษาโดยยึดคนไข้เป็นศูนย์กลาง แทนที่จะมุ่งรักษาตามสูตรสำเร็จทางการแพทย์อย่างเดียวนั้น เป็นไปตามหลักที่เรียกว่า Customer Centric ซึ่งนามนินเองก็นำหลักการนี้มาใช้ เพื่อให้แนวทางการรักษานั้น ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ได้จริง’


3
นัดหมายวันที่คนไข้สะดวกเข้ารับการปลูกผม โดยจะใช้เวลาทำหัตถการปลูกผมจบภายใน 1 วัน



ขั้นตอนในวันปลูกผม

4
เริ่มต้นปฏิบัติการเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ ด้วยการออกแบบ Hairline หรือแนวผมบริเวณหน้าผาก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่การลากเส้นใหม่ตามใจแพทย์ แต่เป็นการออกแบบจากความต้องการของคนไข้ ประกอบกับหลักสัดส่วนความงามตามธรรมชาติของใบหน้า นอกจากจะเติมเต็มเส้นผมให้ดูหนาแน่น เพื่อแก้ปัญหาผมร่นขึ้นสูงบริเวณหน้าผากแล้ว Hairline ใหม่ยังช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้เจ้าของเส้นผม เติมความหวานละมุนให้ใบหน้าของคุณผู้หญิง ขณะเดียวกันก็เติมความสมาร์ทคมเข้มให้กับใบหน้าของคุณผู้ชาย เรื่องของ Hairline จึงเป็นมากกว่าแค่ขั้นตอนหนึ่งของการปลูกผมทั่วไป แต่ยังเป็นการใช้มุมมองความงามเชิงศิลป์ เพื่อเรียกคืนความมั่นใจให้กับคนไข้หลังปลูกผมด้วย


‘สัดส่วนความงามตามธรรมชาติของใบหน้า รู้จักกันในชื่อ สัดส่วนทองคำ หรือ Golden Ratio เป็นทฤษฎีด้านความงามที่จับเอาหลักคณิตศาสตร์โดย Leonardo Fibonacci มาประยุกต์ใช้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ช่วยให้สามารถออกแบบรูปหน้าได้สวยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น สัดส่วนทองคำยังนำถูกไปใช้อย่างกว้างขวางในวงการศิลปะและการออกแบบทั่วไป’


5
หลังจากวาดเส้น Hairline ใหม่เรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเป็นผู้เตรียมตัดแต่งทรงผมด้านหลังท้ายทอยของคนไข้ หลายคนอาจเคยได้ยินว่า ต้องมีการโกนผมก่อนลงมือปลูกผมใหม่ด้วย แต่เทคนิคการปลูกผมในปัจจุบันพัฒนาไปมาก และที่สำคัญ ยังออกแบบมาเพื่อเอื้อให้คนไข้ใช้ชีวิตประจำวันได้ง่ายและสะดวกสบายขึ้น ดังนั้น ผมของคนไข้จึงจะได้รับการตัดแต่งอย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องโกนผมทิ้ง ช่วยให้คนไข้ยังสามารถทำผมทรงต่าง ๆ ได้อย่างอิสระหลังปลูกผม ไม่ต้องคอยระวังซ่อนแผลจนเป็นกังวลและหมดความมั่นใจ


6
ขอต้อนรับเข้าสู่ห้องหัตถการปลูกผม ซึ่งคนไข้จะได้รับคำแนะนำให้สวมเสื้อผ้าสบาย ๆ ติดกระดุมหน้าเพื่อให้ถอดได้สะดวก โดยในขั้นตอนนี้ คนไข้จะได้รับการเตรียมให้อยู่ท่านอนที่สบายที่สุด ก่อนจะเริ่มนำกราฟต์ผมด้านหลังท้ายทอยออก โดยไม่ต้องผ่าตัด เพียงใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเจาะย้ายกราฟต์ผมออกมา

ที่นามนิน แพทย์ยังใช้เทคนิคซ่อนแผลด้านหลังแบบขั้นบันได โดยนำกราฟต์ผมออกเป็นแถบ ๆ สลับกัน และใช้วิธีเจาะย้ายกราฟต์ผมออกแบบกระจาย เพื่อให้รอยแผลได้รับการซ่อนแนบเนียนไปกับเส้นผมเดิม ช่วยให้คนไข้ไม่ต้องพยายามปกปิดรอยแผลด้านหลังเมื่อปลูกผมเรียบร้อยแล้วนั่นเอง


‘กราฟต์ผม หรือกอผม คือกลุ่มเส้นผมที่มาอยู่รวมกัน กราฟต์ผมแต่ละกราฟต์อาจมีเส้นผมได้ตั้งแต่ 1 – 4 เส้น ต่างกันไปในแต่ละคน และเหตุผลที่ต้องใช้กราฟต์ผมบริเวณท้ายทอยเพื่อนำไปปลูกใหม่ ก็เพราะผมบริเวณนี้มีความแข็งแรง ต้านทานฮอร์โมนที่ทำให้ผมหลุดร่วงง่าย และแม้จะย้ายไปปลูกใหม่ คุณสมบัตินี้ก็จะยังอยู่ไปตลอดวงจรของเส้นผม’


7
กราฟต์ผมของคนไข้ จะได้รับการดูแลอย่างดี โดยแช่ไว้ในน้ำยารักษากราฟต์ผมคุณภาพเยี่ยม ซึ่งผู้ช่วยแพทย์จะค่อย ๆ แยกและตัดแต่งกราฟต์ผม ให้ได้จำนวนเส้นผมในกราฟต์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่จะนำไปลูกใหม่ เนื่องจากผมบริเวณต่าง ๆ ของคนเรา จะมีลักษณะทางกายภาพที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น ผมบริเวณกลางศีรษะ จะเป็นผมเส้นใหญ่ หนา และมีจำนวน 2 – 4 เส้นต่อ 1 กราฟต์ผม ขณะที่ผมบริเวณแนวหน้าผาก จะเป็นผมเส้นเล็ก บาง และมีจำนวนเพียง 1 – 2 เส้นต่อ 1 กราฟต์ผมเท่านั้น


8
ในระหว่างที่ผู้ช่วยแพทย์กำลังตัดแต่งกราฟต์ผมนั่นเอง ก็ได้เวลาพักรับประทานอาหารกลางวันของคนไข้ ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดของวันนี้


9
แพทย์จะเป็นผู้ปลูกผมให้คนไข้ด้วยตัวเอง โดยลงมือปักกราฟต์ผมใหม่เองทุกกราฟต์ ซึ่งเหตุผลที่ขั้นตอนนี้ต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมเท่านั้น ก็เป็นเพราะว่า การปักกราฟต์ผมใหม่ เป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน และมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ส่งผลต่อความอยู่รอดของเส้นผมใหม่ ให้ต้องคำนึงถึงมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

การเลือกกราฟต์ผม ให้มีจำนวนเส้นผม และขนาดความหนาบางของเส้นผม ที่เหมาะสมกับบริเวณที่จะปลูก  ความหนาแน่นของกราฟต์ผมที่ปลูกใหม่ ไม่ควรแน่นเกินไปจนอาจทำให้กราฟต์ผมหลุดร่วงง่าย แต่ก็ไม่ควรบางเกินไปจนดูเหมือนปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข ต้องกระจายระยะปักกราฟต์ให้เกิดความพอดี ทิศทางผม แพทย์จะค่อย ๆ ปักกราฟต์ผมใหม่ให้เรียงตัวไปตามทิศทางผมเดิม เพื่อความกลมกลืน แลดูเป็นธรรมชาติ 

องศาผม เพราะผมแต่ละเส้นมีองศาความโค้งในแบบของตัวเอง แพทย์จึงต้องเลือกเส้นผมที่มีองศาความโค้งเหมาะสมกับบริเวณที่จะนำไปปลูกด้วย
ความลึกของกราฟต์ผม ข้อนี้จะส่งผลต่อการเชื่อมต่อของรากผมกับเส้นเลือดฝอยที่ทำหน้าที่ลำเลียงอาหารมาหล่อเลี้ยงเส้นผม ซึ่งมีส่วนต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่โดยตรง


‘ทิศทางและองศาผม เป็นปัจจัยสำคัญที่แพทย์จะใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากหากปลูกผมผิดทิศทาง จะทำให้ผมที่งอกขึ้นใหม่ชี้ไปมาย้อนแย้งกับเส้นผมเดิม ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ก็ต่อเมื่อปลูกไปแล้วระยะหนึ่งเท่านั้น ทั้งยังไม่สามารถแก้ไขด้วยการปลูกใหม่ได้อีกแล้ว’


ผู้ช่วยคนสำคัญของแพทย์ในขั้นตอนนี้ ก็คือ Implanter หรืออุปกรณ์ปลูกผมนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร ช่วยให้แพทย์สามารถปักกราฟต์ผมใหม่ได้อย่างแม่นยำ ละเอียด ประณีต และทิ้งไว้เพียงรอยแผลขนาดเล็กหลังปลูก ทั้งยังช่วยให้เลือดออกน้อย ลดอาการเจ็บ และทำให้แผลหายไวขึ้นโดยแทบไม่ต้องพักฟื้น


10
เมื่อปักกราฟต์ผมเรียบร้อยแล้ว คนไข้จะได้รับการดูแลทำความสะอาดเส้นผม เริ่มตั้งแต่การสระผมอย่างอ่อนโยนที่สุด ตรวจลักษณะและความเรียบร้อยของแผล ก่อนจะเป่าผม และจัดทรงผมที่ดูดีให้กับคนไข้ เพื่อให้สามารถกลับออกไปทำกิจวัตรประจำวันต่อ หรือกลับบ้านได้อย่างสบายใจ 


ขั้นตอนหลังปลูกผม

11
วันรุ่งขึ้น แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาทำความสะอาดผมอีกครั้ง เพื่อแนะนำวิธีการสระผมที่ถูกต้อง พร้อมแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมในช่วงแรก โดยเตรียมชุด Namnin Hair Care ที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะจากสารสกัดธรรมชาติ 100% ไว้ให้ เพื่อให้คนไข้สามารถดูแลเส้นผมปลูกใหม่เบื้องต้นได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน


12
เพราะการปลูกผมไม่ได้จบลงแค่ในห้องหัตถการ แต่ยังหมายถึงการติดตามดูแลเส้นผมใหม่ไปอีก 1 ปีเต็ม ๆ จนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ผมสวยหนาแน่นอย่างสมบูรณ์จริง ๆ ดังนั้น ในอีก 1 ปีต่อจากนี้ แพทย์จะยังคอยนัดหมายติดตามผลและให้คำแนะนำกับคนไข้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเสริมบริการ Treatment บำรุงเส้นผมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง นับเป็นเส้นทางการรักษาที่อาศัยทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ซึ่งแพทย์และคนไข้จะต้องจับมือทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ ที่ก้าวออกไปใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวคุณได้อย่างมั่นใจจริง ๆ


‘การรักษาที่อาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ เป็นหัวใจหลักของเทคนิคที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของนามนินพัฒนาขึ้น ภายใต้ชื่อ NEAT หรือ เทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน ซึ่งผสานทั้งศาสตร์การแพทย์ และมุมมองความงามเชิงศิลป์เข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์การรักษา และโจทย์ความสุขของคนไข้ไปพร้อม ๆ กันได้ในที่สุด’ 


Namnin Perfect Hair Treatment
Treatment ใหม่แต่เล่นใหญ่ครบเครื่องจากนามนิน ภายใต้ชื่อ Namnin Perfect Hair Treatment พร้อมให้บริการแล้ววันนี้ ในรูปแบบของคอร์ส “Treatment กึ่งสปา” ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่แบบไม่มีใครเหมือน 

Namnin Perfect Hair Treatment เป็นบริการนวดบำรุงหนังศีรษะครบทุกขั้นตอน โดยนำศาสตร์การนวดมาใช้ในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะเพื่อให้เกิดการปรับสมดุลหนังศีรษะ ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม และเร่งการงอกของผมใหม่ พร้อมทำความสะอาดเส้นผมอย่างล้ำลึก ผลลัพธ์ที่ได้จึงช่วยให้เส้นผมแข็งแรง เงางาม มีน้ำหนักตั้งแต่โคนจรดปลาย ทั้งยังช่วยอาการปวดศีรษะจากไมเกรน รวมถึงความเมื่อยล้าจากการทำงานด้วย

สำหรับขั้นตอนเข้ารับบริการ Namnin Perfect Hair Treatment จะใช้เวลาประมาณ 50 – 60 นาที หลังจากผู้เข้ารับบริการเตรียมตัวพร้อม คลุมผ้าที่ขา ประคบหน้าผากและรองต้นคอด้วยผ้าขนอุ่นเรียบร้อยแล้ว 

