...จากคนไข้ สู่ลูกศิษย์คนแรก...“หมอวรุตม์” การันตี
การปลูกผมให้ดีคืองานศิลปะ
“การจะปลูกผมให้ออกมาสวยหรือไม่สวย ขึ้นอยู่กับฝีมือของคุณหมอเป็นหลักเลย เพราะการปลูกผมก็เหมือนงานศิลปะ ต้องอาศัยฝีมือศิลปินในการทำ”
นี่คือเสียงยืนยันของคุณหมอวรุตม์ หอมพูลทรัพย์ ว่าการปลูกผมต้องอาศัยทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในการรักษา นอกจากคุณหมอวรุตม์ ซึ่งทุกวันนี้เป็นศัลยแพทย์ทั่วไปและมีคลินิกเป็นของตัวเอง จะเป็นหนึ่งในคนไข้ผู้เข้ารับการปลูกผมกับคุณหมอนิน แห่งคลินิกนามนินแล้ว ยังเป็นลูกศิษย์คนแรกที่เข้ารับการฝึกอบรมเทคนิคการปลูกผมขั้นสูงหรือ NEAT ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของอาจารย์หมอนินด้วย ลองมาฟังประสบการณ์การเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ของคุณหมอวรุตม์กัน
“เดิมเป็นคนหน้าผากกว้างอยู่แล้ว แต่มาเด่นชัดตอนอายุ 24 – 25 พอผมร่นเข้าไปลึกก็ทำให้จัดทรงยาก ลมพัดทีก็หน้าผากเปิด เรียกว่าหน้าตาเราจะเปลี่ยนทุกครั้งที่ลมพัด แถมเวลาถอดหมวกผ่าตัด ผมก็จะลีบแบน ผมเป็นคนชอบอะไรที่คล่องตัว ไม่ต้องจัดทรงเยอะ ใช้ชีวิตได้เลย แต่พอเป็นอย่างนั้นมันลำบาก ไม่สะดวก และเสียความมั่นใจ”
ที่ผ่านมา คุณหมอวรุตม์เคยลองทายาและรับประทานยาอื่น ๆ มาบ้าง แต่ผมที่ขึ้นใหม่เป็นเพียงขนเส้นเล็ก ๆ และไม่ขึ้นบริเวณหน้าผากที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ ด้วยความที่รู้จักกับคุณหมอนินมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงเริ่มปรึกษาเรื่องปัญหาผม และจุดประกายความคิดที่จะลองปลูกผมขึ้นมา
“หมอนินเอารูปคนที่ปลูกก่อนหน้าให้ดู รู้สึกว่าแผลดูเล็ก ผมขึ้นค่อนข้างโอเค ทำแล้วดูดีขึ้น แก้ได้ตรงจุด หมอนินก็ให้คำแนะนำค่อนข้างดี เชิงบอกและสอนด้วย ทั้งทฤษฎีการปลูก ความหนาแน่นเท่าไหร่ดี ผู้ชายควรปลูกยังไง ผู้หญิงควรปลูกยังไง เอารูปเทคนิคการปลูกผมแบบเก่ากับใหม่มาเปรียบเทียบกัน หมอนิน อธิบายหมด ค่อนข้างจริงใจในการให้ข้อมูล ถ้าอันไหนทำแล้วไม่โอเค หมอนินก็จะบอก...
...ผมเห็นว่าปลูกแล้วสำเร็จค่อนข้างเยอะ 80 – 90% ก็คิดว่ามันน่าจะดี น่าจะได้ประโยชน์ไปอีกหลายปี”
คุณหมอนินจะเริ่มต้นจากการออกแบบพื้นที่ที่จะทำการปลูก โดยถามคนไข้ด้วยว่าอยากได้รูปหน้าแบบไหน และช่วยกันตัดสินใจเพื่อให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด จากนั้น คุณหมอนินจะเป็นผู้ควบคุมดูแลการปลูกผมเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การฉีดยาชา การถอนกราฟต์ผมออกโดยมีทีมงานผู้ช่วย ซึ่งในเคสของคุณหมอวรุตม์ ใช้กราฟต์ผมประมาณ 2,200 กราฟต์เพื่อความหนาแน่นเต็มที่ จนกระทั่งตอนปักกราฟต์ผมเพื่อปลูกใหม่ ซึ่งขั้นตอนนี้ ต้องอาศัยความละเอียดประณีตของคุณหมอนินเท่านั้น
“ตอนปักกราฟต์ผม คุณหมอนินทำเอง เพราะว่าจะออกมาดีไม่ดี ต้องดูความหนาแน่นให้พอเหมาะ มากไปกราฟต์ก็ตาย น้อยไปก็ผมบาง ทิศทางเส้นผมถ้าปักแล้วเบี้ยวก็ออกมาไม่สวย อันนี้เป็นเรื่องของคุณหมอล้วน ๆ เลย”
ที่สำคัญ หลังปลูกผมยังสามารถทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
“วันสองวันแรก มีแค่น้ำเหลืองซึม ๆ และสะเก็ดนิดหน่อย แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะวันรุ่งขึ้นหลังจากทำก็มาเรียนปลูกผมต่อได้เลยครับ”
คุณหมอวรุตม์ยอมรับว่ามีความรู้สึกลุ้นนิดหน่อยว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในระยะที่ผมใหม่หลุดร่วงออกตามธรรมชาติ แต่ประมาณ 3 – 4 เดือนผ่านไป ผมก็งอกขึ้นมาใหม่เหมือนที่คุณหมอบอกจริง ๆ
“มาหนาแน่นเลยครับ ผมคิดว่ากราฟต์น่าจะติดเกิน 90% ตอนนี้เหมือนผมปกติแล้วนะครับ กลมกลืนกับผมข้างเคียง ความแข็งแรงก็ใกล้กัน เวลาอาบน้ำสระผมจะไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างจากส่วนอื่น”
และในฐานะลูกศิษย์คนแรกของอาจารย์หมอนิน คุณหมอวรุตม์เล่าถึงความประทับใจว่า คุณหมอนินเป็นอาจารย์ที่คุยง่าย มีอะไรสงสัยก็ถามได้ทุกเรื่อง มีเทคนิคที่น่าสนใจ และให้การบ้านไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเยอะมาก ทั้งยังได้เรียนจากเคสคนไข้จริง ๆ ซึ่งในอนาคตคุณหมอวรุตม์ก็เตรียมที่จะนำเทคนิคความรู้ที่ได้ไปช่วยแก้ปัญหาเส้นผมให้คนอื่น ๆ ต่อไปอย่างแน่นอน
“ผมคิดว่าการปลูกผมไม่ใช่ศาสตร์ที่ยาก แต่มีรายละเอียดเยอะ ลองนึกภาพการปักผมใหม่ทีละกราฟต์ รวม 2,000 กราฟต์ทั้งวัน ซึ่งจะสวยไม่สวยก็อยู่ที่การออกแบบและการปัก มันเป็นเรื่องของศิลปะครับ”