หลายคนคงมีคำถามนี้อยู่ในใจ มีอะไรที่ควรต้องรู้ก่อนปลูกผม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีเรื่องที่เราควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเส้นผมมากมาย เพราะการจะปลูกผมให้สำเร็จ ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ต้องอาศัยปัจจัยต่าง ๆ หลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในจากเจ้าของเส้นผมเอง เช่น พื้นฐานสุขภาพความแข็งแรงของเส้นผม ความรุนแรงของปัญหาผมร่วง ผมบาง ในวันที่ตัดสินใจปลูก รวมไปถึงเพศ วัย ตลอดจนพฤติกรรมหรือสไตล์การใช้ชีวิต ขณะเดียวกันก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก อย่างเช่นทักษะความชำนาญและความใส่ใจของแพทย์ผู้ลงมือปลูกผม รวมถึงแผนการรักษาและดูแลหลังปลูกในระยะยาวอีกด้วย
วันนี้ นามนินจึงขอยก Keyword หนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการปลูกผม มาให้คนรักเส้นผมได้ทำความรู้จักและทำความเข้าใจ นั่นก็คือเรื่องของ “กราฟต์ผม” ถ้าใครได้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกผมมาบ้าง จะต้องรู้สึกคุ้นหรือเห็นคำนี้ผ่านตาอยู่บ่อย ๆ หลายครั้งเรามักจะเห็นวลี ปลูกผม 2,000 กราฟต์ หรือ 3,000 กราฟต์ ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลขค่าใช้จ่ายในการปลูกผม ที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนกราฟต์ที่ปลูก
แต่ถ้าเรายังไม่รู้จักคำว่ากราฟต์ผมเลย ยังนึกภาพไม่ออกว่าการปลูกผมป็นพันกราฟต์คืออะไร การจะตัดสินใจเลือกลงทุน ปลูกผมครั้งหนึ่งในชีวิต อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา ก็คงเป็นไปได้ยาก
ดังนั้นเอง หากใครอยากเริ่มต้นศึกษาเรื่องการปลูกผมแล้วล่ะก็ รู้อะไรไม่สู้ รู้จัก “กราฟต์ผม” จึงเป็นคำแนะนำข้อแรก ๆ จากนามนิน ถ้าเห็นความสำคัญของกราฟต์ผมกันแล้ว มาเริ่มบทเรียนแรกของวิชากราฟต์ผม 101 หลักสูตรเร่งรัดฉบับเข้าใจง่ายใน 5 นาทีกันเลย
บทที่ 1 “กราฟต์ผม” คืออะไร
กราฟต์ผม หรือ กอผม หมายถึงกลุ่มของเส้นผมที่มาอยู่รวมกัน โดยมีรากผมร่วมกัน โดยทั่วไปแล้ว กราฟต์ผม 1 กราฟต์ จะประกอบไปด้วยเส้นผมตั้งแต่ 1 – 4 เส้น แต่ละคนก็อาจจะมีจำนวนเส้นผมต่อ 1 กราฟต์มากน้อยไม่เท่ากัน คนที่มีผมหนาโดยธรรมชาติ อาจจะมีเส้นผม 3 – 4 เส้นต่อกราฟต์ บางคนอาจหนาแน่นถึง 5 เส้นต่อกราฟต์เลยก็เป็นได้ ขณะที่คนผมบาง อาจมีเส้นผมเพียง 1 – 2 เส้นต่อกราฟต์
นอกจากนั้น ตำแหน่งของเส้นผม ก็เกี่ยวเนื่องกับจำนวนเส้นผมต่อกราฟต์ด้วย เช่น ในบริเวณไรผม จะเป็นส่วนที่เส้นผมไม่หนาแน่นมาก มีจำนวนเพียง 1 – 2 เส้นต่อกราฟต์ ต่างกับบริเวณที่ลึกเข้าไป หรือบริเวณท้ายทอย ที่เส้นผมมีความหนาแน่นเต็มที่มากกว่านั่นเอง
บทที่ 2 ทำไมต้องรู้จัก “กราฟต์ผม”
คำว่ากราฟต์ (Graft) เป็นศัพท์ทางการแพทย์ไว้สำหรับเรียกกลุ่มเส้นผมที่ถูกนำออกมา เพื่อเตรียมย้ายไปปลูกใหม่ เราจึงมักเห็นคำนี้ทั่วไปในกระบวนการปลูกผม ก่อนอื่น เรามาทบทวนกันอีกครั้งว่า ขั้นตอนการปลูกผมถาวร คือการเจาะย้าย “กราฟต์ผม” ออกจากด้านหลังท้ายทอย แล้วจึงนำไปปลูกใหม่ในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เช่น บริเวณกลางศีรษะ หรือบริเวณแนวผมตรงหน้าผาก