นวดบำรุงหนังศีรษะ

  • เริ่มต้นด้วยการหยด Organic Oil ประมาณ 10-15 หยด แล้วนวดหนังศีรษะให้ทั่ว โดย Organic Oil ที่ใช้ เป็นสารสกัดธรรมชาติ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมคุณสมบัติในการทำความสะอาดหนังศีรษะได้อย่างล้ำลึก โดยเฉพาะสิ่งตกค้าง คราบไขมัน ฝุ่นละออง และสารเคมีบนหนังศีรษะ จะถูกชะล้างออกอย่างง่ายดาย ไม่ให้หลงเหลือเป็นอุปสรรคต่อการสร้างเส้นผมใหม่ ทั้งยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เส้นผมแลดูสุขภาพดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ตามมาด้วยการหยดน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ประมาณ 4-5 มิลลิลิตร แล้วนวดให้ทั่วหนังศีรษะ รวมไปถึงบริเวณขมับ และต้นคอด้วย สำหรับน้ำมะพร้าวสกัดเย็นนี้ จะช่วยลดแบคทีเรียบนหนังศีรษะ ลดการสร้างสะเก็ด การสร้างรังแค และช่วยให้เส้นผมมีการกักเก็บโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นผมมากขึ้น จึงช่วยแก้ปัญหาผมร่วงได้ ขณะเดียวกันก็ยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้

ทำความสะอาดเส้นผมแบบมืออาชีพ

  • จากนั้น เป็นการสระผมด้วยแชมพู Mojelim Elixer ซึ่งเป็นแชมพูที่จะช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม 

  • บำรุงอีกขั้นด้วยครีมนวด Mojelim Elixer Treatment ทิ้งไว้ 5 – 10 นาที เพื่อลดอาการผมแห้งเสีย

  • โดยแชมพูและครีมนวด Mojelim Elixer นำเข้าจากโรงพยาบาลปลูกผมชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้ ประกอบด้วยสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม ปรับสมดุลทั้งหนังศีรษะ ส่งผลให้เส้นผมมีความเงางาม และมีน้ำหนักตั้งแต่โคนจรดปลายผม

บำรุงอีกขั้นเพื่อสุขภาพผมที่ดียิ่งขึ้น

  • หลังซับผมจนแห้งหมาด ๆ แล้ว จะเป็นการลงเซรั่มบำรุงผม NEAT HAIRNUE Elixer Hair Serum ซึ่งผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% โดยใช้ประมาณ 5 – 10 หยด นวดให้ทั่วศีรษะ เพื่อลดการหลุดร่วงของเส้นผม กระตุ้นการงอกของเส้นผมใหม่ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด รวมไปถึงคุณสมบัติพิเศษในการลดการอักเสบของหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี 

  • เป่าผมให้แห้ง โดยใช้ลมเย็นเท่านั้นในบริเวณหนังศีรษะหรือบริเวณที่ปลูกผม ขณะที่บริเวณปลายผมสามารถใช้ลมอุ่นได้

  • เสริมการบำรุงอีกระดับด้วยการลงเซรั่มช่วงปลายผมให้กับผู้เข้ารับบริการ

Namnin Perfect Hair Treatment จึงเป็นอีกหนึ่งบริการใหม่จากนามนิน ที่พัฒนาขึ้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์ทางการรักษาของแพทย์และความต้องการของคนไข้ เรียกได้ว่าเป็น Treatment ที่มีความโดดเด่นในด้านความครบเครื่องและครอบคลุมทุกมิติของการดูแลเส้นผม และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างความก้าวหน้าของนามนิน เพื่อก้าวไปสู่การเป็น Medical Hair Center ในอนาคตอันใกล้

ปลูกผม “ผิด” ทิศทางและองศา
เส้นผมที่เราเห็นว่ามีลักษณะหน้าตาเหมือน ๆ กันไปหมดนั้น ที่จริงแล้ว แต่ละเส้นมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เหมือนกันเลย 

เคยสังเกตกันหรือไม่ว่า เส้นผมบนหนังศีรษะแต่ละส่วนของเรา จะเรียงตัวไปใน “ทิศทาง” ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าบริเวณใกล้หน้าผาก ด้านข้างบริเวณใบหู หรือบริเวณขวัญกลางศีรษะ ขณะเดียวกัน ผมแต่ละเส้นก็ยังมี “องศาความโค้ง” มากน้อยไม่เท่ากันด้วย 

หลายคนอาจสงสัยว่า ทิศทางและองศาผมที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ มีความสำคัญอย่างไร เราอาจต้องลองนึกภาพว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าในการปลูกผมใหม่ครั้งหนึ่งในชีวิต เราสนใจแต่ความหนาแน่นของผม จนลืมใส่ใจเรื่องการปลูกผมตามทิศทางและองศาไป...



นี่คือภาพตัวอย่างของผลลัพธ์จากการปลูกผมที่มองข้ามเรื่องทิศทางและองศา จะเห็นได้ว่าเส้นผมใหม่ชี้ผิดทิศผิดทาง ย้อนแย้งกับเส้นผมเดิม จนดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างชัดเจน 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากปัญหาเส้นผมผิดทิศนี้ เกิดขึ้นบริเวณด้านหน้า ก็คงจะทำให้เจ้าของเส้นผมไม่กล้าปล่อยผม หรือหากจะจัดแต่งทรงผม ก็คงจำกัดอยู่แค่ทรงเดียวหรือไม่กี่ทรงเท่านั้น ไม่สามารถเลือกเปลี่ยนทรงผมเพื่อเสริมบุคลิกภาพได้ตามใจ

ที่สำคัญ ทิศทางและองศาของผมปลูกใหม่ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นผลหลังปลูกได้ทันที เพราะในช่วงแรก เราจะเห็นเพียงตอผมขนาดสั้น ๆ ก่อน จนเวลาผ่านไปประมาณ 6 – 12 เดือนแล้วนั่นล่ะ ผมจึงจะยาวพอให้เห็นว่าทิศทางและองศาของเส้นผมใหม่ เรียงตัวกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม หรือออกมาแบบผิดทิศผิดทางหรือไม่

และที่น่ากังวลใจยิ่งกว่า ก็คือปัญหาเส้นผมที่ชี้ไปมาและย้อนแย้งกับทิศทางที่ถูกต้อง เป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ได้แล้ว เรียกได้ว่าปลูกแล้วปลูกเลย หรือแก้ไขได้ยากมาก ๆ นั่นหมายความว่า เราจะต้องอยู่กับเส้นผมผิดทิศแบบนี้ไปจนตลอดชีวิต!!

ดังนั้น การปลูกผมตามทิศทางและองศา จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงทักษะ ฝีมือ และความใส่ใจของแพทย์ผู้ทำการปลูกผมได้เป็นอย่างดี เพราะแพทย์จะต้องเป็นผู้คัดเลือกเส้นผมให้มีองศาความโค้งที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่จะปลูกผมใหม่ และปักกราฟต์ผมให้เรียงตัวไปในทิศทางกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม 

นอกจากทิศทางและองศาผมแล้ว แพทย์ยังต้องคัดเลือกขนาดของเส้นผมด้วย ตัวอย่างเช่น เส้นผมเล็กและบาง จะเหมาะกับการปลูกใหม่ตามไรผมบริเวณหน้าผาก ส่วนในบริเวณที่ลึกเข้ามา จะเหมาะกับผมเส้นเดี่ยว และกราฟต์ผมที่มีผมอยู่ร่วมกัน 2 – 4 เส้นตามลำดับ จึงจะใกล้เคียงกับเส้นผมเดิมตามธรรมชาติมากที่สุด

ขณะเดียวกัน แพทย์ยังต้องคำนึงถึงความลึกที่เหมาะสมในการปักกราฟต์ผม เพื่อให้ผมใหม่ได้รับสารอาหารผ่านเส้นเลือดต่าง ๆ ที่มาหล่อเลี้ยง ทำให้เส้นผมเติบโต แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย โดยทั้งหมดที่ว่ามานี้ แพทย์จะค่อย ๆ คัดแยกและปักกราฟต์ผมที่มีจำนวนมากกว่าพันกราฟต์ ทีละเส้น ทีละเส้น จนอาจเรียกได้ว่า นี่คืองานคราฟท์ หรืองานฝีมือสุดประณีตกลางห้องหัตถการปลูกผมเลยก็ว่าได้ 

รู้อย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังศึกษาข้อมูลการปลูกผม หรือกำลังมองหาทางเลือกในการแก้ปัญหาผม ด้วยการปลูกผมที่ตอบโจทย์มากที่สุด ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการปลูกผมตามทิศทางและองศา ซึ่งต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในทุก ๆ ขั้นตอนการปลูก เพื่อให้เส้นผมใหม่เรียงตัวกันกลมกลืนเป็นธรรมชาติ และให้เจ้าของเส้นผมได้อวดผมสวยในทุก ๆ สไตล์ได้อย่างอิสระและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ คุ้มค่ากับการลงทุนปลูกผมครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ให้ผลลัพธ์ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดนั่นเอง

NEAT พลังแห่ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์”
Namnin Exclusive Advanced Hair Transplant Technique (NEAT) คือเทคนิคปลูกผมขั้นสูง เอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน ที่พัฒนาขึ้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเส้นผม ผู้สั่งสมประสบการณ์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนเข้าใจอย่างแท้จริงว่า “การปลูกผม” เป็นทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” 

นั่นหมายความว่า การปลูกผมให้คนไข้แต่ละคนนั้น ต้องผสานทั้งศาตสร์ความรู้ด้านวิชาการแพทย์ที่เชื่อถือได้ เข้ากับมุมมองด้านศิลปะความงามเชิงสร้างสรรค์ เพื่อนำมาสู่ผลลัพธ์ที่ทรงพลังในการแก้ปัญหาเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นอาการผมร่วง ผมบาง หรือผมล้าน และยังสามารถคืนผมสวย หนาแน่น สุขภาพดี ให้เจ้าของเส้นผมได้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่มั่นใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ต่อไปนี้คือองค์ประกอบสำคัญของ NEAT เทคนิคสุดประณีตจากนามนิน ที่จะมาเติมเต็มภาพผลลัพธ์ผมใหม่ของคุณและผู้คนอีกมากมาย ให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด


วางแผนการปลูก “เฉพาะบุคคล”
ก้าวแรกของการรักษา คือการพบปะพูดคุยกันระหว่างคนไข้และแพทย์ ซึ่งแพทย์จะรับฟังปัญหาและความต้องการของคนไข้ ก่อนจะตรวจสอบสภาพปัญหาผม เพื่อวางแผนแนวทางการรักษาที่เป็นไปได้และให้ประสิทธิภาพดีที่สุดร่วมกัน 

รวมถึงการประเมินกราฟต์ผม ว่าคนไข้มีผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอยที่แข็งแรงพร้อมนำไปปลูกใหม่มากน้อยแค่ไหน และปัญหาผมของคนไข้นั้น ต้องการกราฟต์ผมไปช่วยเติมเต็มในปริมาณเท่าใด เพื่อคำนวณปริมาณกราฟต์ผมที่จะนำมาปลูกใหม่ให้เหมาะสมและลงตัว โดยแพทย์ไม่ลืมที่จะอธิบายถึงขั้นตอนต่าง ๆ ของการปลูกผมใหม่อย่างละเอียด เพื่อให้คนไข้เข้าใจกระบวนการรักษาและสามารถเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง

ไม่เพียงเท่านั้น แพทย์ยังช่วยออกแบบ Hairline หรือกรอบหน้าใหม่ ให้ดูหวานละมุนขึ้น ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น หรือดูสมาร์ทคมเข้มขึ้น ตามหลัก Golden Ratio หรือสัดส่วนทองของใบหน้า เพื่อเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจของคนไข้อีกด้วย

ที่สำคัญ การวางแผนการปลูกผมใหม่ของแพทย์แต่ละครั้ง จะเป็นการออกแบบแนวทางแก้ปัญหาแบบเฉพาะบุคคล หรือเคสต่อเคส เพราะนามนินตระหนักดีว่า คนไข้แต่ละคนมีลักษณะปัญหาผม มีข้อจำกัด และมีเป้าหมายความต้องการที่ต่างกัน ไม่เหมือนกันเลยแม้แต่คนเดียว แพทย์จึงไม่สามารถใช้สูตรสำเร็จที่ซ้ำ ๆ กันในการรักษา แต่จะต้องเริ่มต้นทำความรู้จักคนไข้ ทำความเข้าใจสภาพปัญหา และคิดใหม่ทุก ๆ ครั้งว่าจะเลือกแนวทางการรักษาแบบใด ปรับรายละเอียดตรงส่วนไหน เพื่อตอบโจทย์คนไข้ให้ได้มากที่สุด 


