ปัญหาผมบางไม่ได้มีแต่เฉพาะในผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็พบเจอกับปัญหานี้ได้เช่นเดียวกัน ความรุนแรงอาจจะน้อยกว่าแต่ก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจและรบกวนจิตใจได้ไม่น้อยทีเดียว ผู้หญิงหลายคนจึงเลือกแก้ปัญหาระยะยาวด้วยการปลูกผมถาวร ซึ่งการปลูกผมของผู้ชายและผู้หญิงก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกัน มาดูกันค่ะว่าการปลูกผมให้สวยดูเป็นธรรมชาติในผู้หญิงมีเทคนิคอะไรบ้าง
เริ่มด้วยปัญหาผมบางที่พบบ่อยในผู้หญิงกันก่อน หากผมบริเวณรอยแสกกลางศีรษะบางกว่าส่วนอื่น เรียกว่า “ผมบางแบบต้นคริสมาสต์” ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ หรือบางคนอาจจะเจอปัญหา “ผมบางทั่วศีรษะ” ที่ทำให้เสียความมั่นใจได้ไม่น้อย เพราะผมดูบางทั่วทั้งศีรษะ จะทำผมทรงไหนก็ยาก อีกปัญหาหนึ่งที่พบได้คือ ผมบริเวณด้านหน้าร่นขึ้นไปแบบตัว M ซึ่งทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิม ปัญหาเหล่านี้ล้วนทำให้สูญเสียความมั่นใจในบุคลิกภาพของตนเอง
การปลูกผมให้สวยและดูเป็นธรรมชาติเริ่มด้วยการสำรวจรูปหน้าและแนวผมเดิมก่อน ผู้หญิงมีรูปหน้าที่แตกต่างกับผู้ชาย ส่วนใหญ่จะมีใบหน้ารูปไข่ รูปหัวใจและรูปทรงกลม แนวผมโค้งมนหรือเป็นทรงหัวใจ ขั้นตอนแรก แพทย์จะออกแบบกรอบหน้าใหม่ให้รับกับรูปหน้า โดยเน้นความชอบของคนไข้เป็นหลัก เพียงแต่ปรับให้สวยงามขึ้นตามหลัก Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำ แนวผมของผู้หญิงจะโค้งเพื่อให้รับกับรูปหน้าหรือเป็นทรงหัวใจ มีรอยหยักตรงกลาง อาจจะมีริ้วไรผมบางๆ เพื่อเพิ่มความละมุนของใบหน้าและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
เทคนิคที่แพทย์ใช้ในการปลูกผมของผู้หญิงคือ การปลูกไล่ระดับความหนาบางและจำนวนของเส้นผมในแต่ละกราฟท์ ปลูกผมแต่ละเส้นลงในตำแหน่งที่เหมาะสม กราฟท์ผมเดี่ยวจะอยู่ด้านล่างเพื่อเป็นไรผมบางๆ และปลูกไล่ระดับความหนาขึ้นไปเรื่อยๆ และปลูกแทรกเลยแนวผมเดิมเข้าไปเล็กน้อยเพื่อความเป็นธรรมชาติ การจัดวางทิศทางของเส้นผมเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะหลังจากปลูกผมไปแล้ว ทิศทางของเส้นผมจะแก้ไขไม่ได้ แพทย์จึงต้องลงมือปลูกผมแต่ละเส้นด้วยตัวเอง เพื่อกำหนดทิศทางและความหนาแน่นให้สวยงามและเหมาะสมที่สุด
ความพิเศษของการปลูกผมเทคนิค NEAT คือ การใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเพียง 0.6 มม.เจาะเพื่อนำกราฟท์ผมทางด้านหลังออกเป็นแนวขั้นบันไดซ่อนแผลให้แนบเนียนกับผมเดิม ไม่ต้องโกนผมหรือตัดผมสั้น ไม่เห็นรอยแผล ตอบโจทย์ของผู้หญิงมากๆ และใช้ Implanter ขนาดเล็กในการปลูกผม ไม่เจ็บ มีเลือดออกน้อย แผลที่เกิดขึ้นหลังการปลูกผมมีขนาดเล็ก ไม่เกิดอาการบวมช้ำ แทบไม่มีสะเก็ดแผล ไม่ต้องพักฟื้นหรือหยุดงาน สามารถทำกิจวัตรประจำวันต่างๆได้ตามปกติในวันรุ่งขึ้นทันที
หลังจากการปลูกผม แพทย์จะดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะคุณจะต้องผ่านช่วงเวลาที่หลากหลาย บางคนอาจจะพบกับภาวะ Shock Loss ภายหลังการปลูกผม 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะหลุดร่วงของเส้นผม อาจเกิดขึ้นได้ 3 ลักษณะ คือ ผมร่วงทั้งหมดก่อนจะเข้าสู่ระยะพักเพื่อเตรียมงอกขึ้นมาใหม่ บางคนโชคดีที่ผมไม่ร่วงเลยและยาวต่อไปเรื่อยๆ หรือบางคนอาจจะมีผมใหม่ขึ้นเป็นตอสั้นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวงจรปกติของเส้นผมหลังการปลูกผม ภายในเวลา 4 เดือน เส้นผมใหม่ก็จะเริ่มเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แพทย์จะอธิบายถึงภาวะที่คนไข้อาจต้องพบเจอทั้งหมดหลังการปลูกผมให้เข้าใจ จึงไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ
แพทย์จะนัดหมายให้เข้ามา follow up ผลการรักษาเป็นระยะ และพร้อมให้คำปรึกษาในทุกช่วงเวลาหลังการปลูกผม ทั้งการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องและการเข้ารับทรีทเมนท์ เช่น Hair Growth Treatment หรือ LLLT เพื่อกระตุ้นการทำงานของรากผมให้ดียิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อจะได้สัมผัสกับเส้นผมใหม่ที่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในอีก 18 เดือน
ไม่ว่าคุณจะปลูกผมเพื่อแก้ปัญหาผมบาง หรือปรับรูปหน้าเพื่อเสริมความมั่นใจ สิ่งที่สำคัญคือควรหาข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้านก่อนการตัดสินใจ ผู้ที่ให้ข้อมูลได้ชัดเจนที่สุดคือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะปัญหา ความต้องการและข้อจำกัดของแต่ละคนแตกต่างกัน การปลูกผมจึงต้องออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาให้เป็นรายบุคคล ไม่มีใครเหมือนใคร การปรึกษาแพทย์จึงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ “ตรงจุด” และได้ผลลัพธ์ “ตรงใจ” ที่สุด