คุณเนย เนโกะ จั๊มพ์ ได้มาบอกเล่าความประทับใจในการปลูกผมที่นามนิน รวมถึงเปิดเผยเทคนิค “สายส่อง” ของตัวเอง ที่ต้องส่องละเอียดถึงขั้นไหน? จนในที่สุดจึงได้ตัดสินใจแน่วแน่ว่าต้องมาปลูกผมเทคนิค NEAT กับคุณหมอนินเท่านั้น
ปัญหาของคุณเนยคือ ผมด้านหน้าเว้าสูงเป็น M Shape มาตั้งแต่เด็กเนื่องจากกกรรมพันธุ์ “เนยเป็นคนที่ผมมีแสก ตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว เพราะคุณแม่ก็ผมเป็นแสก มันจะเป็นแสกอยู่ตรงข้างๆ และไม่เคยรู้สึกชอบมันเลย เวลาเรารวบผม มันอาจจะเหมือนบางทีเราเห็นดาราหรือเห็นคนอื่น เรารู้สึกว่าทำไมเวลาเขารวบผมแล้วเขาไม่เห็นมีแสกตรงนี้เลย ทำไมเราถึงมี” เมื่ออายุมากขึ้น ก็รู้สึกว่าเห็นปัญหาชัดขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่เข้าวงการบันเทิง เริ่มมีข้อจำกัดในการทำผมทรงต่างๆ เพราะต้องปกปิดบริเวณที่ผมบางด้วยแฮร์แชโดว์ ซึ่งในบางครั้งก็ทำให้ไม่มั่นใจ เพราะรู้สึกว่าดูไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนเอาสีมาระบายเส้นผมไว้ “เวลารวบผมจะไม่ค่อยมั่นใจ เพราะเราเขินตรงนี้ของเรา (รอยแสกด้านข้าง) เพราะว่า บางทีสมมุติมองด้วยตาเปล่าเจอกันแบบนี้ มันดูไม่เป็นไร มันดูปกติ แต่เวลาเราไปออกรายการหรือว่าเจอไฟ ใสนะ ก็เหม่งอยู่นะ”
คุณเนยรู้ปัญหาของตัวเองและรู้ว่าต้องแก้ไขด้วยการปลูกผม แต่ด้วยความกังวลหลายอย่าง ทำให้คุณเนยใช้เวลาหาข้อมูลอยู่หลายปีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะปลูกผมอย่างไร “สัก 2-3 ปีที่เริ่มมีความคิดในหัวว่า เราต้องทำอะไรสักอย่าง เราต้องมาปลูกผมอะไรตรงนี้ แต่ว่า บางทีเนยก็จะเลื่อนๆ ดูในเฟซบุ๊กบ้าง อะไรบ้าง ถามคนที่เขาเคยทำบ้าง คือบางคนพอเนยเห็นเขาปลูก แล้วเนยก็จะไม่กล้าปลูก เพราะรู้สึกว่ามันดูเหมือนใส่วิก มันดูเหมือนแบบ เอ๊ะ อย่างนี้เราจะสู้แบบไม่มีดีกว่ามั้ย หรือถ้ามันจะปลูกแล้วต้องกลายเป็นแบบนั้น มันดูไม่ธรรมชาติ”
สิ่งที่คุณเนยกังวลคือ ความเป็นธรรมชาติ ความเจ็บ เส้นผมหลังปลูกจะสวยอย่างที่คาดหวังหรือไม่ และการดูแลหลังการปลูกจะยากหรือง่ายอย่างไร “การหาข้อมูล” จึงเป็นสิ่งที่คุณเนยให้ความสำคัญก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง สิ่งที่คุณเนยโฟกัสคือความชำนาญและสไตล์การทำงานของแพทย์ ดูรีวิวทุกเคสที่เคยปลูกผมอย่างละเอียด ซึ่งไม่ได้ดูแค่ตอนที่ทำเท่านั้น แต่ต้องดูยาวๆ ไปถึงในการใช้ชีวิตประจำวันหลังการปลูกผมด้วย