ปลูกผมโดยแพทย์ “เส้นต่อเส้น”
ที่นามนิน แพทย์จะเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้คนไข้ด้วยตัวเองทุกครั้ง เพราะนี่คือหัตถการทางการแพทย์ที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความละเอียดอ่อนอย่างที่สุด 

และคำว่าปลูกผม “เส้นต่อเส้น” ก็ไม่ได้เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะหัวใจสำคัญของการปลูกผม ก็คือการนำกราฟต์ผมที่เจาะย้ายออกจากด้านหลังท้ายทอย มาสังเกตขนาด ความหนาบาง องศาความโค้ง จำนวนเส้นผมต่อกราฟต์ และลงมือคัดแยกให้เหมาะกับบริเวณที่จะนำไปปลูกใหม่

จากนั้น จะเป็นการนำกราฟต์ผม ค่อย ๆ ปลูกลงในพื้นที่ที่มีปัญหา ซึ่งตรงนี้เอง แพทย์จะต้องอาศัยทักษะขั้นสูง ในการปักกราฟต์ผมทีละกราฟต์ โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ประกอบอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระยะความลึกที่เหมาะสมต่อการเชื่อมต่อเส้นเลือดฝอยบริเวณรากผม ทิศทางการเรียงตัวของเส้นผมที่จะต้องกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม ไม่ชี้ผิดทิศผิดทางจนดูไม่เป็นธรรมชาติ รวมไปถึงความหนาแน่นของผมใหม่ที่จะต้องระวังไม่ให้ดูแน่นจนเบียดกันเกินไป หรือดูบางและห่างกันจนเกินไป เพื่อให้เส้นผมใหม่สามารถเติบโตต่อได้อย่างแข็งแรง ซึ่งคนไข้จะมั่นใจได้ว่า กราฟต์ผมจำนวนมากกว่าพันกราฟต์ที่ปลูกใหม่นั้น เป็นผลลัพธ์จากความใส่ใจของแพทย์ทุกกราฟต์จริง ๆ 


Customer Centric เมื่อ “คนไข้” มาเป็นที่หนึ่ง
อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนไข้หลายต่อหลายคนสะท้อนเสียงยืนยันกลับมาว่า พวกเขาได้รับประสบการณ์การปลูกผมที่พิเศษแค่ไหนจากนามนิน ก็คือการที่แพทย์ยึดหลัก Customer Centric หรือการยึดคนไข้เป็นศูนย์กลางของการรักษา 

ที่นี่ แพทย์จะทำความรู้จักคนไข้ให้ชัดเจนตั้งแต่ขั้นตอนแรกเริ่ม หลาย ๆ ครั้งในการพูดคุยปรึกษากันระหว่างแพทย์กับคนไข้ แพทย์ไม่เพียงวินิจฉัยเฉพาะอาการของโรคหรือปัญหาเส้นผมที่เห็นตรงหน้า แต่ยังลงลึกถึงพฤติกรรม ความคิด ความเชื่อ ประสบการณ์ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คนไข้กำลังเผชิญ เพื่อให้เข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา รวมไปถึงการรับฟังเสียงความต้องการของคนไข้ด้วย

เพราะทั้งหมดนั้น คือหัวใจที่จะทำให้แพทย์ออกแบบแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคล ได้อย่างตอบโจทย์และเหมาะสมมากที่สุดนั่นเอง


เลือก “อุปกรณ์” และ “เทคนิค” ที่ดีที่สุด
ผู้ช่วยคนสำคัญของแพทย์ ก็คืออุปกรณ์ปลูกผมนำเข้า หรือ Implanter ที่มีขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้แพทย์สามารถปักกราฟต์ผมทีละกราฟต์ได้อย่างปลอดภัย เพิ่มความแม่นยำทั้งในเรื่องของระยะห่างระหว่างแต่ละกราฟต์ผม ระยะความลึก รวมถึงทิศทางองศาผม 

ขนาดของหัวเจาะที่เล็กพิเศษนั้น ยังช่วยลดผลข้างเคียง อย่างเช่นอาการเจ็บและบวมจากการปลูกผม และทิ้งไว้เพียงรอยแผลขนาดเล็ก เลือดออกน้อย ดูแลง่าย จนคนไข้แทบไม่ต้องพักฟื้นหรือลางาน หลังปลูกผมเสร็จแล้วสามารถลุกขึ้นทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ทันที 

ขณะเดียวกัน แพทย์ยังพัฒนาเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยเอื้อให้คนไข้สามารถใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากที่สุด ตัวอย่างเช่น เทคนิคซ่อนแผลด้านหลังแบบขั้นบันได เนื่องจากแพทย์เข้าใจว่า คนไข้หลังปลูกผมส่วนใหญ่ จะต้องกังวลใจและคอยระมัดระวังในการปกปิดรอยแผลด้านหลังท้ายทอย ที่เกิดจากการเจาะย้ายกราฟต์ผมออก และอาจทำให้คนไข้ไม่สามารถจัดแต่งทรงผมหลากหลายสไตล์ได้ดังใจ แพทย์จึงใช้วิธีเจาะย้ายกราฟต์ผมออกเป็นแถบบาง ๆ สลับกันแบบขั้นบันได เพื่อช่วยซ่อนแผลเล็ก ๆ เหล่านี้ไว้ใต้ผมเดิมที่เหลืออยู่อย่างแนบเนียนและกลมกลืน ไม่ว่าจะปล่อยผมหรือทำผมทรงอะไรก็ตาม


แนะนำ “การดูแลหลังปลูก”
...ปลูกผมจบ ใครว่าจบ... ทราบมั้ยว่า ความสำเร็จของการปลูกผม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับคนไข้เจ้าของเส้นผมเองด้วย เพราะคนไข้คือคนสำคัญที่จะต้องหมั่นคอยดูแลประคับประคองเส้นผมใหม่หลังปลูก ให้เติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแรง 

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะแพทย์ได้เตรียมทั้งคำแนะนำในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง รวมถึงผลิตภัณฑ์ลดอาการคัน ผลิตภัณฑ์สระผมสูตรอ่อนโยน และผลิตภัณฑ์บำรุงผมต่าง ๆ ที่แพทย์เลือกสรรแล้วว่า สามารถลดโอกาสการหลุดร่วงของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


ขณะเดียวกัน แพทย์ยังเตรียม Treatment หลังปลูกผม เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต และเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นผมใหม่อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการฉีด Growth Factor บริเวณหนังศีรษะเพื่อเน้นการบำรุงรากผมเป็นพิเศษ และการฉายเลเซอร์ LLLT หรือ Low-Level Laser Therapy ซึ่งเป็นนวัตกรรมการบำรุงด้วยแสงที่ออกแบบมาเพื่อเส้นผมและหนังศีรษะโดยเฉพาะ


ติดตามผลใกล้ชิด “ตลอด 1 ปีเต็ม”
และสุดท้าย ก็คือความใส่ใจระดับเต็มร้อยจากแพทย์ ที่จะอยู่เคียงข้างคนไข้ตลอดเส้นทางการรักษา ซึ่งยาวนานถึง 1 ปีเต็ม เพราะแม้ว่าเราจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยแค่ไหนในการปลูกผม แต่หลังจากนั้น ก็ต้องปล่อยให้เส้นผมได้เติบโตตามระยะและวงจรของเขาเองตามธรรมชาติ โดยแพทย์จะเป็นผู้คอยติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่องทุกระยะ และให้คำปรึกษาพร้อมตอบข้อสงสัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังการปลูกผมเดือนแรก ๆ อาจเกิดภาะ Shock loss หรือการหลุดร่วงของเส้นผมจำนวนมากเป็นปกติ ซึ่งคนไข้ที่ไม่ทราบมาก่อนมักจะตกใจ แต่ที่นามนิน แพทย์จะอธิบายให้คนเข้าใจและเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ และสำหรับผมที่หลุดร่วงไปนั้น สุดท้ายแล้วก็จะงอกขึ้นใหม่ กลายเป็นผมที่แข็งแรงและเติบโตต่อไปอย่างดีในที่สุด 


ทั้งหมดนี้ ก็คือพลังของเทคนิค NEAT ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกแบบมาอย่างตั้งใจ เพื่อมอบประสบการณ์การรักษาสุดประณีตและพิเศษ ให้คนไข้ของนามนินสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ได้ง่าย ๆ เพียงเริ่มจาก “เส้นผม” ของคุณเอง

เคลียร์ 4 ข้อสงสัย “ปลูกผมครั้งที่ 2”
คำว่า “การปลูกผมครั้งที่ 2” น่าจะชวนให้หลาย ๆ คนเกิดความสงสัยในใจอยู่ไม่น้อย ว่าการปลูกผมแค่ครั้งเดียวไม่เพียงพอหรืออย่างไร ทำไมจึงต้องปลูกเพิ่มอีกครั้งด้วย การปลูกผมครั้งที่ 2 จะแตกต่างจากครั้งแรกอย่างไร แล้วตัวเราเองจำเป็นจะต้องปลูกผมถึง 2 ครั้งหรือไม่ 

...มาเคลียร์ 4 คำถามคาใจเกี่ยวกับการปลูกผมครั้งที่ 2 ไปพร้อม ๆ กันได้เลย...

1. ทำไมต้องปลูกผมครั้งที่ 2 ??

การปลูกผม เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของชีวิตก็ว่าได้ ไม่ว่าใครก็คงอยากที่จะปลูกผมให้จบในครั้งแรกครั้งเดียว แต่บางครั้งก็มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้หลายคนจำเป็นต้องเข้ารับการปลูกผมอีกเป็นครั้งที่ 2 อย่างเช่น

ปลูกผมครั้งแรกผ่านไปแล้ว แต่ยังดูผมบางอยู่เลย



ความผิดพลาดจากการปลูกผมครั้งแรกที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือคำนวณและวางแผนการปลูกอย่างไม่รอบคอบนัก อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ปลูกผมแล้วยังรู้สึกว่าผมบาง หรือที่เรามักได้ยินกันว่าปลูกผมไม่ติดนั่นเอง

และในบางกรณีอาจเป็นตัวคนไข้เองที่ดูแลสุขภาพเส้นผมหลังปลูกด้วยความใส่ใจน้อยเกินไป ไม่ได้รับประทานยาหลังปลูกผมครบถ้วนตามที่แพทย์สั่ง เผลอทำพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุให้ผมใหม่หลุดร่วงก่อนเวลาอันควรในปริมาณมาก เช่น ปล่อยให้บริเวณผมปลูกใหม่ถูกกระทบกระเทือน ออกกำลังกายหนักเกินไป หรือใช้ความร้อนกับเส้นผม โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังปลูก ซึ่งรากผมยังไม่ฝังตัวมั่นคงในชั้นหนังศีรษะ 

เมื่อเป็นเช่นนี้ แทนที่ผมจะแลดูหนาแน่นสุขภาพดีขึ้น กลับยังดูบาง จนไม่สามารถเรียกคืนความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีให้กับเจ้าของเส้นผมได้ ดังนั้น การปลูกผมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้ได้ดีทีเดียว

ปลูกผมครั้งแรกไปแล้วนะ แต่ก็ยังเกิดภาวะผมล้านต่อ!!

