ขณะที่กำลังส่องกระจกในทุก ๆ วัน คุณผู้ชายเคยสังเกตผมของตัวเองหรือไม่ ว่ามี ความเปลี่ยนแปลง อย่างไรเกิดขึ้นบ้าง ทราบหรือไม่ว่า สัญญาณเล็ก ๆ ที่เราสังเกตเห็น อาจจะช่วยให้ตัวเราในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาผมร่วง ผมบาง จนนำไปสู่ภาวะผมล้านที่รุนแรงเกินจะรักษาหรือแก้ไขก็เป็นได้
นั่นก็เพราะอาการผมร่วง ผมบาง มักจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนหลายคนไม่ทันสังเกตเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในช่วงแรก ๆ หรือแม้เมื่อเริ่มสังเกตเห็นแล้ว ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษา ด้วยเหตุผลต่าง ๆ อย่างเช่น บางคนอาจจะคิดว่า ผมเพิ่งเริ่มถอยร่นและบางลงเพียงเล็กน้อย ไม่น่าต้องกังวลใจ บางคนลังเลว่า วัยของตัวเองเหมาะกับการรักษาปัญหาผมร่วง ผมบางแล้วหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม รู้สึกว่าตัวเองยังอายุน้อยเกินไปที่จะเริ่มรักษา ส่วนผู้ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงอายุสูงวัย ก็รู้สึกไปอีกแบบว่าตัวเองอายุมากเกินกว่าจะมาดูแลปัญหาผมในวัยนี้แล้ว ขณะที่อีกหลาย ๆ คนก็เลือกปล่อยปัญหาผมถอยร่นทิ้งไว้ เพราะไม่มีเวลาดูแล เพราะกังวลและไม่มั่นใจในวิธีการรักษา หรือเพราะมองไม่เห็นภาพว่า ปัญหาผมในวันนี้อาจจะรุนแรงขึ้นจนยากที่จะเยียวยาฟื้นฟูในวันข้างหน้า
ดังนั้น นามนินจึงขอชวนคุณผู้ชายมาสังเกตภาวะผมถอยร่นของตนเอง รวมถึงแนะนำวิธีการดูแลปัญหาผม ซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละระยะ หรือลักษณะอาการ แม้ผมถอยร่นในระยะแรกที่อาจจะมองเห็นได้ยาก เราก็มีจุดสังเกตเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณผู้ชายนำมาใช้เป็นแนวทางได้อย่างแน่นอน มาดูไปพร้อม ๆ กันว่า ผมของเราอยู่ในภาวะผมถอยร่นระยะที่น่าเป็นห่วงมากน้อยแค่ไหน
ระยะที่ 1 ผมหยุดยาว สัญญาณแรกของผมถอยร่น
สำหรับคุณผู้ชายที่เริ่มมีภาวะผมร่วง ผมบาง จากสาเหตุของกรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผมในผู้ชายทั่วโลก จุดสังเกตก็คือผมด้านหน้า โดยทั่วไปแล้ว ผมทั่วศีรษะจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าหากสังเกตเห็นว่า ผมด้านหน้าไม่ยาวเพิ่มเลย ในขณะที่ผมในบริเวณอื่น ๆ ยังคงยาวต่อเนื่องเป็นปกติ ก็เรียกได้ว่าเป็นสัญญาณแรกสุดของภาวะผมถอยร่นแล้ว
ในระยะนี้ แม้ว่าผมจะยังไม่เริ่มร่วงเลยก็ตาม แต่นามนินก็ขอแนะนำให้คุณผู้ชายเริ่มเข้ามาพูดคุยปรึกษากับแพทย์ได้เลยโดยไม่ต้องรีรอ เพื่อไม่ให้ปัญหาผมลุกลามรุนแรงขึ้น โดยวิธีการรักษาพื้นฐานเบื้องต้น อาจจะอยู่ในรูปแบบของการรับประทานยาหรือวิตามิน รวมไปถึงการทาเซรั่มบำรุงผม
