หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจเลือกวิธีการปลูกผมที่ “ใช่” สำหรับตัวเอง และอาจจะกำลังหลงทางอยู่ท่ามกลางตัวย่อคำศัพท์สารพัดเทคนิคที่ท่วมท้นอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ต ลองมาทำความเข้าใจตัวย่อคำศัพท์ที่เกี่ยวของกับการปลูกผมเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคนิค FUE กับ DHI ที่คนทั่วไปมักสับสนว่าเทคนิคไหนดีกว่ากัน
เฉลยตรงนี้เลยแล้วกันว่า เราไม่สามารถนำเทคนิค FUE หรือ DHI มาเปรียบเทียบแบบตรงตัวว่าเทคนิคไหนดีไปกว่ากันได้ เพราะไม่ว่าคุณจะเลือกอยู่ #ทีมFUE หรือเลือกอยู่ #ทีมDHI มีความเป็นไปได้มากว่าคุณอาจจะจับมืออยู่ทีมเดียวกันแล้วนั่นเอง!!
ทำไมจึงไม่ควรนำเทคนิค FUE และ DHI มาเปรียบเทียบกันแบบตรง ๆ นั่นก็เป็นเพราะว่า FUE เป็นชื่อเรียก “เทคนิคการปลูกผม” ซึ่งเน้นที่รูปแบบการนำผมออกจากบริเวณ Donor Area ขณะที่ DHI นั้นเป็นชื่อที่อธิบายถึงลักษะการใช้ “เครื่องมือในการปักกราฟต์ผม” ดังนั้น คุณสามารถที่จะเลือกใช้เทคนิค FUE โดยใช้เครื่องมือแบบ DHI ก็เป็นได้
และหากคุณต้องการชั่งน้ำหนักหรือทางเลือกในการตัดสินใจ ลองจับคู่ศัพท์เทคนิคเหล่านี้ใหม่ให้ถูกต้อง เพื่อเคลียร์ทุกข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กัน โดยเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจความหมายของ FUE และ FUT ก่อน ทั้งสองคำนี้ เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคการปลูกผมตามนิยามของ ISHRS หรือ International Society of Hair Restoration Surgeon ซึ่งแบ่งวิธีการปลูกผม ตามวิธีการนำผมออกจาก Donor Area ด้านหลังท้ายทอย
FUT หรือ Follicular Unit Transplant เป็นการผ่าตัดนำหนังศีรษะด้านหลังท้ายทอยออกมาทั้งชิ้น แล้วจึงค่อยนำมาแยกกราฟต์ผมด้วยกล้องจุลทรรศน์
FUE หรือ Follicular Unit Excision เป็นการใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะเพื่อนำกราฟต์ผมออกมาจากด้านหลังท้ายทอยทีละกราฟต์
เทคนิค FUT จึงเหมาะกับผู้ที่จำเป็นต้องนำกราฟต์ผมออกมาจาก Doner Area เป็นจำนวนมากในเวลาอันสั้น แต่ก็มีข้อเสียคือรอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดยาวประมาณ 15 – 30 เซนติเมตร ทำให้ต้องไว้ผมยาวเพื่อปกปิดรอยแผล
ส่วนเทคนิค FUE นั้น แน่นอนว่าจะทิ้งไว้เพียงรอยแผลขนาดเล็ก ๆ กระจายทั่วบริเวณ Doner Area ด้านหลังศีรษะ ซึ่งหากมีการเจาะนำกราฟต์ผมออกมามากเกินไป ก็อาจทำให้ผมในบริเวณนั้นดูบางลงได้ แต่ไม่ต้องกังวลใจเพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ช่วยวิเคราะห์ว่าเทคนิคการปลูกผมแบบใดที่ตอบโจทย์ของคนไข้มากที่สุด
สำหรับ DHI นั้น ไม่ใช่ชื่อเทคนิคที่บัญญัติโดย ISHRS แต่เป็นคำที่บ่งบอกถึงลักษณะเครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผมใหม่ และไม่ว่าคุณจะเลือกเทคนิค FUE หรือ FUT ก็สามารถเลือกใช้วิธีการปักกราฟต์ผมใหม่แบบ DHI ได้ทั้งคู่ โดย DHI ย่อมาจาก Direct Hair Implantation หมายถึงการใช้ Implanter Pen หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กพิเศษ นำกราฟต์ผมปักลงไปยังบริเวณที่ต้องการปลูกผมใหม่
คู่เปรียบเทียบที่เหมาะกับ DHI จึงน่าจะเป็นการใช้วิธีดั้งเดิมในการเจาะรูบนหนังศีรษะ แล้วนำ Forceps หรืออุปกรณ์คีมเล็ก ๆ คีบกราฟต์ผมมาปักลงไปทีละกราฟต์ ซึ่งมีโอกาสสร้างความเสียหายแก่รากผม ขณะเดียวกันการใช้ Implanter Pen ในเทคนิค DHI จะช่วยให้ปักกราฟต์ผมได้ละเอียด แม่นยำ และรวดเร็วกว่า ทั้งยังช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมความลึกในการปัก ตลอดจนทิศทางหรือองศาของเส้นผมใหม่ได้ดีขึ้นด้วย จนอาจเรียกได้ว่าเป็นวิธีการปักกราฟต์ผมใหม่ หรือ Graft placement ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะลงเอยกับเทคนิค FUE หรือ FUT ในการนำกราฟต์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย คุณก็สามารถเลือกใช้เทคนิค DHI ในการปักกราฟต์ผมเพื่อคืนความหนาแน่นในบริเวณที่เป็นปัญหาได้
ซึ่งที่นามนิน เราได้เลือกสรรเทคนิคทั้ง FUE และ DHI มาพัฒนาด้วยประสบการณ์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
จนเกิดเป็นเทคนิค NEAT หรือ Namnin Exclusive Advanced Hair Transplant Technique
เทคนิคการปลูกผมขั้นสูงเอกสิทธิ์เฉพาะของนามนิน
โดยใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กถึง 0.60 มม.เจาะย้ายกราฟท์ผมออกจากด้านหลังท้ายทอย โดยไม่ต้องผ่าตัด และยังเสริมด้วยเทคนิคแบบขั้นบันไดเพื่อซ่อนแผลขนาดเล็กไว้ได้แนบเนียนยิ่งกว่า
จากนั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญของนามนินจะเป็นผู้ลงมือปักกราฟท์ผมใหม่เองทีละกราฟต์ ด้วยเทคนิค DHI ซึ่งเป็นการใช้ Implanter Pen ขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร เพื่อผลลัพธ์ผมใหม่ที่แข็งแรง หนาแน่น เรียงตัวกลมกลืนเป็นธรรมชาติกับเส้นผมเดิม อีกทั้งยังลดอาการเจ็บระหว่างปลูกผม แผลเล็ก เลือดออกน้อย คนไข้จึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
ที่สำคัญ แพทย์ยังช่วยออกแบบปรับแต่งกรอบหน้าใหม่ให้ดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น จนคุณสามารถก้าวออกไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ พร้อมเปลี่ยนเป็นคุณคนใหม่ได้ทันที