ในบางครั้ง การปลูกผมใหม่อาจไม่สามารถแก้ปัญหาผมร่วงผมบางทั่วทั้งศีรษะได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องมาจากปัจจัยทางชีวภาพของร่างกายเราเอง ทำให้แม้ว่าจะปลูกผมใหม่ไปแล้ว รวมทั้งดูแลสุขภาพผมอย่างดีแล้ว ก็ยังเกิดภาวะผมร่วง ผมบาง และผมล้านตามมาหลังจากนั้นได้

ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สาเหตุหนึ่งของอาการผมร่วง ผมบาง เกิดจากลักษณะทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดสู่กันในครอบครัว ร่วมกับปัจจัยจากฮอร์โมนเพศ โดยฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) จะถูกเจ้าเอนไซม์ที่มีชื่อว่า 5-alpha reductase บริเวณหนังศีรษะ เปลี่ยนให้เป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือ DHT ทำให้รูขุมขนบริเวณหนังศีรษะมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ผมที่เกิดขึ้นใหม่ มีรากผมอ่อนแอ มีลักษณะของเส้นผมที่บางและสั้น จนหลุดร่วงได้เร็วกว่าที่ควร 




อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดี ๆ จะพบว่า อาการผมร่วงและผมบางมักเกิดกับเส้นผมบริเวณหน้าผากหรือกลางศีรษะ ในขณะที่ผมบริเวณท้ายทอยมักจะหลงเหลืออยู่เป็นบริเวณสุดท้าย นั่นเป็นเพราะรากผมบริเวณท้ายทอยมีความแข็งแรง ทนทานต่อฮอร์โมน DHT มากเป็นพิเศษ ดังนั้น ในการปลูกผมใหม่ แพทย์จึงต้องเลือกนำผมจากบริเวณท้ายทอยนี่เอง ย้ายมาปลูกทดแทนใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา โดยคุณสมบัติด้านฮอร์โมน DHT จะยังคงติดมากับรากผมเหล่านี้ด้วย ทำให้เส้นผมมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายเหมือนเส้นผมเก่า 

ถึงแม้เราจะมั่นใจได้ว่า ผมปลูกใหม่จะมีความแข็งแรงและสามารถอยู่กับเราได้ไปตลอดชีวิต แต่อย่าลืมว่าเราทำการปลูกผมใหม่เฉพาะในบางจุดของศีรษะเท่านั้น ดังนั้น ในส่วนที่เป็นผมเดิม ก็จะยังคงได้รับอิทธิพลจากฮอร์โมน DHT ทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่ายอยู่ นี่เองที่เป็นสาเหตุของภาวะผมล้านต่อแม้จะทำการปลูกผมใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

จริงอยู่ที่ว่า การดูแลบำรุงเส้นผมอย่างดี และการปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เสี่ยงต่อการทำร้ายเส้นผม ก็สามารถช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมลงได้ แต่สำหรับผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่า มีภาวะผมร่วงและผมบางจากสาเหตุทางกรรมพันธุ์ แพทย์อาจให้คำแนะนำในการปลูกผมเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเติมผมให้ดูหนาแน่นเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ไม่พอใจทรงผมเดิมจากการปลูกครั้งแรก

ความชอบและความพึงพอใจ เป็นรสนิยมส่วนตัวของแต่ละบุคคล บางคนอาจจะรู้สึกยังไม่มั่นใจเต็มร้อยกับทรงผมที่เกิดจากการปลูกผมใหม่ในครั้งแรก หรือต้องการเปลี่ยนบุคลิกเพื่อเป้าหมายในการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ ในกรณีนี้ การปลูกผมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ก็เป็นทางออกที่สามารถช่วยได้เช่นกัน


2. การปลูกผมครั้งที่ 2 มีข้อจำกัดอย่างไร ??

จำนวนกราฟต์ผมที่พร้อมสำหรับการปลูกใหม่ อาจไม่เพียงพอ


อย่างที่ทราบแล้วว่า แพทย์จะย้ายกราฟต์ผมต้นทุนจากบริเวณท้ายทอยด้านหลัง ซึ่งมีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย เพื่อนำมาปลูกทดแทนในบริเวณที่ผมบาง อย่างไรก็ตาม กราฟต์ผมคุณภาพดีแบบนี้มีอยู่เพียงจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนไข้ผ่านการปลูกผมครั้งแรกและใช้กราฟต์ผมบางส่วนไปเรียบร้อยแล้ว จึงจำเป็นต้องประเมินอีกครั้งว่า กราฟต์ผมคุณภาพดีที่ยังเหลืออยู่ จะมีจำนวนเพียงพอที่จะแก้ปัญหาผมในครั้งที่ 2 ได้อย่างครอบคลุมหรือไม่

พื้นที่ที่ต้องการปลูกผมใหม่ อาจกินบริเวณกว้าง

ยิ่งถ้าปัญหาผมบางกินพื้นที่ค่อนขว้างกว้าง หรือมีหลายจุด ก็มีโอกาสที่กราฟต์ผมต้นทุนจากด้านหลังท้ายทอย ซึ่งเหลืออยู่จากการปลูกผมครั้งแรก จะมีจำนวนไม่เพียงพอ จนทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาผมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งนี้ ทักษะและประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในการวางแผนการปลูกผมใหม่ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยบริหารจำนวนกราฟต์ผมต้นทุน ให้เหมาะสมกับลักษณะหรือระดับความรุนแรงของปัญหาผม รวมถึงพื้นที่ที่ต้องการปลูกผมใหม่ ส่งผลให้การปลูกผมครั้งที่ 2 บนข้อจำกัดต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถที่จะประสบความสำเร็จอีกครั้งก็เป็นได้

รอยแผลจากการปลูกครั้งแรก 

หนังศีรษะที่หลงเหลือรอยแผลจากการปลูกผมครั้งแรก ก็เป็นข้อจำกัดอีกข้อหนึ่งที่อาจทำให้ผมใหม่ปลูกติดยากขึ้น หลุดร่วงง่ายขึ้น ดังนั้น การเลือกแนวทางการรักษาที่ทิ้งรอยแผลไว้น้อยที่สุดตั้งการปลูกผมครั้งแรก ก็มีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสให้การปลูกผมครั้งที่ 2 มีแนวโน้มประสบความสำเร็จได้มากขึ้นเช่นกัน


3. สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการปลูกผมครั้งที่ 2 ??

หลายคนคิดว่า การปลูกผมครั้งที่ 2 จะช่วยจัดการกับปัญหาผมบาง และเติมผมให้แลดูหนาแน่นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การปลูกผมซ้ำหลังจากที่เคยปลูกมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็มีข้อจำกัดอย่างที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถการันตีได้ว่าการปลูกผมจะประสบความสำเร็จเต็มร้อยอย่างที่คิดภาพไว้ 

ขณะเดียวกัน คนไข้บางคนก็มีปัญหากับทิศทางเส้นผมหลังจากทำการปลูกใหม่ในครั้งแรก ซึ่งผมใหม่อาจจะเรียงตัวแบบย้อนแย้งหรือชี้ผิดทิศผิดทางไปจากเส้นผมเดิม ทำให้ดูไม่กลมกลืน ไม่เป็นธรรมชาติ อยากจะจัดแต่งทรงผมก็ทำได้แค่เฉพาะบางทรงเท่านั้น คนไข้ที่ประสบปัญหาเช่นนี้ ก็คาดหวังว่าการปลูกผมครั้งที่ 2 จะช่วยแก้ไขเรื่องทิศทางเส้นผมได้ ซึ่งนี่ก็เป็นความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งเช่นกัน เพราะทิศทางของเส้นผม เมื่อปลูกลงไปแล้ว เป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ 

ดังนั้น ทิศทางของเส้นผมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และควรให้ความสำคัญตั้งแต่การปลูกครั้งแรก ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า เส้นผมแต่ละเส้นมีองศาความโค้งต่างกัน พื้นที่ปลูกผมแต่ละบริเวณก็มีทิศทางการเรียงตัวของเส้นผมต่างกัน แพทย์จึงต้องคัดเลือกเส้นผมให้มีองศาความโค้งเหมาะสมกับบริเวณที่จะปลูก และค่อย ๆ ปลูกโดยปักกราฟต์ผมให้ได้ทิศทางที่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม แลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด จนสามารถจัดแต่งทรงผมได้อิสระทุกสไตล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผมยาวขึ้นแล้วและยิ่งเห็นทิศทางของเส้นผมชัดเจน ซึ่งคนไข้จะต้องอยู่กับเส้นผมในทิศทางเช่นนั้นไปจนตลอดชีวิต


4. ทำอย่างไรหากไม่อยากเสี่ยงปลูกผมซ้ำครั้งที่ 2 ??

เพราะการปลูกผมครั้งที่ 2 มีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผลลัพธ์ไม่ได้ออกมาเต็มร้อยอย่างที่คาดหวังไว้ และคนเราก็คงไม่สามารถปลูกผมได้บ่อย ๆ หลายคนปลูกได้ไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้นเอง เนื่องจากจำนวนกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอยมีจำกัด ดังนั้น คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็คือ ปลูกผมให้ดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรก ให้ความสำคัญกับการเลือกแนวทางรักษาที่น่าเชื่อถือและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด รวมไปถึงความใส่ใจในการดูแลเส้นผมหลังปลูก รับประทานยา และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์จากการปลูกผมครั้งแรกออกมาอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด

และสำหรับบางคนที่มีปัญหาภาวะผมร่วง ผมบาง อยู่ในระดับรุนแรง ก็สามารถเข้ามาพูดคุยปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์จะช่วยคำนวณกราฟต์ผมต้นทุน และประเมินแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพื่อคืนผมสวย หนาแน่น สุขภาพดี พร้อมบุคลิกภาพและความมั่นใจในการใช้ชีวิตให้กับเจ้าของเส้นผมได้อีกครั้ง


NEAT ความลงตัวที่สมบูรณ์แบบ
การปลูกผมเทคนิค NEAT ของนามนิน พัฒนามาจากเทคนิค FUE หรือ Follicular Unit Excision เป็นการใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะนำกราฟท์ผมออกมาจากด้านหลังท้ายทอยทีละกราฟท์ ข้อดีคือจะทิ้งไว้เพียงรอยแผลขนาดเล็ก ๆ ในบริเวณที่นำกราฟท์ผมออกมาเท่านั้น ซึ่งเทคนิค FUE เป็นการปลูกมาตรฐานสากลที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย เพราะโดดเด่นด้านความสวยงาม สะดวกสบายต่อคนไข้และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

อีกเทคนิคหนึ่งที่นามนินได้นำมาปรับใช้คือ DHI หรือ Direct Hair Implantation คือการใช้ Implanter Pen  หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กพิเศษ นำกราฟท์ผมปักลงไปยังบริเวณที่ต้องการปลูกผมใหม่โดยตรง ซึ่งแตกต่างจากวิธีดั้งเดิมคือการเจาะรูบนหนังศีรษะ แล้วนำ Forceps หรืออุปกรณ์คีมเล็ก ๆ คีบกราฟท์ผมมาปักลงไปทีละกราฟท์ ซึ่งใช้เวลามากและมีโอกาสที่รากผมจะเสียหายได้ 

ในขณะที่เทคนิค DHI แพทย์จะปักกราฟท์ผมได้ละเอียด แม่นยำ รวดเร็ว และแพทย์ยังสามารถควบคุมความลึกในการฝังรากผม ตลอดจนทิศทางหรือองศาของเส้นผมใหม่ได้ดีขึ้นด้วย เป็นวิธีการปลูกผมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

ด้วยความรู้และประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นามนิน จึงได้คัดสรรจุดเด่นของเทคนิค FUE และ DHI มาพัฒนาและสร้างสรรค์ต่อจนเกิดเป็น NEAT หรือ Namnin Exclusive Advanced hair transplant Technique เทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน ที่ลงตัวทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในทุกขั้นตอน

เริ่มต้นด้วยการออกแบบ Hairline ใหม่ให้เข้ากับรูปหน้า เพื่อปรับแต่งกรอบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น จากนั้นใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเพียง 0.6 มม.เจาะเพื่อนำกราฟท์ผมทางด้านหลังออกเป็นแนวขั้นบันไดเพื่อซ่อนแผลให้แนบเนียนกับผมเดิมโดยไม่ต้องผ่าตัด แพทย์จะวางแนวผมและตัดผมให้คนไข้ด้วยตนเอง ไม่ต้องโกนผมหรือตัดผมสั้น ไม่เห็นรอยแผล 

ขั้นตอนต่อมาคือการปลูกผมลงในบริเวณที่กำหนดไว้ ซึ่งแพทย์ของนามนินจะเป็นผู้ลงมือปักกราฟท์ผมใหม่ด้วยตัวเองทุกกราฟท์ด้วยเทคนิค DHI แต่เหนือกว่าด้วยการพัฒนาอุปกรณ์ในการปลูกผมหรือ Implanter Pen ให้มีขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร คัดเลือกและจัดวางผมแต่ละกราฟท์โดยคำนึงถึงความเหมาะสมตามขนาดความหนาและบางของเส้นผม ควบคุมระยะห่างให้เหมาะสม วางทิศทางและองศาของการปักผมแต่ละกราฟท์ให้กลมกลืนไปกับผมเดิม และปลูกแซมผมเลยแนวไรผมเดิมเข้าไปเล็กน้อยเพื่อความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

การปลูกผมเทคนิค NEAT ได้ผ่านการคิดค้นและพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ทุกความกังวลและความคาดหวังของคนไข้อย่างลงตัวที่สุด มอบความสะดวกสบายและผลลัพธ์ที่คุ้มค่าการรอคอย ด้วยความเชี่ยวชาญของแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัย 

หลังการปลูกผม คนไข้สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ชีวิตไม่สะดุด ไม่ต้องพักฟื้นหรือต้องคอยปกปิดรอยแผลเป็นใดๆ ได้เส้นผมใหม่ที่เป็นธรรมชาติทั้งความหนาแน่นและทิศทางของเส้นผม พร้อมเปิดรับสิ่งดีๆในชีวิตที่กำลังจะตามมาแน่นอน

เพราะ "หัวใจการปลูกผมของนามนิน" คือการเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกด้าน การทำงานในทุกขั้นตอนจึงสะท้อนถึงความใส่ใจและความพิถีพิถันเฉพาะตัวของแพทย์อย่างชัดเจน นำทุกปัญหาและความต้องการคนไข้มาใช้เป็นศูนย์กลางของการทำงาน รับฟัง วิเคราะห์ และวางแผนการรักษาให้เหมาะสมเฉพาะเป็นรายบุคคล ติดตามผลการรักษาและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอด 1 ปีของการปลูกผม เพื่อมอบเส้นผมใหม่ที่เปรียบเสมือนชีวิตใหม่ให้คนไข้ได้ก้าวต่อไปอย่างมั่นใจและมีความสุขที่สุด  

ปลูกผมผิดทิศ ชีวิตเปลี่ยน
ความสำเร็จของการปลูกผมสำหรับคนทั่วไป ก็คือการเติมผมบริเวณที่บางให้หายไป ให้กลับมาดูหนาแน่นได้อีกครั้ง แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของมาตรฐานการปลูกผม เพราะเส้นผมเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนกว่านั้นมาก!!