หากใครสังเกตพบสัญญาณผมถอยร่นของตัวเองได้ตั้งแต่ในระยะนี้ นับว่าโชคดีมาก ๆ และมีโอกาสสูงที่จะสามารถหยุดภาวะผมถอยร่น ไม่ให้ผมเริ่มร่วง บาง และขยายพื้นที่ไปยังส่วนอื่น ๆ ของศีรษะได้
ระยะที่ 2 ผมถอยร่น จนกลายเป็น M shape
หลังจากผมด้านหน้าเริ่มหยุดยาว หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ระยะต่อไปคงจะเป็นภาพที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย นั่นก็คืออาการที่ผมร่วง จนผมถอยร่น เว้าลึกเข้าไปทั้ง 2 ข้างบริเวณหน้าผาก กลายเป็นรูปตัว M
หากเข้าสู่ระยะนี้ เท่ากับแนวไรผมที่เคยทำหน้าที่เป็น “กรอบหน้า” จะหายไป ผลที่ตามมาก็คือรูปหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน หน้าผากสูงและกว้าง ชวนให้ดูสูงวัยกว่าอายุจริง เมื่อภาวะผมถอยร่นเข้าสู่ระยะนี้ เจ้าของเส้นผมไม่เพียงสูญเสียเส้นผมที่ร่วงหลุดไป แต่ยังสูญเสียความมั่นใจเวลาต้องออกไปพบปะผู้คนภายนอกด้วย เพราะเส้นผมและกรอบหน้า ส่งผลต่อรูปลักษณ์และบุคลิกภาพโดยตรง
ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดในการคืนกรอบหน้า และยังนับเป็นโอกาสในการออกแบบกรอบหน้าใหม่ให้ได้สัดส่วนลงตัวกับใบหน้าของเราด้วยเลย ก็คือการ “ปลูกผม” นั่นเอง
แพทย์จะเป็นผู้ออกแบบแนว Hairline หรือกรอบหน้าใหม่ โดยอิงตามความต้องการหรือความจำเป็นของคนไข้ และอาศัยหลักสัดส่วนทองคำของใบหน้า หรือ Golden Ratio เพื่อคืนความสมส่วนด้วยกรอบหน้าที่จะเสริมความคม เข้ม ปรับลุคให้ดูดีขึ้น ดูสมาร์ทขึ้นได้ พร้อมทั้งได้แนวไรผมที่แลดูเป็นธรรมชาติ
ทั้งนี้ แพทย์จะกำหนดพื้นที่ปลูกผมใหม่ และคำนวณกราฟต์ผมต้นทุนจากด้านหลังท้ายทอยที่ต้องใช้ในการปลูกให้เหมาะสมคุ้มค่า เนื่องจากผมต้นทุนของแต่ละคนมีอยู่เพียงจำกัด เมื่อย้ายผมต้นทุนออกจากด้านหลังท้ายทอยแล้ว ก็จะต้องนำกราฟต์ผมมาคัดแยก ตัดแต่ง ให้ได้ขนาด ความหนาบาง และจำนวนเส้นผมต่อ 1 กราฟต์ที่พอดี
และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของการปลูกผมใหม่ แพทย์จะต้องอาศัยความละเอียดพิถีพิถันเป็นพิเศษ เนื่องจากแนวไรผมบริเวณหน้าผาก ประกอบไปด้วยผมเส้นอ่อนด้านนอกสุด ก่อนจะค่อย ๆ ไล่ระดับลึกเข้ามากลายเป็นผมเส้นใหญ่และหน้าขึ้น ดังนั้น แพทย์จึงต้องคัดเลือกลักษณะของเส้นผมที่เหมาะสม ค่อย ๆ ปักกราฟต์ให้เรียงตัวกันเป็นระเบียบ เนียนตา ได้ความหนาแน่นที่พอดี พร้อมได้ทิศทางและองศาของเส้นผมที่แลดูกลมกลืนไปกับเส้นผมเดิมเพราะแนวกรอบหน้าก็ไม่ต่างจากด่านแรกของเส้นผมที่จะดึงดูดสายตาผู้คนเมื่อมองเห็น
