“ปลูกผมครั้งแรก” น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่พอควรสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะเมื่อคุณตอบคำถามแรกของตัวเองได้แล้วว่า จะลองปลูกผมดีหรือไม่ คำถามต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ จะเลือกปลูกผมครั้งแรกอย่างไรให้ “ดีที่สุด”
นี่เป็นคำถามที่ไม่ง่ายเลยสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่วงการการปลูกผมแบบถาวร ซึ่งคุณอาจจะต้องใช้เวลาไปกับการศึกษาข้อมูลเพื่อการตัดสินใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นั่นถูกต้องแล้ว!! การเลือกปลูกผมครั้งแรกที่ไหนและอย่างไร เป็นคำถามที่ไม่ง่าย และไม่ควรง่ายด้วย!! เพราะการปลูกผมครั้งแรกนั้นสำคัญที่สุด เส้นผมบนศีรษะของคุณจะเป็นอย่างไรทั้งในวันนี้และในวันข้างหน้า ก็ขึ้นอยู่กับการปลูกผมครั้งแรกนี่เอง
ทำไมเราจึงย้ำหลายครั้งถึง “ความสำคัญ” ของการ “ปลูกผมครั้งแรก” ต้องเข้าใจก่อนว่า การปลูกผม ไม่ใช่การนำเส้นผมจากใครที่ไหนก็ได้มาปลูกใหม่บนหนังศีรษะของเรา แต่จะต้องเป็นผมจากร่างกายของเราเองเท่านั้น และไม่ใช่ผมทั่วทั้งศีรษะที่จะนำมาปลูกใหม่ได้ แต่จะต้องเป็นผมจากบริเวณ Safe Zone ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของหนังศีรษะเท่านั้น อย่าลืมลองจินตนาการเพิ่มเติมอีกสักนิดว่า แต่ละคนมีปัญหาสุขภาพผม รวมถึงอาการผมร่วงและผมบางรุนแรงไม่เท่ากัน “ทรัพยากรผมต้นทุน” ที่จะสามารถนำไปปลูกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับแต่ละคน จึงมากน้อยต่างกันตามไปด้วย
เมื่อทรัพยากรผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ของคนเรามีอยู่อย่างจำกัด การบริหารจัดการผมต้นทุนเพื่อนำมาปลูกใหม่อย่างรอบคอบและเหมาะสมตั้งแต่การปลูกครั้งแรก จึงเป็นหัวใจของการรักษา ที่จะส่งผลต่อเส้นผมของเราทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการปลูกผมครั้งแรกจึงสำคัญที่สุด และต้อง “เลือก” แนวทางการรักษาที่ใช่ ด้วยความใส่ใจอย่างแท้จริง
มาทำความเข้าใจธรรมชาติของผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone กันอีกสักนิด Safe Zone อาจเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเส้นผม ซึ่งผมมีความแข็งแรง ไม่ลีบแบน เรียงตัวค่อนข้างหนาแน่น และทนทานต่อการหลุดร่วงมากที่สุด โดย Safe Zone คือพื้นที่ผมบริเวณท้ายทอย ตั้งแต่เหนือหูด้านซ้ายไปถึงเหนือหูด้านขวา ยาวประมาณ 10 – 12 นิ้ว และสูงประมาณ 3 นิ้ว สังเกตง่าย ๆ ว่า คุณผู้ชายที่มีปัญหาผมร่วงและผมล้าน มักจะหลงเหลือผมตรงท้ายทอยด้านหลังอยู่เป็นบริเวณสุดท้ายนั่นเอง
เหตุผลที่เส้นผมบริเวณ Safe Zone หรือด้านหลังท้ายทอย มีความแข็งแรงและทนทานต่อการหลุดร่วงมากกว่าผมในบริเวณอื่น ๆ นั้น ก็เพราะรากผมบริเวณนี้ ไม่ ตอบสนองต่อฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (dihydrotestosterone) หรือ DHT เจ้าฮอร์โมนตัวนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รูขุมขนบนหนังศีรษะของเรามีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ผมเกิดใหม่มีรากผมอ่อนแอ จนนำไปสู่อาการผมร่วง ผมบาง และผมล้าน แบบที่เราพบได้ทั่ว ๆ ไป