ทราบหรือไม่ว่า เบื้องหลังของผมปลูกใหม่ที่ไม่เพียงหนาแน่นสม่ำเสมอ แต่ยังเรียงตัวสวย “แลดูเป็นธรรมชาติ” นั้น คือทักษะความชำนาญ และความประณีตใส่ใจแบบสุด ๆ ของแพทย์ ในการ “ปลูกผมตามทิศทางองศา” ให้สอดคล้องลงตัวกับสภาพศีรษะและเส้นผมของคนไข้แต่ละคนมากที่สุด 

ทำไม “ทิศทางเส้นผม” จึงเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะศีรษะบริเวณต่าง ๆ ของคนเรา มี “ทิศทางการเรียงตัว“ ของเส้นผมที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าบริเวณใกล้หน้าผาก ด้านข้างบริเวณใบหู หรือบริเวณขวัญกลางศีรษะ เป็นต้น ขณะเดียวกัน เส้นผมของคนเราก็มีควา

แตกต่างทั้งในเรื่องของขนาด ความหนา และแน่นอนว่ารวมไปถึง “องศาความโค้ง” ของเส้นผมด้วย 

ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า แพทย์จะคัดเลือกผมที่มีองศาความโค้งแบบไหน นำไปปลูกลงใหม่ในบริเวณใด ลองจินตนาการดูสิว่า ถ้าผมใหม่หลังปลูกของเรา ชี้ไปคนละทิศละทาง ไม่กลมกลืนไปกับเส้นผมธรรมชาติเดิม จะเป็นอย่างไร 

ที่สำคัญ เราจะยังมองไม่เห็นผลลัพธ์ทิศทางเส้นผมชัดเจนเท่าไหร่ในวันแรก ๆ แต่จะไปเห็นอย่างชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปและผมเริ่มยาวขึ้น ซึ่งไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว นั่นหมายความว่าเราอาจต้องอยู่กับผมที่ผิดทิศผิดทางเช่นนั้นไปตลอดชีวิต

“ทิศทางเส้นผม” โจทย์สุดท้าทายของแพทย์
ทั้งหมดนี้ จึงกลายเป็นโจทย์อันท้าทายสำหรับแพทย์ ที่จะต้องลงมือปลูกผมท่ามกลางปัจจัยอีกมากมายให้ต้องคำนึงถึง ตลอดการทำหัตถการปลูกผม ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของคนไข้

ทิศทางและองศา 
แพทย์จะเป็นผู้ควบคุมทิศทางการเรียงตัวของเส้นผม รวมถึงองศาการจัดวาง ให้เหมาะสมกับกลุ่มเส้นผมในแต่ละบริเวณ ช่วยให้ผมปลูกใหม่ดูแนบเนียน กลมกลืน ลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการใช้เทคนิค “ปลูกผมแทรก” เพื่อแก้ปัญหาผมบาง ซึ่งแพทย์จะต้องปักเส้นผมใหม่ แทรกเติมลงไประหว่างผมเดิม หากทิศทางเส้นผมใหม่ย้อนแย้งหรือผิดทิศทางไปจากเส้นผมเดิม ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเส้นผมเรียงตัวแบบไม่เป็นธรรมชาติ

ความลึก 
แพทย์ยังต้องคำนึงถึงระดับความลึกในการปักเส้นผมใหม่ ให้ได้ระยะที่พอเหมาะพอดี เพื่อให้เส้นเลือดต่าง ๆ บริเวณรากผม สามารถเชื่อมต่อและทำหน้าที่ลำเลียงสารอาหารมาหล่อเลี้ยงเส้นผมใหม่ให้เติบโตแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย

ขนาด
หากเราลองสังเกตจะเห็นว่า ผมในแต่ละบริเวณบนศีรษะของเรา มีขนาดไม่เท่ากัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณแนวผมด้านหน้า ซึ่งแพทย์จะต้องค่อย ๆ ปลูกผมใหม่ไล่เรียงจากเส้นผมเล็กบางบริเวณไรผม ตามด้วยเส้นผมเดี่ยว จนถึงเส้นผมที่อยู่รวมกลุ่มเป็นกอผมขนาด 3 – 4 เส้น ตามลำดับ เพื่อให้ใกล้เคียงกับสภาพธรรมชาติของเส้นผมมากที่สุด

วิธีการปลูกแบบเส้นต่อเส้น
เชื่อหรือไม่ว่า แพทย์จะต้องทำงานกับเส้นผม แบบเส้นต่อเส้น ตั้งแต่การคัดแยกเส้นผมที่เจาะย้ายออกมาจากด้านหลังท้ายทอย โดยแบ่งตามขนาดเส้นเล็กใหญ่ ความหนาบาง จำนวนเส้นผมต่อกอผม รวมถึงองศาความโค้งของเส้นผมด้วย จากนั้นจึงนำไปปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา ทีละเส้น ทีละเส้น ซึ่งต้องอาศัยความประณีตและละเอียดอ่อนตลอดขั้นตอน

เพราะอย่างนี้เอง แพทย์จึงให้ความสำคัญกับการจัดวาง “ทิศทางผม” ในทุก ๆ เส้นที่แพทย์ตั้งใจปลูกลงไป เพื่อเรียกคืนรอยยิ้มและความมั่นใจให้กับเจ้าของเส้นผม ด้วยผลลัพธ์ผมสวย กลมกลืน แลดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงสุขภาพผมแข็งแรง ซึ่งจะอยู่กับเราไปจนตลอดชีวิต 

เจาะลึก 1 วันของการปลูกผม
“จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในวันปลูกผม?” 
คำถามนี้ น่าจะเป็นคำถามที่อยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน ที่กำลังศึกษาข้อมูล หรือเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผม บางคนอาจกำลังกังวลว่า ขั้นตอนต่าง ๆ จะต้องเริ่มจากอะไร ยุ่งยากหรือไม่ ปลูกผมเจ็บมั้ย ใช้เวลานานแค่ไหน ทำไมนานจัง คุณหมอเป็นผู้ปลูกให้เองหรือเปล่า แล้วเราสามารถบอกทรงผมที่ต้องการกับคุณหมอได้หรือไม่ 

วันนี้ เราจึงชวนมาเจาะลึก 4 ขั้นตอนหลัก ๆ ใน “1 วันของการปลูกผม” เพื่อเคลียร์ทุกข้อสงสัยที่อาจอยู่ภายในใจเป็นหมื่นล้านคำถาม และช่วยให้คุณเตรียมตัวเข้ารับการปลูกผมเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่อย่างสบายหัวใจมากขึ้น 


Step 1 ออกแบบทรงผมและกรอบหน้าใหม่
ระยะเวลา 30 – 45 นาที
เตรียมบอกลาคุณคนเดิมได้เลย เพราะในขั้นตอนนี้ คุณหมอจะเริ่มต้นจากการพูดคุยกับคนไข้เพื่อทำความเข้าใจปัญหาเส้นผม รวมถึงความต้องการของคนไข้เอง ว่าอยากได้รูปหน้าหรือทรงผมใหม่แบบไหน มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขอะไร เพื่อวางแผนแนวทางการรักษาที่ตอบโจทย์ที่สุดร่วมกัน โดยคุณหมอจะคำนวณปริมาณกราฟต์ผมที่จะต้องย้ายออกจากด้านหลังท้ายทอยของคนไข้เอง เพื่อนำมาปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหาอย่างเหมาะสมที่สุด


เมื่อพร้อมแล้ว คุณหมอจะเริ่มวาดเส้น Hairline หรือกรอบหน้าใหม่ ตามสัดส่วนทองหรือ golden ratio โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับแต่งโครงหน้าให้คุณผู้ชายดูสมาร์ทและคมเข้มขึ้น และให้คุณผู้หญิงมีใบหน้าที่ดูอ่อนหวานละมุนละไมยิ่งขึ้น รวมถึงแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นด้วย เมื่อได้รูปหน้าใหม่ที่ตรงใจคนไข้แล้ว ก็เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปกันเลย


Step 2 เตรียมพื้นที่ด้านหลังท้ายทอย
ระยะเวลา 15 – 30 นาที
สำหรับขั้นตอนนี้ คุณหมอจะใช้เวลาเพียงไม่นานในการค่อย ๆ ตัดแต่งผมด้านหลังท้ายทอยออกด้วยตัวเอง เพื่อเตรียมพื้นที่ให้พร้อมสำหรับการย้ายกราฟต์ผมออก ถึงตรงนี้หลายคนอาจกังวลว่า ผมด้านหลังจะแหว่งหายไปแค่ไหน คนอื่นจะสังเกตเห็นได้ง่ายหรือเปล่า แล้วจะต้องคอยทำทรงผมเพื่อปิดบังรอยแผลด้านหลังหรือไม่ 

คำตอบก็คือไม่ต้องห่วงเลย เพราะคุณหมอได้ออกแบบเทคนิคเพื่อซ่อนแผลด้านหลัง ด้วยการตัดเล็มผมและย้ายกราฟต์ผมออกเป็นลักษณะแถบบาง ๆ สลับกัน “แบบขั้นบันได” ซึ่งวิธีนี้จะทำให้คุณสามารถทำผมทรงอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเผลอโชว์รอยแผลจากการปลูกผม


Step 3 ย้ายกราฟต์ผมออก
ระยะเวลา 2 – 3 ชั่วโมง
มาถึงขั้นตอนของการย้ายกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานเนื่องจากเป็นการค่อย ๆ เจาะนำกราฟต์ผมออกทีละกราฟต์โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่จะใช้เครื่องมือนำเข้าจากต่างประเทศที่มีหัวเจาะขนาดเล็กเพียง 0.6 มิลลิเมตร ดังนั้นจึงเหลือไว้เพียงรอยขนาดเล็ก ๆ ด้านหลัง ในขั้นตอนนี้ คนไข้จะอยู่ในท่านอนเพื่อให้รับบริการได้อย่างสะดวกสบายที่สุด

หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการย้ายกราฟต์ผมออก ก็ถึงเวลาที่คนไข้จะหยุดพักเพื่อรับประทานอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนกราฟต์ผมที่ได้นั้น คุณหมอจะนำไปคัดเลือก แยกขนาด และตัดแต่งเพื่อความเรียบร้อย จนได้กราฟต์ผมที่มีขนาดและคุณภาพเหมาะสมสำหรับนำไปปลูกใหม่


Step 4 ปลูกผมใหม่ แบบ “เส้น-ต่อ-เส้น”
ระยะเวลา 3 – 5 ชั่วโมง
และในขั้นตอนสำคัญนี้เอง คุณหมอจะเป็นผู้ลงมือนำผมใหม่มาปลูกในบริเวณที่เป็นปัญหาด้วยตัวเอง ทีละเส้น ทีละเส้น นี่จึงเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนอย่างมาก เนื่องจากคุณหมอต้องคอยควบคุมการปักเส้นผมนับพันเส้น โดยคำนึงถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทิศทาง องศา ความลึก ขนาดเส้นผม หรือความหนาแน่น เพื่อให้เส้นผมใหม่กลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม แลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด 

แน่นอนว่าขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลานานสักหน่อย เพราะต้องอาศัยความประณีตและตั้งใจในการทำงานกับเส้นผมเป็นพิเศษ แต่จะนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับจำนวนกราฟต์ผมและความซับซ้อนของปัญหาของคนไข้แต่ละคนด้วยนั่นเอง

เมื่อเสร็จสิ้น 1 วันของการปลูกผม คุณหมอจะแนะนำวิธีการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงข้อควรหลีกเลี่ยงต่างๆเพื่อให้กราฟต์ผมใหม่ฝังรากมั่นคงในชั้นหนังศีรษะโดยไม่หลุดร่วงไปง่าย ๆ และสามารถเติบโตแข็งแรงตามวงจรเส้นผมต่อไป เพื่อเปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ได้อย่างที่คุณต้องการ


