ด้วยประสบการณ์ปลูกผมปรับรูปลักษณ์ให้กับคนรักผมวัย 50+ มาแล้วมากมาย ทำให้นามนินเข้าใจทุกความกังวลที่คนวัยนี้ต้องเผชิญ ...แล้วคุณล่ะ... เป็นหนึ่งในคนที่ยังลังเลใจ ไม่กล้าลองเปิดใจทำความรู้จัก หรือตัดสินใจปลูกผมเสียที เพราะเหตุผลเหล่านี้เหมือนกันหรือเปล่า
มาดูกันว่า นามนินช่วยให้คนรักผมวัย 50+ ได้ก้าวข้ามผ่านความกังวล และจบปัญหาคาใจเกี่ยวกับการปลูกผมทั้งหมดนี้ได้อย่างไร
“ไม่เคยรู้จักการปลูกผมถาวรเลยว่าเป็นยังไง หรือลองศึกษาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเองแล้ว แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะบางทีเขาพูดเป็นเชิงวิชาการ”
ก่อนอื่น ไม่ว่าคุณจะมีพื้นความรู้เรื่องการปลูกผมมากน้อยแค่ไหน ก็สามารถเข้าพูดคุยปรึกษากับคุณหมอนินได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งหลายเสียงบอกตรงกันว่า คุณหมอนินอธิบายได้ชัดเจน เป็นเหตุเป็นผล เข้าใจง่าย ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ทำให้เห็นภาพว่าเป็นการย้ายกราฟต์ผมจากข้างหลังท้ายทอยมาปลูกใหม่ และจะมีขั้นตอนอย่างไรบ้างตลอดระยะเวลาการปลูก 1 ปีเต็ม
อีกทั้งคุณหมอนินยังมีความเป็นกันเอง พูดคุยและรับฟังคนไข้ในบรรยากาศสบาย ๆ เชื่อมั้ยว่า หลาย ๆ คนพอใจและตัดสินใจเลือกเป็นคนไข้ปลูกผมของคุณหมอนินตั้งแต่คุยกันวันแรกนี่เลย
“ไม่อยากปลูกผม กลัวต้องผ่าตัดหรือโกนผม / กลัวเจ็บตอนทำ / หลังทำก็กลัวแผลใหญ่ บวม ออกไปเจอใครไม่ได้ ต้องพักฟื้นรักษาตัวอีกนาน”
นามนินเข้าใจว่าหลายคนติดภาพการปลูกผมด้วยวิธีการเดิม ๆ ที่อาจจะดูน่ากลัว ไม่สะดวกสบาย และเสียเวลาหลายสัปดาห์ในการพักฟื้น แต่คุณหมอนินเลือกใช้เทคนิคใหม่ล่าสุดในการปลูกผม ซึ่งนำมาพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมจนกลายเป็นเทคนิคที่ไม่เหมือนใคร ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องโกนผม เพียงเจาะย้ายกราฟต์ผมจากด้านหลังท้ายทอยมาปลูกใหม่ในบริเวณที่เป็นปัญหา ซึ่งมีโอกาสเจ็บหรือบวมน้อยมาก และคุณหมอยังใช้อุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศ คือ Implanter หรือปากกาปลูกผมขนาดเล็กพิเศษเพียง 0.6 มิลลิเมตร
ซึ่งหลังปลูกเสร็จ จะเหลือเพียงรอยแผลที่เล็กลงมากเมื่อเทียบกับเทคนิคในอดีต โอกาสที่จะเลือดออกหรือบวมช้ำก็น้อยมากเช่นกัน ทำให้ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถลุกออกไปใช้ชีวิตประจำวันหรือพบปะใคร ๆ ตามปกติได้เลย
“ถึงเวลาปลูกผมจริง ๆ กลัวว่าจะเป็นผู้ช่วยปลูกให้ ไม่ใช่คุณหมอ”
สำหรับการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่พัฒนาขึ้นโดยคุณหมอนิน สบายใจได้เลยว่า คุณหมอนินเป็นผู้ลงมือปลูกผมให้ด้วยตัวเองทั้งหมด แบบกราฟต์ต่อกราฟต์ ซึ่งต้องใช้ความละเอียด พิถีพิถัน และความชำนาญเฉพาะตัวมาก ๆ ในการปักกราฟต์ผมใหม่ให้ได้ทิศทางและองศากลมกลืนไปกับเส้นผมเดิม เพื่อให้ผมใกล้เคียงความเป็นธรรมชาติ ไม่ชี้ย้อนผิดทิศผิดทาง
อีกทั้งต้องเลือกขนาดความหนาบางของเส้นผมที่พอเหมาะกับจุดที่จะปลูก ต้องปักกราฟต์ให้ได้ความหนาแน่นกำลังดี ไม่แน่นเกินไปจนเสี่ยงกราฟต์หลุด และไม่น้อยเกินไปจนดูผมบาง รวมถึงต้องควบคุมระยะความลึกในการปักที่เหมาะสมต่อการเติบโตของเส้นผมใหม่ด้วย ...งานละเอียดขนาดนี้ จึงต้องวางใจให้คุณหมอดูแลเท่านั้น...
