รู้จัก “กราฟต์ผม” ต้นทุนสำคัญของการปลูกผม
เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่คะ ว่าทำไมคนที่ปลูกผมมาเหมือนกันแต่ผลลัพธ์ถึงดูแตกต่างกัน นั่นเป็นเพราะการปลูกผมนั้นมีหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเส้นผมหลังปลูก แล้วจะมีอะไรบ้างนั้น เรารวบรวมมาไว้ในบทความนี้ค่ะ
ปัจจัยแรกคือ “กราฟต์ผม = ต้นทุนของการปลูกผม” แพทย์จะเลือกกราฟต์ผมจากพื้นที่ Safe Zone ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังท้ายทอย เนื่องจากเส้นผมในพื้นที่นี้จะไม่ถูกผลกระทบจากฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุหลักของการหลุดร่วงของเส้นผม การเลือกกราฟต์ผมจากบริเวณนี้จึงจะทำให้เส้นผมที่ปลูกจะเติบโตได้ดีและไม่หลุดร่วงง่าย ซึ่งลักษณะของเส้นผมในบริเวณ Safe Zone นี้ก็ยังมีความหลากหลายอยู่ด้วย ในบางคน รูรากผมอาจมีเพียงเส้นเดียว ในขณะที่บางคนก็อาจมีผม 2-3 เส้น และในคนที่กราฟต์ผมแข็งแรงมากๆ ก็อาจมีได้มากถึง 3-4 เส้น ซึ่งความแข็งแรงของเส้นผมในบริเวณนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญหลังการปลูกผม หากเส้นผมที่ปลูกมีคุณภาพดี ก็จะช่วยให้ผมที่ปลูกเติบโตขึ้นมาเป็นผมที่หนาและแข็งแรง ในทางตรงกันข้าม หากเส้นผมไม่แข็งแรงพอ ผลลัพธ์อาจทำให้ผมดูไม่หนาแน่นเท่าที่ควร
หากจะลงลึกถึงความแตกต่างของลักษณะและความแข็งแรงของเส้นผมของแต่ละบุคคลนั้นว่าขึ้นอยู่กับอะไร ก็เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ อาทิ กรรมพันธุ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต เพศ และวัย โดยเฉพาะอายุของผู้ที่ต้องการปลูกผม หากอายุน้อย เส้นผมยังแข็งแรงและมีจำนวนมาก การเก็บกราฟต์ผมก็จะได้ปริมาณมาก เพียงพอต่อการใช้งาน แต่หากอายุมากขึ้น ผมอาจเริ่มหลุดร่วงและมีเส้นผมบางลง สุขภาพผมไม่แข็งแรง การเก็บกราฟต์ผมจะมีข้อจำกัดและอาจได้จำนวนผมต้นทุนน้อยกว่า เพราะแพทย์ต้องคัดเลือกกราฟต์ผมอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ปัจจัยต่อมาที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากราฟต์ผมต้นทุน นั้นคือ “แพทย์ปลูกผม” ที่ควรต้องมีความรู้ ประสบการณ์ และมีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว เพราะการปลูกผมนั้นต้องใช้ทั้ง “ศาสตร์” และ “ศิลป์” ในการทำงานทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การรับฟังปัญหาของผู้รับบริการ การออกแบบการรักษา ซึ่งแม้แต่การคำนวนการใช้กราฟต์ผมที่จะนำออกมาจาก Safe Zone ก็เป็นรายละเอียดที่ไม่ควรมองข้าม ควรนำออกมาตามปริมาณการใช้เท่านั้น ไม่ควรนำออกมามากเกินความจำเป็น ซึ่งจะทำให้เสียต้นทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยเฉลี่ยแล้ว คนเราจะมีกราฟต์ผมประมาณ 80-100 กราฟต์ / ตารางเซนติเมตร แต่แพทย์จะนำออกมาทั้งหมดเลยไม่ได้ แพทย์ต้องเหลือกราฟต์ผมไว้ให้เหมาะสมด้วย เนื่องจากกราฟต์ผมบริเวณ Safe Zone นั้นใช้แล้วจะหมดไป ผมจะไม่งอกขึ้นมาใหม่อีก จึงไม่ควรมีคำว่า “เผื่อเหลือ เผื่อขาด” ในการปลูกผมค่ะ
แล้วแพทย์ปลูกผมต้องมีศิลปะด้วยเหรอ? ใช่ค่ะ เพราะการปลูกผมนั้นต้องใช้ความละเอียด ประณีตในการทำงานทุกขั้นตอน รวมถึงการลงมือปลูกผมด้วยตนเองทุกๆ กราฟต์ ซึ่งแพทย์จะสามารถจัดวางความหนาแน่น ทิศทาง และความเหมาะสมกลมกลืนของเส้นผมได้ตามที่ควรจะเป็น
อีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ “เทคนิคในการปลูกผม” ซึ่งหมายรวมถึงเครื่องมือที่ใช้ในการปลูกผมด้วย เพราะการเลือกใช้ “เครื่องมือที่เหมาะสม” ก็มีบทบาทสำคัญในการรักษาคุณภาพของกราฟต์ผมในระหว่างกระบวนการนำออกจาก Safe Zone ซึ่งเป็นกระบวนการแรกที่จะส่งผลต่อผลลัพธ์ของการปลูกผมได้แล้ว ซึ่งหากไม่ระมัดระวังในขั้นตอนการเจาะนำกราฟต์ผมออกนี้ กราฟต์ผมอาจกระทบกระเทือน ทำให้สูญเสียคุณภาพในการปลูก และรอยแผลจากการเจาะจะส่งผลต่อผมด้านหลังของผู้รับบริการ ผมจะเว้าแหว่ง ไม่สม่ำเสมอ กลายเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต
ทุกปัจจัยนั้นมีความสำคัญและมีรายละเอียดที่ล้วนส่งผลต่อผลลัพธ์หลังการปลูก คุณหมอนิน จึงได้ออกแบบการปลูกผมเทคนิค NEAT ที่คุณหมอนินตั้งใจดูแลด้วยตัวเองในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่วิเคราะห์ปัญหาและออกแบบการรักษาเฉพาะเป็นรายบุคคล อธิบายขั้นตอนการรักษาอย่างตรงไปตรงมา รับฟังความกังวลและความคาดหวังของผู้รับบริการ เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการได้วางแผนและคาดการณ์ผลลัพธ์ที่จะได้หลังการปลูกร่วมกัน และที่สำคัญคือ ลงมือปลูกผมด้วยตัวเองทุกกราฟต์ ตั้งแต่การฉีดยาชาเข็มแรกจนถึงการปลูกผมกราฟต์สุดท้าย และสิ่งที่หลายคนมักจะลืมนึกถึงคือ การดูแลหลังการปลูกผม ซึ่งที่นามนิน คุณหมอนิน ก็จะดูแล Follow Up หลังการปลูกผมด้วยตัวเองตลอด 1 ปี เพราะเราเชื่อมั่นว่า หากทุกกระบวนการในการปลูกผมดี ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดีค่ะ