ปลูกผมฝีมือ “หมอ” เส้น-ต่อ-เส้น
ปลูกผม “เส้น-ต่อ-เส้น” ด้วยมือของคุณหมอเอง ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงสักนิดเลยสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและการปลูกผมตัวจริง เพราะเสียงจากคนไข้มากมายช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ผมใหม่ของพวกเขาผ่านมือ “คุณหมอ” มาแล้วทุกเส้น!! โดยคุณหมอเป็นผู้ลงมือคัดเลือก ตัดแต่ง และปักกราฟต์ผมใหม่นับพันกราฟต์อย่างตั้งใจด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพียงเพื่อเติมเต็มบริเวณที่ผมบางให้กลับมาหนาแน่นดูเป็นธรรมชาติเท่านั้น แต่เพื่อเติมเต็มตัวตนให้เจ้าของเส้นผมได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นใจได้เต็มที่อีกครั้งด้วย

และความใส่ใจระดับ “เส้น-ต่อ-เส้น” ของคุณหมอ ก็ไม่ได้มอบให้คนไข้แค่เพียง 1 วันในห้องหัตถการปลูกผมเท่านั้น แต่เป็นเวลา 1 ปีเต็ม ๆ ตลอดเส้นทางการรักษาอันยาวนาน ในทุก ๆ กระบวนการตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย 

ใส่ใจใน “ศาสตร์” ผม
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็คือผู้ที่รอบรู้และแม่นยำใน “ศาสตร์การปลูกผม” มากกว่าใคร ยิ่งเมื่อบวกกับทักษะและประสบการณ์ที่แพทย์สั่งสมจากการทำงานและการศึกษาต่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากจะมั่นใจได้ว่า การแก้ไขปัญหาเส้นผมนั้นเป็นไปตามหลักวิชาการแพทย์ที่เชื่อถือได้แล้ว แนวทางการรักษายังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ “เฉพาะบุคคล” อีกด้วย


เพราะการปลูกผมไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว แพทย์จึงต้องนำศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับรูปแบบปัญหาเส้นผมของคนไข้ ซึ่งไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละคน นับเป็นความท้าทายที่แพทย์ต้องแก้โจทย์ต่างจากเดิมทุกครั้งที่ลงนั่งรับฟังและพูดคุยกับคนไข้ เรียกได้ว่า คิดใหม่แบบ “เคสต่อเคส”

ทำความเข้าใจเงื่อนไข ข้อจำกัด และความต้องการของคนไข้
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะปัญหาที่แตกต่างกันไปตามเพศและวัย ทั้งลักษณะของผมที่ถอยร่นสูงขึ้นบริเวณหน้าผาก ผมบางเป็นวงจากกลางศีรษะ หรือผมบางจากบริเวณรอยแสก ซึ่งแต่ละคนก็มีระดับความรุนแรงของอาการผมร่วงและผมบางไม่เท่ากัน ทั้งนี้ แพทย์จะวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากสุขภาพผมและหนังศีรษะที่ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่แรก ทำให้ผมเส้นบาง ลีบเล็กกว่าที่ควร หรืออาจเกิดจากกรรมพันธุ์ที่ได้รับมาจากคนในครอบครัว ฮอร์โมนเพศ โรคหรือความเจ็บป่วย พฤติกรรมเสี่ยงบางอย่างที่อาจทำร้ายเส้นผม การพักผ่อนไม่เพียงพอ การขาดสารอาหารบางชนิด การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ ตลอดจนภาวะเครียด ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการผมร่วงและผมบางได้ และส่งผลให้แนวทางการรักษาแตกต่างกันตามไปด้วย ที่สำคัญ แพทย์ที่ใส่ใจอย่างแท้จริงจะไม่ลืมคำนึงถึงความต้องการของคนไข้ เพราะเส้นผมบนศีรษะส่งผลถึงการสะท้อนตัวตนและความมั่นใจในการใช้ชีวิตของคนไข้ด้วย แพทย์จึงควรทำความเข้าใจถึงความจำเป็นส่วนตัว รวมถึงทรงผมใหม่ที่จะดึงความมั่นใจของคนไข้ออกมาได้มากที่สุด ตามนิยามความงามของคนไข้เอง


วางแผนและคำนวณการใช้กราฟต์ผม
กราฟต์ผมต้นทุน หมายถึงผมที่มีคุณภาพและแข็งแรงเพียงพอที่แพทย์จะสามารถย้ายไปปลูกยังบริเวณที่เป็นปัญหาได้ เนื่องจากมีความทนทานต่อฮอร์โมนที่ส่งผลให้เส้นผมหลุดร่วงก่อนเวลาที่ควร กราฟต์ผมต้นทุนดังกล่าวจะอยู่ในบริเวณท้ายทอยด้านหลังไปจนถึงหลังกกหู ซึ่งกราฟต์ผมต้นทุนของแต่ละคนนั้นจะมีปริมาณและคุณภาพไม่เท่ากัน และในบางกรณี หากคนไข้มาปรึกษาแพทย์เมื่ออาการค่อนข้างรุนแรงแล้ว จำนวนกราฟต์ผมต้นทุนที่เหลืออยู่ก็อาจไม่สัมพันธ์กับบริเวณที่ต้องการปลูกผมซึ่งกินพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ดังนั้น แพทย์จึงต้องนำปัจจัยนี้มาคำนวณร่วมด้วยในการวางแผนใช้กราฟต์ต้นทุนเพื่อปลูกผมใหม่แบบเฉพาะบุคคลนั่นเอง

เลือกเทคนิคการปลูกผมที่เหมาะสม
แพทย์ยังต้องเลือกเทคนิคต่าง ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ปัญหาหลาย ๆ รูปแบบ เช่น เทคนิคการซ่อนแผลด้านหลังท้ายทอยแบบขั้นบันได หรือเทคนิคการปลูกผมแทรก ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาผมบาง และต้องการเติมความหนาแน่นให้กับผมบริเวณนั้น เป็นต้น


วางแผนการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ ควบคู่กับการปลูกผม
นอกจากการปลูกผมใหม่แล้ว การแก้ปัญหาเส้นผมในภาพรวมอาจต้องอาศัยกระบวนการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม การดูแลเอาใจใส่และบำรุงเส้นผมให้มากขึ้น การรับประทานยา ตลอดจนการเข้ารับบริการเสริมต่าง ๆ เช่น การฉีด Growth hormone หรือการฉายแสงเลเซอร์ LLLT เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตและลดการหลุดร่วงของเส้นผมร่วมด้วย

ใส่ใจในความงามเชิง “ศิลป์”
เพราะการปลูกผมคือศาสตร์และศิลป์ ความสำเร็จของการรักษาอาการผมร่วงและผมบาง ต้องมาพร้อมกับความพึงพอใจในด้าน “ความงาม” ด้วย แพทย์จึงไม่เพียงเชี่ยวชาญเฉพาะศาสตร์เส้นผม แต่ยังต้องมีมุมมองเชิงศิลป์ ที่พร้อมจะตอบโจทย์ความงามของคนไข้เจ้าของเส้นผมได้


ดังนั้น แพทย์จึงให้ความสำคัญตั้งแต่การออกแบบเส้น Hairline หรือกรอบหน้าใหม่ โดยอาศัยพื้นฐานของสัดส่วนความงาม golden ratio เพื่อปรับโครงหน้าคืนความอ่อนวัยให้กับคนไข้ โดยปรับให้ใบหน้าของคุณผู้ชายมีความคมเข้ม กรอบหน้าชัด แลดูสมาร์ทยิ่งขึ้น และสำหรับคุณผู้หญิงก็ปรับให้มีความหวานละมุนชวนมอง และอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ในระหว่างที่ทำการปลูกผม แพทย์จะต้องอาศัยศิลปะในการไล่ลำดับความหนาแน่นของเส้นผมให้เข้ากับบริเวณนั้น ๆ เช่น บริเวณไรผมด้านหน้า ต้องการเส้นผมที่มีขนาดเล็กและบางกว่า ส่วนบริเวณที่ลึกเข้าไป จะต้องการเส้นผมที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และเรียงตัวหนาแน่นขึ้น ซึ่งแพทย์จะต้องนำกราฟต์ผมที่ได้จากท้ายทอยด้านหลังมาคัดแยกคุณภาพและขนาด และเลือกปลูกใหม่ให้เหมาะสมกลมกลืนกับเส้นผมเดิมในบริเวณนั้น ๆ

นอกจากขนาดของเส้นผมและความหนาแน่นแล้ว แพทย์ยังใส่ใจเรื่องทิศทางและองศาในการปักกราฟต์ผม ซึ่งจะต้องควบคุมให้เส้นผมเรียงตัวในทิศทางเดียวกับเส้นผมเดิม และวางตัวอยู่ในองศาที่เหมาะสม เพื่อความกลมกลืน แลดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด จะเห็นได้ว่า การแก้ปัญหาเส้นผมให้คนไข้ แทบไม่ต่างจากการสร้างงานฝีมือของช่างศิลป์ หรือการสร้างผลงานศิลปะของแพทย์เอง


ใส่ใจในทุก “เส้นผม”
หลังจากคัดแยก แบ่ง และตัดแต่งกราฟต์ผมทีละกราฟต์ ให้มีความเรียบร้อยและพร้อมที่จะนำไปปลูกใหม่แล้ว แพทย์จะลงมือปลูกผมแบบ “เส้น-ต่อ-เส้น” โดยอาศัยความละเอียด ประณีต ในการปักผมให้ได้ความหนาแน่นที่เหมาะสม ไม่บางเกินไป และไม่หนาแน่นเกินไปจนดูผิดธรรมชาติ ควบคุมทิศทางและองศาให้กลมกลืนกับเส้นผมเดิม รวมถึงปักเส้นผมให้ได้ความลึกที่พอดี เพื่อให้สามารถรับสารอาหารที่ลำเลียงมาเลี้ยงเส้นผมได้อย่างเต็มที่ โดยทั้งหมดนี้ ต้องค่อย ๆ ปลูกทีละเส้น ทีละเส้น และอาศัยทักษะจากประสบการณ์การปลูกผมที่ผ่านมา จนเกิดความเชี่ยวชาญ แม่นยำ ที่ผสมผสานทั้งศาสตร์ ศิลป์ และความใส่ใจ ไว้ในขั้นตอนเดียว

ใส่ใจตลอด “เส้นทางสู่คุณคนใหม่”
และความใส่ใจยังไม่จบลงแค่ในวันปลูกผม เพราะจากนี้คือการปล่อยให้เส้นผมที่ปลูกใหม่ ค่อย ๆ เติบโตตามวงจรธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 1 ปีเต็ม โดยแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัว ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อดูแลและบำรุงเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นช่วง 2 สัปดาห์แรกที่ต้องระมัดระวังเส้นผมและหนังศีรษะเป็นพิเศษ หรือช่วง shock loss ที่เส้นผมใหม่จะหลุดร่วงออกตามธรรมชาติ ก่อนจะค่อย ๆ งอกขึ้นใหม่ตามเดิม รวมทั้งคอยติดตามผลและการเปลี่ยนแปลงใด ๆ อย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการรักษา ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผมสวยสุขภาพดี คุ้มค่ากับเวลาที่อดทนรอคอย บนเส้นทางที่จะเปลี่ยนคุณไปสู่คนใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยความใส่ใจระดับ “เส้น-ต่อ-เส้น” ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมตัวจริง

ปลูกผมเสริมขวัญ
เราทุกคนมีขวัญบนศีรษะติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด คนส่วนใหญ่จะมีเพียงขวัญเดียว แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีมากกว่า 1 ขวัญขึ้นไป ขวัญมีลักษณะเป็นก้นหอย หมุนเป็นวงไปทางซ้ายหรือทางขวา ขึ้นอยู่กับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมของแต่คน

รูปแบบการหมุนของขวัญบนศีรษะ จะเป็นตัวบอกทิศทางเส้นผมได้คร่าวๆ ว่าเส้นผมจะไปในทิศทางตามเข็มหรือทวนเข็มนาฬิกา โดยสังเกตจากผมบริเวณรอบๆ ต่อเนื่องจนมาถึงบริเวณหน้าผาก จะเห็นบริเวณโคนผมว่าองศาไปในทิศทางใด และยังอาจสังเกตตัวเองได้อีกว่าเวลาปัดผม การปัดข้างซ้ายหรือข้างขวาปัดไปได้ง่ายและดูเป็นธรรมชาติมากกว่ากัน