แล้วทำไมต้องเป็นกราฟต์ผมจากท้ายทอยล่ะ เสริมความเข้าใจอีกนิด ว่าเส้นผมของเราในบริเวณต่าง ๆ สามารถหลุดร่วงได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการผมร่วงจากสาเหตุทางพันธุกรรมนั้น บริเวณหนังศีรษะจะมีเอนไซม์ชื่อ 5-alpha reductase ซึ่งจะเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) ให้กลายเป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือเรียกอย่างย่อว่า DHT จำชื่อนี้ไว้ให้ดี เพราะเจ้าฮอร์โมน DHT นี่ล่ะ ที่เป็นตัวการทำให้หนังศีรษะและเส้นผมอ่อนแอลง จนหลุดร่วงได้ง่ายกว่าที่ควร ไม่เว้นแม้แต่ในคุณผู้ชายที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม
แต่ด้านหลังท้ายทอยศีรษะ ถือเป็น Safe Zone ของคนรักผม และกราฟต์ผมในบริเวณนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็น “กราฟต์ผมต้นทุน” คุณภาพดี เพราะเส้นผมในบริเวณนี้ มีคุณสมบัติในการต้านทานฮอร์โมน DHT ดังนั้น ผมด้านหลังท้ายทอยจึงแข็งแรง คงทน ไม่หลุดร่วงง่าย และกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการย้ายไปปลูกใหม่ เพราะแม้ย้ายไปแล้ว แต่คุณสมบัติความแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย จะยังคงอยู่กับเส้นผมนั้นไปได้ตลอดชีวิตของเจ้าของเส้นผม สามารถแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง คืนความหนาแน่นให้กับเส้นผมบริเวณนั้นได้อย่างตอบโจทย์
บทที่ 3 ข้อจำกัดของ “กราฟต์ผม”
แม้ว่าเราจะมี “กราฟต์ผมต้นทุน” ด้านหลังท้ายทอย ที่เป็นความหวังในการรักษาอาการผมร่วง ผมบาง อย่างถาวร แต่กราฟต์ผมในบริเวณนี้ ก็มีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง อย่างเช่น
- กราฟต์ผมต้นทุน ไม่ได้มีจำนวนเหลือเฟือจนใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด ตรงกันข้าม กราฟต์ผมที่สามารถย้ายไปปลูกใหม่ได้นี้ มีอยู่เพียงจำกัด นั่นทำให้คนคนหนึ่งอาจมีโอกาสปลูกผมได้เพียง 1 หรือ 2 ครั้งในชีวิตเท่านั้น
- กราฟต์ผมต้นทุน ยังอาจถูกคุกคามจากปัจจัยต่าง ๆ ได้ หนึ่งในนั้นก็คือ อายุ หากผู้เข้ารับการปลูกผมอายุมากขึ้น กราฟต์ผมก็อาจเริ่มหลุดร่วงไปตามวัย หรือสุขภาพผมไม่แข็งแรงเหมือนในวัยหนุ่ม
- ในอีกมุมหนึ่ง ลองนึกภาพแต่ละคนมาเข้ารับการปลูกผมด้วยความรุนแรงของปัญหาที่ต่างกัน คนที่เริ่มผมบางเพียงเล็กน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กราฟต์ผมต้นทุนในการปลูกใหม่มาก แต่หากใครมีอาการผมบางมาก ๆ ก็จำเป็นต้องใช้กราฟต์ผมต้นทุนจำนวนมากขึ้น เพื่อเติมเต็มส่วนที่บาง หรือกินพื้นที่กว้างให้กลับมาหนาแน่น
ดังนั้น หากกราฟต์ผมต้นทุนเหลือน้อยลง แต่พื้นที่ปลูกผมกว้าง กรณีเช่นนี้ กราฟต์ผมก็อาจไม่เพียงพอที่จะปลูกใหม่อย่างครอบคลุมก็เป็นได้