“ผมบางพร้อมกันหลายจุดเลย ปัญหาหนักขนาดนี้ การปลูกผมจะยังช่วยได้มั้ย”
ผมบางหลายจุด (เช่น ด้านหน้า กลางศีรษะ และบริเวณขวัญ) เรียกได้ว่าเป็นปัญหาสามัญประจำคนสูงวัยเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวลใจไป ลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอนินดูก่อน ซึ่งคุณหมอจะวิเคราะห์สภาพปัญหา และกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอย ว่ามีเพียงพอที่จะเติมเต็มส่วนที่บางได้ทั้งหมดหรือไม่ โดยคุณหมอนินจะอธิบายกับคนไข้ตามความเป็นจริง หากกราฟต์ผมเหลือน้อย หรือต้องไปรอดูคุณภาพกราฟต์ผมหลังย้ายออกจากด้านหลังแล้วอีกทีหนึ่ง ก็จะแจ้งให้คนไข้ทราบอย่างจริงใจ
ทั้งนี้ สำหรับคนไข้ในวัย 50+ เราพบทั้งกรณีที่ยังมีกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังเพียงพอแบบหายห่วง และกรณีที่เหลือกราฟต์ผมอยู่น้อย ซึ่งในกรณีหลัง คุณหมอจะช่วยคำนวณและจัดสรรการใช้กราฟต์ผมอย่างเหมาะสม เช่น เลือกเติมผมด้านหน้าที่จะส่งผลต่อบุคลิกและรูปลักษณ์มากที่สุดให้ดูหนาแน่นเต็มที่ ขณะที่บริเวณขวัญอาจจะเติมพอให้ดูไม่บางเกินไป เนื่องจากไม่ใช่จุดสังเกตหลัก วิธีนี้ก็ช่วยให้คนไข้คืนความมั่นใจกลับมาได้เช่นกัน
“ผมบางพร้อมกันหลายจุด แต่อยากปลูกเน้นแค่บางจุดเป็นพิเศษ สามารถบอกคุณหมอได้มั้ย”
ที่นามนิน คุณหมอนินจะรับฟังความต้องการของคนไข้เป็นหลักเสมอ เปิดโอกาสให้คนไข้ได้เล่าถึงความกังวลใจ และเป้าหมายในมาปลูกผม เพื่อออกแบบแนวทางการรักษาร่วมกัน ให้สามารถตอบโจทย์คนไข้ได้ตรงจุด ขณะเดียวกันก็เสริมคำแนะนำถูกต้องตามหลักการแพทย์ด้วย
ตัวอย่างเช่น คนไข้บางคนอาจจะบอกคุณหมอว่าอยากได้แนว Hairline หรือกรอบหน้าใหม่แบบไหน ซึ่งคุณหมอก็จะช่วยปรับให้แลดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับสัดส่วนใบหน้า และคนไข้หลายคนก็ขอคุณหมอให้ปลูกเน้นด้านหน้าเป็นพิเศษ ซึ่งคุณหมอจะช่วยจัดสรรกราฟต์ผมให้ หรือบางรายอาจใช้วิธีปลูกด้านหน้า ควบคู่ไปกับการฉีดสารบำรุง Premium Hair Booster Treatment เพื่อแก้ปัญหาผมบางกลางศีรษะควบคู่กันไป ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจไม่แพ้กัน
ที่สำคัญ ยิ่งสูงวัย ปัญหาผมบางอาจยิ่งรุนแรงขึ้น ตรงข้ามกับผมต้นทุนด้านหลังที่เหลือน้อยลงหรือไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น การตัดสินใจปลูกผมให้เร็วที่สุด ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเติมเต็มผมให้กลับมาหนาแน่นเต็มที่ได้มากกว่า และสำหรับใครที่ยังรู้สึกว่า สูงวัยแล้วจะปลูกผมไปทำไม ปลูกไปให้ใครดู เหล่าคนไข้วัย 50+ ของนามนินเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเลยว่า คนสูงวัยก็ยังต้องมีสังคม หลายคนยังทำงานต่อเนื่อง ยังออกไปพบปะเพื่อนฝูงญาติมิตร หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ดังนั้น การปลูกผมในวัยนี้ก็ยังถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างไม่ต้องกังวล