เชื่อว่าเหตุผลที่หลาย ๆ คนยังไม่กล้าตัดสินใจปลูกผม ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะภาพจำเดิม ๆ โดยเฉพาะช่วงการพักฟื้นหลังปลูก ที่ต้องใช้เวลาเก็บตัวรักษาแผลและอาการบวมช้ำอยู่นานหลายสัปดาห์ เช่นเดียวกับคุณประเสริฐ บุญลีระวัฒน์ อายุ 56 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบาง มาตั้งแต่ก่อนวัย 30 แต่ก็พยายามลองรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ โดยหลีกเลี่ยงการปลูกผมมาตลอด เพราะประสบการณ์ตรงจากคนใกล้ตัวในครอบครัว
“ผมมีพี่น้องซึ่งปลูกผมกันทุกคน เมื่อก่อนฝังใจเพราะเคยเห็นพี่ชายปลูกผมตั้งแต่ตอนอายุ 30-40 กลับมา หน้าตาบวมเป่งเลย แผลมันใหญ่ พักฟื้นเป็นเดือน ช่วงแรกออกไปไหนไม่ได้เลย แม้แต่น้องชาย ปลูกเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็เก็บตัวอยู่ที่บ้านเป็นอาทิตย์ เพราะน่าจะบวมเยอะ เห็นแล้วกลัว เราเลยไม่กล้าปลูก เราต้องทำงานด้วย หยุดนานขนาดนั้นไม่ได้”
สำหรับปัญหาผมของคุณประเสริฐนั้น จุดหลักจะอยู่ที่บริเวณหน้าผาก ที่เว้าเข้าไปสองข้างเป็นรูปตัว M และภายหลังยังมีอาการผมบางเป็นวงจากตรงกลางศีรษะร่วมด้วย ซึ่งแม้ว่าบทบาทวิศวกรที่เป็นอยู่ จะไม่ต้องพบปะผู้คนมากนัก แต่ก็ทำเอาคุณประเสริฐเสียความมั่นใจไปไม่น้อยเหมือนกัน
“เวลาประชุม executive หรือบางทีมีลูกค้ามาโรงงาน ถ้าเราดูไม่ค่อยดี ความมั่นใจก็น้อยลง เพราะฉะนั้น เราจึงอยากให้ตัวเองดูดีขึ้นอีกหน่อย ตอนหลัง พอมาเจอข้อมูลใน YouTube ว่าเดี๋ยวนี้ปลูกผมแล้วไม่ได้บวมมาก แผลไม่ใหญ่ ดูไม่น่าเกลียด พักฟื้นก็น้อย ไปออกงานเลยก็ยังได้ เลยเริ่มสนใจ”
คุณประเสริฐจึงเริ่มศึกษาทำความรู้จักการปลูกผมเทคนิคใหม่ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุด ก็เลือกให้ “คุณหมอนิน” เป็นผู้จบปัญหาเส้นผมที่พยายามหาทางออกมานานด้วยการปลูกผมเทคนิค NEAT
“เราดูคุณหมอนิน เวลาปลูก แผลเนียนกว่า สามารถออกไปไหน ๆ ได้เลย และทรงผมด้านหลังคือไม่ต้องตัดหรือโกนผม พอมาปรึกษาคุณหมอครั้งแรก คุณหมอก็ออกแบบวิธีการปลูกให้ คุณหมอจะอธิบายตรงจุด ซึ่งผมก็บอกว่าอายุเยอะแล้ว เอาแค่ดูดี ไม่จำเป็นต้องเต็มแน่นเหมือนวัยรุ่น คุณหมอเลยคำนวณให้เป็น 2,100 กราฟต์ เราก็โอเค”
ในวันทำหัตถการปลูกผม หลังจากคุณหมอนินวาด hairline หรือแนวผมใหม่ให้แล้ว ก็เริ่มลงมือเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย นำกราฟต์ผมมาคัดแยก และลงมือปักกราฟต์ผมด้วยตัวคุณหมอเอง
“ตอนปลูกไม่เจ็บ ไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากเท่าไหร่ ซึ่งคุณหมอก็ปลูกผมเองทั้งหมดเลย ลงมือเองทุกอย่าง ทำให้เรามั่นใจในทุกขั้นตอน และคลินิกก็ดูค่อนข้างได้มาตรฐานทุกอย่าง ตั้งแต่ทีมแพทย์ ไปจนถึงเครื่องมือที่ดูสะอาด คนไปทำก็มั่นใจ”
คุณหมอนินและคุณประเสริฐเลือกปลูกผมเพื่อเติมเต็มความหนาแน่นบริเวณด้านหน้าเป็นหลัก ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นงานละเอียดที่ต้องอาศัยฝีมือและความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก
“คุณหมอก็อธิบายเหมือนกันว่า ต้องปลูกให้ได้ทิศทางตามแนวผม ถ้าจะให้เนียน ต้องคัดแยกและเลือกผมมาปลูก ไรผมแถวหน้าจะเป็นผมเส้นเล็ก แบบ 1 เส้นต่อกราฟต์ แถวหลังต่อ ๆ มา จะใช้ 2-3 เส้นต่อกราฟต์ ”
แล้วคุณประเสริฐก็ได้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า การปลูกผมด้วยเทคนิคที่ล้ำหน้าขึ้นในปัจจุบัน สามารถลบภาพจำน่ากลัวของการปลูกผมในอดีตได้อย่างสิ้นเชิง
“หลังจากปลูก รู้สึกว่าแผลมันเล็กกว่าที่เราคิดไว้ ที่เราเคยเห็นคือแผลใหญ่ ปูดขึ้นมา แล้วต้องโกนผมหมดเลยด้วย แต่ของเราด้านหน้าจะเป็นตุ่มแดง ๆ นิดเดียว ไม่สังเกตก็ไม่เห็น คือ implanter มันเล็กลงมากถึงขนาดปลูกผมแล้วไม่มีรอยแผลได้ขนาดนี้เลยเหรอ และคุณหมอนินยังใช้เทคนิคซ่อนรอยแผลเป็นให้ด้วย”
ที่สำคัญ ตอนนี้คุณประเสริฐสามารถนำประสบการณ์ตรงไปบอกกับใคร ๆ ได้แล้วว่า การปลูกผมด้วยเทคนิค NEAT ที่ไม่ต้องพักฟื้น
“ปลูกเสร็จ ผมออกได้เลยแค่ใส่หมวกผ้ากันฝุ่น เช้าอีกวันผมก็ขับรถไปหาคุณหมอ ไปสระผม ไปโน่นนี่ปกติได้ไม่มีปัญหาเลย ตอนแรกเตรียมวันหยุดไว้เผื่อ กลัวว่าคนเห็นแล้วจะรู้สึกแปลกตา แต่ปรากฏว่าแค่ไม่กี่วัน รอยแดง ๆ ก็หายหมดแล้ว”
ไม่เพียงเท่านั้น นามนินยังคอยดูแลติดตามผลและให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง Shock Loss ซึ่งผมปลูกใหม่จะหลุดร่วงไปตามวงจรธรรมชาติในช่วง 2-3 เดือนแรก และจะกลับงอกขึ้นใหม่หลังจากเดือนที่สี่
“เดือนที่ 4-5 ผมด้านหน้าก็เริ่มขึ้นใหม่เรื่อย ๆ ตอนนี้ตัว M มันหายไป ผมก็เส้นใหญ่ขึ้น ข้างหน้าโอเคเลย แน่นดี ส่วนตรงกลางศีรษะ แต่ก่อนเป็นไข่ดาว คุณหมอก็แนะนำให้ฉีดบำรุง ตอนนี้รู้สึกผมเยอะขึ้น จากที่เคยมองเห็นหนังศีรษะ ตอนนี้ภรรยาบอกว่าไม่ค่อยเห็นแล้วนะ”
ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มาพร้อมกับบุคลิกภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น และความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น ทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิต
“มีคนทักว่า ดูดีขึ้นเยอะเลย ถ้าคนไม่เจอกันนาน ๆ จะถามว่าไปทำอะไรมา ดูดีจัง เมื่อก่อนอยู่หน้ากระจกต้องพยายามหวีผมมาปิดตัว M เดี๋ยวนี้พยายามเสย (หัวเราะ) เพราะเสยแล้วมันดูดีกว่า และเวลาพรีเซนต์งาน หรือบางทีมี supplier มา ก็ติดต่อกับเขาได้อย่างมั่นใจมากขึ้น”
นอกเหนือจากการปลูกผมที่ด้านหน้าแล้ว ปัญหาผมบางกลางศีรษะของคุณประเสริฐคุณหมอนินยังแนะนำให้ฉีดบำรุงด้วยโปรแกรม Premium Hair Booster เพื่อฟื้นฟู และบำรุงเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง และดูหนาขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่ามุมไหนในการออกไปพบปะผู้คนก็สร้างความมั่นใจได้
คุณประเสริฐยังยืนยันว่า ในวัยนี้ เราก็ยังสามารถเลือกปลูกผมให้ตัวเองดูดีขึ้นได้ ซึ่งหากใครยังไม่มั่นใจ สามารถลองมาพูดคุยปรึกษากับคุณหมอก่อนได้ เพื่อพิจารณาและตัดสินใจเลือกทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหาเส้นผมของตัวเอง
“รู้อย่างนี้ปลูกตั้งนานแล้ว คือตอนแรกเรากลัวอย่างเดียว ว่าปลูกแล้วจะไปทำงานไม่ได้ เลยคิดช้าหน่อย ผมเคยได้ยินคนบอกว่า การปลูกผมเป็นการลงทุน ...ซึ่งมันก็เป็นการลงทุนให้ตัวเองที่คุ้มค่าจริง ๆ...”