เพราะอย่างนี้เอง กราฟต์ผม จึงเป็นตัวแปรที่สำคัญอันดับต้น ๆ ในการปลูกผม และเราจึงต้องการแพทย์ด้านเส้นผมที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์สูง เพื่อช่วยให้เรารับมือกับข้อจำกัดต่าง ๆ เหล่านี้ได้ โดยอาศัยการวิเคราะห์ประเมินปัญหาผมเฉพาะบุคคล การคำนวณกราฟต์ผมที่แม่นยำ เพื่อนำไปสู่การวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์นั่นเอง
บทที่ 4 “กราฟต์ผม” ความท้าทายของแพทย์
ที่นามนิน คุณหมอนินต้องพบกับความท้าทายในการปลูกผมที่หลากหลายแบบเคสต่อเคส เพราะการปลูกผมไม่อาจมีสูตรสำเร็จ เมื่อแต่ละคนมาด้วยปัญหาและเงื่อนไขที่ต่างกัน แพทย์จึงต้องออกแบบแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล เคสใหม่ คิดใหม่ ไม่มีซ้ำ ซึ่งโดยทั่วไป หลังจากพูดคุยกับคนไข้ เพื่อตรวจวิเคราะห์และประเมินปัญหาอย่างรอบด้านแล้ว แพทย์จะคำนวณปริมาณกราฟต์ผมที่ต้องใช้ในการปลูก เพื่อให้สามารถใช้กราฟต์ผมที่มีอยู่จำกัดนั้นได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
โดยทั่วไป แพทย์จะเฉลี่ยกราฟต์ผมให้เหมาะสมกับพื้นที่ปลูกใหม่ โดยมีการคัดแยกตัดแต่งกราฟต์ผมก่อนนำไปปลูก ดังนั้น กราฟต์ผมที่พร้อมปลูกใหม่ จึงไม่ได้มีแค่แบบผมเส้นเดี่ยว แต่สามารถมีได้ตั้งแต่ 1 – 4 เส้นผมต่อกราฟต์ ซึ่งหากคนไข้ไม่ได้มีอาการผมบางรุนแรง หรือพื้นที่ปลูกใหม่ยังไม่กว้าง ก็สามารถใช้กราฟต์ผมที่ตัดแต่งให้มีจำนวน 1 – 3 เส้นผมต่อกราฟต์ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้กราฟต์ผมเยอะเกินความจำเป็น ตรงนี้เอง เป็นการวางแผนของแพทย์เผื่อสำหรับอนาคต หากวันหนึ่งคนไข้จำเป็นต้องเข้ารับการปลูกผมอีกเป็นครั้งที่ 2 ก็จะยังมีกราฟต์ผมต้นทุนด้านหลังท้ายทอยไว้สำรองในวันข้างหน้า

ที่สำคัญ ไม่เพียงปลูกผมเติมเต็มความหนาแน่น แต่แพทย์จะคำนึงถึงมิติด้านความงามควบคู่กันไปด้วย คุณหมอนินจึงลงมือปลูกผมให้เองทุกกราฟต์ เพื่อควบคุมทิศทางองศาผม ให้กลมกลืนไปในทางเดียวกันกับผมเดิม ไม่ย้อนทิศผิดทาง ปักเส้นผมให้ได้ระยะลึกที่พอดี และได้ความหนาแน่นที่เหมาะสม ไม่เบียดกันแน่นเกินไป หรือบางเกินไป ทั้งยังคำนึงถึงทรงผมเดิม หรือทรงผมแบบที่คนไข้ต้องการ เพื่อที่ว่าหลังปลูกผมแล้ว คนไข้ยังสามารถจัดแต่งทรงผมได้อย่างเป็นตัวเอง และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
และทั้งหมดนี้ ก็คือ 4 บทเรียนสำหรับมือใหม่เริ่มทำความเข้าใจ “กราฟต์ผม” ที่จะช่วยให้เราประเมินความคุ้มค่าคุ้มราคาก่อนการตัดสินใจปลูกผมได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยไขข้อข้องใจได้เป็นอย่างดีว่า ทำไมคนส่วนใหญ่จึงแนะนำให้รีบปลูกผมตั้งแต่เนิ่น ๆ เมื่ออาการผมร่วง ผมบางยังไม่รุนแรง ปลูกได้เลยตั้งแต่อายุยังไม่มาก ไม่ต้องรอให้ถึงวันสูงวัย เพราะยิ่งปลูกผมเร็วเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่จะเติมเต็มผมหนาแน่นได้สมบูรณ์กว่า อุ่นใจกว่า เนื่องจากยังไม่ต้องกังวลกับจำนวนกราฟต์ผมที่มีจำกัดนั่นเอง