โชคดีที่ DHT ไม่สามารถทำลายรากผมบริเวณ Safe Zone ได้ หรืออย่างน้อยก็เข้าไปทำลายได้ช้ากว่าบริเวณอื่น เราจึงยังเหลือเส้นผมคุณภาพดีที่สามารถนำไปปลูกแบบถาวรในบริเวณที่เป็นปัญหาได้ ทั้งยังคงคุณสมบัติเรื่องความทนทานต่อการถูกทำลายจากฮอร์โมน DHT ไม่ว่าจะย้ายไปปลูกใหม่ยังส่วนไหนก็ตามอีกด้วย ทำให้เส้นผมที่ปลูกใหม่เติบโต หลุดร่วง และงอกใหม่ได้ตามวงจรธรรมชาติของเส้นผมไปได้ตลอดชีวิตของเราเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หากเราลองคำนวณจำนวนกราฟต์ผมต้นทุนบริเวณ Safe Zone ก็น่าจะอยู่ที่ราว ๆ 12,500 กราฟต์ จากกราฟต์ผมทั้งศีรษะกว่า 50,000 กราฟต์โดยประมาณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องประเมินพื้นที่ที่ต้องการปลูกผม และคำนวณจำนวนกราฟต์ผมที่เหมาะสมที่สุด ก่อนจะทำการย้ายเส้นผมไปปลูกใหม่ ซึ่งจะต้องคำนึงด้วยว่า เมื่อย้ายเส้นผมออกจากบริเวณ Safe Zone แล้ว บริเวณนั้นจะต้องไม่เหลือเส้นผมอยู่น้อยเสียจนดูบางเกินไป ที่สำคัญ ยังต้องคำนึงถึงอนาคต เพราะมีโอกาสที่เราอาจจะต้องพึ่งพาผมบริเวณ Safe Zone เพื่อปลูกผมใหม่อีกครั้งหรือหลายครั้งก็เป็นได้ อีกทั้งถ้าหากเกิดความผิดพลาดใด ๆ ในการปลูกผมครั้งแรก การแก้ไขอาจเป็นเรื่องยาก และแน่นอนว่าคงไม่ได้ผลดีเท่าเดิม
ดังนั้นแล้ว นอกจากการทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการปลูกผมครั้งแรก เนื่องจากทรัพยากรผมต้นทุนที่มีอยู่จำกัด ผู้ที่ตัดสินใจว่าจะเข้ารับการปลูกผมควรศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกคลินิก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือ หรือแนวทางการรักษาที่ตอบโจทย์ตนเองมากที่สุด รวมถึงหาโอกาสพูดคุยปรึกษากับแพทย์ก่อนทำการตัดสินใจ เพราะหลายคนเข้าใจผิดว่า ปลูกผมที่ไหนก็เหมือน ๆ กัน แพทย์ก็คงใช้หลักการและเทคนิคไม่ต่างกัน ทำให้หลายคนใช้ปัจจัยด้านตัวเลขค่ารักษาเป็นตัวตัดสิน แต่ที่จริงแล้ว การปลูกผมครั้งแรกให้ดีที่สุดนั้น มีปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามมากมาย ซึ่งเราได้รวบรวมประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่ควรพิจารณาเพื่อเลือกแนวทางการปลูกผมมาไว้ให้ตรงนี้แล้ว
1. ความเชี่ยวชาญของแพทย์
ถ้าใครคิดว่าปลูกผมที่ไหนก็เหมือนกัน เราขอชวนให้ลองคิดใหม่ เพราะแพทย์ผู้ดูแลสุขภาพผมแต่ละคนย่อมมีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน จะดีแค่ไหนหากเราได้แก้ปัญหาผมกับแพทย์ที่รู้ลึก รู้จริง แพทย์ที่เข้าใจว่าปัญหาของคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์ที่มองเห็นความแตกต่างของปัญหาเหล่านั้น และสามารถวิเคราะห์หรือออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคนไข้แต่ละคนโดยเฉพาะ เคสใหม่ คิดใหม่ แบบไม่มีซ้ำกัน
ไม่เพียงเท่านั้น การปลูกผมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แพทย์ควรยกให้คนไข้เป็นศูนย์กลางในการรักษา โดยเริ่มต้นจากการรับฟังปัญหา ความกังวลใจ และความต้องการที่แท้จริงของคนไข้ เพื่อร่วมกันออกแบบแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด และในการปลูกผมยังเป็นผู้ที่ลงมือปลูกเส้นต่อเส้นด้วยตนเอง ยังสามารถตอบโจทย์ตัวตนของคนไข้และเรียกคืนความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันกลับมาได้ด้วย
2. เครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผม
นอกจากฝีมือหรือความชำนาญของแพทย์แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่แพทย์เลือกใช้ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพการปลูกผมเช่นกัน เราจึงควรมองหาเครื่องมือที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ทุกวันนี้ เครื่องมือที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีขนาดเล็กพิเศษจนสามารถช่วยให้แพทย์ลงมือปลูกผมได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางทิศทางและองศาผม การประมาณความลึกในการปัก การกระจายกราฟต์ผมให้หนาแน่นเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดอาการเจ็บหรือผลข้างเคียงจากการรักษาได้เป็นอย่างดี
3. วิธีการและเทคนิคในการปลูกผม
การปลูกผมถาวร แบบ FUT หรือ FUE นั้น อาจจะมีหลักการทั่วไปที่ไม่แตกต่างกันนักในแพทย์แต่ละคน อย่างไรก็ตาม แพทย์อาจคิดค้นและพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ที่ช่วยเสริมให้คนไข้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การเจาะย้ายกราฟต์ผมออกจากท้ายทอย อาจทำให้คนไข้ต้องคอยกังวลกับการปกปิดรอยแผลด้านหลัง ซึ่งเทคนิคการซ่อนแผลของแพทย์สามารถตอบโจทย์ปัญหานี้ได้ ขณะเดียวกัน การปลูกผมใหม่ในบริเวณที่ผมบาง อาจทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างเส้นผมใหม่และเก่าค่อนข้างชัดเจน ซึ่งแพทย์ก็จะมีเทคนิคเฉพาะตัวในการปลูกผมให้กลมกลืนจนแทบแยกไม่ออกได้เช่นกัน
4. ความใส่ใจในการรักษา
นี่อาจเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างเส้นทางการรักษา ลองมองหาสถานบริการหรือแพทย์ที่ “ใส่ใจ” ดูแลเส้นผมของเราอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการพูดคุยก่อนออกแบบวิธีการรักษา หรือการดูแลติดตามผลหลังการปลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระหว่างขั้นตอนการปลูกนั้น แพทย์ที่ใส่ใจจะเป็นผู้ลงมือปลูกผมใหม่ให้คนไข้เองอย่างประณีตทุก ๆ เส้น เพื่อควบคุมคุณภาพการปลูกผมให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจที่สุด ไม่เพียงเท่านั้น ยังเตรียมพร้อมให้คนไข้สามารถออกไปใช้ชีวิตประจำวันดังเดิมได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจที่สุดด้วย
5. การดูแลหลังการปลูกผม
นอกเหนือจากการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันแรกที่คนไข้ก้าวเข้ามารับการปลูกผม รวมถึงให้ข้อมูลที่ชัดเจนตลอดการรักษาเพื่อคลายทุกข้อสงสัยและความกังวลใจของคนไข้แล้ว เราควรพิจารณาถึงบริการดูแลหลังการปลูกผมด้วย เพราะการปลูกผมเป็นหัตถการทางการแพทย์ระยะยาว ที่ต้องอาศัยเวลาถึง 1 ปีเต็มเพื่อให้เส้นผมเติบโตอย่างสมบูรณ์ ในระหว่าง 1 ปีนั้น คนไข้ควรได้รับคำแนะนำ การเอาใจใส่ และการติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเตรียมบริการ Treatment กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ตลอดจนผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัยและช่วยเสริมให้เกิดผลลัพธ์ผมสวย หนาแน่น แข็งแรงสมบูรณ์อย่างเป็นธรรมชาติ
และนี่ก็คือ Checklists สำคัญ สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการปลูกผม เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ปลูกผมที่ดีที่สุดตั้งแต่ครั้งแรก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการดูแลเส้นผมให้มีสุขภาพดี และอยู่คู่กับหนังศีรษะของคุณไปได้อีกยาวนาน