ระยะที่ 3 ผมเริ่มบางจากกลางศีรษะ
นอกจากเส้นผมจะถอยร่นเว้าลึกเข้ามาบริเวณหน้าผากแล้ว ในกรณีนี้ เส้นผมอาจจะเริ่มหลุดร่วงและเห็นความบางที่ชัดเจนโดยเริ่มจากบริเวณกลางศีรษะ ซึ่งก็เป็นจุดที่ผู้คนทั่วไปมองเห็นได้ง่ายเช่นกัน
หากใครสังเกตตัวเองว่ามีภาวะผมถอยร่อนอยู่ในระยะนี้ โดยที่ไม่มีอาการผมบางด้านหน้าหรือ M Shape ร่วมด้วย แพทย์อาจแนะนำให้ฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster ซึ่งจะตรงเข้าฟื้นฟูลึกถึงระดับเซลล์รากผม ช่วยให้เส้นผมมีขนาดใหญ่และหนาขึ้น ลดโอกาสการหลุดร่วง พร้อมทั้งกระตุ้นให้เส้นผมงอกใหม่เร็วขึ้น จึงทำทำให้ผมแลดูดกดำขึ้น หนาแน่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วิธีการก็สะดวกสบายและปลอดภัย เพียงฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วงและผมบาง และสามารถเข้ามารับการฉีดบำรุงได้อย่างต่อเนื่องภายใต้คำแนะนำของแพทย์
ในความเป็นจริงแล้ว ภาวะผมถอยร่นยังมีระยะที่ 4 ด้วย ซึ่งเป็นระยะที่พ้นไปจากลักษณะอาการข้างต้น ทั้งอาการผมด้านหน้าหยุดยาว อาการผมร่นลึกเป็นรูป M Shape และอาการผมบางกลางศีรษะ หากปล่อยไว้โดยไม่ได้ดูแลรักษา ก็จะเข้าสู่ระยะที่ปัญหาผมยิ่งขยายพื้นที่รุนแรงขึ้น เช่น ผมด้านหน้าและกลางศีรษะอาจบางลงจนเชื่อมต่อถึงกันเป็นพื้นที่ใหญ่ และเข้าสู่ภาวะผมล้าน ที่อาจจะสายเกินการฟื้นฟูให้เส้นผมกลับมาในที่สุด
ในกรณีนี้ การแก้ปัญหาจะอาศัยวิธีการที่ซับซ้อน ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการรีบเข้ามารักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และไม่สามารถการันตีได้ว่า จะได้ผลลัพธ์ผมที่กลับมาหนาแน่นเหมือนเดิม เนื่องจากข้อจำกัดด้านผมต้นทุนที่มักจะอ่อนแอและเหลือน้อยลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม แพทย์จะช่วยคำนวณกราฟต์ผมให้ใช้ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และอาจแนะนำให้ปลูกผมร่วมกับการฉีดบำรุงด้วย Premium Hair Booster เพื่อช่วยเสริมให้ผมกลับมาได้มากที่สุดบนข้อจำกัดของคนไข้แต่ละคนเอง
และเนื่องจากปัญหาผมของคนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน หากสังเกตพบภาวะถอยร่นของเส้นผม ในระยะใดระยะหนึ่ง ก็ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อร่วมกันวางแผนและออกแบบแนวทางรักษาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อตอบโจทย์การรักษาได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญ ยิ่งสังเกตพบเร็ว ตัดสินใจเข้ามาพบแพทย์เร็ว ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการรักษาอย่างแน่นอน