จริงๆแล้วขวัญบนศีรษะไม่น่าจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด แต่สำหรับบางคน รูปแบบหรือลักษณะของขวัญก็อาจจะสร้างปัญหาและความวิตกกังวลให้พอสมควร ลองมาดูกันว่าคุณมีปัญหาแบบนี้บ้างหรือไม่

ผมบริเวณรอบๆขวัญขึ้นไร้ทิศทาง ไม่เรียงเส้น จนต้องเรียกว่า “ชี้โด่ชี้เด่” พยายามหวีผมปิดแล้วก็ยังปิดไม่มิด สร้างความรำคาญใจให้พอสมควรทีเดียว บางคนมี 2-3 ขวัญ และบางครั้งก็อยู่ในบริเวณที่ไม่ควรจะอยู่ เช่น ด้านหน้าศีรษะ หน้าผากหรือขมับ อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องทิศทางของเส้นผม และบริเวณขวัญจะดูเหมือนผมบางเป็นหย่อมๆ ซึ่งทำให้เสียความมั่นใจได้ไม่น้อยเลย


ปัญหาที่พบได้บ่อยและพบตั้งแต่อายุยังน้อยคือผมบริเวณขวัญบางลงเรื่อยๆ และขยายวงกว้างขึ้นจนอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาผมบาง ศีรษะล้าน ลักษณะที่พบได้คือ ผมบางเป็นรูปตัว O บริเวณกลางศีรษะ ซึ่งหากใครรู้สึกว่ากำลังเจอกับปัญหานี้ นั่นเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ควรต้องสังเกตการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ 

แล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไรในเมื่อขวัญก็ต้องอยู่บนศีรษะเราไปตลอดชีวิต คำตอบคือ การปลูกผมช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยเฉพาะการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่มีจุดเด่นคือสามารถปลูกผมทีละเส้นแทรกเข้าไปในช่องว่างได้ เพื่อเสริมความหนาแน่นของเส้นผม ในกรณีที่ต้องปลูกผมบริเวณขวัญตรงกลางศีรษะเช่นนี้ แพทย์จะออกแบบทิศทางของเส้นผมให้เป็นไปตามทิศทางเดียวกันกับขวัญ ไม่ว่าจะไปตามเข็มนาฬิกา หรือ ทวนเข็มนาฬิกา เพื่อให้ผมแนบเนียนไปกับผมเดิมและดูเป็นธรรมชาติ



ที่นามนินมีมาตรฐานที่โดดเด่นคือ แพทย์จะประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาเฉพาะเป็นรายบุคคล หากมาพบแพทย์ตอนที่ปัญหายังไม่รุนแรง แพทย์ก็จะแนะนำการรักษาที่เหมาะสมให้ก่อน แต่หากผมบางรุนแรงมาก และต้องทำการปลูกผมถาวร แพทย์ก็จะเป็นผู้ลงมือปลูกผมทุกเส้นให้คนไข้ด้วยตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว

ผู้ที่เริ่มมีปัญหาผมร่วงผมบาง ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดของศีรษะ ไม่ควรรอจนปัญหาขยายวงกว้างมากเกินไป การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นการเริ่มต้นที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณเองมากที่สุด  


“ผมร่วง ผมบาง” รักษาแบบไหนดี
ปัญหาผมร่วงและบางมีหลายรูปแบบและหลายระดับความรุนแรง การจะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด จึงควรประเมินให้ถูกต้องก่อนว่าภาวะผมร่วงและบางอยู่ในระดับใด สามารถรักษาด้วยวิธีใดได้บ้าง เช่น การกินยา ทำทรีทเมนต์ หรือการปลูกผมถาวร

ผมร่วงและบางระดับเริ่มต้น ผมจะยังบางไม่มากนัก รูขุมขนบนหนังศีรษะยังเปิดอยู่ เซลล์รากผมยังทำงาน การแก้ปัญหาผมร่วงที่ยังอยู่ในระดับนี้สามารถรักษาได้หลายวิธี ได้แก่ การใช้ยาในกลุ่มไมน๊อกซิดิล (Minoxidil) มีทั้งแบบกิน และแบบทาภายนอก โดยตัวยาจะช่วยขยายรูขุมขนบริเวณหนังศีรษะ ทำให้ขนาดของเส้นผมที่งอกมาใหม่นั้นมีขนาดใหญ่และหนากว่าเดิม รากผมแข็งแรงขึ้น ผมหลุดร่วงน้อยลง และการงอกใหม่จะค่อยๆ หนาแน่นขึ้นเป็นลำดับ

แต่ผลของการใช้ยาขึ้นอยู่กับความมีวินัยและความอดทนของผู้รับการรักษาด้วย เพราะใช้เวลานานต้องใช้ยาในปริมาณที่ถูกต้องและต่อเนื่องและถ้าเริ่มต้นรักษาช้าเกินไป รูขุมขนหดตัวจนผมไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้แล้ว การใช้ยาก็อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร นอกจากนี้การตอบสนองต่อยาของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกัน และข้อด้อยของการใช้ยานี้เท่าที่มีการศึกษาจะพบว่าการตอบสนองของบริเวณที่ต้องการรักษาจะเป็นช่วงกลางศีรษะที่ดีกว่าบริเวณแนวผมด้านหน้า และเป็นการรักษาที่ไม่ถาวร



การทำทรีทเมนต์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการรักษาผมร่วงและบางในระดับเริ่มต้น เพราะสะดวกสบาย ไม่มีผลข้างเคียง เห็นผลชัดเจนด้วยการเข้ารับบริการเพียงไม่กี่ครั้ง ทรีทเมนต์ที่ได้รับความนิยมมี 2 วิธี วิธีแรกคือ Hair Growth Treatment  เป็นนวัตกรรมการนำ Growth factor ของผู้เข้ารับการรักษาเองมาใช้ โดยการเก็บเลือดจากบริเวณข้อพับแขนเพียงเล็กน้อย และนำเลือดที่ได้มาเติมสารต้านการแข็งตัวของเลือด แล้วจึงปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงสาร เพื่อให้เลือดแยกชั้นออกเป็นชั้นเซลล์ จากนั้นนำ Growth factor ที่ได้มาผสานกับวิตามินเข้มข้นสูตรเฉพาะแล้วจึงฉีดเข้าสู่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผมให้กลับมาสร้างเส้นผมใหม่ที่หนาและแข็งแรง ลดการหลุดร่วงของเส้นผม รวมถึงบำรุงหนังศีรษะให้มีสุขภาพดีขึ้น


อีกวิธีหนึ่งคือ การฟื้นฟูผมด้วยแสง LLLT (Low Level Laser Therapy) คือการฉายเลเซอร์จากคลื่นแสงความถี่ต่ำที่มีความยาวคลื่นในช่วง 620-660 นาโนเมตร เป็นแสงสีแดงที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าลงบนหนังศีรษะ ช่วยสร้างเส้นเลือดใหม่ และกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ผิวหนัง  ออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ จึงมาเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น ช่วยให้เซลล์ทำงานได้ตามปกติ นำไปสู่การสร้างเส้นผมใหม่ที่แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายและเส้นผมหนาขึ้น


Hair Growth Treatment และ LLLT เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่ต้องใช้สารเคมี ไม่ต้องทำการผ่าตัด จึงไม่ทำให้เกิดบาดแผลใด ๆ และไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันทีหลังเข้ารับบริการ อีกทั้งยังดูแลง่าย เพียงห้ามหนังศีรษะโดนน้ำภายใน 24 ชั่วโมงแรก จากนั้นผู้เข้ารับการรักษาสามารถสระผมหรือเช็ดผมอย่างเบามือได้ตามปกติ และที่สำคัญ การทำทรีทเมนต์ทั้ง 2 แบบนี้ นอกจากจะรักษาภาวะผมร่วงและบางในระดับเริ่มต้นได้แล้ว ยังมีประสิทธิภาพดีมากกับผู้ที่ได้รับการปลูกผมมาใหม่ๆอีกด้วย ช่วยให้แผลหายเร็ว เส้นผมใหม่แข็งแรงและสมบูรณ์ขึ้น  

สำหรับผู้ที่มีภาวะผมร่วงและบางระดับที่รุนแรงขึ้น ผมร่วงรุนแรงและบางมากจนเห็นหนังศีรษะได้ชัดเจนขึ้น รูขุมขนไม่ทำงาน ผมร่วงไปแล้วไม่มีผมขึ้นใหม่ การใช้ยาหรือทรีทเมนต์เพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้รักษาด้วยการปลูกผมถาวร ซึ่งมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เข้ารับการรักษาจะตัดสินใจเลือก

ที่นามนินมีการดูแลรักษาปัญหาผมร่วงผมบางอย่างครอบคลุม ให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา หากแพทย์ประเมินแล้วว่าปัญหายังไม่รุนแรงมากนัก ก็จะแนะนำให้รักษาด้วยการใช้ยาหรือทำทรีทเมนต์ก่อน แต่หากปัญหารุนแรงขึ้น นามนินก็มีการปลูกผมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว คือ เทคนิค NEAT ที่ลงตัวทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” เป็นเทคนิคที่ตอบโจทย์ทุกด้านของการปลูกผมถาวร ทั้งนวัตกรรมที่ทันสมัยและปลอดภัย ดูแลและรักษาด้วยความเชี่ยวชาญ เหนือกว่าด้วยความใส่ใจและฝีมือที่ไม่เป็นรองใครของคุณหมอนิน คนไข้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายหลังการปลูกผม และที่สำคัญคือผลลัพธ์ที่ได้นั้นมากกว่าการสัมผัสเส้นผมใหม่ที่สวยเป็นธรรมชาติด้วยตาเห็นเพียงอย่างเดียว แต่สัมผัสถึงความรู้สึกดีได้จากภายใน เมื่อรู้สึกมีความสุขและมั่นใจ ตัวตนใหม่ที่โดดเด่นก็จะสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน

อย่าใช้คำว่า “ไม่เป็นไร รอก่อน” กับปัญหาผมร่วงผมบาง เพราะมันอาจไม่ได้ก่อให้เกิดความเจ็บปวดทางร่างกาย แต่ลึกๆแล้วมันส่งผลกระทบด้านจิตใจ ผู้ที่รู้สึกว่าผมร่วงมากผิดปกติควรหมั่นสังเกตตนเองอยู่เสมอ และไม่ต้องลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการแก้ปัญหาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวคุณเองโดยเร็วที่สุด 

ปลูกผม“ครั้งแรก”เลือกให้ดีที่สุด
“ปลูกผมครั้งแรก” น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่พอควรสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะเมื่อคุณตอบคำถามแรกของตัวเองได้แล้วว่า จะลองปลูกผมดีหรือไม่ คำถามต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ จะเลือกปลูกผมครั้งแรกอย่างไรให้ “ดีที่สุด”

นี่เป็นคำถามที่ไม่ง่ายเลยสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการการปลูกผมแบบถาวร ซึ่งคุณอาจจะต้องใช้เวลาไปกับการศึกษาข้อมูลเพื่อการตัดสินใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นั่นถูกต้องแล้ว!! การเลือกปลูกผมครั้งแรกที่ไหนและอย่างไร เป็นคำถามที่ไม่ง่าย และไม่ควรง่ายด้วย!! เพราะการปลูกผมครั้งแรกนั้นสำคัญที่สุด เส้นผมบนศีรษะของคุณจะเป็นอย่างไรทั้งในวันนี้และในวันข้างหน้า ก็ขึ้นอยู่กับการปลูกผมครั้งแรกนี่เอง 

ทำไมเราจึงย้ำหลายครั้งถึง “ความสำคัญ” ของการ “ปลูกผมครั้งแรก” ต้องเข้าใจก่อนว่า การปลูกผม ไม่ใช่การนำเส้นผมจากใครที่ไหนก็ได้มาปลูกใหม่บนหนังศีรษะของเรา แต่จะต้องเป็นผมจากร่างกายของเราเองเท่านั้น และไม่ใช่ผมทั่วทั้งศีรษะที่จะนำมาปลูกใหม่ได้ แต่จะต้องเป็นผมจากบริเวณ Safe Zone ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของหนังศีรษะเท่านั้น อย่าลืมลองจินตนาการเพิ่มเติมอีกสักนิดว่า แต่ละคนมีปัญหาสุขภาพผม รวมถึงอาการผมร่วงและผมบางรุนแรงไม่เท่ากัน “ทรัพยากรผมต้นทุน” ที่จะสามารถนำไปปลูกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับแต่ละคน จึงมากน้อยต่างกันตามไปด้วย 



เมื่อทรัพยากรผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ของคนเรามีอยู่อย่างจำกัด การบริหารจัดการผมต้นทุนเพื่อนำมาปลูกใหม่อย่างรอบคอบและเหมาะสมตั้งแต่การปลูกครั้งแรก จึงเป็นหัวใจของการรักษา ที่จะส่งผลต่อเส้นผมของเราทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการปลูกผมครั้งแรกจึงสำคัญที่สุด และต้อง “เลือก” แนวทางการรักษาที่ใช่ ด้วยความใส่ใจอย่างแท้จริง