หลังจากการหาข้อมูลอย่างละเอียดถึง 2-3 ปี ในที่สุด คุณเนยก็เลือกเข้ารับการปลูกผมเทคนิค NEAT กับคุณหมอนิน เพราะมั่นใจที่สุดว่าเป็นการปลูกผมที่ตอบโจทย์ของตัวเอง ทั้งเชื่อมั่นในสไตล์ของคุณหมอนิน ความมีมาตรฐานของคลินิก และรีวิวที่จริงทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เป็นการตัดสินใจที่แน่วแน่จนคุณหมอถึงกับอึ้งว่า คุณเนยไม่ถามข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีกเลย เหมือนตัดสินใจมาแล้วจากบ้านว่าต้องปลูกผมกับคุณหมอนินเท่านั้น
เมื่อถามถึงความกังวลเรื่องความเจ็บในวันที่เข้ารับการปลูกผม คุณเนยก็เล่าว่า “ปลูกผมไม่น่ากลัวนะ ห้องมันเหมือนสปามากกว่า คือเนยรู้สึกว่า บางทีบรรยากาศของห้อง เวลาเราไปทำอะไรพวกนี้ บางทีมันก็สำคัญด้วยนะ เพราะว่าห้องรู้สึกดูเหมือนแบบฉันจะต้องไปขึ้นเตียงผ่าตัดแล้ว มันจะทำให้เรากลัว พอเรากลัวแล้วมันจะเจ็บมากกว่าเดิม” คลายกังวลไปแล้ว 1 เรื่อง ส่วนเรื่องต่อมาคือ ความสวยและความเป็นธรรมชาติ คุณเนยบอกว่า “ดีใจมาก เพราะว่าตอนที่เห็นกระจกปุ๊บคือแบบ เรามีผมโดยที่เราไม่ต้องใช้สีมาระบายหัวแล้ว คือ แต่ต่อให้มันยังเป็นเส้นสั้นๆ น่ะ เรารู้สึกมีความหวังมากเลยว่า ว้าว ฉันจะสวยแล้ว” และเรื่องสุดท้ายที่กังวลคือ การดูแลหลังปลูกผมจะเป็นอย่างไร คำตอบคือ “ที่เนยมาทำที่นี่ เนยรู้สึกว่ามันไม่ได้ดูแลยาก หลังจากที่ทำเสร็จแล้วก็ไม่ได้ลำบาก ก็สบายดีออก” ภายในวันเดียว NEAT ลบภาพจำและความกังวลในการปลูกผมของคุณเนยได้ทั้งหมด
หลังปลูกผม 9 เดือน กรอบหน้าและเส้นผมใหม่เสริมความมั่นใจให้คุณเนยมากขึ้น เส้นผมดูเป็นธรรมชาติอย่างที่คุณเนยต้องการ รูปหน้าก็เรียวสวยขึ้น เป็น V Shape โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย “รู้สึกเวลาเรารวบผม เวลาเราถ่ายรูป มันจะเห็นว่า รู้สึกทรงเชปหน้ามันดีขึ้น” คุณเนยยังเสริมอีกว่า คนรอบข้างไม่รู้เลยว่าคุณเนยปลูกผมมา รู้แต่สวยขึ้น
เมื่อถามถึงความประทับใจในการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่นามนิน “เนยให้เต็ม 10 เลยนะ เพราะว่าโอเค มันสวยงาม ถูกใจ คือดีมาก แล้วก็รู้สึกว่ามันมีความไพรเวต ความเป็นส่วนตัว มีความผ่อนคลาย สบาย แล้วก็ตอนทำมันไม่เจ็บ มันสบายมาก เราไม่ต้องทรมาน พอทำเสร็จแล้วมันไม่มีปัญหา คือเต้นสะบัดได้ ใช้ชีวิตปกติได้ โดยที่เราไม่ต้องคอยมานั่งกังวล”
สำหรับคุณเนย การปลูกผมเทคนิค NEAT ได้เติมเต็มความสุขและความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น “ใช้ชีวิตสบาย แล้วมันก็ง่ายมาก บอกเลยว่ามันไม่ได้น่ากลัวจริงๆ” สำหรับนามนิน เรายินดีและขอบคุณที่คุณเนยไว้วางใจ เลือกการปลูกผมเทคนิค NEAT ของเราค่ะ