มาทำความเข้าใจธรรมชาติของผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone กันอีกสักนิด Safe Zone อาจเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเส้นผม ซึ่งผมมีความแข็งแรง ไม่ลีบแบน เรียงตัวค่อนข้างหนาแน่น และทนทานต่อการหลุดร่วงมากที่สุด โดย Safe Zone คือพื้นที่ผมบริเวณท้ายทอย ตั้งแต่เหนือหูด้านซ้ายไปถึงเหนือหูด้านขวา ยาวประมาณ 10 – 12 นิ้ว และสูงประมาณ 3 นิ้ว สังเกตง่าย ๆ ว่า คุณผู้ชายที่มีปัญหาผมร่วงและผมล้าน มักจะหลงเหลือผมตรงท้ายทอยด้านหลังอยู่เป็นบริเวณสุดท้ายนั่นเอง 

เหตุผลที่เส้นผมบริเวณ Safe Zone หรือด้านหลังท้ายทอย มีความแข็งแรงและทนทานต่อการหลุดร่วงมากกว่าผมในบริเวณอื่น ๆ นั้น ก็เพราะรากผมบริเวณนี้ ไม่ ตอบสนองต่อฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือ DHT เจ้าฮอร์โมนตัวนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะของเรามีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ผมเกิดใหม่มีรากผมอ่อนแอ จนนำไปสู่อาการผมร่วง ผมบาง และผมล้าน แบบที่เราพบได้ทั่ว ๆ ไป 

โชคดีที่ DHT ไม่สามารถทำลายรากผมบริเวณ Safe Zone ได้ หรืออย่างน้อยก็เข้าไปทำลายได้ช้ากว่าบริเวณอื่น เราจึงยังเหลือเส้นผมคุณภาพดีที่สามารถนำไปปลูกแบบถาวรในบริเวณที่เป็นปัญหาได้ ทั้งยังคงคุณสมบัติเรื่องความทนทานต่อการถูกทำลายจากฮอร์โมน DHT ไม่ว่าจะย้ายไปปลูกใหม่ยังส่วนไหนก็ตามอีกด้วย ทำให้เส้นผมที่ปลูกใหม่เติบโต หลุดร่วง และงอกใหม่ได้ตามวงจรธรรมชาติของเส้นผมไปได้ตลอดชีวิตของเราเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม หากเราลองคำนวณจำนวนกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ก็น่าจะอยู่ที่ราว ๆ 12,500 กราฟต์ จากกราฟต์ผมทั้งศีรษะกว่า 50,000 กราฟต์โดยประมาณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องประเมินพื้นที่ที่ต้องการปลูกผม และคำนวณจำนวนกราฟต์ผมที่เหมาะสมที่สุด ก่อนจะทำการย้ายเส้นผมไปปลูกใหม่ ซึ่งจะต้องคำนึงด้วยว่า เมื่อย้ายเส้นผมออกจากบริเวณ Safe Zone แล้ว บริเวณนั้นจะต้องไม่เหลือเส้นผมอยู่น้อยเสียจนดูบางเกินไป ที่สำคัญ ยังต้องคำนึงถึงอนาคต เพราะมีโอกาสที่เราอาจจะต้องพึ่งพาผมบริเวณ Safe Zone เพื่อปลูกผมใหม่อีกครั้งหรือหลายครั้งก็เป็นได้ อีกทั้งถ้าหากเกิดความผิดพลาดใด ๆ ในการปลูกผมครั้งแรก การแก้ไขอาจเป็นเรื่องยาก และแน่นอนว่าคงไม่ได้ผลดีเท่าเดิม 

ดังนั้นแล้ว นอกจากการทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการปลูกผมครั้งแรก เนื่องจากทรัพยากรผมต้นทุนที่มีอยู่จำกัด ผู้ที่ตัดสินใจว่าจะเข้ารับการปลูกผมควรศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกคลินิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ หรือแนวทางการรักษาที่ตอบโจทย์ตนเองมากที่สุด รวมถึงหาโอกาสพูดคุยปรึกษากับแพทย์ก่อนทำการตัดสินใจ เพราะหลายคนเข้าใจผิดว่า ปลูกผมที่ไหนก็เหมือน ๆ กัน แพทย์ก็คงใช้หลักการและเทคนิคไม่ต่างกัน ทำให้หลายคนใช้ปัจจัยด้านตัวเลขค่ารักษาเป็นตัวตัดสิน แต่ที่จริงแล้ว การปลูกผมครั้งแรกให้ดีที่สุดนั้น มีปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามมากมาย ซึ่งเราได้รวบรวมประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ควรพิจารณาเพื่อเลือกแนวทางการปลูกผมมาไว้ให้ตรงนี้แล้ว


1. ความเชี่ยวชาญของแพทย์

ถ้าใครคิดว่าปลูกผมที่ไหนก็เหมือนกัน เราขอชวนให้ลองคิดใหม่ เพราะแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพผมแต่ละคนย่อมมีประสบการณ์  ความเชี่ยวชาญ และแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน จะดีแค่ไหนหากเราได้แก้ปัญหาผมกับแพทย์ที่รู้ลึก รู้จริง แพทย์ที่เข้าใจว่าปัญหาของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์ที่มองเห็นความแตกต่างของปัญหาเหล่านั้น และสามารถวิเคราะห์หรือออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ เคสใหม่ คิดใหม่ แบบไม่มีซ้ำกัน

ไม่เพียงเท่านั้น การปลูกผมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แพทย์ควรยกให้คนไข้เป็นศูนย์กลางในการรักษา โดยเริ่มต้นจากการรับฟังปัญหา ความกังวลใจ และความต้องการที่แท้จริงของคนไข้ เพื่อร่วมกันออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด และในการปลูกผมยังเป็นผู้ที่ลงมือปลูกเส้นต่อเส้นด้วยตนเอง   ยังสามารถตอบโจทย์ตัวตนของคนไข้และเรียกคืนความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันกลับมาได้ด้วย


2. เครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผม

นอกจากฝีมือหรือความชำนาญของแพทย์แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่แพทย์เลือกใช้ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปลูกผมเช่นกัน เราจึงควรมองหาเครื่องมือที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทุกวันนี้ เครื่องมือที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีขนาดเล็กพิเศษจนสามารถช่วยให้แพทย์ลงมือปลูกผมได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางทิศทางและองศาผม การประมาณความลึกในการปัก การกระจายกราฟต์ผมให้หนาแน่นเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บหรือผลข้างเคียงจากการรักษาได้เป็นอย่างดี


3. วิธีการและเทคนิคในการปลูกผม

การปลูกผมถาวร แบบ FUT หรือ FUE นั้น อาจจะมีหลักการทั่วไปที่ไม่แตกต่างกันนักในแพทย์แต่ละคน อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจคิดค้นและพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ที่ช่วยเสริมให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากท้ายทอย อาจทำให้คนไข้ต้องคอยกังวลกับการปกปิดรอยแผลด้านหลัง ซึ่งเทคนิคการซ่อนแผลของแพทย์สามารถตอบโจทย์ปัญหานี้ได้ ขณะเดียวกัน การปลูกผมใหม่ในบริเวณที่ผมบาง อาจทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างเส้นผมใหม่และเก่าค่อนข้างชัดเจน ซึ่งแพทย์ก็จะมีเทคนิคเฉพาะตัวในการปลูกผมให้กลมกลืนจนแทบแยกไม่ออกได้เช่นกัน 


4. ความใส่ใจในการรักษา

นี่อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างเส้นทางการรักษา ลองมองหาสถานบริการหรือแพทย์ที่ “ใส่ใจ” ดูแลเส้นผมของเราอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการพูดคุยก่อนออกแบบวิธีการรักษา หรือการดูแลติดตามผลหลังการปลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระหว่างขั้นตอนการปลูกนั้น แพทย์ที่ใส่ใจจะเป็นผู้ลงมือปลูกผมใหม่ให้คนไข้เองอย่างประณีตทุก ๆ เส้น เพื่อควบคุมคุณภาพการปลูกผมให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น ยังเตรียมพร้อมให้คนไข้สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันดังเดิมได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจที่สุดด้วย


5. การดูแลหลังการปลูกผม

นอกเหนือจากการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันแรกที่คนไข้ก้าวเข้ามารับการปลูกผม รวมถึงให้ข้อมูลที่ชัดเจนตลอดการรักษาเพื่อคลายทุกข้อสงสัยและความกังวลใจของคนไข้แล้ว เราควรพิจารณาถึงบริการดูแลหลังการปลูกผมด้วย เพราะการปลูกผมเป็นหัตถการทางการแพทย์ระยะยาว ที่ต้องอาศัยเวลาถึง 1 ปีเต็มเพื่อให้เส้นผมเติบโตอย่างสมบูรณ์ ในระหว่าง 1 ปีนั้น คนไข้ควรได้รับคำแนะนำ การเอาใจใส่ และการติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเตรียมบริการ Treatment กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ตลอดจนผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัยและช่วยเสริมให้เกิดผลลัพธ์ผมสวย หนาแน่น แข็งแรงสมบูรณ์อย่างเป็นธรรมชาติ

และนี่ก็คือ Checklists สำคัญ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการปลูกผม เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ปลูกผมที่ดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพดี และอยู่คู่กับหนังศีรษะของคุณไปได้อีกยาวนาน 

หัวใจของนามนิน พัฒนาต่อเนื่อง
ความทุ่มเท ใส่ใจ และไม่เคยหยุดพัฒนาของนามนิน
ถ้าพูดถึง “การปลูกผม” เมื่อหลายปีก่อนจะหมายถึงการผ่าตัดในรูปแบบหนึ่งที่มีความเสี่ยง ต้องพักฟื้นนาน ทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ และบางครั้งผลลัพธ์ที่ได้ก็กลับไม่เป็นที่น่าพอใจเสียอีก แต่ในปัจจุบันการปลูกผมมีวิวัฒนาการขึ้นมาก มีเทคนิคใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายเพื่อให้ผู้ที่มีปัญหาผมร่วงผมบางได้เลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด

เทคนิค NEAT เป็นเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน ได้รับการพัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของอาจารย์แพทย์ด้านการปลูกผม พญ.ดิลกณิกนันต์ นามทองต้น โดดเด่นด้วยนวัตกรรมจากต่างประเทศและผลลัพธ์หลังการรักษาที่ก้าวหน้ายิ่งกว่าเทคนิค FUE หรือการปลูกผมถาวรแบบย้ายรากผมโดยทั่วไป สามารถแก้ปัญหาให้กับคนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางและศีรษะล้านได้ในเทคนิคเดียว

คุณหมอนินใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาเทคนิคการปลูกผม NEAT  เพื่อยกระดับมาตรฐานการปลูกผมให้สูงขึ้น มีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น ตอบโจทย์ทั้งด้านการรักษาและความสวยงาม นอกจากวิธีการปลูกผมที่ได้มาตรฐานระดับสากลแล้ว เทคนิค NEAT ยังเหนือกว่าด้วยความใส่ใจและพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการรักษาด้วยตัวคุณหมอนินเอง ทุกความกังวลใจและความต้องการของคนไข้สำคัญเสมอสำหรับการวางแนวทางการรักษา ซึ่งที่นามนิน คุณหมอและคนไข้จะทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ถึงแม้เทคนิคการปลูกผมของคุณหมอนินจะได้รับการยอมรับจากแพทย์อีกหลายท่านทั่วประเทศ ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้ด้วยตนเองที่นามนินแล้วก็ตาม คุณหมอนินก็ยังไม่หยุดการพัฒนาคุณภาพการรักษาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมไปถึงการดูแลหลังการรักษา เช่น Hair Growth Treatment ,  LED Light Therapy ที่ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากต่างประเทศเข้ามาปรับใช้อย่างชาญฉลาด เพื่อเป็นการดูแลอย่างต่อเนื่องหลังการปลูกผมที่มีประสิทธิภาพที่สุด

เมื่อความทุ่มเทและใส่ใจของคุณหมอได้สะท้อนและส่งต่อผ่านเทคนิคการปลูกผมขั้นสูง ประกอบกับการรักษาที่ประณีตและพิถีพิถันในทุกขั้นตอน จึงเกิดเป็นคุณค่าที่แตกต่าง ได้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ จนในหลายๆครั้ง คุณหมอนินก็เป็นแพทย์ผู้ที่เปลี่ยนชีวิตใหม่ด้วย “เส้นผม” ให้กับคนไข้ได้จริงๆ